ขวางแยกประเทศ ‘สุเทพ’ชี้นปช.ภัยความมั่นคงบี้กองทัพจัดการแดงติดอาวุธ

แสดงความคิดเห็น

แกนนำ นปช.จ่อนัดชุมนุมใหญ่! "ณัฐวอด" ลั่นไม่กลัว กปปส. ขณะที่ "กำนัน" ไม่ขอปะทะหวั่นเกิดสงครามกลางเมือง แต่ประกาศไม่ยอมให้เสื้อแดงแบ่งแยกประเทศแม้แต่ตารางนิ้วเดียว ถามกองทัพทำอะไรอยู่

เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ ที่ห้างอิมพีเรียล ลาดพร้าว แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ร่วมกันแถลงข่าว โดยนางธิดา ถาวรเศรษฐ ประธาน นปช. กล่าวว่า วัตถุประสงค์ของเราในการจัดประชุมแกนนำทั่วประเทศเมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เนื่องจากมีสถานการณ์วิกฤติและพยายามยกระดับทางการเมือง มีการสนธิกำลังกันไม่ว่าจะเป็นองค์กรอิสระ, ตุลาการ, บางส่วนของกองทัพ และ กปปส.ที่พยายามสร้างสถานการณ์กดดัน เพื่อให้เกิดสุญญากาศทางการเมือง นปช.จึงมีการประชุมแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ให้แต่ละพื้นที่เสนอข้อคิดเห็น เพื่อนำมาประมวลเป็นนโยบายการเคลื่อนไหวของ นปช.

ทั้งนี้ ไม่ได้หมายความว่าข้อเสนอทั้งหมดจะได้รับการปฏิบัติเหมือนกัน ต้องเอามาประสานกับหลักนโยบายและสภาพพื้นที่ของประเทศไทยทั้งหมดก่อน ซึ่งข้อเสนอ 10 ข้อ จากที่ประชุมจะต้องนำมากลั่นกรองและพิจารณาอีกครั้ง เพื่อเสนอต่อรัฐบาลและ นปช.ทั้งหมด

นางธิดากล่าวต่อว่า สำหรับสถานการณ์ความรุนแรงที่มีการใช้อาวุธและกระสุนจริง ทำให้ประชาชนบริสุทธิ์เสียชีวิตบาดเจ็บจำนวนมาก นปช.ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บทั้งหลาย เราไม่เห็นด้วยกับการใช้วิธีการเช่นนี้ และขอประณามที่ทำให้เกิดความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สิน สิ่งนี้ไม่ควรเกิดกับประชาชนแม้มีความคิดเห็นที่ต่างกัน สถานการณ์ขณะนี้ถูกบ่มเพาะความรุนแรงเพื่อให้มีการทำรัฐประหารโดยกองทัพ แม้กองทัพไม่ทำรัฐประหารซึ่งเราก็ขอบคุณ ขอให้พี่น้องประชาชนรออีกไม่นาน การเคลื่อนไหวที่เป็นจริงจะต้องเกิดขึ้นในไม่ช้านี้

นายวรชัย เหมะ แกนนำ นปช.กล่าวว่า หากประชาชนพร้อมลุกขึ้นสู้ ตนก็พร้อมนำประชาชนสู้อย่างถึงที่สุด โดยเตรียมสถานที่ที่จะรองรับประชาชนได้เป็นล้านคนไว้แล้ว และจะมีการดูแลความปลอดภัยไม่ให้มีการเสียเลือดเสียเนื้อ เพราะเรามีประสบการณ์ในการต่อสู้มาแล้ว ดังนั้น ขอให้พี่น้องเตรียมตัวเก็บกระเป๋าเสื้อผ้าไว้ เพราะอีกไม่กี่วันต้องออกมาร่วมกันต่อสู้แล้ว

ขณะที่นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำ นปช.กล่าวว่า การประชุม นปช.เมื่อวันที่ 23 ก.พ.ที่ผ่านมา ไม่ใช่การประชุมเสร็จแล้วกลับบ้าน แต่เป็นการประชุมเพื่อประเมินสถานการณ์ เมื่อสถานการณ์พร้อมที่สุดเราจะประเมินสถานการณ์เคลื่อนพลกันอีกครั้ง เพื่อสื่อสารไปยังเครือข่ายอำมาตย์ว่านายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส.ใกล้ถึงจุดจบ เครือข่ายอำมาตย์แม้จะมีกำลังสักเท่าไร แต่คุณไม่มีวันฆ่าประชาชนได้ ขอให้พี่น้องอยู่ในสถานการณ์ที่เตรียมพร้อมมากที่สุด และไม่ออกไปตามอารมณ์ความรู้สึกหรือตามนายสุเทพ ซึ่งเราจะไปตามคนใกล้ตายอย่างนายสุเทพไม่ได้

นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำ นปช.กล่าวว่า ถ้ายังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปจากนี้ ถ้ายังกดขี่กดดันความรู้สึกของประชาชน อีกไม่กี่วันนี้คุณจะได้เห็นพลังประชาชนตัวจริง เราทำงานของเรามาตลอด และทำงานมาทุกวันเพื่อต่อสู้กับมัน เพราะเรารู้มีบรรดาขาใหญ่หลายสาขาที่ลงหุ้นร่วมสหบาทารัฐบาล ดังนั้น การชุมนุมจะเป็นการชุมนุมทั่วไปมาทำอาหารและร้องรำทำเพลงกันไม่ได้ ต้องมีการเตรียมการทุกอย่าง เราต้องบอกว่าเราพร้อม เราจึงชวนท่านออกมา

"ประเทศไทยวันนี้ไม่มีใครกลัวใคร นายสุเทพไม่ต้องบังอาจคิดว่าเราจะกลัวคุณ คนเสื้อแดงถ้าจะยอม เราจะยอมให้กับความถูกต้องชอบธรรม แต่จะไม่ยอมให้กับผีห่าซาตานตนใดที่ลุกขึ้นมาอาละวาดในบ้านเมืองเด็ดขาด อีก 1-2 วันจะต้องมีการแถลงข่าวท่าทีการเคลื่อนไหวของคนเสื้อแดง ให้คนไทยและทั่วโลกได้รู้ว่าพลังของความถูกต้องและเจ้าของอำนาจอธิปไตยยังมี จำนวนมหาศาล" นายณัฐวุฒิกล่าว

นายเวียง วรเชษฐ์ ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ในฐานะวิทยากรกลุ่มอาสาสมัครพิทักษ์ประชาธิปไตยแห่งชาติ (อพปช.) ให้สัมภาษณ์ว่า การตั้งกลุ่ม อพปช.เป็นการรวมตัวของกลุ่มคนที่รักประชาธิปไตย โดยจะยึดหลัก 4 ส. คือ 1.สร้างคน คือการเปิดรับสมัครสมาชิกให้เข้ามาร่วมกับเราให้มากที่สุด 2.สอน คือต้องมีการสอน ให้ความรู้เรื่องหลักการประชาธิปไตย 3.เสริม คือเมื่อรู้ว่ามีจุดอ่อนตรงไหน พื้นที่ไหน ก็จะต้องเสริมคนเข้าไป 4.เสือกใส่กัน คือสุดท้ายแล้วถ้ายังไม่มีการฟังกัน อีกฝ่ายไม่ยึดหลักกฎหมาย แต่ฝ่ายประชาธิปไตยยังถูกรังแกกดดันกันมากๆ เมื่อถึงจุดเดือดก็ต้องมีบางส่วนสู้กัน ถึงตอนนั้นบ้านเมืองจะวุ่นวาย ไม่เกิดการล้มตายก็เกิดความไม่สงบ

"จะมีการรวมตัวแสดงพลังแน่นอน ในพื้นที่จังหวัดภาคอีสาน แต่การจะเคลื่อนเข้า กทม.นั้นเป็นเรื่องอันตรายมาก เพราะมีประสบการณ์เมื่อครั้งที่คนเสื้อแดงมาชุมนุมราชมังคลากีฬาสถาน แม้จะอยู่ในสถานที่ปิดแต่ก็ยังมีเรื่องเกิดขึ้นได้ ดังนั้น การจะนำคนเข้ากรุงเทพฯ จึงต้องคิดให้รอบคอบ"

ทางด้านนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ปฏิเสธที่จะตอบคำถามที่ว่า นายณัฐวุฒิ และนายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ได้ขึ้นเวทีเสื้อแดงและประกาศลั่นกลองรบ อย่างไรก็ตาม นางสาวยิ่งลักษณ์กล่าวสั้นๆ ว่า "ขอร้องทุกฝ่ายให้หยุดชุมนุมและหันหน้ามาพูดคุยกัน"

ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ผู้อำนวยการศูนย์รักษาความสงบ (ศรส.) กล่าวถึงการประกาศเคลื่อนไหวใหญ่ของ นปช.ว่า หากเผชิญหน้ากับ กปปส.ก็รุนแรง ตนก็ทุกข์ใจ กำลังคิดว่าจะทำอย่างไร ไม่อยากให้เกิดขึ้น

วันเดียวกัน นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. ปราศรัยบนเวทีสีลมว่า พวกขี้ข้า นปช.ระดมกันไปประชุมที่นครราชสีมา โดยมีคนที่หวังจะเป็นนายกฯ ต่อจาก น.ส.ยิ่งลักษณ์เป็นคนออกทุนให้ ซึ่งมีการประกาศศักดาว่าจะออกมาปกป้องรัฐบาล และจะสู้เต็มที่ โดยจัดตั้งกองกำลังเพื่อช่วย น.ส.ยิ่งลักษณ์ และยังประกาศว่าพร้อมที่จะต่อสู้ด้วยอาวุธ ซึ่งตนขอประกาศว่าเราไม่สู้ด้วย เพราะเราไม่อยากให้เกิดสงคราม เราจะต่อสู้ด้วยวิธีสันติเท่านั้น

"แต่หาก นปช.จะระดมประชาชนโดยสงบ เพื่อประกาศตัวยอมเป็นขี้ข้าระบอบทักษิณ แล้วมีคนออกมาหลายสิบล้านคนมากกว่า กปปส. เราก็จะยอมแพ้ แต่ขอบอกให้รู้เลยว่า การใช้กำลังและอาวุธนั้นไม่สามารถข่มขู่ หรือทำให้พวกเราเกรงกลัวได้ แต่หากมีการยกกองกำลังติดอาวุธเข้ามาใน กทม. ก็เป็นหน้าที่ของฝ่ายความมั่นคงต้องจัดการ เราไม่ได้มีหน้าที่ไปรบพุ่งด้วย"

นายสุเทพกล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตามการชุมนุมของ นปช.แสดงให้เห็นถึงสิ่งที่อยู่ในจิตใจ พ.ต.ท.ทักษิณชัดเจน เพราะมีการประกาศว่าหากพวกเขาสู้ไม่ได้จะแบ่งแยกประเทศ พ.ต.ท.ทักษิณอย่าคิดว่าจะหลอกคนเหนือคนอีสานแล้วจะแบ่งแยกประเทศได้ เพราะคนทุกภาครักประเทศไทยและไม่คิดจะแบ่งแยก ทั้งนี้ ยืนยันว่าต่อสู้เพื่อคนไทยทั้งประเทศ ไม่ใช่ส่วนใดส่วนหนึ่ง และจะไม่ยอมให้แบ่งแยกประเทศไทยแม้แต่ตารางนิ้วเดียว

"อยากถามเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงว่า มีคนกลุ่มหนึ่งลุกขึ้นประกาศตั้งกองกำลังติดอาวุธและแบ่งแยกประเทศ คิดจะตั้งเมืองหลวงใหม่ แล้วพวกท่านคิดอะไรอยู่ ทำอะไรอยู่ อย่ามาบอกว่าการเมืองต้องแก้ด้วยการเมือง เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องความมั่นคง วันนี้ท่านบอกว่าทำงานเพื่อรักษาความมั่นคงของประเทศ แต่มีคนเอากองกำลังเขมรมาฆ่าคนไทย ยังมีความมั่นคงในประเทศอยู่หรือไม่ และอยากถามว่าจะทำอย่างไรต่อไปเพื่อรักษาความมั่นคงของประเทศ แต่ไม่ว่าเขาจะมีคำตอบอย่างไร เราก็มีคำตอบที่ชัดเจนว่าจะไม่ยอมให้ใครแบ่งแยก และเราจะไม่ยอมสยบให้การข่มขู่คุกคามของฝ่ายไหนทั้งสิ้น" นายสุเทพกล่าว

นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ภาคใต้ กล่าวถึงกรณี นปช.จัดเวทีปราศรัยภายใต้ชื่อ "นปช.ลั่นกลองรบ" เมื่อวันที่ 23 ก.พ.ว่า เบื้องต้นเท่าที่ตนติดตามการประชุมและเนื้อหาการปราศรัยบนเวทีในวันดังกล่าว ส่วนตัวคิดว่ามีแกนนำ นปช.บางคนในคดีก่อการร้าย กระทำผิดเงื่อนไขของศาลที่ให้ประกันตัวเรียบร้อยแล้ว โดยหลังจากนี้ตนจะตรวจสอบดูอย่างละเอียดอีกครั้ง และจะดูพฤติกรรมการระดมพลในครั้งนี้ด้วยว่า มีแกนนำ นปช.คนใดกระทำผิดเงื่อนไขอีกบ้าง

ทั้งนี้ ตามกฎหมายแล้ว หากศาลเห็นหรือรับรู้พฤติการณ์ดังกล่าว แม้จะยังไม่มีคนยื่นเพื่อขอประกันตัว แต่ศาลมีอำนาจที่จะเรียกบุคคลดังกล่าวมารายงานตัวได้ ซึ่งตนอยากให้ศาลใช้อำนาจดังกล่าว เพราะมีผู้กระทำผิดเงื่อนไข แต่หากศาลไม่เรียก ตนก็เชื่อว่าจะมีผู้ไปร้องเพื่อขอให้ถอนประกันตัว.

ขอบคุณ http://www.thaipost.net/news/250214/86575 (ขนาดไฟล์: 167)

(thaipost ออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 24 ก.พ.57 )

ที่มา: thaipost ออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 24 ก.พ.57
วันที่โพสต์: 25/02/2557 เวลา 03:20:04

แสดงความคิดเห็น