แม่วอนผู้ใจบุญช่วยเหลือลูกสาวป่วยพิการ
เมื่อวันที่ 23 ธ.ค. ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจาก นางอำไพ ศรีหิรัญ อดีตอาจารย์โรงเรียนบ้านวังสารภี ต.ปากแพรก อ.เมืองกาญจนบุรี เพื่อให้ช่วยเป็นสื่อกลางประสานไปยังผู้มีใจบุญ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องยื่นมือช่วยเหลือ น.ส.อารีรัตน์ ลำดวน อายุ 24 ปี ป่วยเป็นโรคประหลาดปากใหญ่หนากว้าง และเป็นแผลกดทับ ใช้ชีวิตสุกแร้นแค้นกับแม่เพียง 2 คน ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ หลังทราบข้อมูลผู้สื่อข่าวจึงไปตรวจสอบที่บ้านพักคนงานไม่มีเลขที่ สภาพเก่าทรุดโทรมภายในบ้านพบนางฉลอง ศิริทาน อายุ 44 ปี ผู้เป็นแม่กำลังดูแลป้อนข้าวป้อนน้ำให้ น.ส.อารีรัตน์ เป็นภาพที่น่าเวทนาอย่างยิ่ง
นางฉลอง เปิดเผยเรื่องราวชีวิตรันทดด้วย สีหน้าเศร้าหมองว่า ตนมีลูก 2 คน คนโตคือน.ส.อารีรัตน์ ป่วยเป็นโรคประจำตัวคือโรคลมชักมาตั้งแต่อายุเพียงขวบเศษ ซ้ำยังมาประสบเคราะห์กรรม เมื่อ จู่ ๆ ก็มีปานแดงขึ้นที่ริมฝีปากก่อนจะขยายตัวใหญ่ขึ้นจนปากเริ่มเจ่อบวมขึ้นเรื่อย ๆ พูดไม่ค่อยได้ต้องพาไปรักษาที่ รพ.พหลพลพยุหเสนา เป็นประจำ กระทั่งลูกสาวอายุได้ 7 ขวบ ตนก็ต้องแยกทางกับพ่อเด็ก และรับภาระเลี้ยงดูลูกตามลำพังแต่นั้นมา กระทั่ง น.ส.อารีรัตน์ อายุได้ 18-19 ปี ก็เกิดเป็นลมชักอีก แต่ครั้งนี้อาการหนักจนไม่สามารถขยับเขยื้อนหรือช่วยตัวเองได้ ส่วนลูกคนเล็กมีครอบครัวไปแล้ว
นางฉลอง กล่าวต่อว่า ล่าสุดเมื่อ 3-4 วันที่ผ่านมา อาการโรคลมชักของลูกสาวก็กำเริบขึ้นอีกครั้ง คราวนี้ไม่ยอมนั่งเอาแต่นอนอีกทั้งเป็นแผลกดทับ ตนทำงานเป็นลูกจ้างร้านอาหารห่างจากบ้านประมาณ 50 เมตร พอมีเวลาว่างก็ต้องปลีกตัวมาช่วยดูแล ป้อนนมป้อนโจ๊กให้ลูกสาว ที่ผ่านมานายพจน์ หรูวรนันท์ นายอำเภอเมืองกาญจนบุรี นางประภัสสร เรืองพยุงศักดิ์ รองนายกเทศมนตรีเทศบาลปากแพรก นายบิณฑ์ บันลือฤทธิ์ ดารานักแสดง และผู้กำกับภาพยนตร์ชื่อดังได้เข้ามาช่วยเหลือ ตนอยากจะให้ภาครัฐเข้ามาดูแลช่วยเหลือ รักษาพยาบาลให้ลูกสาวพอช่วยเหลือตัวเองได้ก็พอ ที่ผ่านมาตนได้พาเข้าไปรักษาที่ โรงพยาบาลหลายแห่ง แต่ยังไม่ดีขึ้น ตอนนี้อาการป่วยของลูกสาวก็เริ่มทรุดหนักจนกินข้าวไม่ได้ ตนก็มีรายได้จากการเป็นลูกจ้างร้านอาหารวันละ 250 บาท ก็ไว้ใช้กินกับลูกอย่างประหยัด วันไหนไม่ทำงานก็ไม่มีเงินส่วนเงินที่ได้จากบุคคลที่เข้ามาช่วยเหลือก็เก็บไว้เป็นค่าเดินทางพาลูกสาวผู้พิการไปหาหมอ อยากให้ลูกหายป่วยก็ดีใจแล้ว วอนผู้ใจบุญช่วยรักษาลูกสาวและขอบคุณกำนันชูศักดิ์ สุนทรธรรม และครอบครัวที่ให้ที่พักพิง.
ขอบคุณ... http://www.dailynews.co.th/regional/368813 (ขนาดไฟล์: 167)
ที่มา: เดลินิวส์ออนไลน์ออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 23 ธ.ค.58
วันที่โพสต์: 24/12/2558 เวลา 11:33:21 
แสดงความคิดเห็น
รายละเอียดกระทู้
หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าช่วยเหลือเบื้องต้นแด่ครอบครัวของนางฉลองศิริทาน เมื่อวันที่ 23 ธ.ค. ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจาก นางอำไพ ศรีหิรัญ อดีตอาจารย์โรงเรียนบ้านวังสารภี ต.ปากแพรก อ.เมืองกาญจนบุรี เพื่อให้ช่วยเป็นสื่อกลางประสานไปยังผู้มีใจบุญ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องยื่นมือช่วยเหลือ น.ส.อารีรัตน์ ลำดวน อายุ 24 ปี ป่วยเป็นโรคประหลาดปากใหญ่หนากว้าง และเป็นแผลกดทับ ใช้ชีวิตสุกแร้นแค้นกับแม่เพียง 2 คน ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ หลังทราบข้อมูลผู้สื่อข่าวจึงไปตรวจสอบที่บ้านพักคนงานไม่มีเลขที่ สภาพเก่าทรุดโทรมภายในบ้านพบนางฉลอง ศิริทาน อายุ 44 ปี ผู้เป็นแม่กำลังดูแลป้อนข้าวป้อนน้ำให้ น.ส.อารีรัตน์ เป็นภาพที่น่าเวทนาอย่างยิ่ง นางฉลอง เปิดเผยเรื่องราวชีวิตรันทดด้วย สีหน้าเศร้าหมองว่า ตนมีลูก 2 คน คนโตคือน.ส.อารีรัตน์ ป่วยเป็นโรคประจำตัวคือโรคลมชักมาตั้งแต่อายุเพียงขวบเศษ ซ้ำยังมาประสบเคราะห์กรรม เมื่อ จู่ ๆ ก็มีปานแดงขึ้นที่ริมฝีปากก่อนจะขยายตัวใหญ่ขึ้นจนปากเริ่มเจ่อบวมขึ้นเรื่อย ๆ พูดไม่ค่อยได้ต้องพาไปรักษาที่ รพ.พหลพลพยุหเสนา เป็นประจำ กระทั่งลูกสาวอายุได้ 7 ขวบ ตนก็ต้องแยกทางกับพ่อเด็ก และรับภาระเลี้ยงดูลูกตามลำพังแต่นั้นมา กระทั่ง น.ส.อารีรัตน์ อายุได้ 18-19 ปี ก็เกิดเป็นลมชักอีก แต่ครั้งนี้อาการหนักจนไม่สามารถขยับเขยื้อนหรือช่วยตัวเองได้ ส่วนลูกคนเล็กมีครอบครัวไปแล้ว นางฉลอง กล่าวต่อว่า ล่าสุดเมื่อ 3-4 วันที่ผ่านมา อาการโรคลมชักของลูกสาวก็กำเริบขึ้นอีกครั้ง คราวนี้ไม่ยอมนั่งเอาแต่นอนอีกทั้งเป็นแผลกดทับ ตนทำงานเป็นลูกจ้างร้านอาหารห่างจากบ้านประมาณ 50 เมตร พอมีเวลาว่างก็ต้องปลีกตัวมาช่วยดูแล ป้อนนมป้อนโจ๊กให้ลูกสาว ที่ผ่านมานายพจน์ หรูวรนันท์ นายอำเภอเมืองกาญจนบุรี นางประภัสสร เรืองพยุงศักดิ์ รองนายกเทศมนตรีเทศบาลปากแพรก นายบิณฑ์ บันลือฤทธิ์ ดารานักแสดง และผู้กำกับภาพยนตร์ชื่อดังได้เข้ามาช่วยเหลือ ตนอยากจะให้ภาครัฐเข้ามาดูแลช่วยเหลือ รักษาพยาบาลให้ลูกสาวพอช่วยเหลือตัวเองได้ก็พอ ที่ผ่านมาตนได้พาเข้าไปรักษาที่ โรงพยาบาลหลายแห่ง แต่ยังไม่ดีขึ้น ตอนนี้อาการป่วยของลูกสาวก็เริ่มทรุดหนักจนกินข้าวไม่ได้ ตนก็มีรายได้จากการเป็นลูกจ้างร้านอาหารวันละ 250 บาท ก็ไว้ใช้กินกับลูกอย่างประหยัด วันไหนไม่ทำงานก็ไม่มีเงินส่วนเงินที่ได้จากบุคคลที่เข้ามาช่วยเหลือก็เก็บไว้เป็นค่าเดินทางพาลูกสาวผู้พิการไปหาหมอ อยากให้ลูกหายป่วยก็ดีใจแล้ว วอนผู้ใจบุญช่วยรักษาลูกสาวและขอบคุณกำนันชูศักดิ์ สุนทรธรรม และครอบครัวที่ให้ที่พักพิง. ขอบคุณ... http://www.dailynews.co.th/regional/368813
จัดฟอร์แม็ตข้อความและมัลติมีเดีย
รายละเอียดการใส่ ลิงค์ รูปภาพ วิดีโอ เพลง (Soundcloud)
