จับตาการเมืองร้อน พร้อมรับมือภัย ศก.

แสดงความคิดเห็น

นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. และ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร

บรรยากาศการเมืองไทย ที่ยังครุกรุ่น ปักหลัก รอการเผชิญหน้า ของสองขั้วขัดแย้ง จนถึงวันนี้ได้ส่งผลกระทบในแง่ของเศรษฐกิจอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ ซึ่งความคาดหวังว่าเศรษฐกิจจะเติบโตขยายตัวไปอย่างปรกติคงเป็นไปได้ยาก

โดยสัญญาณที่ชัดเจนคือ การจัดตั้งรัฐบาลใหม่ไม่สามารถทำ ได้โดยง่าย มีความล่าช้าออกไปจนไม่รู้ว่าจะสามารถจัดตั้งได้เมื่อไร ซึ่งส่งผลให้การใช้จ่ายงบลงทุนภาครัฐไม่สามารถทำได้ตามปรกติ และถึงปัจจุบัน การจัดทำงบประมาณประจำปี 2558 ค่อนข้างแน่ชัดว่าไม่สามารถทำได้ตามปฏิทินปรกติ ทำให้การใช้จ่ายงบประมาณประจำปี2558 มีโอกาสล่าช้าสูงมาก

ซึ่งหน่วยงานที่ จับสัญญาณและส่งสัญญาณเตือนให้กับภาคธุรกิจได้เตรียมปรับตัว ปรับใจรับมือกับอนาคตที่อาจจะเกิดขึ้นก็คือ ธนาคารแห่งประเทศไทยหรือ ธปท.ที่ การประชุม คณะกรรมการนโยบายการเงินหรือ กนง.ครั้งล่าสุดเมื่อ 12 มี.ค.ที่ผ่านมาได้มีมติปรับลดดอกเบี้ยนโยบายลงมา 0.25% เหลือ 2 % และคาดการว่า เศรษฐกิจไทยจะโตไม่เกิน 3%ในปีนี้

หลังจากนั้นภาคการเงินอย่างธนาคารไทยพาณิชย์ได้ขานรับสัญญาณโดยปรับลด ดอกเบี้ยของธนาคารลงทันที นั้นหมายความว่า ภาคการเงินมองเศรษฐกิจมีอาการปรับตัวลงจำเป็นต้องลดต้นทุนทางการเงินลงเพื่อ ช่วยกระตุ้นการลงทุนของภาคธุรกิจทดแทน การลงทุนภาครัฐที่หายไปนั้นเอง

ทั้งนี้ในด้านนายกอบสิทธิ์ ศิลปชัย ผู้บริหารงานวิจัยเศรษฐกิจและตลาดทุน ธนาคารกสิกรไทย คาดว่าการขยายตัวทางเศรษฐกิจ หรือ จีดีพี จะขยายตัวอยู่ที่ประมาณร้อยละ 2-3 เท่านั้น

ส่วนหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย โดยนายอิสระ ว่องกุศลกิจ ประธานกรรมการหอการค้าไทยฯได้ ประเมินว่าหากการชุมนุมทางการเมืองยังมีต่อเนื่องโดยไม่มีเหตุการณ์รุนแรง ต่อจากนี้อีก 6 เดือนหรือไม่เกินไตรมาส 3 และมีรัฐบาลจัดตั้งใหม่ จะทำให้เศรษฐกิจไทยปี 2557 ขยายตัว 2-3% แต่หากเกิดเหตุการณ์ปะทะ ทางการเมืองและรุนแรงกว่า 1 เดือน จะกระทบทันทีต่อเศรษฐกิจไทยไม่ขยายตัวหรือติดลบ 2% ซึ่งเอกชนยังเชื่อว่าจะไม่มีเหตุปะทะเกิดขึ้น

จะเห็นได้ว่า ขณะนี้ความเสี่ยงทางการเมืองเป็นปัจจัยหลักที่ทุกภาคส่วนกำลังจับตา แม้ว่ารัฐบาลจะประกาศยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉินไปเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา แต่ ความครุกรุ่นทางการเมืองที่ยังรอวันประทุยังไม่หมดไป ดังนั้น ต้องจับตาดูสถานการณ์และเตรียมรับมือกันให้ดี เพราะหากเศรษฐกิจติดลบ ย่อมหมายถึงความทุกข์ยากของการใช้ชีวิตที่ต้องเผชิญ ซึ่งอาจร้ายแรงกว่าทุกครั้งที่ผ่านมาก็ได้

ขอบคุณ... http://news.sanook.com/1521610/จับตาการเมืองร้อน-พร้อมรับมือภัย-ศก/ (ขนาดไฟล์: 0 )

sanook.com ออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 19 มี.ค.57

ที่มา: sanook.com ออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 19 มี.ค.57
วันที่โพสต์: 20/03/2557 เวลา 04:45:30 ดูภาพสไลด์โชว์ จับตาการเมืองร้อน พร้อมรับมือภัย ศก.

แสดงความคิดเห็น

รอตรวจสอบ
จัดฟอร์แม็ต ดูการแสดงผล

รอตรวจสอบ

รอตรวจสอบ

รอตรวจสอบ

ยกเลิก

รายละเอียดกระทู้

นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. และ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร บรรยากาศการเมืองไทย ที่ยังครุกรุ่น ปักหลัก รอการเผชิญหน้า ของสองขั้วขัดแย้ง จนถึงวันนี้ได้ส่งผลกระทบในแง่ของเศรษฐกิจอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ ซึ่งความคาดหวังว่าเศรษฐกิจจะเติบโตขยายตัวไปอย่างปรกติคงเป็นไปได้ยาก โดยสัญญาณที่ชัดเจนคือ การจัดตั้งรัฐบาลใหม่ไม่สามารถทำ ได้โดยง่าย มีความล่าช้าออกไปจนไม่รู้ว่าจะสามารถจัดตั้งได้เมื่อไร ซึ่งส่งผลให้การใช้จ่ายงบลงทุนภาครัฐไม่สามารถทำได้ตามปรกติ และถึงปัจจุบัน การจัดทำงบประมาณประจำปี 2558 ค่อนข้างแน่ชัดว่าไม่สามารถทำได้ตามปฏิทินปรกติ ทำให้การใช้จ่ายงบประมาณประจำปี2558 มีโอกาสล่าช้าสูงมาก ซึ่งหน่วยงานที่ จับสัญญาณและส่งสัญญาณเตือนให้กับภาคธุรกิจได้เตรียมปรับตัว ปรับใจรับมือกับอนาคตที่อาจจะเกิดขึ้นก็คือ ธนาคารแห่งประเทศไทยหรือ ธปท.ที่ การประชุม คณะกรรมการนโยบายการเงินหรือ กนง.ครั้งล่าสุดเมื่อ 12 มี.ค.ที่ผ่านมาได้มีมติปรับลดดอกเบี้ยนโยบายลงมา 0.25% เหลือ 2 % และคาดการว่า เศรษฐกิจไทยจะโตไม่เกิน 3%ในปีนี้ หลังจากนั้นภาคการเงินอย่างธนาคารไทยพาณิชย์ได้ขานรับสัญญาณโดยปรับลด ดอกเบี้ยของธนาคารลงทันที นั้นหมายความว่า ภาคการเงินมองเศรษฐกิจมีอาการปรับตัวลงจำเป็นต้องลดต้นทุนทางการเงินลงเพื่อ ช่วยกระตุ้นการลงทุนของภาคธุรกิจทดแทน การลงทุนภาครัฐที่หายไปนั้นเอง ทั้งนี้ในด้านนายกอบสิทธิ์ ศิลปชัย ผู้บริหารงานวิจัยเศรษฐกิจและตลาดทุน ธนาคารกสิกรไทย คาดว่าการขยายตัวทางเศรษฐกิจ หรือ จีดีพี จะขยายตัวอยู่ที่ประมาณร้อยละ 2-3 เท่านั้น ส่วนหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย โดยนายอิสระ ว่องกุศลกิจ ประธานกรรมการหอการค้าไทยฯได้ ประเมินว่าหากการชุมนุมทางการเมืองยังมีต่อเนื่องโดยไม่มีเหตุการณ์รุนแรง ต่อจากนี้อีก 6 เดือนหรือไม่เกินไตรมาส 3 และมีรัฐบาลจัดตั้งใหม่ จะทำให้เศรษฐกิจไทยปี 2557 ขยายตัว 2-3% แต่หากเกิดเหตุการณ์ปะทะ ทางการเมืองและรุนแรงกว่า 1 เดือน จะกระทบทันทีต่อเศรษฐกิจไทยไม่ขยายตัวหรือติดลบ 2% ซึ่งเอกชนยังเชื่อว่าจะไม่มีเหตุปะทะเกิดขึ้น จะเห็นได้ว่า ขณะนี้ความเสี่ยงทางการเมืองเป็นปัจจัยหลักที่ทุกภาคส่วนกำลังจับตา แม้ว่ารัฐบาลจะประกาศยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉินไปเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา แต่ ความครุกรุ่นทางการเมืองที่ยังรอวันประทุยังไม่หมดไป ดังนั้น ต้องจับตาดูสถานการณ์และเตรียมรับมือกันให้ดี เพราะหากเศรษฐกิจติดลบ ย่อมหมายถึงความทุกข์ยากของการใช้ชีวิตที่ต้องเผชิญ ซึ่งอาจร้ายแรงกว่าทุกครั้งที่ผ่านมาก็ได้ ขอบคุณ... http://news.sanook.com/1521610/จับตาการเมืองร้อน-พร้อมรับมือภัย-ศก/ sanook.com ออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 19 มี.ค.57

จัดฟอร์แม็ตข้อความและมัลติมีเดีย

  1. เพิ่ม
  2. เพิ่ม ลบ
  3. เพิ่ม ลบ
  4. เพิ่ม ลบ
  5. เพิ่ม ลบ
  6. เพิ่ม ลบ
  7. เพิ่ม ลบ
  8. เพิ่ม ลบ
  9. เพิ่ม ลบ
  10. ลบ
เลือกการตกแต่งที่ต้องการ

ตกลง ยกเลิก

รายละเอียดการใส่ ลิงค์ รูปภาพ วิดีโอ เพลง (Soundcloud)

Waiting...