สาธิตถวายฎีกา งงเป็นภัยสังคม ศรส.อ้างสารภาพ

แสดงความคิดเห็น

ภาพไม่สื่อความหมาย

"สาธิต" ส่งน้องชาย-ทนายถวายฎีกาแล้ว ข้องใจทำงานปลูกจิตสำนึกให้ประชาชนเทิดทูนสถาบัน เป็นภัยต่อสังคมตรงไหน ขณะที่ ผอ.ศรส.รับเซ็นเนรเทศแล้ว อ้าง "สาธิต" สารภาพ พาพวกยึดสถานที่ราชการ 5 แห่ง "ถาวร" ฟ้องศาลแพ่งฟัน "ปู-เหลิม-อดุลย์" โทษฐานฝ่าฝืนคำสั่งศาล

เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 6 มีนาคม นายสาธิต เซกัล ประธานสมาคมนักธุรกิจอินเดีย-ไทย ได้มอบหมายให้นายอาทิตย์ เซกัล น้องชาย และนายชุป ไชยฤกษ์ชัย ทนายความ เดินทางไปยังสำนักพระราชวัง เพื่อถวายฎีกาต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว หลังจาก ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รักษาการ รมว.แรงงาน ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์รักษาความสงบ (ผอ.ศรส.) มีคำสั่งเนรเทศออกนอกประเทศจากการเข้าร่วมชุมนุมกับคณะกรรมการประชาชนเพื่อ การเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ ทรงเป็นประมุข (กปปส.)

นายอาทิตย์ยืนยันว่า พี่ชายมีความจงรักภักดีต่อสถาบัน และมีการเข้าร่วมกิจกรรมกับ กปปส.ทุกครั้ง เป็นไปในลักษณะเทิดทูนสถาบัน และหลังจากเกิดเรื่องขึ้น ครอบครัวรู้สึกเสียใจ

นายถาวร เสนเนียม แกนนำ กปปส. เปิดเผยว่า ในวันที่ 7 มี.ค. จะยื่นคำร้องต่อศาลแพ่งให้ดำเนินการกับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี, ร.ต.อ.เฉลิม และพล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เนื่องจากฝ่าฝืนคำสั่งศาลแพ่งห้ามใช้อำนาจ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ในการเนรเทศนายสาธิต เซกัล

ช่วงเที่ยงวันเดียวกัน นายสาธิตได้เดินทางมายังหลังเวที กปปส.ที่สวนลุมพินี โดยให้สัมภาษณ์ว่า

เรื่อง นี้ถูกกลั่นแกล้ง ที่ผ่านมาไม่เคยได้รับทราบข้อกล่าวหา หรือได้รับเอกสารแจ้งข้อกล่าวหาอย่างเป็นทางการแม้แต่ครั้งเดียว ซึ่งการอ้างว่าการเคลื่อนไหวของตนสร้างความแตกแยกให้สังคมนั้น ขอถามกลับไปว่าสร้างความแตกแยกอย่างไร ส่วนการขึ้นเวที กปปส.นั้น ก็ไม่ได้ขึ้นในฐานะแกนนำ แต่เป็นการใช้สิทธิ์ในฐานะประชาชนในการแสดงความคิดเห็นตามที่รัฐธรรมนูญระบุ ไว้ ซึ่งแต่ละครั้งก็ได้ขึ้นเวที เพื่อปลูกจิตสำนึกให้ประชาชนเทิดทูนสถาบัน อยู่ประเทศไทยมา 65 ปี ก็ได้คิดมาตลอดว่าจะตอบแทนบุญคุณแผ่นดินอย่างไร

"ผมยังมีบทบาทในสังคมหลายๆ ด้าน อาทิ การชักชวนนักธุรกิจอินเดียเข้ามาลงทุนในประเทศไทย ซึ่งในการเคลื่อนไหวบางครั้งไม่ได้รับค่าตอบแทนด้วยซ้ำ"

นายสาธิตบอกว่า เคยเป็นที่ปรึกษารัฐมนตรีมาตั้งแต่สมัยรัฐบาลชวน 1 จนกระทั่งล่าสุดได้เป็นที่ปรึกษารัฐมนตรีในสมัยที่นางพรทิวา นาคาศัย เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ซึ่งบทบาทของตนไม่มีนอกไม่มีใน ไม่พรรคการเมือง มีแต่คิดเรื่องที่จะตอบแทนบุญคุณแผ่นดินเท่านั้น จึงไม่เข้าใจว่าเป็นภัยต่อสังคมอย่างไร โดยหลังจากนี้ตนจะขอพึ่งกระบวนการยุติธรรมของไทย เพราะเชื่อว่าระบบศาลไทยยังมีความยุติธรรมอยู่

"ถ้าผมทำอะไรผิด ผมเป็นลูกผู้ชายพอที่จะยอมรับ ถ้าผมนั่งคุยอยู่กับคุณเฉลิม 2 คน ผมไม่มีอะไรจะพูด ผมจะบอกแค่ว่าผมทำผิดอะไร ผมเป็นคนบริสุทธิ์ อย่ามาแกล้งผม ตอนนี้ดูผมซิ ผมไม่กังวล จะมายิงผม จะมาประหารคนบริสุทธิ์ได้หรือไม่" นายสาธิตกล่าว

ขณะที่ นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ในฐานะกรรมการ ศรส. แถลงผลการประชุม ศรส.ว่า กรณีนายสาธิต แม้ประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินแล้ว ก็ยังนำมวลชนไปปิดล้อมกรมการบินพลเรือน นายสาธิตจึงเป็นบุคคลที่มีพฤติการณ์น่าเชื่อว่าเป็นบุคคลที่เป็นภัยต่อสังคม หรือจะก่อเหตุร้ายให้เกิดอันตรายต่อความสงบสุขหรือความปลอดภัยของประชาชน หรือความมั่นคงแห่งราชอาณาจักร เหตุนี้คณะกรรมการพิจารณาคนเข้าเมืองจึงมีมติเห็นควรเพิกถอนการอนุญาตให้มี ถิ่นที่อยู่ในราชอาณาจักรของนายสาธิต

ส่วน ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รมว.แรงงาน ในฐานะผอ.ศรส. กล่าวว่า หากนายสาธิตอยู่เฉยๆ ตนไปจะเซ็นคำสั่งเนรเทศทำไม นายสาธิตสามารถฝักใฝ่และชอบพรรคการเมืองได้ ถือเป็นสิทธิ แต่กรณีที่ตนเซ็นคำสั่งเนรเทศ เพราะได้ให้การสารภาพต่อเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องว่าระหว่างมีการชุมนุม กปปส. ได้นำกำลังพรรคพวกไปยึดสถานที่ราชการถึง 5 แห่ง โดยครั้งสุดท้ายคือ กรมการบินพลเรือน ทางราชการคงปล่อยเฉยไม่ได้ จึงดำเนินการมาตามขั้นตอน

"ผมจึงสั่งทำอย่างละเอียดถี่ถ้วน สุดท้ายเมื่อข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายเป็นที่ยุติ ผมในฐานะที่ได้รับมอบอำนาจตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน จึงเซ็นคำสั่งเนรเทศ ส่วนนายสาธิตจะไปใช้สิทธิอย่างใดอย่างหนึ่ง ผมไม่ขัดข้องและไม่ขัดขวาง เรื่องการถวายฎีกาผมขอไม่แสดงความคิดเห็น"

เขากล่าวว่า ขั้นตอนต่อไปตนจะส่งเรื่องไปให้สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) ดำเนินการ อย่างไรก็ตาม ที่มีการระบุว่าตนหักหลังนายสาธิตนั้น จะไปหักหลังเรื่องอะไร ตนไม่เคยรับปากว่าจะเนรเทศหรือไม่เนรเทศ เมื่อเจ้าหน้าที่สรุปมานั้นไม่มีหนทางเป็นอย่างอื่น ตนไม่ได้เกลียดนายสาธิตเป็นการส่วนตัว เพราะไม่รู้จักกัน.

ขอบคุณ... http://www.thaipost.net/news/070314/87107

ไทยโพสต์ออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 7 มี.ค.57

ที่มา: ไทยโพสต์ออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 7 มี.ค.57
วันที่โพสต์: 7/03/2557 เวลา 03:51:15 ดูภาพสไลด์โชว์ สาธิตถวายฎีกา งงเป็นภัยสังคม ศรส.อ้างสารภาพ

แสดงความคิดเห็น

รอตรวจสอบ
จัดฟอร์แม็ต ดูการแสดงผล

รอตรวจสอบ

รอตรวจสอบ

รอตรวจสอบ

ยกเลิก

รายละเอียดกระทู้

ภาพไม่สื่อความหมาย "สาธิต" ส่งน้องชาย-ทนายถวายฎีกาแล้ว ข้องใจทำงานปลูกจิตสำนึกให้ประชาชนเทิดทูนสถาบัน เป็นภัยต่อสังคมตรงไหน ขณะที่ ผอ.ศรส.รับเซ็นเนรเทศแล้ว อ้าง "สาธิต" สารภาพ พาพวกยึดสถานที่ราชการ 5 แห่ง "ถาวร" ฟ้องศาลแพ่งฟัน "ปู-เหลิม-อดุลย์" โทษฐานฝ่าฝืนคำสั่งศาล เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 6 มีนาคม นายสาธิต เซกัล ประธานสมาคมนักธุรกิจอินเดีย-ไทย ได้มอบหมายให้นายอาทิตย์ เซกัล น้องชาย และนายชุป ไชยฤกษ์ชัย ทนายความ เดินทางไปยังสำนักพระราชวัง เพื่อถวายฎีกาต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว หลังจาก ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รักษาการ รมว.แรงงาน ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์รักษาความสงบ (ผอ.ศรส.) มีคำสั่งเนรเทศออกนอกประเทศจากการเข้าร่วมชุมนุมกับคณะกรรมการประชาชนเพื่อ การเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ ทรงเป็นประมุข (กปปส.) นายอาทิตย์ยืนยันว่า พี่ชายมีความจงรักภักดีต่อสถาบัน และมีการเข้าร่วมกิจกรรมกับ กปปส.ทุกครั้ง เป็นไปในลักษณะเทิดทูนสถาบัน และหลังจากเกิดเรื่องขึ้น ครอบครัวรู้สึกเสียใจ นายถาวร เสนเนียม แกนนำ กปปส. เปิดเผยว่า ในวันที่ 7 มี.ค. จะยื่นคำร้องต่อศาลแพ่งให้ดำเนินการกับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี, ร.ต.อ.เฉลิม และพล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เนื่องจากฝ่าฝืนคำสั่งศาลแพ่งห้ามใช้อำนาจ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ในการเนรเทศนายสาธิต เซกัล ช่วงเที่ยงวันเดียวกัน นายสาธิตได้เดินทางมายังหลังเวที กปปส.ที่สวนลุมพินี โดยให้สัมภาษณ์ว่า เรื่อง นี้ถูกกลั่นแกล้ง ที่ผ่านมาไม่เคยได้รับทราบข้อกล่าวหา หรือได้รับเอกสารแจ้งข้อกล่าวหาอย่างเป็นทางการแม้แต่ครั้งเดียว ซึ่งการอ้างว่าการเคลื่อนไหวของตนสร้างความแตกแยกให้สังคมนั้น ขอถามกลับไปว่าสร้างความแตกแยกอย่างไร ส่วนการขึ้นเวที กปปส.นั้น ก็ไม่ได้ขึ้นในฐานะแกนนำ แต่เป็นการใช้สิทธิ์ในฐานะประชาชนในการแสดงความคิดเห็นตามที่รัฐธรรมนูญระบุ ไว้ ซึ่งแต่ละครั้งก็ได้ขึ้นเวที เพื่อปลูกจิตสำนึกให้ประชาชนเทิดทูนสถาบัน อยู่ประเทศไทยมา 65 ปี ก็ได้คิดมาตลอดว่าจะตอบแทนบุญคุณแผ่นดินอย่างไร "ผมยังมีบทบาทในสังคมหลายๆ ด้าน อาทิ การชักชวนนักธุรกิจอินเดียเข้ามาลงทุนในประเทศไทย ซึ่งในการเคลื่อนไหวบางครั้งไม่ได้รับค่าตอบแทนด้วยซ้ำ" นายสาธิตบอกว่า เคยเป็นที่ปรึกษารัฐมนตรีมาตั้งแต่สมัยรัฐบาลชวน 1 จนกระทั่งล่าสุดได้เป็นที่ปรึกษารัฐมนตรีในสมัยที่นางพรทิวา นาคาศัย เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ซึ่งบทบาทของตนไม่มีนอกไม่มีใน ไม่พรรคการเมือง มีแต่คิดเรื่องที่จะตอบแทนบุญคุณแผ่นดินเท่านั้น จึงไม่เข้าใจว่าเป็นภัยต่อสังคมอย่างไร โดยหลังจากนี้ตนจะขอพึ่งกระบวนการยุติธรรมของไทย เพราะเชื่อว่าระบบศาลไทยยังมีความยุติธรรมอยู่ "ถ้าผมทำอะไรผิด ผมเป็นลูกผู้ชายพอที่จะยอมรับ ถ้าผมนั่งคุยอยู่กับคุณเฉลิม 2 คน ผมไม่มีอะไรจะพูด ผมจะบอกแค่ว่าผมทำผิดอะไร ผมเป็นคนบริสุทธิ์ อย่ามาแกล้งผม ตอนนี้ดูผมซิ ผมไม่กังวล จะมายิงผม จะมาประหารคนบริสุทธิ์ได้หรือไม่" นายสาธิตกล่าว ขณะที่ นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ในฐานะกรรมการ ศรส. แถลงผลการประชุม ศรส.ว่า กรณีนายสาธิต แม้ประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินแล้ว ก็ยังนำมวลชนไปปิดล้อมกรมการบินพลเรือน นายสาธิตจึงเป็นบุคคลที่มีพฤติการณ์น่าเชื่อว่าเป็นบุคคลที่เป็นภัยต่อสังคม หรือจะก่อเหตุร้ายให้เกิดอันตรายต่อความสงบสุขหรือความปลอดภัยของประชาชน หรือความมั่นคงแห่งราชอาณาจักร เหตุนี้คณะกรรมการพิจารณาคนเข้าเมืองจึงมีมติเห็นควรเพิกถอนการอนุญาตให้มี ถิ่นที่อยู่ในราชอาณาจักรของนายสาธิต ส่วน ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รมว.แรงงาน ในฐานะผอ.ศรส. กล่าวว่า หากนายสาธิตอยู่เฉยๆ ตนไปจะเซ็นคำสั่งเนรเทศทำไม นายสาธิตสามารถฝักใฝ่และชอบพรรคการเมืองได้ ถือเป็นสิทธิ แต่กรณีที่ตนเซ็นคำสั่งเนรเทศ เพราะได้ให้การสารภาพต่อเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องว่าระหว่างมีการชุมนุม กปปส. ได้นำกำลังพรรคพวกไปยึดสถานที่ราชการถึง 5 แห่ง โดยครั้งสุดท้ายคือ กรมการบินพลเรือน ทางราชการคงปล่อยเฉยไม่ได้ จึงดำเนินการมาตามขั้นตอน "ผมจึงสั่งทำอย่างละเอียดถี่ถ้วน สุดท้ายเมื่อข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายเป็นที่ยุติ ผมในฐานะที่ได้รับมอบอำนาจตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน จึงเซ็นคำสั่งเนรเทศ ส่วนนายสาธิตจะไปใช้สิทธิอย่างใดอย่างหนึ่ง ผมไม่ขัดข้องและไม่ขัดขวาง เรื่องการถวายฎีกาผมขอไม่แสดงความคิดเห็น" เขากล่าวว่า ขั้นตอนต่อไปตนจะส่งเรื่องไปให้สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) ดำเนินการ อย่างไรก็ตาม ที่มีการระบุว่าตนหักหลังนายสาธิตนั้น จะไปหักหลังเรื่องอะไร ตนไม่เคยรับปากว่าจะเนรเทศหรือไม่เนรเทศ เมื่อเจ้าหน้าที่สรุปมานั้นไม่มีหนทางเป็นอย่างอื่น ตนไม่ได้เกลียดนายสาธิตเป็นการส่วนตัว เพราะไม่รู้จักกัน. ขอบคุณ... http://www.thaipost.net/news/070314/87107 ไทยโพสต์ออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 7 มี.ค.57

จัดฟอร์แม็ตข้อความและมัลติมีเดีย

  1. เพิ่ม
  2. เพิ่ม ลบ
  3. เพิ่ม ลบ
  4. เพิ่ม ลบ
  5. เพิ่ม ลบ
  6. เพิ่ม ลบ
  7. เพิ่ม ลบ
  8. เพิ่ม ลบ
  9. เพิ่ม ลบ
  10. ลบ
เลือกการตกแต่งที่ต้องการ

ตกลง ยกเลิก

รายละเอียดการใส่ ลิงค์ รูปภาพ วิดีโอ เพลง (Soundcloud)

Waiting...