ภัยแล้งลาม16จว. อยุธยาห้ามทำนารอบ2 เชื่อข้าวยืนต้นตายแน่
เมื่อวันที่ 2 มีนาคม นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดี ปภ.เปิดเผยว่า ตั้งแต่วันที่ 11 ธ.ค. 2556 ถึงปัจจุบันมีจังหวัดประกาศเขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุก เฉิน(ภัยแล้ง) แล้ว 16 จังหวัด รวม 62 อำเภอ 356 ตำบล 2,867 หมู่บ้าน แยกเป็น ภาคเหนือ 4 จังหวัด ได้แก่ อุตรดิตถ์ 1 อำเภอ สุโขทัย 4 อำเภอ แพร่ 7 อำเภอ และตาก 9 อำเภอ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 4 จังหวัด ได้แก่ บุรีรัมย์ 1 อำเภอ มหาสารคาม 1 อำเภอขอนแก่น 1 อำเภอ ศรีสะเกษ 4 อำเภอ และชัยภูมิ 4 อำเภอ ภาคกลาง 3 จังหวัด ได้แก่ สิงห์บุรี 5 อำเภอ สระบุรี 1 อำเภอ และชัยนาท 3 อำเภอ ภาคตะวันออก 3 จังหวัด ได้แก่ ฉะเชิงเทรา 7 อำเภอ จันทบุรี 8 อำเภอ และปราจีนบุรี 2 อำเภอ ภาคใต้ 1 จังหวัด ได้แก่ ตรัง 4 อำเภอ ทั้งนี้มีข้อมูลจากกรมอุตุนิยมวิทยาว่า ความกดอากาศต่ำจากความร้อนปกคลุมประเทศไทยตอนบนทำให้ทั่วทุกภาคของประเทศมี อากาศร้อน กับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน สำหรับบริเวณภาคเหนือตอนบนยังคงมีอากาศเย็นในตอนเช้าได้ในระยะนี้
ด้าน นายอุดมศักดิ์ ขาวหนูนา หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยพระนครศรีอยุธยา หรือปภ. เปิดเผยว่า ขณะนี้ชลประทาน ปภ.จังหวัด องค์การบริหารส่วนจังหวัด และจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้สนับสนุนเครื่องสูบน้ำ 60เครื่อง เร่งสูบน้ำกักเก็บไว้ใช้ในพื้นที่การเกษตรให้กับเกษตรกรในพื้นที่ โดยเป็นความร่วมมือระหว่างกันและมีเกษตรกรเป็นผู้ออกค่าน้ำมัน เบื้องต้นมีน้ำพอเพียงกับการปลูกข้าวรอบแรก แต่รอบ 2พื้นที่นาจะได้รับความเสียหายอย่างแน่นอน
ทั้งนี้ หลังจากเกษตรกรเก็บเกี่ยวข้าวรอบแรกในเดือนมีนาคมแล้วเสร็จ ห้ามไม่ให้ทำนารอบ 2 ประกอบกับ จังหวัดพระนครศรีอยุธยาไม่สามารถนำงบประมาณมาใช้ได้ เนื่องจากไม่มีการประกาศเป็นพื้นที่ภัยพิบัติ รวมถึงก่อนหน้านี้ได้ประกาศให้เกษตรกรได้รับทราบห้ามปลูกข้าวนาปรัง แต่พบว่าเกษตรกรยังคงทำนารอบ 2 ต่อไป ซึ่งในเรื่องดังกล่าว นายวิทยา ผิวผ่อง ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้กำชับ อำเภอ และเกษตรอำเภอ ทำความเข้าใจกับเกษตรกรเป็นรายบุคคลแล้ว
ขอบคุณ... http://www.ryt9.com/s/nnd/1848111
ryt9.comออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 3 มี.ค.57
แสดงความคิดเห็น
รายละเอียดกระทู้
เมื่อวันที่ 2 มีนาคม นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดี ปภ.เปิดเผยว่า ตั้งแต่วันที่ 11 ธ.ค. 2556 ถึงปัจจุบันมีจังหวัดประกาศเขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุก เฉิน(ภัยแล้ง) แล้ว 16 จังหวัด รวม 62 อำเภอ 356 ตำบล 2,867 หมู่บ้าน แยกเป็น ภาคเหนือ 4 จังหวัด ได้แก่ อุตรดิตถ์ 1 อำเภอ สุโขทัย 4 อำเภอ แพร่ 7 อำเภอ และตาก 9 อำเภอ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 4 จังหวัด ได้แก่ บุรีรัมย์ 1 อำเภอ มหาสารคาม 1 อำเภอขอนแก่น 1 อำเภอ ศรีสะเกษ 4 อำเภอ และชัยภูมิ 4 อำเภอ ภาคกลาง 3 จังหวัด ได้แก่ สิงห์บุรี 5 อำเภอ สระบุรี 1 อำเภอ และชัยนาท 3 อำเภอ ภาคตะวันออก 3 จังหวัด ได้แก่ ฉะเชิงเทรา 7 อำเภอ จันทบุรี 8 อำเภอ และปราจีนบุรี 2 อำเภอ ภาคใต้ 1 จังหวัด ได้แก่ ตรัง 4 อำเภอ ทั้งนี้มีข้อมูลจากกรมอุตุนิยมวิทยาว่า ความกดอากาศต่ำจากความร้อนปกคลุมประเทศไทยตอนบนทำให้ทั่วทุกภาคของประเทศมี อากาศร้อน กับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน สำหรับบริเวณภาคเหนือตอนบนยังคงมีอากาศเย็นในตอนเช้าได้ในระยะนี้ ด้าน นายอุดมศักดิ์ ขาวหนูนา หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยพระนครศรีอยุธยา หรือปภ. เปิดเผยว่า ขณะนี้ชลประทาน ปภ.จังหวัด องค์การบริหารส่วนจังหวัด และจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้สนับสนุนเครื่องสูบน้ำ 60เครื่อง เร่งสูบน้ำกักเก็บไว้ใช้ในพื้นที่การเกษตรให้กับเกษตรกรในพื้นที่ โดยเป็นความร่วมมือระหว่างกันและมีเกษตรกรเป็นผู้ออกค่าน้ำมัน เบื้องต้นมีน้ำพอเพียงกับการปลูกข้าวรอบแรก แต่รอบ 2พื้นที่นาจะได้รับความเสียหายอย่างแน่นอน ทั้งนี้ หลังจากเกษตรกรเก็บเกี่ยวข้าวรอบแรกในเดือนมีนาคมแล้วเสร็จ ห้ามไม่ให้ทำนารอบ 2 ประกอบกับ จังหวัดพระนครศรีอยุธยาไม่สามารถนำงบประมาณมาใช้ได้ เนื่องจากไม่มีการประกาศเป็นพื้นที่ภัยพิบัติ รวมถึงก่อนหน้านี้ได้ประกาศให้เกษตรกรได้รับทราบห้ามปลูกข้าวนาปรัง แต่พบว่าเกษตรกรยังคงทำนารอบ 2 ต่อไป ซึ่งในเรื่องดังกล่าว นายวิทยา ผิวผ่อง ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้กำชับ อำเภอ และเกษตรอำเภอ ทำความเข้าใจกับเกษตรกรเป็นรายบุคคลแล้ว ขอบคุณ... http://www.ryt9.com/s/nnd/1848111 ryt9.comออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 3 มี.ค.57
จัดฟอร์แม็ตข้อความและมัลติมีเดีย
รายละเอียดการใส่ ลิงค์ รูปภาพ วิดีโอ เพลง (Soundcloud)