กทม.ซัด ศรส.อย่าร้อนตัว ส้วมติดกล้องป้องภัยไม่ได้สอดแนม

แสดงความคิดเห็น

กทม.ชี้รถสุขาติดกล้องวงจรปิด แค่ป้องกันเหตุร้าย ติดมานานตั้งแต่ปี 53 ปัดต้องการสอดแนม ศรส. ลั่นถ้าไม่มีเรื่องลับ ก็ไม่ต้องกังวล

หลังมีการวิพากษ์วิจารณ์และแชร์ภาพในสังคมออนไลน์อย่างกว้างขวางว่ารถ สุขาเคลื่อนที่ของ กทม. ที่จัดมาบริการบริเวณศูนย์รักษาความสงบ หรือ ศรส. มีการติดกล้องวงจรปิดไว้ที่รถ จนกระทั่งมีเจ้าหน้าที่ตำรวจมาตรวจพบ และเกิดเป็นคำถามว่า "ติดกล้องไว้ทำไม" หรือต้องการสอดแนม ศรส. หรือไม่นั้น ล่าสุด ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) ก็ได้ออกมาชี้แจงถึงประเด็นดังกล่าวแล้วว่า กล้องวงจรปิดขนาดเล็กที่ติดตั้งอยู่บริเวณทางเดินขึ้น-ลงของรถสุขานั้น เป็นเพียงการป้องกันภัยให้ประชาชนเท่านั้น เพราะที่ผ่านมาเคยมีเหตุการทำร้ายร่างกายบริเวณรถสุขามาแล้ว ยืนยันไม่ได้ติดตั้งในส่วนที่ละเมิดสิทธิส่วนบุคคลแต่อย่างใด

ทั้งนี้ ผู้ว่าฯ กทม. ยังกล่าวด้วยว่าปกติรถสุขาของ กทม. ที่มีอยู่หลายคันจะถูกสับเปลี่ยนไปใช้ตามจุดต่างๆ จึงไม่อาจทราบได้ว่ารถคันไหนจะถูกนำไปประจำอยู่ที่ใด และตนก็จะไม่สั่งให้นำกล้องออกด้วย แต่จะให้เจ้าหน้าที่พิจารณาว่ามีผลกระทบอะไรหรือไม่ ซึ่งหากทาง ศรส.ไม่ได้มีเรื่องอะไรปิดบังก็ไม่ต้องเป็นกังวลกับเรื่องนี้ แต่หากทาง ศรส.ประสานขอคำชี้แจงมา ทาง กทม.ก็พร้อมทำหนังสือชี้แจงให้ ว่าการติดกล้องเป็นการทำไปด้วยเจตนาดีและเป็นห่วงความปลอดภัยของประชาชนเท่า นั้น ไม่ได้มีเจตนาอื่นแอบแฝง

ด้านนายบรรจง สุขดี รองปลัดกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า การติดกล้องในรถสุขาเคลื่อนที่นอกจากจะช่วยดูแลความปลอดภัยให้ประชาชนแล้ว ยังอาจเป็นหลักฐานในการตรวจสอบเหตุการณ์ร้ายต่างๆ ที่อาจจะเกิดขึ้นได้ด้วย ส่วนประเด็นว่าทำไมจึงส่งรถติดกล้องให้ ศรส. นายบรรจง เผยว่าทาง ศรส.ประสานของรถมาเป็นกรณีเร่งด่วน ทาง กทม.จึงจัดส่งรถคันดังกล่าวซึ่งจอดอยู่ที่ศูนย์จอดอ่อนนุชไปส่งให้ที่สโมสร ตำรวจอย่างเร็วที่สุดตามคำขอ เพื่อให้ทันใช้งาน ขณะที่พนักงานขับรถที่รับผิดชอบรถสุขาคันดังกล่าว ก็ยืนยันว่ากล้องวงจรปิดในรถคันนั้นติดตั้งไว้ตั้งแต่เหตุชุมนุมของกลุ่ม นปช.ตั้งแต่ปี 2553 แล้ว และในกล้องก็เห็นเพียงคนเดินขึ้นลงเท่านั้น เพราะกล้องไม่ได้หันหน้าเข้าห้องน้ำ

ขอบคุณ... http://www.ryt9.com/s/iqry/1826136

ASTVผู้จัดการออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 29 ม.ค.57

ที่มา: ASTVผู้จัดการออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 29 ม.ค.57
วันที่โพสต์: 30/01/2557 เวลา 07:15:08

แสดงความคิดเห็น

รายละเอียดกระทู้

ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) กทม.ชี้รถสุขาติดกล้องวงจรปิด แค่ป้องกันเหตุร้าย ติดมานานตั้งแต่ปี 53 ปัดต้องการสอดแนม ศรส. ลั่นถ้าไม่มีเรื่องลับ ก็ไม่ต้องกังวล หลังมีการวิพากษ์วิจารณ์และแชร์ภาพในสังคมออนไลน์อย่างกว้างขวางว่ารถ สุขาเคลื่อนที่ของ กทม. ที่จัดมาบริการบริเวณศูนย์รักษาความสงบ หรือ ศรส. มีการติดกล้องวงจรปิดไว้ที่รถ จนกระทั่งมีเจ้าหน้าที่ตำรวจมาตรวจพบ และเกิดเป็นคำถามว่า "ติดกล้องไว้ทำไม" หรือต้องการสอดแนม ศรส. หรือไม่นั้น ล่าสุด ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) ก็ได้ออกมาชี้แจงถึงประเด็นดังกล่าวแล้วว่า กล้องวงจรปิดขนาดเล็กที่ติดตั้งอยู่บริเวณทางเดินขึ้น-ลงของรถสุขานั้น เป็นเพียงการป้องกันภัยให้ประชาชนเท่านั้น เพราะที่ผ่านมาเคยมีเหตุการทำร้ายร่างกายบริเวณรถสุขามาแล้ว ยืนยันไม่ได้ติดตั้งในส่วนที่ละเมิดสิทธิส่วนบุคคลแต่อย่างใด ทั้งนี้ ผู้ว่าฯ กทม. ยังกล่าวด้วยว่าปกติรถสุขาของ กทม. ที่มีอยู่หลายคันจะถูกสับเปลี่ยนไปใช้ตามจุดต่างๆ จึงไม่อาจทราบได้ว่ารถคันไหนจะถูกนำไปประจำอยู่ที่ใด และตนก็จะไม่สั่งให้นำกล้องออกด้วย แต่จะให้เจ้าหน้าที่พิจารณาว่ามีผลกระทบอะไรหรือไม่ ซึ่งหากทาง ศรส.ไม่ได้มีเรื่องอะไรปิดบังก็ไม่ต้องเป็นกังวลกับเรื่องนี้ แต่หากทาง ศรส.ประสานขอคำชี้แจงมา ทาง กทม.ก็พร้อมทำหนังสือชี้แจงให้ ว่าการติดกล้องเป็นการทำไปด้วยเจตนาดีและเป็นห่วงความปลอดภัยของประชาชนเท่า นั้น ไม่ได้มีเจตนาอื่นแอบแฝง ด้านนายบรรจง สุขดี รองปลัดกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า การติดกล้องในรถสุขาเคลื่อนที่นอกจากจะช่วยดูแลความปลอดภัยให้ประชาชนแล้ว ยังอาจเป็นหลักฐานในการตรวจสอบเหตุการณ์ร้ายต่างๆ ที่อาจจะเกิดขึ้นได้ด้วย ส่วนประเด็นว่าทำไมจึงส่งรถติดกล้องให้ ศรส. นายบรรจง เผยว่าทาง ศรส.ประสานของรถมาเป็นกรณีเร่งด่วน ทาง กทม.จึงจัดส่งรถคันดังกล่าวซึ่งจอดอยู่ที่ศูนย์จอดอ่อนนุชไปส่งให้ที่สโมสร ตำรวจอย่างเร็วที่สุดตามคำขอ เพื่อให้ทันใช้งาน ขณะที่พนักงานขับรถที่รับผิดชอบรถสุขาคันดังกล่าว ก็ยืนยันว่ากล้องวงจรปิดในรถคันนั้นติดตั้งไว้ตั้งแต่เหตุชุมนุมของกลุ่ม นปช.ตั้งแต่ปี 2553 แล้ว และในกล้องก็เห็นเพียงคนเดินขึ้นลงเท่านั้น เพราะกล้องไม่ได้หันหน้าเข้าห้องน้ำ ขอบคุณ... http://www.ryt9.com/s/iqry/1826136 ASTVผู้จัดการออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 29 ม.ค.57