กรมอุตุเตือน เหนือ-อีสาน หนาวขึ้นอีก
อากาศวิปริต ลมหนาว ปะทะฝนตกส่งผลให้หลายจังหวัดภาคอีสานอุณหภูมิลดฮวบ ที่นครพนมคืนเดียวลดถึง 6 องศาฯ ส่วนอุบลราชธานีลดกว่า 7 องศาฯ เหลือ 16 องศาฯ ขณะที่บนยอดภู จ.เลย เย็นยะเยือก 7 องศาฯ แถมมีฝนถล่มบ้านเสียหาย 20 หลัง ด้านชายแดนเชียงแสน จ.เชียงราย เจอพายุทรายพัดกระหน่ำ พ่อค้าแม่ค้าตลาดต้องรีบเก็บของกลับบ้าน ด้านกรมอุตุฯรายงานความกดอากาศสูงจากจีน แผ่ปกคลุมภาคอีสาน เหนือ กลาง และตะวันออก ทำให้อากาศยังแปรปรวนทั้งหนาวและฝนตก อุณหภูมิลดอีก 6-10 องศาฯ
หลายจังหวัดต้องเผชิญกับสภาพอากาศแปรปรวนเจอทั้งฝนและอุณหภูมิลดฮวบจนชาวบ้านปรับตัวแทบไม่ทัน โดยที่ จ.นครพนม อากาศในช่วงเช้าวันที่ 24 ม.ค. หนาวเย็นอย่างมาก ล่าสุดสถานีอุตุนิยมวิทยานครพนมตรวจวัดอุณหภูมิเฉลี่ย 12-14 องศาเซลเซียส ลดลงจากวันที่ 23 ม.ค. ที่ 20 องศาฯคืนเดียวลดลงถึง 5-6 องศาฯ ทำให้ชาวบ้านต้องประสบภัยหนาว โดยเฉพาะพื้นที่ติดกับลำแม่น้ำโขง อ.บ้านแพง อ.ท่าอุเทน อ.ธาตุพนม และ อ.เมือง นครพนม ได้รับผลกระทบหนักที่สุด เนื่องจากมีลมกระโชกแรงและอุณหภูมิต่ำพื้นที่อำเภอตอนใน ทำให้ ชาวบ้านต้องปิดบ้านก่อไฟผิงไล่ความหนาว
ขณะเดียวกัน ชาวบ้านที่มีอาชีพประมงหาปลาตามลำน้ำโขงต้องงดออกเรือหาปลาโดยปริยาย เนื่องจากทนต่อสภาพอากาศหนาวเย็นไม่ไหว ขณะที่นายเดชา พลกล้า หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดนครพนม ได้ออกประกาศเตือนประชาชนในพื้นที่ให้หมั่นดูแลสุขภาพจัดเตรียมเครื่องนุ่งห่มกันหนาว เนื่องจากช่วงนี้อุณหภูมิจะลดลงต่อเนื่องอีก 4-5 องศาฯ ถือว่าต่ำสุดในรอบปี ทั้งนี้สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดได้ประสานองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นให้เร่งสำรวจชาวบ้านที่ประสบภัย นำผ้าห่มกันหนาวออกไปแจกจ่าย
ที่ จ.เลย อุณหภูมิลดฮวบ และมีฝนตกเกือบ ทุกพื้นที่ โดยเฉพาะ อ.ด่านซ้าย อ.ภูเรือ และ อ.นาแห้ว ได้รับผลกระทบอากาศหนาวเย็นและมีฝนตกในบางพื้นที่ ขณะที่แหล่งท่องเที่ยวตามภูต่างๆ เช่น อุทยานแห่งชาติภูเรือ และเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูหลวง อ.ภูเรือ อุณหภูมิอยู่ที่ 9 องศาเซลเซียส ภูลมโล อ.ด่านซ้าย อุณหภูมิ 7 องศาฯ ภูกระดึง อ.ภูกระดึง 11 องศาฯ และมีแนวโน้มว่าอุณหภูมิยังคงลดลงอย่างต่อเนื่อง ทำให้บรรดานักท่องเที่ยวที่ขึ้นไปบนยอดภูต่างไม่ผิดหวัง ได้สัมผัสบรรยากาศทะเลหมอกยามเช้า ท่ามกลางฝนตกปรอยๆ
นายประมวล ลาภจิตต์ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเลย เปิดเผยว่า ช่วงเช้า รับแจ้งจากนายวรพันธ์ ชำนิยันต์ นายอำเภอหนองหิน ว่าเมื่อคืนที่ผ่านมาเกิดพายุฝนพัดถล่มบ้านหนองหิน หมู่ 2 เขตเทศบาลตำบลหนองหิน โดยพายุพัดกระหน่ำอย่างแรง ทำให้บ้านเรือนราษฎรพังเสียหายหลังคามุงด้วยสังกะสีปลิวว่อน จากนั้นพายุฝนตามกระหน่ำซ้ำประมาณ 30 นาที มีบ้านเรือนได้รับความเสียหาย 10 หลัง อีกจุด อ.ผาขาว เกิดพายุฝนกระหน่ำบ้านโนนสว่าง หมู่ 6 ต.เพิ่ม บ้านเรือนเสียหายราว 10 หลัง ต้นยางพาราหักโค่นจำนวนมาก และที่บ้านหนองตานา ต.ท่าช้างคล้อง อีก 3 หลัง
ด้านนายสุพจน์ ปั้นทรัพย์ หัวหน้าสถานีอุตุนิยมวิทยากาฬสินธุ์ เผยว่า เช้านี้อุณหภูมิที่สถานีอุตุนิยมวิทยากาฬสินธุ์ วัดได้ 13.4 องศาฯ ต่ำกว่า วันที่ 23 ม.ค. ถึง 9 องศาฯ สาเหตุมาจากอิทธิพลความกดอากาศสูงกำลังแรงจากประเทศจีนแผ่ลงมาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือของไทย ยังมีคลื่นกระแสลมตะวันตกจากประเทศเมียนมา เคลื่อนตัวเข้าปกคลุมทางภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนืออีกทาง ทำให้อุณหภูมิลดอย่างรวดเร็ว อากาศหนาวเย็น มีฝนและลมกระโชกแรงทั้งกลางวันกลางคืน และยังต้องเฝ้าระวังสภาพอากาศเช่นนี้ไปจนถึงวันที่ 28 ม.ค. โดย ผวจ.กาฬสินธุ์ ให้รายงานสภาพอากาศทุกๆ 3 ชั่วโมง และขอให้ประชาชนพื้นที่ราบและที่สูงตามแนวเทือกเขาภูพาน ระวังอากาศหนาวเย็นที่มาพร้อมกับฝน โดยอุณหภูมิบนเทือกเขาจะต่ำกว่าพื้นราบ 4-8 องศาฯ
จ.หนองคาย ตลอดทั้งวันมีลมแรง ท้องฟ้ามีเมฆปกคลุม บางพื้นที่มีฝนตกปรอยๆ อุณหภูมิลดต่ำลงเหลือ 14 องศาเซลเซียส โดยสถานีอุตุนิยมวิทยาหนองคาย ระบุสาเหตุเกิดจากความกดอากาศสูงกำลังแรงจากประเทศจีนแผ่ปกคลุมภาคอีสาน และคาดว่าอุณหภูมิจะลดลงอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ประชาชนต้องหาเสื้อกันหนาวมาสวมใส่และก่อไฟผิงให้ความอบอุ่นร่างกาย หลายคนปรับตัวกับอากาศหนาว ไม่ทัน โดยเฉพาะเด็กเล็กและผู้สูงอายุเสี่ยงต่อการเจ็บป่วย ขณะที่สาธารณสุขจังหวัดหนองคายแจ้งเตือนประชาชนดูแลสุขภาพ และเฝ้าระวังโรคระบบทางเดินหายใจและไข้หวัด
ส่วน อ.หนองหาน จ.อุดรธานี อากาศกลับมาหนาวเย็นอีกระลอก และครั้งนี้ถือว่าหนาวเย็นฉับพลัน และหนาวที่สุดในรอบปี อุณหภูมิลดลงเหลือประมาณ 10 องศาเซลเซียส และมีฝนตกปรอยๆ ส่งผลต่อการใช้ชีวิตของชาวบ้านที่ไม่คาดคิดว่าอากาศจะหนาวลงอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะกลางคืนจะหนาวกว่ากลางวันมาก ทำให้ชาวบ้านที่ไปร่วมงานมงคลสมรสที่บ้านเลขที่ 117 หมู่ 15 ต.หนองเม็ก อ.หนองหาน ต้องทนกับสภาพอากาศหนาวเย็น ทางเจ้าภาพต้องหาฟืนมาก่อไฟให้แขกที่มาร่วมงานได้ผิงไฟคลายหนาว
จ.อุบลราชธานี อากาศหนาวเย็นลง ทำให้ประชาชนต้องหาเสื้อกันหนาวมาสวมใส่และก่อไฟผิงให้ความอบอุ่นกับร่างกาย โดยเฉพาะประชาชนที่อยู่ติดกับริมแม่น้ำจะรู้สึกหนาวเย็นกว่าพื้นที่อื่นๆ นายอาทิตย์ วงษาพรม อายุ 29 ปี อยู่บ้านเลขที่ 19/2 ถนน สุขาอุปถัมภ์ ต.ในเมือง อ.เมืองอุบลราชธานี กล่าวว่า เมื่อวันที่ 23 ม.ค. อากาศยังร้อนอบอ้าวในช่วงกลางวัน แต่พอตกค่ำเริ่มเย็นลง ตื่นมาตอนเช้ารู้สึกหนาวมากและยังมีลมแรงอีก จึงชักชวนครอบครัวออกมาก่อไฟผิงและนำข้าวเหนียวนึ่งมาโรยเกลือปิ้ง หรือที่ชาวอีสานเรียกข้าวจี่ ทำให้บรรเทาความหนาวเย็นได้บ้าง
ว่าที่ ร.ต.ธนะสิทธิ์ เอี่ยมอนันชัย ผอ.ศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง จ.อุบลราชธานี เผยว่า จากการตรวจวัดอุณหภูมิใน จ.อุบลราชธานี เช้าวันที่ 24 ม.ค.ต่ำสุดอยู่ที่ 16.9 องศาเซลเซียส ลดลงจากวันที่ 23 ม.ค. 7.1 องศาเซลเซียส เนื่องจากบริเวณความกดอากาศสูงกำลังแรงจากประเทศจีนได้แผ่ลงมาภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และในคืนนี้อุณหภูมิจะลดลงอีก 2-4 องศาเซลเซียส
ส่วนที่ จ.นครราชสีมา เกิดฝนตกหนักในพื้นที่ ต.ขุนทอง ต.กุดจอก และ ต.หนองบัวสะอาด อ.บัวใหญ่ ตั้งแต่เวลา 02.30 น.ยันเช้าวันที่ 24 ม.ค. กระทั่งสายท้องฟ้ายังคงมืดครึ้ม ส่งผลให้อากาศหนาวเย็นแผ่ปกคลุมไปทั่วอำเภออุณหภูมิประมาณ 16 องศาฯ ประชาชนพากันไปหาซื้อเสื้อกันหนาวในตลาดบัวขาว ถนนรถไฟ 2 ต.บัวใหญ่ เนื่องจากมีแนวโน้มหนาวเย็นลงอีก ขณะที่นายประพัทธพงศ์ พราหมณี นายอำเภอบัวใหญ่ กล่าวว่า กรมอุตุนิยมวิทยาแจ้งว่าอุณหภูมิภาคตะวันออกเฉียงเหนือจะลดลง 6-10 องศาฯ โดยจะหนาวไปเรื่อยๆจนถึงวันที่ 26-27 ม.ค. และจะมีฝนตกจึงขอให้ประชาชนดูแลสุขภาพทำร่างกายให้อบอุ่นเพื่อป้องกันอาการเจ็บป่วย
ที่ อ.เชียงแสน จ.เชียงราย อากาศหนาวเย็นและมีลมพัดแรงกลายเป็นพายุทรายที่หอบเอาทรายในแม่น้ำโขงพัดขึ้นฝั่ง เขตเทศบาลตำบลเวียงเชียงแสน ส่งผลให้บรรยากาศการซื้อขายในตลาดนัดริมแม่น้ำโขงที่เปิดขายกันทุกวันอาทิตย์เงียบเหงา มีคนมาเดินซื้อของน้อย ส่วนพ่อค้าแม่ค้ารีบเก็บสินค้าหนีพายุทราย และใบไม้ที่ปลิวว่อนตลอดเวลา ส่วนอุณหภูมิเช้านี้วัดได้ 20 องศาฯ แต่หลังฝนตกเวลา 15.00 น. อุณหภูมิลดลงอยู่ที่ 14 องศาฯ ชาวบ้านต้องหาเสื้อผ้ากันหนาวมาใส่กันแทบไม่ทัน
ส่วนบรรยากาศตลาดโรงเกลือ ตลาดการค้าชายแดน อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ช่วงเช้าอากาศหนาวเย็นมีลมหนาวพัดเข้ามาเยือน อุณหภูมิลดลงเหลือ 20 องศาฯ ทั้งๆที่เมื่อวันที่ 23 ม.ค. อากาศร้อนอบอ้าวอุณหภูมิประมาณ 26 องศาฯ ผ่านไปแค่วันเดียวอุณหภูมิลดลงถึง 6 องศาฯ ส่งผลให้อากาศหนาวเย็น พ่อค้าแม่ค้าต้องนำเสื้อกันหนาวมาสวมใส่ รวมทั้งสั่งซื้อเสื้อกันหนาวมือสองจากฝั่งปอยเปต ประเทศกัมพูชา เข้ามาขายในตลาดโรงเกลืออย่างเร่งด่วน
เย็นวันที่ 24 ม.ค. กรมอุตุนิยมวิทยารายงานสภาพอากาศในช่วงนี้ว่า บริเวณความกดอากาศสูงกำลังแรงจากประเทศจีนแผ่ลงมาปกคลุมถึงภาคตะวันออกเฉียงเหนือแล้ว และจะแผ่เข้าปกคลุมบริเวณ ภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก ทำให้ประเทศไทย ตอนบนจะมีอากาศแปรปรวน มีฝนฟ้าคะนองกับมีลมแรงและอากาศจะหนาวเย็นลงอย่างรวดเร็ว และอุณหภูมิจะลดลง 6-10 องศาฯ โดยอุณหภูมิต่ำสุดภาคต่างๆ ช่วงวันที่ 24-25 ม.ค. ภาคเหนือ 8-14 องศาฯ ส่วนยอดดอยจะมีน้ำค้างแข็งบางพื้นที่ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 8-15 องศาฯ ภาคกลางและตะวันออก 14-18 องศาฯ ส่วนกรุงเทพฯ และปริมณฑล 16-18 องศาฯ จากนั้นช่วงวันที่ 26-27 ม.ค. จะมีคลื่นกระแสลมฝ่ายตะวันตกจากประเทศเมียนมาเคลื่อนเข้าปกคลุมภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ส่งผลให้มีฝนและยังคงหนาวเย็นต่อไปอีก ขณะที่มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมภาคใต้และอ่าวไทยจะมีกำลังแรง ทำให้ภาคใต้มีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนบริเวณอ่าวไทยจะมีคลื่นสูง 2-4 เมตร
ขอบคุณ... http://www.thairath.co.th/content/567557 (ขนาดไฟล์: 167)