รายละเอียดกระทู้

อากาศเริ่มอบอุ่นขึ้นเป็นลำดับ แต่บริเวณยอดดอยในภาคเหนืออุณหภูมิยังเป็นเลขตัวเดียว ขณะที่ปลายอาทิตย์กลับมาหนาวอีกจากอิทธิพลความกดอากาศสูง บุรีรัมย์ ฝรั่งนอนหนาวตาย ส่วนที่จันทบุรี หมอกลงจัด เกษตรกรหวั่นผลผลิตลดฮวบ กรมอุตุนิยมวิทยาคาดหมายลักษณะอากาศในรอบสัปดาห์ ดังนี้ ในช่วงวันที่ 5-8 ม.ค. บริเวณความกดอากาศสูงกำลังปานกลางที่ปกคลุมประเทศไทยมี กำลังอ่อนลง ทำให้บริเวณดังกล่าวมีอุณหภูมิสูงขึ้นโดยทั่วไป แต่ยังคงทำให้มีอากาศหนาวเย็นและมีหมอกในตอนเช้า กับมีหมอกหนาหลายพื้นที่ สำหรับมรสุมตะวันออก เฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวและภาคใต้มีกำลังอ่อนลง ทำให้บริเวณภาคใต้มีฝนลดลง และคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยกำลังอ่อนลงด้วย ส่วนในช่วงวันที่ 9-11 ม.ค. บริเวณความ กดอากาศสูงกำลังค่อนข้างแรงระลอกใหม่จากประเทศจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมตอนบนของประเทศไทย ทำให้บริเวณดังกล่าวอุณหภูมิลดลง 2-4 องศาเซลเซียส สำหรับมรสุม ตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวและภาคใต้จะมีกำลังแรงขึ้น ทำให้บริเวณภาคใต้มีฝนเพิ่มมากขึ้น และคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยกำลังแรงขึ้นด้วย โดยมีคลื่นสูง 2-3 เมตร โดยเฉพาะอ่าวไทยตอนล่าง ข้อควรระวัง ในช่วงวันที่ 5-7 ม.ค. ขอให้ประชาชนระวังอันตรายในการสัญจรผ่านบริเวณที่มีหมอกหนาไว้ด้วย ส่วนในช่วงวันที่ 10-11 ม.ค. ขอให้ ชาวเรือบริเวณอ่าวไทยตอนล่างระมัดระวังอันตรายจากคลื่นลมที่แรงขึ้น พยากรณ์อากาศ ภาคเหนือ ในช่วงวันที่ 5-9 ม.ค. อากาศหนาว กับมีหมอกในตอนเช้า และมีหมอกหนาในหลายพื้นที่ โดยอุณหภูมิสูงขึ้น 1-3 องศา เซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 14-17 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 27-31 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณยอดดอยอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 5-11 องศาเซลเซียส ส่วนในช่วงวันที่ 10-11 ม.ค. อากาศหนาว กับมีหมอกในตอนเช้า และมีหมอกหนาในบางพื้นที่ โดยอุณหภูมิจะลดลง 2-3 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 11-14 องศา เซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 26-29 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณยอดดอยอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 4-10 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15- 30 กม./ชม. ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ในช่วงวันที่ 5-8 ม.ค. อากาศหนาว กับมีหมอกในตอนเช้า โดยอุณหภูมิสูงขึ้น 1-3 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 14-17 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28-32 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณยอดภูอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 4-11 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ส่วนในช่วงวันที่ 9-11 ม.ค. อากาศหนาว กับมีลมแรง โดยอุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 12-16 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 27- 31 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณยอดภูอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 4-10 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ภาคกลาง ในช่วงวันที่ 5-9 ม.ค. อากาศเย็น อุณหภูมิจะสูงขึ้นเล็กน้อย โดยมีหมอกในตอนเช้า และมีหมอกหนาในบางพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 17-20 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-32 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณเทือกเขาอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 12-16 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ส่วนในช่วงวันที่ 10-11 ม.ค. อากาศเย็นถึงหนาวกับมีหมอกในตอนเช้า โดยอุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 14-18 องศาเซลเซียส อุณหภูมิ สูงสุด 27-30 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณเทือกเขาอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 10-15 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ภาคตะวันออก ในช่วงวันที่ 5-9 ม.ค. อากาศเย็น อุณหภูมิจะสูงขึ้นเล็กน้อย โดยมีหมอกในตอนเช้า และมีหมอกหนาในบางพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 18- 22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-32 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณเทือกเขาอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 13-16 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15- 30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ส่วนในช่วงวันที่ 10-11 ม.ค. อากาศเย็นถึงหนาว กับมีลมแรง โดยอุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 16-21 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 27-30 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณเทือกเขาอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 10-15 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 1-2 เมตร ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) ในช่วงวันที่ 5-9 ม.ค. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20-30 ของพื้นที่ ส่วนมากทางตอนล่างของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 17 -23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-31 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ส่วนในช่วงวันที่ 10-11 ม.ค. ฝนฟ้า คะนองเป็นแห่งๆ ถึงกระจาย ร้อยละ 30-40 ของพื้นที่ ส่วนมากทางตอนล่างของภาค อ่าวไทยตอนบนตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีขึ้นมา ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15 -35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ส่วนอ่าวไทยตอนล่างตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราชลงไป ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-40 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) ในช่วงวันที่ 5-9 ม.ค. มีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ ส่วนมากทางตอนล่างของภาค อุณหภูมิ ต่ำสุด 22-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-33 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ส่วนในช่วงวันที่ 10 -11 ม.ค. ฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20-30 ของพื้นที่ ส่วนมากทางตอนล่างของภาค ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ในช่วงวันที่ 5-9 ม.ค. อากาศเย็น อุณหภูมิจะสูงขึ้นเล็กน้อย โดยมีหมอกในตอนเช้า และมีหมอกหนาในบางพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 20-22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-32 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ส่วนในช่วงวันที่ 10-11 ม.ค. อากาศเย็น กับมีหมอกในตอนเช้า โดยอุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 17-21 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28-30 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความ เร็ว 15-35 กม./ชม. เมื่อวันที่ 5 ม.ค.นี้ ร.ต.ท.จิรโรจน์ มงคลธนสุพัฒน์ ร้อยเวร สภ.นางรอง รับแจ้งมีชาวต่างชาตินอนเสียชีวิตที่บ้านเลขที่ 113 หมู่ที่ 5 ต.สะเดา อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ จึงไปตรวจสอบพร้อมแพทย์โรงพยาบาลนางรอง และหน่วยกู้ภัย ที่เกิดเหตุเป็นบ้านปูนชั้นเดียว ภายในห้องนอนพบศพนายไซมอน กิลส์ ชาวอังกฤษ อายุ 48 ปี เสียชีวิตในห้องนอน ตรวจสอบไม่พบบาดแผล ส่วนนางวันเพ็ญ กิลส์ ภรรยา บอกว่า ปกติสามีไม่ชอบสวมเสื้อผ้า เพราะเมืองไทยอากาศร้อน โดยเฉพาะเวลานอนไม่เคยใส่ เสื้อ และชอบนอนกับพื้นกระเบื้อง เบื้องต้นคาดว่าอากาศหนาว อาจจะทำให้ผู้ตายเกิดอาการช็อกจนเสียชีวิต จันทบุรี เกิดหมอกหนาตั้งแต่เช้าจนถึงสายใน 4 อำเภอ ประกอบด้วย อำเภอเมือง อำเภอมะขาม อำเภอโป่งน้ำร้อน และอำเภอสอยดาว ส่งผลกระทบต่อ วิสัยทัศน์ของผู้ใช้รถใช้ถนน ต้องเปิดไฟหน้ารถเพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุ นอกจากนี้ ตามเชิงเขามีหมอกปกคลุมหนาแน่น รวมถึงพื้นที่สวนผลไม้ของชาวบ้าน ทำให้ เกษตรกรชาวสวนในพื้นที่จังหวัดจันทบุรีหวั่นว่าผลผลิตปีนี้อาจจะมีผลผลิตออกมาน้อย เนื่องจากสภาพอากาศที่แปรปรวน เชียงราย นายพงษ์ศักดิ์ วังเสมอ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เปิดเผยว่า จากการสำรวจความต้องการเครื่องกันหนาว ประจำปี 2557 พบว่ามี ประชาชนขาดแคลนเครื่องกันหนาว จำนวน 280,000 คน โดยได้รับแจกจ่ายเครื่องกันหนาวจากทุกภาคส่วนไปแล้ว จำนวน 50,000 คน อยู่ระหว่างรอการให้ความช่วย เหลือจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) จำนวน 116,000 คน ยังมีผู้เดือดร้อน ไม่ได้รับความช่วยเหลือเครื่องกันหนาว จำนวน 113,000 คน ล่าสุดจังหวัดเชียงราย ได้ประกาศให้พื้นที่อำเภอแม่ฟ้าหลวง อำเภอแม่สรวย อำเภอป่าแดด อำเภอเชียงของ อำเภอพญาเม็งราย อำเภอเทิง อำเภอเมืองเชียงราย อำเภอเวียงป่าเป้า อำเภอแม่จัน อำเภอแม่ลาว อำเภอเชียงแสน อำเภอเวียงชัย อำเภอพาน อำเภอดอยหลวง อำเภอขุนตาล อำเภอแม่สาย อำเภอเวียงเชียงรุ้ง และอำเภอเวียงแก่น รวม 18 อำเภอ 124 ตำบล 1,751 หมู่บ้าน เป็นเขตให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติหนาวกรณีฉุกเฉิน และจำเป็นต้องให้ความช่วยเหลือเป็นกรณีเร่งด่วน.