ปรับรูปแบบเตือนภัยลำตะคอง กรมชลดึงทุกหน่วยงานนำร่องบูรณาการส่งต่อข้อมูล
นายชิดชนก สมประเสริฐ ผู้อำนวยการสำนักชลประทานที่ 8 กรมชลประทาน เปิดเผยว่า กรมชลประทานได้จัดทำโครงการบูรณาการเพื่อบรรเทาและแก้ไขปัญหาอุทกภัยในเขต ลุ่มน้ำลำตะคอง จังหวัดนครราชสีมาขึ้นภายหลังจากหลายอำเภอในพื้นที่ของ จ.นครราชสีมา ประสบปัญหาอุทกภัยใหญ่เมื่อปี 2553 จากเดิมที่มีเพียงชลประทานเป็นผู้ติดตามสถานการณ์ในอ่างเก็บน้ำและลำน้ำ ต่างๆ เพื่อรายงานต่อไปยังประชาชน ทำให้เกิดความล่าช้า จึงได้เปลี่ยนรูปแบบมาเป็นการใช้ความร่วมมือจากหน่วยงานทั่วทั้งจังหวัดใน การช่วยกันติดตามสถานการณ์น้ำฝน-น้ำท่า และแจ้งเตือนภัยอย่างเป็นระบบ โดยกำหนดให้ศูนย์ประมวลวิเคราะห์สถานการณ์น้ำ สำนักชลประทานที่ 8 เป็นศูนย์กลางในการรวบรวมข้อมูลปริมาณน้ำฝนและวิเคราะห์สถานการณ์แนวโน้มที่ จะเกิดขึ้น เสนอต่อศูนย์เตือนภัยพิบัติจังหวัดนครราชสีมา เพื่อใช้เป็นข้อมูลในการเฝ้าระวังและเตือนภัยตามรูปแบบและเกณฑ์เตือนภัยที่ กำหนดไว้ร่วมกัน
ทั้งนี้ ตามผังการปฏิบัติงาน จะเริ่มที่เจ้าหน้าที่ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และหน่วยงานทั้งจังหวัดที่มีเครื่องมือวัดระดับน้ำคอยตรวจวัดปริมาณน้ำฝนใน พื้นที่ อำเภอต่าง ๆ เป็นผู้รวบรวมข้อมูลปริมาณฝนส่งให้ศูนย์ประมวล ฯ สำนักชลประทานที่ 8 เป็นประจำทุกวันก่อนเวลา 8.00 น. ในช่วงฤดูน้ำหลาก ก่อนจะทำสรุปส่งให้ศูนย์เตือนภัยพิบัติ จังหวัดนครราชสีมา เพื่อการแจ้งเตือนต่อไป นอกจากนี้ยังมีสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยของจังหวัด สนับสนุนอุปกรณ์วัดน้ำฝน เทศบาลนครราชสีมา และสื่อมวลชน ที่ช่วยเผยแพร่ข้อมูลออกไป
“การดำเนินโครงการดังกล่าวร่วมกันทำให้ประชาชนได้รับข้อมูลที่ทันต่อ เหตุการณ์ ไม่ตื่นตระหนกจนเกินไป และไม่จำเป็นต้องเสียงบประมาณในการวางระบบเตือนภัยที่มีราคาแพง ได้ผลเป็นที่น่าพอใจ ดังนั้น หากมีการนำรูปแบบการดำเนินการเช่นนี้ขยายผลไปใช้กับจังหวัดอื่น ๆ โดยให้ผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นแกนนำ ร่วมกับสำนักชลประทานที่อยู่ในพื้นที่ ย่อมทำให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารอย่างรวดเร็ว ทันต่อเหตุการณ์ และมีความรู้ความเข้าใจมากขึ้น ส่งผลให้เป็นหน้าที่ความรับผิดชอบร่วมกันในการแก้ไขปัญหาอุทกภัยแบบยั่งยืน ต่อไปได้” ผู้อำนวยการสำนักชลประทานที่ 8 กล่าวในที่สุด
ขอบคุณ... http://www.naewna.com/local/88656
แนวหน้าออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 3 ก.พ.57
แสดงความคิดเห็น
รายละเอียดกระทู้
นายชิดชนก สมประเสริฐ ผู้อำนวยการสำนักชลประทานที่ 8 กรมชลประทาน เปิดเผยว่า กรมชลประทานได้จัดทำโครงการบูรณาการเพื่อบรรเทาและแก้ไขปัญหาอุทกภัยในเขต ลุ่มน้ำลำตะคอง จังหวัดนครราชสีมาขึ้นภายหลังจากหลายอำเภอในพื้นที่ของ จ.นครราชสีมา ประสบปัญหาอุทกภัยใหญ่เมื่อปี 2553 จากเดิมที่มีเพียงชลประทานเป็นผู้ติดตามสถานการณ์ในอ่างเก็บน้ำและลำน้ำ ต่างๆ เพื่อรายงานต่อไปยังประชาชน ทำให้เกิดความล่าช้า จึงได้เปลี่ยนรูปแบบมาเป็นการใช้ความร่วมมือจากหน่วยงานทั่วทั้งจังหวัดใน การช่วยกันติดตามสถานการณ์น้ำฝน-น้ำท่า และแจ้งเตือนภัยอย่างเป็นระบบ โดยกำหนดให้ศูนย์ประมวลวิเคราะห์สถานการณ์น้ำ สำนักชลประทานที่ 8 เป็นศูนย์กลางในการรวบรวมข้อมูลปริมาณน้ำฝนและวิเคราะห์สถานการณ์แนวโน้มที่ จะเกิดขึ้น เสนอต่อศูนย์เตือนภัยพิบัติจังหวัดนครราชสีมา เพื่อใช้เป็นข้อมูลในการเฝ้าระวังและเตือนภัยตามรูปแบบและเกณฑ์เตือนภัยที่ กำหนดไว้ร่วมกัน ทั้งนี้ ตามผังการปฏิบัติงาน จะเริ่มที่เจ้าหน้าที่ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และหน่วยงานทั้งจังหวัดที่มีเครื่องมือวัดระดับน้ำคอยตรวจวัดปริมาณน้ำฝนใน พื้นที่ อำเภอต่าง ๆ เป็นผู้รวบรวมข้อมูลปริมาณฝนส่งให้ศูนย์ประมวล ฯ สำนักชลประทานที่ 8 เป็นประจำทุกวันก่อนเวลา 8.00 น. ในช่วงฤดูน้ำหลาก ก่อนจะทำสรุปส่งให้ศูนย์เตือนภัยพิบัติ จังหวัดนครราชสีมา เพื่อการแจ้งเตือนต่อไป นอกจากนี้ยังมีสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยของจังหวัด สนับสนุนอุปกรณ์วัดน้ำฝน เทศบาลนครราชสีมา และสื่อมวลชน ที่ช่วยเผยแพร่ข้อมูลออกไป “การดำเนินโครงการดังกล่าวร่วมกันทำให้ประชาชนได้รับข้อมูลที่ทันต่อ เหตุการณ์ ไม่ตื่นตระหนกจนเกินไป และไม่จำเป็นต้องเสียงบประมาณในการวางระบบเตือนภัยที่มีราคาแพง ได้ผลเป็นที่น่าพอใจ ดังนั้น หากมีการนำรูปแบบการดำเนินการเช่นนี้ขยายผลไปใช้กับจังหวัดอื่น ๆ โดยให้ผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นแกนนำ ร่วมกับสำนักชลประทานที่อยู่ในพื้นที่ ย่อมทำให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารอย่างรวดเร็ว ทันต่อเหตุการณ์ และมีความรู้ความเข้าใจมากขึ้น ส่งผลให้เป็นหน้าที่ความรับผิดชอบร่วมกันในการแก้ไขปัญหาอุทกภัยแบบยั่งยืน ต่อไปได้” ผู้อำนวยการสำนักชลประทานที่ 8 กล่าวในที่สุด ขอบคุณ... http://www.naewna.com/local/88656 แนวหน้าออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 3 ก.พ.57
จัดฟอร์แม็ตข้อความและมัลติมีเดีย
รายละเอียดการใส่ ลิงค์ รูปภาพ วิดีโอ เพลง (Soundcloud)