สาธารณสุขปัตตานีเร่งช่วยเหลือทารกพิการใบหน้าผิดรูป ย้ำไม่ได้เกิดจากไวรัสซิกา
ปัตตานี - สาธารณสุขจังหวัดปัตตานีเยี่ยมดูอาการของเด็กหญิงอายุเพียง 21 วัน หลังพบว่าคลอดออกมามีสภาพร่างกายผิดปกติหลายแห่งเชื่อไม่ได้เกิดจากไวรัสซิกา
วันที่ (13 มี.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่ญาติของเด็กหญิง นูรฟัยฮา สะอิ อายุ 21 วัน ซึ่งเกิดมามีความผิดปกติบริเวณใบหน้าทั้งหมดจนเสียรูป ได้นำรูปของน้องมาโพสต์บนเฟซบุ๊ก เพื่อขอความอนุเคราะห์ จากผู้ใจบุญร่วมบริจาคเงินช่วยเหลือค่าใช้จ่ายในการรักษาให้กับทางครอบครัวที่มีฐานะยากจน ซึ่งได้รับความสนใจจากชาวสังคมออนไลน์เป็นจำนวนมาก ต่างแสดงออกถึงความเห็นใจต่อครอบครัว นอกจากนี้ยังมีการตั้งข้อสงสัยว่าอาการของน้องนูรฟัยฮาน่าจะเกิดจากไวรัสซิกาหรือไม่
นพ.บรรเจิด สุขพิพัฒปานนท์ สาธารณสุขจังหวัดปัตตานี พร้อมด้วย พญ.ภัททิรา ทางรัตนสุวรรณ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชสายบุรี และเจ้าหน้าที่สาธารณสุข ได้เดินทางไปที่บ้านเลขที่ 180/1 ม.3 บ.เจาะกือแย ต.ตะบิ้ง อ.สายบุรี จ.ปัตตานี ซึ่งเป็นบ้านของน้องผู้เคราะห์ร้าย เพื่อมอบเงินช่วยเหลือและให้ความรู้ในการดูแลและขั้นตอนการรักษา
เมื่อไปถึงพบ นางฟารีดะห์ สะมะแอ อายุ 33 ปี ผู้เป็นแม่เฝ้าคอยดูแลน้องนูรฟัยฮา อย่างใกล้ชิด โดยมีการป้อนนมผ่านทางสายยาง ซึ่งการป้อนนมทุกครั้งจะต้องนำสายยางยื่นเข้าทางจมูก เนื่องจากน้องนูรฟัยฮา มีริมฝีปากที่ห่างกัน เกิดจากใบหน้าเสียรูป จนไม่สามารถดูดนมกินได้เอง ผู้เป็นแม่ต้องคอยระมัดระวังอยู่ตลอดเวลา เกรงว่า สายยางจะหลุด และอาจจะทำให้เกิดการสำลักนมได้ นอกจากนี้ ยังพบว่า ใบหน้าของน้องนูรฟัยฮา มีความผิดปกติตั้งแต่ศีรษะ จมูก ปาก รวมถึงใบหน้าทั้งหมด ซึ่งเป็นที่น่าเวทนากับผู้พบเห็นเป็นอย่างมาก
ด้าน นางฟารีดะห์ ผู้เป็นแม่ ได้เล่าให้ฟังว่า ในช่วงที่ฝากครรภ์ได้ 5 เดือน ทางแพทย์ได้ทำการอัลตราซาวนด์ พบสิ่งผิดปกติบริเวณศีรษะ เนื่องจากไม่มีกะโหลกด้านขวาอาจจะทำให้น้องเกิดมาพิการได้ ซึ่งทางแพทย์ได้ให้คำแนะนำว่าจะเอาเด็กออกหรือไม่ ทำให้ตนตกใจมาก แต่ด้วยความรักที่มีต่อลูก อีกทั้งเกรงว่าการเอาเด็กออกจะผิดต่อหลักศาสนาอิสลาม จึงตัดสินใจไม่เอาเด็กออก และคอยภาวนาว่าขอให้ลูกที่เกิดมามีสุขภาพที่แข็งแรงแต่เมื่อลูกออกมามีลักษณะเช่นนี้ตนก็พร้อมยอมรับและจะดูแลลูกอย่างดีที่สุด
ด้านสาธารณสุขจังหวัดปัตตานี ได้เรียกคณะแพทย์ผู้ทำการรักษา มาร่วมปรึกษาหารือและวางแผนการรักษาให้กับน้องนูรฟัยฮา โดยเบื้องต้นทางคณะแพทย์จะเชิญผู้เชียวชาญเฉพาะทางเข้าทำการวิเคราะห์ และหาสาเหตุการพิการในครั้งนี้ พร้อมทั้งได้จัดเตรียมการทำการผ่าตัดน้องนูรฟัยฮา ต่อไป ซึ่งในขณะนี้ยังไม่สามารถทำการผ่าตัดได้เนื่องจากน้องนูรฟัยฮา ยังเล็กอยู่ และการผ่าตัดอาจจะทำการผ่าตัดหลายครั้ง จึงต้องรอให้เด็กมีสุขภาพที่แข็งแรงกว่านี้
ด้าน นพ.บรรเจิด สุขพิพัฒปานนท์ สาธารณสุขจังหวัดปัตตานี เปิดเผยว่า ลักษณะอาการของเด็กหญิงนูรฟัยฮา มีลักษณะความผิดปกติบริเวณใบหน้าเกือบจะทั้งหมด นอกจากนั้น ก็มีนิ้วมือติดกันทั้งสองข้าง และมีรอยเหมือนถูกรัด มีที่ข้อเท้าขวาด้วย ซึ่งลักษณะอย่างนี้ก็เกิดจากความผิดปกติ ตั้งแต่พัฒนาการที่อยู่ในครรภ์ สาเหตุอาจจะเกิดได้ 2 กรณี คือ เกิดจากความผิดปกติทางพันธุกรรม และอาจเกิดจากการติดเชื้อไวรัสบางชนิดซึ่งอาจจะทำให้เกิดความพิการอย่างนี้ได้
“ส่วนที่มีผู้ตั้งขอสังเกตว่า อาการของน้องนูรฟัยฮา เกิดจากเชื้อซิกาหรือไม่นั้น แต่ตามลักษณะที่เห็น ไม่ใช่เกิดจากสมองเล็ก ซึ่งโรคซิกาที่เกิดในพื้นที่แถบอเมริกาใต้ อันนั้นจะทำให้สมองและกะโหลกศีรษะเล็กกว่าปกติ แต่ในกรณีนี้สมองและกะโหลกศีรษะใหญ่กว่าปกติจึงมั่นใจว่าไม่ได้เกิดจากไวรัสซิกา” ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับผู้ที่ต้องการช่วยเหลืออาการป่วยของน้องนูรฟัยฮา สามารถโอนเงินไปที่บัญชี ธนาคารอิสลาม สาขาสายบุรี เลขที่บัญชี 098-1-00745-7 ชื่อบัญชี นางสาวฟารีดะห์ สะมะแอ
ขอบคุณ... http://www.manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9590000026438 (ขนาดไฟล์: 166)
แสดงความคิดเห็น
รายละเอียดกระทู้
ปัตตานี - สาธารณสุขจังหวัดปัตตานีเยี่ยมดูอาการของเด็กหญิงอายุเพียง 21 วัน หลังพบว่าคลอดออกมามีสภาพร่างกายผิดปกติหลายแห่งเชื่อไม่ได้เกิดจากไวรัสซิกา สาธารณสุขจังหวัดปัตตานีเยี่ยมดูอาการของเด็กหญิงอายุเพียง 21 วัน หลังพบว่าคลอดออกมามีสภาพร่างกายผิดปกติ วันที่ (13 มี.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่ญาติของเด็กหญิง นูรฟัยฮา สะอิ อายุ 21 วัน ซึ่งเกิดมามีความผิดปกติบริเวณใบหน้าทั้งหมดจนเสียรูป ได้นำรูปของน้องมาโพสต์บนเฟซบุ๊ก เพื่อขอความอนุเคราะห์ จากผู้ใจบุญร่วมบริจาคเงินช่วยเหลือค่าใช้จ่ายในการรักษาให้กับทางครอบครัวที่มีฐานะยากจน ซึ่งได้รับความสนใจจากชาวสังคมออนไลน์เป็นจำนวนมาก ต่างแสดงออกถึงความเห็นใจต่อครอบครัว นอกจากนี้ยังมีการตั้งข้อสงสัยว่าอาการของน้องนูรฟัยฮาน่าจะเกิดจากไวรัสซิกาหรือไม่ นพ.บรรเจิด สุขพิพัฒปานนท์ สาธารณสุขจังหวัดปัตตานี พร้อมด้วย พญ.ภัททิรา ทางรัตนสุวรรณ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชสายบุรี และเจ้าหน้าที่สาธารณสุข ได้เดินทางไปที่บ้านเลขที่ 180/1 ม.3 บ.เจาะกือแย ต.ตะบิ้ง อ.สายบุรี จ.ปัตตานี ซึ่งเป็นบ้านของน้องผู้เคราะห์ร้าย เพื่อมอบเงินช่วยเหลือและให้ความรู้ในการดูแลและขั้นตอนการรักษา เมื่อไปถึงพบ นางฟารีดะห์ สะมะแอ อายุ 33 ปี ผู้เป็นแม่เฝ้าคอยดูแลน้องนูรฟัยฮา อย่างใกล้ชิด โดยมีการป้อนนมผ่านทางสายยาง ซึ่งการป้อนนมทุกครั้งจะต้องนำสายยางยื่นเข้าทางจมูก เนื่องจากน้องนูรฟัยฮา มีริมฝีปากที่ห่างกัน เกิดจากใบหน้าเสียรูป จนไม่สามารถดูดนมกินได้เอง ผู้เป็นแม่ต้องคอยระมัดระวังอยู่ตลอดเวลา เกรงว่า สายยางจะหลุด และอาจจะทำให้เกิดการสำลักนมได้ นอกจากนี้ ยังพบว่า ใบหน้าของน้องนูรฟัยฮา มีความผิดปกติตั้งแต่ศีรษะ จมูก ปาก รวมถึงใบหน้าทั้งหมด ซึ่งเป็นที่น่าเวทนากับผู้พบเห็นเป็นอย่างมาก ด้าน นางฟารีดะห์ ผู้เป็นแม่ ได้เล่าให้ฟังว่า ในช่วงที่ฝากครรภ์ได้ 5 เดือน ทางแพทย์ได้ทำการอัลตราซาวนด์ พบสิ่งผิดปกติบริเวณศีรษะ เนื่องจากไม่มีกะโหลกด้านขวาอาจจะทำให้น้องเกิดมาพิการได้ ซึ่งทางแพทย์ได้ให้คำแนะนำว่าจะเอาเด็กออกหรือไม่ ทำให้ตนตกใจมาก แต่ด้วยความรักที่มีต่อลูก อีกทั้งเกรงว่าการเอาเด็กออกจะผิดต่อหลักศาสนาอิสลาม จึงตัดสินใจไม่เอาเด็กออก และคอยภาวนาว่าขอให้ลูกที่เกิดมามีสุขภาพที่แข็งแรงแต่เมื่อลูกออกมามีลักษณะเช่นนี้ตนก็พร้อมยอมรับและจะดูแลลูกอย่างดีที่สุด สาธารณสุขจังหวัดปัตตานีเยี่ยมดูอาการของเด็กหญิงอายุเพียง 21 วัน หลังพบว่าคลอดออกมามีสภาพร่างกายผิดปกติ ด้านสาธารณสุขจังหวัดปัตตานี ได้เรียกคณะแพทย์ผู้ทำการรักษา มาร่วมปรึกษาหารือและวางแผนการรักษาให้กับน้องนูรฟัยฮา โดยเบื้องต้นทางคณะแพทย์จะเชิญผู้เชียวชาญเฉพาะทางเข้าทำการวิเคราะห์ และหาสาเหตุการพิการในครั้งนี้ พร้อมทั้งได้จัดเตรียมการทำการผ่าตัดน้องนูรฟัยฮา ต่อไป ซึ่งในขณะนี้ยังไม่สามารถทำการผ่าตัดได้เนื่องจากน้องนูรฟัยฮา ยังเล็กอยู่ และการผ่าตัดอาจจะทำการผ่าตัดหลายครั้ง จึงต้องรอให้เด็กมีสุขภาพที่แข็งแรงกว่านี้ ด้าน นพ.บรรเจิด สุขพิพัฒปานนท์ สาธารณสุขจังหวัดปัตตานี เปิดเผยว่า ลักษณะอาการของเด็กหญิงนูรฟัยฮา มีลักษณะความผิดปกติบริเวณใบหน้าเกือบจะทั้งหมด นอกจากนั้น ก็มีนิ้วมือติดกันทั้งสองข้าง และมีรอยเหมือนถูกรัด มีที่ข้อเท้าขวาด้วย ซึ่งลักษณะอย่างนี้ก็เกิดจากความผิดปกติ ตั้งแต่พัฒนาการที่อยู่ในครรภ์ สาเหตุอาจจะเกิดได้ 2 กรณี คือ เกิดจากความผิดปกติทางพันธุกรรม และอาจเกิดจากการติดเชื้อไวรัสบางชนิดซึ่งอาจจะทำให้เกิดความพิการอย่างนี้ได้ “ส่วนที่มีผู้ตั้งขอสังเกตว่า อาการของน้องนูรฟัยฮา เกิดจากเชื้อซิกาหรือไม่นั้น แต่ตามลักษณะที่เห็น ไม่ใช่เกิดจากสมองเล็ก ซึ่งโรคซิกาที่เกิดในพื้นที่แถบอเมริกาใต้ อันนั้นจะทำให้สมองและกะโหลกศีรษะเล็กกว่าปกติ แต่ในกรณีนี้สมองและกะโหลกศีรษะใหญ่กว่าปกติจึงมั่นใจว่าไม่ได้เกิดจากไวรัสซิกา” ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับผู้ที่ต้องการช่วยเหลืออาการป่วยของน้องนูรฟัยฮา สามารถโอนเงินไปที่บัญชี ธนาคารอิสลาม สาขาสายบุรี เลขที่บัญชี 098-1-00745-7 ชื่อบัญชี นางสาวฟารีดะห์ สะมะแอ ขอบคุณ... http://www.manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9590000026438
จัดฟอร์แม็ตข้อความและมัลติมีเดีย
รายละเอียดการใส่ ลิงค์ รูปภาพ วิดีโอ เพลง (Soundcloud)