ภัยสังคม! ต้นเหตุสาวพีอาร์ดับ กู้ภัยหื่นสวมรอย

แสดงความคิดเห็น

เจ้าหน้าที่ตำรวจจับผู้ต้องหาคดีข่มขื่นสาวพีอาร์

ตร.บางพลี คุมหนุ่มกู้ภัยหื่น พยายามขืนใจสาวพีอาร์จนกระโดดน้ำตาย ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ แจ้งข้อหาหนักหลายข้อหา ควบคุมตัวดำเนินคดีตามกฎหมายทันที..

เมื่อ เวลา 12.00 น.วันที่ 15 ม.ค.57 พล.ต.ต.ธัชชัย หงษ์ทอง ผบก.ภ.จว.สมุทรปราการ พ.ต.อ.ยงยุทธ เดชะรัฐ รองผบก. พ.ต.อ.กรวัฒน์ หันประดิษฐ์ ผกก.สภ.บางพลี พ.ต.ท.เชาว์ ป้อมงาม รองผกก.ส. พ.ต.ต.ภูวนาถ แก่นจันทร์ สว.สส. พร้อมเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สภ.บางพลี คุมตัวนายธวัชชัย หรือ เต้ แซ่ซิ้ม อายุ 32 ปี อาสากู้ภัยมูลนิธิแห่งหนึ่ง ประจำจุดหนองจอก อยู่บ้านเลขที่ 3/2133 แขวงคลองถนน เขตสายไหม กทม. มาชี้จุดที่ น.ส.ชนัญชิตา เสือซิว อายุ 28 ปี สาวประชาสัมพันธ์บริษัทแห่งหนึ่งย่านทองหล่อ กระโดดลงจากรถหลังถูกลวนลาม บริเวณคลองส่งน้ำสุวรรณภูมิ มุ่งหน้าถนนสุขุมวิท สายเก่า กม.5 ต.บางปลา อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ ก่อนจมน้ำเสียชีวิต

ทั้งนี้ สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 13 ม.ค.ที่ผ่านมา เวลา 13.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งพบศพหญิงสาว จมน้ำเสียชีวิต โดยตามร่างกายพบรอยช้ำคล้ายรอยกัดบริเวณแขนด้านขวา ในตัวไม่พบเอกสารระบุว่าเป็นใคร จึงได้เผยแพร่รูปหญิงสาวคนดังกล่าวลงในโซเชียลเน็ตเวิร์กเพื่อตามหาญาติ จนกระทั่งมี นางศรัญญา เสือซิว มารดาของผู้เสียชีวิตเข้าติดต่อว่าเป็นบุตรสาวและหายไปจากบ้านตั้งแต่คืนวัน ที่ 12 ม.ค.และได้รับการประสานจากอดีตเพื่อนชายคนสนิทของบุตรสาวเช้าวันที่ 13 ม.ค.ที่ผ่านมาว่า มีคนพบบุตรสาวของตน นอนหมดสติอยู่ที่ฟู้ดแลนด์ สาขารามคำแหง ซ.รามคำแหง 9 และได้ติดต่อให้อาสามัครมูลนิธิกู้ภัย นำส่งไปรักษาตัวที่ รพ.รามคำแหง ตนจึงไปรอแต่ไม่พบ จึงไปแจ้งความคนหายไว้ที่ สน.หัวหมาก จนกระทั่งมาพบเป็นศพแล้ว

ผก ก.สภ.บางพลี กล่าวต่อว่า หลังทราบเรื่องจึงสั่งการฝ่ายสืบสวนเรียกพยานที่เห็นในที่เกิดเหตุก่อนจมน้ำ มาสอบปากคำ รวมทั้งติดต่อไปยังฟู้ดแลนด์ เพื่อตรวจสอบกล้องวงจรปิด ก็พบนายธวัชชัย เดินทางเข้าไปรับตัวผู้เสียชีวิตที่อยู่ในสภาพหมดสติ นั่งรถเข็นมาขึ้นเบาะหน้าข้างคนขับ พร้อมกับรับกระเป๋าสะพายแบบผู้หญิงของผู้เสียชีวิตจากพนักงานห้างฟู้ดแลนด์ ก่อนขับรถออกไป แต่กล้องวงรจรปิดของรพ.รามคำแหง บันทึกภาพเห็นนายธวัชชัย ขับรถมูลนิธิหมายเลขทะเบียน 6ฎ-8928 กทม. เข้ามา แต่ไม่ลงและขับออกไปอย่างรวดเร็ว ซึ่งเมื่อทางตำรวจและหัวหน้าติดต่อไปในเบื้องต้นไม่สามารถติดต่อได้ จนกระทั่งมีคนพบกระเป๋าและเอกสารระบุชื่อผู้เสียชีวิตบริเวณวัดลาดพร้าว เจ้าหน้าที่จึงบุกไปยังห้องพักซึ่งอยู่ใกล้พบตัวนายธวัชชัย จึงควบคุมตัวมาสอบสวน เนื่องจากเชื่อว่านายธวัชชัย มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเสียชีวิตของ น.ส.ชนัญชิตา ที่กระโดดลงน้ำฆ่าตัวตาย

ใน ตอนแรกนายธวัชชัย ให้การปฏิเสธ และให้การวกไปวนมาคล้ายคนเสพยา เจ้าหน้าที่จึงนำตัวไปตรวจปัสสาวะหาสารเสพติดก็พบว่ามีสีม่วง รวมถึงเมื่อเค้นสอบอย่างหนัก จึงให้การรับสารภาพว่า ทำการลวนลามอนาจารผู้เสียชีวิตจริงแต่ไม่ได้ข่มขืนและฆ่า โดยเมื่อไปรับผู้เสียชีวิตที่ฟู้ดแลนด์ไปส่งรพ.รามคำแหง แต่เห็นสภาพสะลึมสะลือไม่มีสติ และหน้าตาดี ประกอบกับตนเองเพิ่งเสพยาบ้ามา จึงเกิดอารมณ์ทางเพศ จึงเปลี่ยนใจไม่นำส่ง กลับขับรถออกทางประตูด้านหลังของ รพ.ไปตามถนนหัวหมาก เลี้ยวขวาเข้าถนนศรีนครินทร์ วิ่งตามถนนมอเตอร์เวย์ ออกบางนา-ตราด ลงด่วนบูรพาวิถีแถวบางพลี และกลับรถยูเทิร์นเกือกม้า วิ่งตามถนนเลียบคลองส่งน้ำสุวรรณภูมิ

นาย ธวัชชัย ให้การต่อว่า ระหว่างทางก็ได้ล่วงละเมิดทางเพศ มาตลอดทาง พอถึงบริเวณจุดเกิดเหตุ เป็นสถานที่เปลี่ยว จึงคิดจะข่มขืน จึงได้ลงมือถอดเสื้อผ้า แต่ผู้เสียชีวิตมีสติขึ้นมาพยายามต่อสู้ขัดขืนไม่ยอมให้มีเพศสัมพันธ์ด้วย โดยผู้เสียชีวิตหันไปเห็นมีดที่อยู่ในรถจึงหยิบมาขู่ตน ตนจึงคว้าไว้และกัดเข้าไปที่แขนเพื่อให้ปล่อยมีด แต่ผู้เสียชีวิตใช้เท้าถีบและเตะตน จนสามารถแย่งมีดกลับคืนไปได้และเคาะที่กระจกด้านหน้าคนขับ จนตนเกิดความกลัว จึงยอมเปิดล็อกประตู ให้ผู้เสียชีวิตวิ่งลงไป ก่อนจะรีบขับรถหนีไป แล้วนำเอาแหวนทองรูปหัวใจมีเพชร 2 วงไปขายในราคาไม่เกิน 5,000 บาท ก่อนนำไปซื้อยาบ้าเสพ ส่วนกระเป๋าก็เอาไปทิ้งไว้แถววัดลาดพร้าว กทม.เนื่องจากใกล้ที่พัก

ด้านพล.ต.ต.ธัชชัย กล่าวว่า คดีดังกล่าวได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทำงานอย่างระมัดระวัง เบื้องต้นยังให้การปฏิเสธว่าไม่ได้ข่มขืนแต่ยอมรับว่า ทำการลวนลามอนาจารจริงและเสพยาบ้าด้วย พนักงานสอบสวน จึงแจ้งข้อหาพยายามข่มขืนกระทำชำเราหญิงซึ่งไม่ใช่ภรรยาของตน โดยใช้กำลังหรือขู่เข็ญด้วยประการใด, ลักทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะ เพื่อสะดวกแก่การกระทำผิดหรือการพาทรัพย์นั้นไป, มีเครื่องวิทยุสื่อสารคมนาคมใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต และเสพยา ส่วนผู้เสียชีวิตจะถูกข่มขืนหรือไม่นั้น ต้องรอผลการชันสูตรเพื่อยืนยันอีกครั้ง หากพบว่ามีก็จะแจ้งข้อหาเพิ่ม

ขอบคุณ http://www.thairath.co.th/content/region/396318 (ขนาดไฟล์: 167)

(ไทยรัฐออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 15 ม.ค.57 )

ที่มา: ไทยรัฐออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 15 ม.ค.57
วันที่โพสต์: 16/01/2557 เวลา 03:32:29 ดูภาพสไลด์โชว์ ภัยสังคม! ต้นเหตุสาวพีอาร์ดับ กู้ภัยหื่นสวมรอย

แสดงความคิดเห็น

รอตรวจสอบ
จัดฟอร์แม็ต ดูการแสดงผล

รอตรวจสอบ

รอตรวจสอบ

รอตรวจสอบ

ยกเลิก

รายละเอียดกระทู้

เจ้าหน้าที่ตำรวจจับผู้ต้องหาคดีข่มขื่นสาวพีอาร์ ตร.บางพลี คุมหนุ่มกู้ภัยหื่น พยายามขืนใจสาวพีอาร์จนกระโดดน้ำตาย ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ แจ้งข้อหาหนักหลายข้อหา ควบคุมตัวดำเนินคดีตามกฎหมายทันที.. เมื่อ เวลา 12.00 น.วันที่ 15 ม.ค.57 พล.ต.ต.ธัชชัย หงษ์ทอง ผบก.ภ.จว.สมุทรปราการ พ.ต.อ.ยงยุทธ เดชะรัฐ รองผบก. พ.ต.อ.กรวัฒน์ หันประดิษฐ์ ผกก.สภ.บางพลี พ.ต.ท.เชาว์ ป้อมงาม รองผกก.ส. พ.ต.ต.ภูวนาถ แก่นจันทร์ สว.สส. พร้อมเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สภ.บางพลี คุมตัวนายธวัชชัย หรือ เต้ แซ่ซิ้ม อายุ 32 ปี อาสากู้ภัยมูลนิธิแห่งหนึ่ง ประจำจุดหนองจอก อยู่บ้านเลขที่ 3/2133 แขวงคลองถนน เขตสายไหม กทม. มาชี้จุดที่ น.ส.ชนัญชิตา เสือซิว อายุ 28 ปี สาวประชาสัมพันธ์บริษัทแห่งหนึ่งย่านทองหล่อ กระโดดลงจากรถหลังถูกลวนลาม บริเวณคลองส่งน้ำสุวรรณภูมิ มุ่งหน้าถนนสุขุมวิท สายเก่า กม.5 ต.บางปลา อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ ก่อนจมน้ำเสียชีวิต ทั้งนี้ สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 13 ม.ค.ที่ผ่านมา เวลา 13.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งพบศพหญิงสาว จมน้ำเสียชีวิต โดยตามร่างกายพบรอยช้ำคล้ายรอยกัดบริเวณแขนด้านขวา ในตัวไม่พบเอกสารระบุว่าเป็นใคร จึงได้เผยแพร่รูปหญิงสาวคนดังกล่าวลงในโซเชียลเน็ตเวิร์กเพื่อตามหาญาติ จนกระทั่งมี นางศรัญญา เสือซิว มารดาของผู้เสียชีวิตเข้าติดต่อว่าเป็นบุตรสาวและหายไปจากบ้านตั้งแต่คืนวัน ที่ 12 ม.ค.และได้รับการประสานจากอดีตเพื่อนชายคนสนิทของบุตรสาวเช้าวันที่ 13 ม.ค.ที่ผ่านมาว่า มีคนพบบุตรสาวของตน นอนหมดสติอยู่ที่ฟู้ดแลนด์ สาขารามคำแหง ซ.รามคำแหง 9 และได้ติดต่อให้อาสามัครมูลนิธิกู้ภัย นำส่งไปรักษาตัวที่ รพ.รามคำแหง ตนจึงไปรอแต่ไม่พบ จึงไปแจ้งความคนหายไว้ที่ สน.หัวหมาก จนกระทั่งมาพบเป็นศพแล้ว ผก ก.สภ.บางพลี กล่าวต่อว่า หลังทราบเรื่องจึงสั่งการฝ่ายสืบสวนเรียกพยานที่เห็นในที่เกิดเหตุก่อนจมน้ำ มาสอบปากคำ รวมทั้งติดต่อไปยังฟู้ดแลนด์ เพื่อตรวจสอบกล้องวงจรปิด ก็พบนายธวัชชัย เดินทางเข้าไปรับตัวผู้เสียชีวิตที่อยู่ในสภาพหมดสติ นั่งรถเข็นมาขึ้นเบาะหน้าข้างคนขับ พร้อมกับรับกระเป๋าสะพายแบบผู้หญิงของผู้เสียชีวิตจากพนักงานห้างฟู้ดแลนด์ ก่อนขับรถออกไป แต่กล้องวงรจรปิดของรพ.รามคำแหง บันทึกภาพเห็นนายธวัชชัย ขับรถมูลนิธิหมายเลขทะเบียน 6ฎ-8928 กทม. เข้ามา แต่ไม่ลงและขับออกไปอย่างรวดเร็ว ซึ่งเมื่อทางตำรวจและหัวหน้าติดต่อไปในเบื้องต้นไม่สามารถติดต่อได้ จนกระทั่งมีคนพบกระเป๋าและเอกสารระบุชื่อผู้เสียชีวิตบริเวณวัดลาดพร้าว เจ้าหน้าที่จึงบุกไปยังห้องพักซึ่งอยู่ใกล้พบตัวนายธวัชชัย จึงควบคุมตัวมาสอบสวน เนื่องจากเชื่อว่านายธวัชชัย มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเสียชีวิตของ น.ส.ชนัญชิตา ที่กระโดดลงน้ำฆ่าตัวตาย ใน ตอนแรกนายธวัชชัย ให้การปฏิเสธ และให้การวกไปวนมาคล้ายคนเสพยา เจ้าหน้าที่จึงนำตัวไปตรวจปัสสาวะหาสารเสพติดก็พบว่ามีสีม่วง รวมถึงเมื่อเค้นสอบอย่างหนัก จึงให้การรับสารภาพว่า ทำการลวนลามอนาจารผู้เสียชีวิตจริงแต่ไม่ได้ข่มขืนและฆ่า โดยเมื่อไปรับผู้เสียชีวิตที่ฟู้ดแลนด์ไปส่งรพ.รามคำแหง แต่เห็นสภาพสะลึมสะลือไม่มีสติ และหน้าตาดี ประกอบกับตนเองเพิ่งเสพยาบ้ามา จึงเกิดอารมณ์ทางเพศ จึงเปลี่ยนใจไม่นำส่ง กลับขับรถออกทางประตูด้านหลังของ รพ.ไปตามถนนหัวหมาก เลี้ยวขวาเข้าถนนศรีนครินทร์ วิ่งตามถนนมอเตอร์เวย์ ออกบางนา-ตราด ลงด่วนบูรพาวิถีแถวบางพลี และกลับรถยูเทิร์นเกือกม้า วิ่งตามถนนเลียบคลองส่งน้ำสุวรรณภูมิ นาย ธวัชชัย ให้การต่อว่า ระหว่างทางก็ได้ล่วงละเมิดทางเพศ มาตลอดทาง พอถึงบริเวณจุดเกิดเหตุ เป็นสถานที่เปลี่ยว จึงคิดจะข่มขืน จึงได้ลงมือถอดเสื้อผ้า แต่ผู้เสียชีวิตมีสติขึ้นมาพยายามต่อสู้ขัดขืนไม่ยอมให้มีเพศสัมพันธ์ด้วย โดยผู้เสียชีวิตหันไปเห็นมีดที่อยู่ในรถจึงหยิบมาขู่ตน ตนจึงคว้าไว้และกัดเข้าไปที่แขนเพื่อให้ปล่อยมีด แต่ผู้เสียชีวิตใช้เท้าถีบและเตะตน จนสามารถแย่งมีดกลับคืนไปได้และเคาะที่กระจกด้านหน้าคนขับ จนตนเกิดความกลัว จึงยอมเปิดล็อกประตู ให้ผู้เสียชีวิตวิ่งลงไป ก่อนจะรีบขับรถหนีไป แล้วนำเอาแหวนทองรูปหัวใจมีเพชร 2 วงไปขายในราคาไม่เกิน 5,000 บาท ก่อนนำไปซื้อยาบ้าเสพ ส่วนกระเป๋าก็เอาไปทิ้งไว้แถววัดลาดพร้าว กทม.เนื่องจากใกล้ที่พัก ด้านพล.ต.ต.ธัชชัย กล่าวว่า คดีดังกล่าวได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทำงานอย่างระมัดระวัง เบื้องต้นยังให้การปฏิเสธว่าไม่ได้ข่มขืนแต่ยอมรับว่า ทำการลวนลามอนาจารจริงและเสพยาบ้าด้วย พนักงานสอบสวน จึงแจ้งข้อหาพยายามข่มขืนกระทำชำเราหญิงซึ่งไม่ใช่ภรรยาของตน โดยใช้กำลังหรือขู่เข็ญด้วยประการใด, ลักทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะ เพื่อสะดวกแก่การกระทำผิดหรือการพาทรัพย์นั้นไป, มีเครื่องวิทยุสื่อสารคมนาคมใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต และเสพยา ส่วนผู้เสียชีวิตจะถูกข่มขืนหรือไม่นั้น ต้องรอผลการชันสูตรเพื่อยืนยันอีกครั้ง หากพบว่ามีก็จะแจ้งข้อหาเพิ่ม ขอบคุณ… http://www.thairath.co.th/content/region/396318 (ไทยรัฐออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 15 ม.ค.57 )

จัดฟอร์แม็ตข้อความและมัลติมีเดีย

  1. เพิ่ม
  2. เพิ่ม ลบ
  3. เพิ่ม ลบ
  4. เพิ่ม ลบ
  5. เพิ่ม ลบ
  6. เพิ่ม ลบ
  7. เพิ่ม ลบ
  8. เพิ่ม ลบ
  9. เพิ่ม ลบ
  10. ลบ
เลือกการตกแต่งที่ต้องการ

ตกลง ยกเลิก

รายละเอียดการใส่ ลิงค์ รูปภาพ วิดีโอ เพลง (Soundcloud)

Waiting...