รวบแล้วฆาตกร ฆ่าข่มขืนครูพี่เลี้ยง หมกศพในลำห้วย…อ้างโกรธ ครูทุบน้องออทิสติก

แสดงความคิดเห็น

ผู้ต้องหา พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจส่งพื้นที่เกิดเหตุทำแผนประกอบคำให้การ

ตร.ทุ่งสงตามรวบตัวได้แล้ว ฆาตกรโหดฆ่าข่มขืนสาวใหญ่ครูพี่เลี้ยง หมกศพในลำห้วย ตะครุบตัวได้ในกระท่อมกลางสวนยางในพื้นที่ จ.สุราษฎร์ธานี รับสารภาพสิ้น อ้างเหตุโกรธแค้นผู้ตายทุบตีน้องชายที่เป็นนักเรียนต่อหน้าต่อตา จึงวางแผนตีสนิทลวงไปก่อเหตุ เผยประวัติเคยต้องคดีพยายามข่มขืนแม่เฒ่าวัย 60 มาแล้ว...

จากกรณีมีผู้พบศพนางหนิง (นามสมมติ) อายุ 46 ปี ถูกคนร้ายใช้ของแข็งตีบริเวณท้ายทอยเป็นบาดแผลฉกรรจ์ จนเสียชีวิตทิ้งศพไว้ในลำห้วย หมู่ที่ 4 ต.นาโพธิ์ อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช ห่างจากถนนสายเอเชียประมาณ 30 เมตร สภาพเสื้อ-กางเกงถูกถลก สอบสวนเบื้องต้นทราบว่า ผู้ตายเป็นครูพี่เลี้ยงอยู่ที่โรงเรียนสอนเด็กเล็กแห่งหนึ่งใน อ.ทุ่งสง เหตุเกิดเมื่อวันที่ 23 มี.ค.ที่ผ่านมานั้น ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อกลางดึกวันที่ 25 มี.ค.56 พ.ต.ท.กฤษฎา สิทธิยานันท์ สว.สส. สภ.ทุ่งสง พร้อมด้วย ร.ต.อ.สมปอง สุขเทพ รอง สว.สส. นำกำลังไปจับกุมนายวีระชัย หรือวี รัตนรัตน์ อายุ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่ 61 หมู่ที่ 7 ต.ไทรโสภา อ.พระแสง จ.สุราษฎร์ธานี ขณะนอนกบดานอยู่ในกระท่อมกลางสวนยางพารา ที่นายวีระชัยทำงานรับจ้างกรีดยางอยู่ โดยยึดของกลางกางเกงยีนส์ เสื้อคอกลมสีเลือดหมู และกางเกงในเปื้อนเลือด แจ้งข้อหาข่มขืนแล้วฆ่านางหนิง สอบสวนนายวีระชัย ให้การรับสารภาพ จึงควบคุมตัวมามอบให้ พ.ต.ท.สมศักดิ์ แก้วแสน พนักงานสอบสวนเจ้าของคดี

ต่อมา พ.ต.อ.ธรรมนูญ ไฝจู ผกก. ได้เข้าร่วมสอบสวนปากคำนายวีระชัย ผู้ต้องหาเปิดเผยรายละเอียดว่า ตนเองมีน้องชายคนหนึ่ง อายุ 14 ปี ป่วยเป็นโรคออทิสติก เรียนหนังสืออยู่ที่โรงเรียนสอนเด็กพิเศษ ที่ผู้ตายทำงานอยู่ โดยตนมาเยี่ยมน้องชายเป็นประจำ ก่อนเกิดเหตุมาเยี่ยมน้องชาย พบนางหนิงใช้กำปั้นทุบหลังน้องชายจนร้องไห้ จึงมีความโกรธแค้นมาก แต่ไม่ได้แสดงออกหรือต่อว่า กลับเข้าไปตีสนิทนางหนิง ขอหมายเลขโทรศัพท์เอาไว้

นายวีระชัย ให้การต่อว่า วันเกิดเหตุ 22 มี.ค. ช่วงพักเที่ยงตนโทรศัพท์ไปหานางหนิง ออกอุบายว่าขับรถจักรยานยนต์จะมาเยี่ยมน้องชายแต่น้ำมันหมดกลางทาง ขอร้องให้นางหนิงช่วยไปซื้อน้ำมันมาเติมรถให้ ผู้ตายหลงเชื่อเดินทางมาหาตรงจุดที่เกิดเหตุ พร้อมแกลลอนบรรจุน้ำมันเบนซินมาเติมให้ พอสบโอกาสจึงใช้ท่อนไม้ตีท้ายทอยจนผู้ตายล้มคว่ำแน่นิ่ง จากนั้นได้ลงไปที่ริมห้วย ถลกเสื้อผ้าออกแล้วลงมือข่มขืนจนสำเร็จความใคร่ 1 ครั้ง ก่อนจะจับกดน้ำจนมั่นใจว่าเสียชีวิต จึงขับรถจักรยานยนต์ของตนเองไปล้างมือล้างเท้าที่ปั๊มน้ำมันห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 1 กิโลเมตร แล้วไปรับน้องชายที่โรงเรียน พานั่งซ้อนท้ายกลับไปที่กระท่อมกลางสวนยางพารา จนตำรวจตามไปจับกุมได้ดังกล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ต่อมาในช่วงเช้าวันที่ 26 มี.ค. พ.ต.อ.ธรรมนูญ พร้อมกำลังตำรวจควบคุมตัวนายวีระชัย ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ตั้งแต่จุดเกิดเหตุไปจนถึงจุดที่ไปรับน้องชายในโรงเรียน ปรากฏญาติผู้ตายและชาวบ้านที่ทราบเหตุแห่มาดูการทำแผนอย่างแน่นขนัด โดยญาติผู้ตายโกรธแค้นจะรุมทำร้ายผู้ต้องหา ตำรวจต้องคุ้มกันอย่างชุลมุน

พ.ต.อ.ธรรมนูญ กล่าวด้วยว่า สำหรับนายวีระชัย ผู้ต้องหารายนี้ เคยต้องคดีพยายามข่มขืนผู้หญิงวัย 60 ปีที่ อ.พระแสง เหตุเกิดเมื่อปี 2553 ฝ่ายหญิงขัดขืนต่อสู้กัดนิ้วจนผู้ต้องหาวิ่งหลบหนี หลังเกิดเหตุตำรวจจับกุมตัวได้ ศาลพิพากษาปรับเงิน 2,000 บาท โทษจำคุกให้รอลงอาญาไว้ 2 ปี ก่อนที่ล่าสุดจะมาก่อเหตุขึ้นอีกครั้ง.

ขอบคุณ http://m.thairath.co.th/content/region/334964

ที่มา: ไทยรัฐออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 26 มี.ค.56
วันที่โพสต์: 27/03/2556 เวลา 03:18:26 ดูภาพสไลด์โชว์ รวบแล้วฆาตกร ฆ่าข่มขืนครูพี่เลี้ยง หมกศพในลำห้วย…อ้างโกรธ ครูทุบน้องออทิสติก

แสดงความคิดเห็น

รอตรวจสอบ
จัดฟอร์แม็ต ดูการแสดงผล

รอตรวจสอบ

รอตรวจสอบ

รอตรวจสอบ

ยกเลิก

รายละเอียดกระทู้

ผู้ต้องหา พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจส่งพื้นที่เกิดเหตุทำแผนประกอบคำให้การ ตร.ทุ่งสงตามรวบตัวได้แล้ว ฆาตกรโหดฆ่าข่มขืนสาวใหญ่ครูพี่เลี้ยง หมกศพในลำห้วย ตะครุบตัวได้ในกระท่อมกลางสวนยางในพื้นที่ จ.สุราษฎร์ธานี รับสารภาพสิ้น อ้างเหตุโกรธแค้นผู้ตายทุบตีน้องชายที่เป็นนักเรียนต่อหน้าต่อตา จึงวางแผนตีสนิทลวงไปก่อเหตุ เผยประวัติเคยต้องคดีพยายามข่มขืนแม่เฒ่าวัย 60 มาแล้ว... จากกรณีมีผู้พบศพนางหนิง (นามสมมติ) อายุ 46 ปี ถูกคนร้ายใช้ของแข็งตีบริเวณท้ายทอยเป็นบาดแผลฉกรรจ์ จนเสียชีวิตทิ้งศพไว้ในลำห้วย หมู่ที่ 4 ต.นาโพธิ์ อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช ห่างจากถนนสายเอเชียประมาณ 30 เมตร สภาพเสื้อ-กางเกงถูกถลก สอบสวนเบื้องต้นทราบว่า ผู้ตายเป็นครูพี่เลี้ยงอยู่ที่โรงเรียนสอนเด็กเล็กแห่งหนึ่งใน อ.ทุ่งสง เหตุเกิดเมื่อวันที่ 23 มี.ค.ที่ผ่านมานั้น ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อกลางดึกวันที่ 25 มี.ค.56 พ.ต.ท.กฤษฎา สิทธิยานันท์ สว.สส. สภ.ทุ่งสง พร้อมด้วย ร.ต.อ.สมปอง สุขเทพ รอง สว.สส. นำกำลังไปจับกุมนายวีระชัย หรือวี รัตนรัตน์ อายุ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่ 61 หมู่ที่ 7 ต.ไทรโสภา อ.พระแสง จ.สุราษฎร์ธานี ขณะนอนกบดานอยู่ในกระท่อมกลางสวนยางพารา ที่นายวีระชัยทำงานรับจ้างกรีดยางอยู่ โดยยึดของกลางกางเกงยีนส์ เสื้อคอกลมสีเลือดหมู และกางเกงในเปื้อนเลือด แจ้งข้อหาข่มขืนแล้วฆ่านางหนิง สอบสวนนายวีระชัย ให้การรับสารภาพ จึงควบคุมตัวมามอบให้ พ.ต.ท.สมศักดิ์ แก้วแสน พนักงานสอบสวนเจ้าของคดี ต่อมา พ.ต.อ.ธรรมนูญ ไฝจู ผกก. ได้เข้าร่วมสอบสวนปากคำนายวีระชัย ผู้ต้องหาเปิดเผยรายละเอียดว่า ตนเองมีน้องชายคนหนึ่ง อายุ 14 ปี ป่วยเป็นโรคออทิสติก เรียนหนังสืออยู่ที่โรงเรียนสอนเด็กพิเศษ ที่ผู้ตายทำงานอยู่ โดยตนมาเยี่ยมน้องชายเป็นประจำ ก่อนเกิดเหตุมาเยี่ยมน้องชาย พบนางหนิงใช้กำปั้นทุบหลังน้องชายจนร้องไห้ จึงมีความโกรธแค้นมาก แต่ไม่ได้แสดงออกหรือต่อว่า กลับเข้าไปตีสนิทนางหนิง ขอหมายเลขโทรศัพท์เอาไว้ นายวีระชัย ให้การต่อว่า วันเกิดเหตุ 22 มี.ค. ช่วงพักเที่ยงตนโทรศัพท์ไปหานางหนิง ออกอุบายว่าขับรถจักรยานยนต์จะมาเยี่ยมน้องชายแต่น้ำมันหมดกลางทาง ขอร้องให้นางหนิงช่วยไปซื้อน้ำมันมาเติมรถให้ ผู้ตายหลงเชื่อเดินทางมาหาตรงจุดที่เกิดเหตุ พร้อมแกลลอนบรรจุน้ำมันเบนซินมาเติมให้ พอสบโอกาสจึงใช้ท่อนไม้ตีท้ายทอยจนผู้ตายล้มคว่ำแน่นิ่ง จากนั้นได้ลงไปที่ริมห้วย ถลกเสื้อผ้าออกแล้วลงมือข่มขืนจนสำเร็จความใคร่ 1 ครั้ง ก่อนจะจับกดน้ำจนมั่นใจว่าเสียชีวิต จึงขับรถจักรยานยนต์ของตนเองไปล้างมือล้างเท้าที่ปั๊มน้ำมันห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 1 กิโลเมตร แล้วไปรับน้องชายที่โรงเรียน พานั่งซ้อนท้ายกลับไปที่กระท่อมกลางสวนยางพารา จนตำรวจตามไปจับกุมได้ดังกล่าว ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ต่อมาในช่วงเช้าวันที่ 26 มี.ค. พ.ต.อ.ธรรมนูญ พร้อมกำลังตำรวจควบคุมตัวนายวีระชัย ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ตั้งแต่จุดเกิดเหตุไปจนถึงจุดที่ไปรับน้องชายในโรงเรียน ปรากฏญาติผู้ตายและชาวบ้านที่ทราบเหตุแห่มาดูการทำแผนอย่างแน่นขนัด โดยญาติผู้ตายโกรธแค้นจะรุมทำร้ายผู้ต้องหา ตำรวจต้องคุ้มกันอย่างชุลมุน พ.ต.อ.ธรรมนูญ กล่าวด้วยว่า สำหรับนายวีระชัย ผู้ต้องหารายนี้ เคยต้องคดีพยายามข่มขืนผู้หญิงวัย 60 ปีที่ อ.พระแสง เหตุเกิดเมื่อปี 2553 ฝ่ายหญิงขัดขืนต่อสู้กัดนิ้วจนผู้ต้องหาวิ่งหลบหนี หลังเกิดเหตุตำรวจจับกุมตัวได้ ศาลพิพากษาปรับเงิน 2,000 บาท โทษจำคุกให้รอลงอาญาไว้ 2 ปี ก่อนที่ล่าสุดจะมาก่อเหตุขึ้นอีกครั้ง. ขอบคุณ… http://m.thairath.co.th/content/region/334964

จัดฟอร์แม็ตข้อความและมัลติมีเดีย

  1. เพิ่ม
  2. เพิ่ม ลบ
  3. เพิ่ม ลบ
  4. เพิ่ม ลบ
  5. เพิ่ม ลบ
  6. เพิ่ม ลบ
  7. เพิ่ม ลบ
  8. เพิ่ม ลบ
  9. เพิ่ม ลบ
  10. ลบ
เลือกการตกแต่งที่ต้องการ

ตกลง ยกเลิก

รายละเอียดการใส่ ลิงค์ รูปภาพ วิดีโอ เพลง (Soundcloud)

Waiting...