ตร. จ่อออกหมายจับคนทารุณเด็กออทิสติก

ตำรวจชัยภูมิ จ่อออกหมายจับ ฟันอาญาบุคคลที่เกี่ยวข้อง ทารุณกรรม อนาจารทางเพศ เด็กสาวพิการวัย ๑๗ ปี แล้ว

พ.ต.ท. บัญญัติ ทั่งกลาง รอง ผกก.สภ.เมืองชัยภูมิ หัวหน้าชุดพนักงานสอบสวนเจ้าของคดี เปิดเผยว่า กรณีที่เกิดขึ้นล่าสุด ซึ่งมีผู้เสียหายเป็นเด็กสาวป่วยพิการทางสมองและพูดไม่ได้ วัย ๑๗ ปี ถูกบุคคลในศูนย์รับบำบัดผู้ป่วยออทิสติกด้วยระบบอาชาบำบัด ให้กับผู้ป่วยออทิสติกรายนี้ อยู่ที่ จ.ชัยภูมิ ซึ่งเบื้องต้นได้ทำผิดสัญญาจ้างชัดเจนแล้ว ๑ ข้อหา ที่ผู้ปกครองเด็กสาวรายนี้ ต้องจ่ายเงินให้ศูนย์แห่งนี้เป็นค่าเลี้ยงดูรักษาบำบัดรายเดือนกว่า ๑๕,๐๐๐ บาท เข้าข่ายผิดกฎหมายทางแพ่ง และยังต้องมีโทษอาญาในหลายข้อหาหนักอีกด้วย

ล่าสุด ได้ตั้งชุดสืบสวนเข้าพื้นที่ เพื่อหาหลักฐานเพิ่มเติมแล้ว รวมทั้งวันนี้ทางญาติผู้เสียหาย ได้พามารดาของเด็กที่แท้จริง และพยานบุคคลที่สำคัญในเหตุการณ์ ชี้ชัดให้หลักฐานชิ้นสำคัญเพิ่มเติม และทราบว่าผู้ก่อเหตุเป็นใครแล้ว ซึ่งจากนี้ไปจะได้เร่งรวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมด เรียกผู้ที่เกี่ยวข้องในศูนย์บำบัดออทิสติกแห่งนี้ ให้มารับทราบข้อกล่าวหาเพื่อดำเนินคดีโดยด่วนต่อไป และคาดว่าไม่น่าจะเกิน ๑ สัปดาห์ จะสามารถสรุปคดีได้ทั้งหมดและหากบุคคลที่รู้ว่าตนเองเป็นผู้ก่อเหตุกับเด็ก รายนี้ ขอให้รีบออกมามอบตัวรับทราบข้อกล่าวหากับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองชัยภูมิ โดยเร็วจะดีกว่า ซึ่งหากจากนี้ไป ยังไม่มาพบพนักงานสอบสวน ก็จะได้ขอหมายศาลเพื่อออกหมายจับ นำตัวมาดำเนินคดีให้โดยเร็วได้อีกทาง

ที่มา: ข่าวสดออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย ๒๗ ก.ย.๕๕
วันที่โพสต์: 5/10/2555 เวลา 14:26:02

ชอบเรื่องนี้ไหม?

ยังไม่มีเรตติ้ง

แสดงความคิดเห็น

รายละเอียดกระทู้

ญาติผู้เสียหาย และมารดาของเด็ก ให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ตำรวจตำรวจชัยภูมิ จ่อออกหมายจับ ฟันอาญาบุคคลที่เกี่ยวข้อง ทารุณกรรม อนาจารทางเพศ เด็กสาวพิการวัย ๑๗ ปี แล้ว พ.ต.ท. บัญญัติ ทั่งกลาง รอง ผกก.สภ.เมืองชัยภูมิ หัวหน้าชุดพนักงานสอบสวนเจ้าของคดี เปิดเผยว่า กรณีที่เกิดขึ้นล่าสุด ซึ่งมีผู้เสียหายเป็นเด็กสาวป่วยพิการทางสมองและพูดไม่ได้ วัย ๑๗ ปี ถูกบุคคลในศูนย์รับบำบัดผู้ป่วยออทิสติกด้วยระบบอาชาบำบัด ให้กับผู้ป่วยออทิสติกรายนี้ อยู่ที่ จ.ชัยภูมิ ซึ่งเบื้องต้นได้ทำผิดสัญญาจ้างชัดเจนแล้ว ๑ ข้อหา ที่ผู้ปกครองเด็กสาวรายนี้ ต้องจ่ายเงินให้ศูนย์แห่งนี้เป็นค่าเลี้ยงดูรักษาบำบัดรายเดือนกว่า ๑๕,๐๐๐ บาท เข้าข่ายผิดกฎหมายทางแพ่ง และยังต้องมีโทษอาญาในหลายข้อหาหนักอีกด้วย ล่าสุด ได้ตั้งชุดสืบสวนเข้าพื้นที่ เพื่อหาหลักฐานเพิ่มเติมแล้ว รวมทั้งวันนี้ทางญาติผู้เสียหาย ได้พามารดาของเด็กที่แท้จริง และพยานบุคคลที่สำคัญในเหตุการณ์ ชี้ชัดให้หลักฐานชิ้นสำคัญเพิ่มเติม และทราบว่าผู้ก่อเหตุเป็นใครแล้ว ซึ่งจากนี้ไปจะได้เร่งรวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมด เรียกผู้ที่เกี่ยวข้องในศูนย์บำบัดออทิสติกแห่งนี้ ให้มารับทราบข้อกล่าวหาเพื่อดำเนินคดีโดยด่วนต่อไป และคาดว่าไม่น่าจะเกิน ๑ สัปดาห์ จะสามารถสรุปคดีได้ทั้งหมดและหากบุคคลที่รู้ว่าตนเองเป็นผู้ก่อเหตุกับเด็ก รายนี้ ขอให้รีบออกมามอบตัวรับทราบข้อกล่าวหากับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองชัยภูมิ โดยเร็วจะดีกว่า ซึ่งหากจากนี้ไป ยังไม่มาพบพนักงานสอบสวน ก็จะได้ขอหมายศาลเพื่อออกหมายจับ