กปน.เตือนรับมือภัยแล้ง
กปน. - นายธนศักดิ์ วัฒนฐานะ ผู้ว่าการการประปานครหลวง (กปน.) เปิดเผยว่า ปีนี้ภัยแล้งมาเร็วกว่าปกติ ซึ่งหลายฝ่ายรับทราบสัญญาณได้ตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมาแล้ว เนื่องจากเขื่อนใหญ่ ทั้งเขื่อนภูมิพล และเขื่อนสิริกิติ์ มีปริมาณน้ำในเขื่อนที่สามารถใช้งานได้เหลืออยู่เพียง 29% และ 36% ตามลำดับ ทำให้หน่วยงานท้ายน้ำอย่างกปน.รู้สึกกังวลใจ ประกอบกับการเพิ่มพื้นที่เพาะปลูกของเกษตรกรในลุ่มน้ำเจ้าพระยา ที่เพิ่มขึ้นกว่า 2 เท่าตัว รวมถึงกิจกรรมการใช้น้ำของประชาชนซึ่งเพิ่มมากขึ้นทุกปี แต่สถานที่กักเก็บน้ำกลับมีอยู่เท่าเดิม เพราะไม่ได้ก่อสร้างเพิ่มขึ้นตามไปด้วย
นายธนศักดิ์กล่าว ต่อว่า กปน.ได้ประสานงานกับกรมชล ประทานอย่างใกล้ชิด พร้อมเตรียมแผนบริหารจัดการแหล่งน้ำ เพื่อให้ประชาชนมั่นใจว่าปริมาณน้ำที่มีอยู่จะเพียงพอสำหรับการผลิตน้ำประปา แต่ต้องขอความร่วมมือผู้ใช้น้ำช่วยกันใช้น้ำอย่างรู้คุณค่า เนื่องจากน้ำดิบที่นำมาผลิตน้ำประปาจะมีผลต่อการใช้น้ำของภาคส่วนอื่น โดยเฉพาะภาคเกษตร ที่สำคัญต้องสำรองไว้เผื่อปีหน้าด้วย และขอฝากไปยังสถานศึกษาต่างๆ ควรส่งเสริมให้ทุกคน โดยเฉพาะเยาวชนให้ร่วมกันประหยัดการใช้น้ำและเห็นความสำคัญของน้ำ เพื่อให้ไม่ต้องเผชิญกับปัญหาการขาดแคลนน้ำในอนาคต
ขอบคุณ... http://www.khaosod.co.th/view_news.php?newsid=TUROaVoyc3dNekV3TURJMU53PT0=
ข่าวสดออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 10 ก.พ.57
ที่มา: ข่าวสดออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 10 ก.พ.57
วันที่โพสต์: 11/02/2557 เวลา 06:21:05  เปิดเผยว่า ปีนี้ภัยแล้งมาเร็วกว่าปกติ ซึ...&p%5Burl%5D=http%3A%2F%2Ftddf.or.th%2Fdisaster%2Fdetail.php%3Fcontentid%3D0009&p%5Bimages%5D%5B0%5D=http://www.tddf.or.th/images/unknown.png)
แสดงความคิดเห็น
รายละเอียดกระทู้
กปน. - นายธนศักดิ์ วัฒนฐานะ ผู้ว่าการการประปานครหลวง (กปน.) เปิดเผยว่า ปีนี้ภัยแล้งมาเร็วกว่าปกติ ซึ่งหลายฝ่ายรับทราบสัญญาณได้ตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมาแล้ว เนื่องจากเขื่อนใหญ่ ทั้งเขื่อนภูมิพล และเขื่อนสิริกิติ์ มีปริมาณน้ำในเขื่อนที่สามารถใช้งานได้เหลืออยู่เพียง 29% และ 36% ตามลำดับ ทำให้หน่วยงานท้ายน้ำอย่างกปน.รู้สึกกังวลใจ ประกอบกับการเพิ่มพื้นที่เพาะปลูกของเกษตรกรในลุ่มน้ำเจ้าพระยา ที่เพิ่มขึ้นกว่า 2 เท่าตัว รวมถึงกิจกรรมการใช้น้ำของประชาชนซึ่งเพิ่มมากขึ้นทุกปี แต่สถานที่กักเก็บน้ำกลับมีอยู่เท่าเดิม เพราะไม่ได้ก่อสร้างเพิ่มขึ้นตามไปด้วย นายธนศักดิ์กล่าว ต่อว่า กปน.ได้ประสานงานกับกรมชล ประทานอย่างใกล้ชิด พร้อมเตรียมแผนบริหารจัดการแหล่งน้ำ เพื่อให้ประชาชนมั่นใจว่าปริมาณน้ำที่มีอยู่จะเพียงพอสำหรับการผลิตน้ำประปา แต่ต้องขอความร่วมมือผู้ใช้น้ำช่วยกันใช้น้ำอย่างรู้คุณค่า เนื่องจากน้ำดิบที่นำมาผลิตน้ำประปาจะมีผลต่อการใช้น้ำของภาคส่วนอื่น โดยเฉพาะภาคเกษตร ที่สำคัญต้องสำรองไว้เผื่อปีหน้าด้วย และขอฝากไปยังสถานศึกษาต่างๆ ควรส่งเสริมให้ทุกคน โดยเฉพาะเยาวชนให้ร่วมกันประหยัดการใช้น้ำและเห็นความสำคัญของน้ำ เพื่อให้ไม่ต้องเผชิญกับปัญหาการขาดแคลนน้ำในอนาคต ขอบคุณ... http://www.khaosod.co.th/view_news.php?newsid=TUROaVoyc3dNekV3TURJMU53PT0= ข่าวสดออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 10 ก.พ.57
จัดฟอร์แม็ตข้อความและมัลติมีเดีย
รายละเอียดการใส่ ลิงค์ รูปภาพ วิดีโอ เพลง (Soundcloud)
