วอนช่วยเด็กพิการหัวโตแต่กำเนิด
เมื่อวันที่ 2ต.ค. ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากชาวบ้าน ต.หนองนาก อ.หนองแค จ.สระบุรีว่า มีครอบครัวคนงานมีลูกพิการ กำลังได้รับความเดือดร้อน จึงเดินทางไปตรวจสอบที่บ้านห้องแถว ที่พักคนงานสวัสดิการของบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง หลังวัดหนองนาก หมู่ 5ต.หนองนาก อ.หนองแค พบนายประเสริฐ สีดีด อายุ 38 ปี และ นางรัชฏา กองแก้ว อายุ 28 ปี ภูมิลำเนาอยู่ที่ อ.หนองไผ่ จ.เพชรบูรณ์ กำลังช่วยกันดูแล น้องกร อายุ 8 ปี ลูกชายที่พิการศีรษะโตอยู่ภายในห้องพัก
นายประเสริฐ เล่าว่า ครอบครัวตนมีอาชีพรับจ้างมีลูกด้วยกันสามคน ลูกคนโตและคนเล็กปกติเหมือนคนทั่วไป ส่วนน้องกรเป็นลูกคนกลาง ขณะตั้งครรภ์ได้ไปฝากครรภ์ที่รพ.สระบุรีซึ่งก็ไม่พบอาการผิดปกติใดๆกระทั่งเมื่อถึงกำหนดคลอดพบผลอัลตร้าซาวด์ทารกในครรภ์มีอาการศีรษะโต ไม่สามารถคลอดตามธรรมชาติได้ แพทย์จึงผ่าตัดทำคลอดและรักษาโดยการเจาะดูดน้ำออกจากสมองโดยแจ้งว่า น้องกรมีอาการน้ำท่วมสมองคงทำได้แค่ประคับประคองการบวมโตของศรีษะเท่านั้น ต่อมาได้ทำหนังสือส่งตัวน้องกรไปยัง รพ.เด็กในกทม.และจากการวินิจฉัยพบว่า เสี่ยงมากหากจะทำการผ่าตัดรักษาซึ่งอาการของโรคก็ไม่ดีขึ้นเสี่ยงต่อการติดเชื้อ และอาการแทรกซ้อนตามมาแพทย์จึงแนะนำให้ดูแลไปตามอาการโดยนัดให้ไปรับยาลดน้ำในสมอง3เดือนต่อครั้งตั้งแต่แรกเกิดจนปัจจุบัน
นางรัชฏา เล่าว่า เคยพาน้องกรไปไหว้พระที่วัดสะตือ อ.ท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา ก็มีผู้เข้ามาขอถ่ายภาพน้องกร และขอหมายเลขบัญชีธนาคารของตนไปโดยอ้างว่าจะนำไปหาทางช่วยเหลือครอบครัว แต่ก็ไม่เห็นมีผู้ใดมาให้การช่วยเหลือแต่อย่างใด ปัจจุบันได้รับเบี้ยผู้พิการเดือนละ 800 บาท และได้รับการช่วยเหลือจากพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จ.สระบุรีเป็นบางครั้ง ซึ่งตนเกรงว่าผู้ที่เข้ามาขอถ่ายภาพ และหมายเลขบัญชีธนาคารจากตน จะนำความพิการของน้องกรไปหลอกลวงหากิน อย่างไรก็ตาม ตนและสามีอยากวิงวอนผู้ใจบุญหรือแพทย์ผู้เชี่ยวชาญโปรดให้ความช่วยเหลือครอบครัวของตนด้วย.
ขอบคุณ... http://www.dailynews.co.th/regional/351859 (ขนาดไฟล์: 167)
แสดงความคิดเห็น
รายละเอียดกระทู้
เมื่อวันที่ 2ต.ค. ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากชาวบ้าน ต.หนองนาก อ.หนองแค จ.สระบุรีว่า มีครอบครัวคนงานมีลูกพิการ กำลังได้รับความเดือดร้อน จึงเดินทางไปตรวจสอบที่บ้านห้องแถว ที่พักคนงานสวัสดิการของบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง หลังวัดหนองนาก หมู่ 5ต.หนองนาก อ.หนองแค พบนายประเสริฐ สีดีด อายุ 38 ปี และ นางรัชฏา กองแก้ว อายุ 28 ปี ภูมิลำเนาอยู่ที่ อ.หนองไผ่ จ.เพชรบูรณ์ กำลังช่วยกันดูแล น้องกร อายุ 8 ปี ลูกชายที่พิการศีรษะโตอยู่ภายในห้องพัก ครอบครัวนายประเสริฐ สีดีด นายประเสริฐ เล่าว่า ครอบครัวตนมีอาชีพรับจ้างมีลูกด้วยกันสามคน ลูกคนโตและคนเล็กปกติเหมือนคนทั่วไป ส่วนน้องกรเป็นลูกคนกลาง ขณะตั้งครรภ์ได้ไปฝากครรภ์ที่รพ.สระบุรีซึ่งก็ไม่พบอาการผิดปกติใดๆกระทั่งเมื่อถึงกำหนดคลอดพบผลอัลตร้าซาวด์ทารกในครรภ์มีอาการศีรษะโต ไม่สามารถคลอดตามธรรมชาติได้ แพทย์จึงผ่าตัดทำคลอดและรักษาโดยการเจาะดูดน้ำออกจากสมองโดยแจ้งว่า น้องกรมีอาการน้ำท่วมสมองคงทำได้แค่ประคับประคองการบวมโตของศรีษะเท่านั้น ต่อมาได้ทำหนังสือส่งตัวน้องกรไปยัง รพ.เด็กในกทม.และจากการวินิจฉัยพบว่า เสี่ยงมากหากจะทำการผ่าตัดรักษาซึ่งอาการของโรคก็ไม่ดีขึ้นเสี่ยงต่อการติดเชื้อ และอาการแทรกซ้อนตามมาแพทย์จึงแนะนำให้ดูแลไปตามอาการโดยนัดให้ไปรับยาลดน้ำในสมอง3เดือนต่อครั้งตั้งแต่แรกเกิดจนปัจจุบัน นางรัชฏา เล่าว่า เคยพาน้องกรไปไหว้พระที่วัดสะตือ อ.ท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา ก็มีผู้เข้ามาขอถ่ายภาพน้องกร และขอหมายเลขบัญชีธนาคารของตนไปโดยอ้างว่าจะนำไปหาทางช่วยเหลือครอบครัว แต่ก็ไม่เห็นมีผู้ใดมาให้การช่วยเหลือแต่อย่างใด ปัจจุบันได้รับเบี้ยผู้พิการเดือนละ 800 บาท และได้รับการช่วยเหลือจากพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จ.สระบุรีเป็นบางครั้ง ซึ่งตนเกรงว่าผู้ที่เข้ามาขอถ่ายภาพ และหมายเลขบัญชีธนาคารจากตน จะนำความพิการของน้องกรไปหลอกลวงหากิน อย่างไรก็ตาม ตนและสามีอยากวิงวอนผู้ใจบุญหรือแพทย์ผู้เชี่ยวชาญโปรดให้ความช่วยเหลือครอบครัวของตนด้วย. ขอบคุณ... http://www.dailynews.co.th/regional/351859
จัดฟอร์แม็ตข้อความและมัลติมีเดีย
รายละเอียดการใส่ ลิงค์ รูปภาพ วิดีโอ เพลง (Soundcloud)