รายละเอียดกระทู้

สภาพบ้านพักของน้องนิว เด็กหญิงพิการดาวน์ซินโดรม โรงเรียนกาฬสินธุ์ปัญญานุกูลวอนสังคมช่วยเหลือครอบครัวน้องนิว เด็กหญิงป่วยดาวน์ซินโดรม แต่มีพัฒนาการเรียนรู้ดี และมีจิตอาสาช่วยเหลือสังคม ขณะที่สภาพครอบครัวลำบาก สภาพบ้านเป็นแค่เพิงหมาแหงนกันลมฝนไม่ได้ วันที่ (23 ก.ค.) นายสันติ ฤาไชย ผู้อำนวยการโรงเรียนกาฬสินธุ์ปัญญานุกูล นางสมคิด สุทธิพรม หัวหน้าคลินิกกระตุ้นพัฒนาการเด็ก โรงพยาบาลกาฬสินธุ์ เจ้าหน้าที่สังคมสงเคราะห์ สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) กาฬสินธุ์ เดินทางไปที่บ้านไม่มีเลขที่ บ้านขมิ้นน้อย ต.ผาเสวย อ.สมเด็จ จ.กาฬสินธุ์ ของนายเจ๊ก คิดอ่าน และนางอรทิน บุตรพันธ์ พ่อและแม่ของ ด.ญ.ปิยะพร คิดอ่าน หรือน้องนิว อายุ 14 ปี ซึ่งเป็นเด็กพิการดาวน์ซินโดรมศึกษาอยู่ชั้นม.2โรงเรียนกาฬสินธุ์ปัญญานุกูล ทันทีที่ถึงบ้าน น้องนิวทั้งร้องไห้และโผวิ่งเข้ากอดพ่อและแม่ที่รออยู่ ซึ่งคณะที่เดินทางไปเยี่ยมครั้งนี้ต้องตะลึงกับสภาพบ้านน้องนิว เพราะมีสภาพไม่ต่างจากเล้าหมู ไม่มีรั้ว ประตู ผนัง และพื้นบ้านเป็นดิน มีลักษณะคล้ายกับเป็นกระท่อม มีสังกะสีผุพังมุงหลังคา ผ้าใบล้อมบ้านกันลมแดดฝน ไม่มีห้องน้ำ ไม่มีไฟฟ้าใช้ ต้องอาศัยพ่วงจากเพื่อนบ้านโดยทางคณะได้นำเอาข้าวสารและมอบเงินทุนส่วนหนึ่งให้แก่ครอบครัว นายสันติ ฤาไชย ผอ.ร.ร.กาฬสินธุ์ปัญญานุกูล กล่าวว่า ทางโรงเรียนมีโครงการเยี่ยมบ้านลูกๆ นักเรียนในสังกัด กระทั่งคณะครูได้ออกเยี่ยมบ้านน้องนิว คณะครูที่เดินทางมาเยี่ยมต่างตะลึงกับสภาพบ้านน้องนิว แม่ได้รับอุบัติเหตุที่หลังประกอบอาชีพไม่ได้ ส่วนพ่อมีอาชีพฆ่าหมูและชำแหละเนื้อหมูแบ่งขายในหมู่บ้าน ซึ่งมีทั้งขาดทุนและกำไร ฐานะครอบครัวลำบากมาก แต่ด้วยความรัก พ่อแม่น้องนิวช่วยกันเลี้ยงดูและดูแลน้องนิวเป็นอย่างดีรับส่งไปโรงเรียนตลอด7ปีที่นำลูกสาวคนเดียวไปเรียนที่ร.ร.กาฬสินธุ์ปัญญานุกูล จากการสอบถามเพื่อนบ้านและคนในหมู่บ้าน ทุกคนจะชินตามากกับภาพของสองพ่อลูกนั่งซาเล้งขายหมู ขณะที่น้องนิวจะเรียกลูกค้าและช่วยพ่อขาย ขณะที่อยู่โรงเรียนน้องนิวเป็นเด็กดี มีจิตอาสาช่วยเหลือครูและเพื่อนทำงานบ้านทุกอย่าง เป็นคนรักสะอาด คณะครูอยากจะให้น้องนิวมีบ้านที่สมบูรณ์ รวมถึงทุนประกอบอาชีพของพ่อแม่จึงอยากให้ผู้มีจิตศรัทธาเข้ามาช่วยเหลือน้องนิว ด้านนายเจ๊ก คิดอ่าน พ่อของน้องนิว กล่าวว่า ตอนที่น้องนิวคลอด หมอบอกว่าลูกเป็นดาวน์ซินโดรม ก็เสียใจ แต่ก็ดีใจที่ยังมีลูกและตั้งใจจะเลี้ยงอย่างดีที่สุด แต่ปัญหาคือญาติพี่น้องและคนในหมู่บ้านไม่ยอมรับลูกสาว จึงตัดสินใจพาครอบครัวหนีออกจากหมู่บ้านไปอยู่บนเขาเดิ่น ในเขตเทือกเขาภูพาน ใช้ชีวิตหาเช้ากินค่ำ หาของป่าขาย และพาลูกสาวไปหาหมอเป็นประจำ กระทั่งสถานีอนามัยแนะนำให้เอาลูกสาวไปสมัครเรียนที่ ร.ร.กาฬสินธุ์ปัญญานุกูลจึงพาไปสมัครเรียนตั้งแต่ชั้นอนุบาล1 ช่วงปิดเทอมน้องนิวจะมาช่วยงานที่บ้าน ระยะหลังแม่น้องนิวประสบอุบัติเหตุที่หลัง เดินไม่สะดวก ตัดสินใจย้ายบ้านที่ยังมีหมู่บ้านรอบๆ เพราะแม่น้องนิวช่วยเหลือตัวเองไม่ได้มากนัก ช่วงปิดเรียนจะมีน้องนิวเป็นเพื่อนคอยช่วยเหลือบ้าง แต่สภาพบ้านปัจจุบันไม่ดีนัก จะลำบากช่วงลมแรงฝนตกต้องหาที่หลบฝน ยิ่งเวลากลางคืนไม่ต้องนอนกันเลย ส่วนอาชีพก็ยึดอาชีพชำแหละเนื้อหมูขายตามหมูบ้าน เดือนหนึ่งมีรายได้ประมาณ 2,000 บาท ขณะที่นางสมคิด สุทธิพรม หัวหน้าคลินิกกระตุ้นพัฒนาการเด็กฯ กล่าวว่า น้องนิวมีความบกพร่องทางสติปัญญาดาวน์ซินโดรม จะพูดไม่เป็นประโยค พูดเป็นคำสั้นๆ พูดไม่ชัด เป็นเด็กชอบทำงานบ้าน ช่วยเหลือตัวเองได้ ประพฤติเรียบร้อย ซึ่งเป็นผลพวงจากการฝึกและพัฒนาเด็กของครูจาก ร.ร.กาฬสินธุ์ปัญญานุกูล กรณีที่เด็กป่วยดาวน์ซินโดรมช่วยเหลือตัวเองได้ ช่วยครอบครัว รวมถึงยังช่วยพ่อแม่หารายได้อีก ถือเป็นเรื่องดีที่น่าให้เป็นต้นแบบ ทั้งนี้ ต้องพิจารณาว่าน้องนิวถนัดอะไรก็ควรจะส่งเสริมให้ถึงที่สุด แต่สภาพความเป็นอยู่จะต้องมีความปลอดภัยมากกว่านี้ ต้องมีรั้วรอบขอบชิด มีห้องน้ำให้ถูกสุขลักษณะ ตัวบ้าน ผนัง หลังคา ต้องแข็งแรงมั่นคง เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิต ปลอดภัยจากภัยธรรมชาติ และภัยสังคมอื่น ซึ่งผู้มีจิตศรัทธาผู้ใจบุญที่ต้องการช่วยเหลือครอบครัวน้องนิวสามารถติดต่อที่ ร.ร.กาฬสินธุ์ปัญญานุกูล หรือคลินิกกระตุ้นพัฒนาการเด็ก รพ.กาฬสินธุ์ และสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จ.กาฬสินธุ์ ขอบคุณ... http://www.manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9580000083541