เซลส์แมนแสบ! หลอกขายเครื่องซักผ้าเก่าให้สองผัวเมียตาบอด วอนบริษัทคืนเงินนำสินค้ากลับ
บุรีรัมย์ - สองผัวเมียตาบอดเปิดร้านนวดแผนไทยที่บุรีรัมย์ ร้องขอความเป็นธรรมให้บริษัทคืนเงินดาวน์ ค่างวด และนำเครื่องซักผ้าเจ้าปัญหากลับคืน หลังถูกเซลส์แมนหลอกขายเครื่องซักผ้าเก่าอ้างเป็นเครื่องใหม่ แต่พอนำของมาส่งกลับไปเครื่องมือสองใช้ 2 สัปดาห์น้ำรั่ว ทั้งราคาที่เสนอขายไม่ตรงกับที่ระบุในสัญญาชี้เจตนาหลอกผู้บริโภคล่าสุดบริษัทบอกจะรับผิดชอบตามที่ลูกค้าต้องการ
วันที่ (23 ธ.ค.) นายสนั่น ฉิวรัมย์ อายุ 44 ปี และ น.ส.รจนา วังครอง อายุ 34 ปี สองสามีภรรยาพิการตาบอดทั้งคู่ ซึ่งได้เช่าห้องแถวเลขที่ 246/22 ตั้งอยู่ถนนนิวาศ ตรงข้ามตลาดแฮปปี้ไลท์ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ เดือนละ 2,500 บาท เปิดเป็นร้านบริการนวดแผนไทยเพื่อเลี้ยงชีพ ได้ออกมาร้องขอความเป็นธรรมผ่านสื่อมวลชน
กรณีที่เมื่อวันที่ 22 ต.ค.ที่ผ่านมา ได้มีเซลส์แมนของบริษัทขายเครื่องไฟฟ้าแห่งหนึ่งมาติดต่อขายเครื่องซักผ้าให้ ตอนแรกสองสามีภรรยาตาบอดบอกว่าไม่มีเงิน แต่เซลส์แมนพยายามหาแนวทางที่จะขายให้ โดยบอกว่าเป็นเครื่องซักผ้าใหม่แบบ 2 ถัง ขนาด 11 กิโลกรัม จะขายให้ในราคา 18,000 บาท ทั้งเสนอเงื่อนไขให้ว่าจะออกเงินดาวน์จำนวน 1,490 บาทให้ก่อน จากนั้นส่งผ่อนเป็นงวดๆ ละ 803 บาท จึงตกลงซื้อเครื่องซักผ้าตาที่เซลส์แมนคนนั้นมาเสนอขายให้เพราะเครื่องซักผ้าเก่ามีขนาดเล็กและหากได้เครื่องใหม่จะบริจาคเครื่องเก่าให้คนที่ยังไม่มีเครื่องซักผ้า
ต่อมาเมื่อถึงวันนัดส่งเครื่องซักผ้า นายสนั่นและภรรยาดีใจที่จะได้เครื่องซักผ้าใหม่ที่ใหญ่กว่าเดิมไว้สำหรับซักผ้าปูเตียงบริการนวดให้แก่ลูกค้า โดยวันมาส่งสินค้ามีเพียงเครื่องซักผ้า ไม่ได้บรรจุกล่องและไม่มีคู่มือการใช้งานเหมือนกับที่ซื้อสินค้าใหม่ทั่วไป แต่ด้วยความเชื่อใจเซลส์แมนที่มาติดต่อขายจึงไม่ได้ทักท้วงอะไร แต่พอผ่านไปประมาณ 2 สัปดาห์ เครื่องซักผ้าเกิดมีปัญหารั่วน้ำไหลซึมออกตลอดเวลา จึงแจ้งไปทางร้านส่งช่างมาซ่อมด้วยการเอาลวดมาผูกไว้ให้เท่านั้น
ต่อมาเซลส์แมนที่มาติดต่อขายได้มาเก็บเงินดาวน์จำนวน 1,490 บาท ส่วนเครื่องซักผ้าใช้ตามปกติ จนกระทั่งครบกำหนดส่งงวดแรกจำนวน 803 บาท มีเพื่อนบ้านมาดูเครื่องซักผ้าพบความผิดปกติเพราะมีรอยขูดขีดทั่วเครื่อง ทั้งไม่มีทั้งกล่องใส่สินค้าตอนนำมาส่ง และไม่มีคู่มือการใช้งาน โดยเพื่อนบ้านที่มาช่วยดูให้เพราะสองสามีภรรยาตาบอดมองไม่เห็น ยืนยันว่าเป็นเครื่องซักผ้าเก่า ตนจึงโทรศัพท์ไปถามเซลส์แมนคนเดิมยังได้รับการยืนยันว่าเป็นเครื่องซักผ้าใหม่ พอเรื่องทราบถึงผู้จัดการบริษัทออกมาดูจากเอกสารการจ่ายเงิน กลับยอมรับว่าเครื่องซักผ้าดังกล่าวเป็นเครื่องมือสอง ไม่ใช่เครื่องใหม่ แต่ไม่ได้พูดถึงแนวทางการเยียวยาที่ชัดเจน เพียงแจ้งว่าหลังปีใหม่ค่อยมาคุยกัน จนเพื่อนบ้านเกรงว่าจะถูกหลอกซ้ำสองเพราะราคาที่ตกลงกัน 18,000 บาทแต่ที่ระบุในใบสัญญาเพื่อนบ้านบอกว่าราคา20,762บาท
อย่างไรก็ตาม มาถึงตอนนี้ไม่อยากได้เครื่องซักผ้าเครื่องนี้แล้ว อยากให้ทางบริษัทมาเอาเครื่องกลับไปคืน เพราะเสียความรู้สึกที่มาหลอกลวงกันแบบนี้ทั้งที่เป็นคนพิการตาบอด และหากเป็นไปได้อยากให้บริษัทคืนเงินดาวน์และเงินงวดที่ส่งไปคืนให้ด้วย เพราะถือมีเจตนาหลอกลวงผู้บริโภค แต่ไม่อยากเอาเรื่อง เพียงแต่บริษัทต้องออกมารับผิดชอบ เพื่อไม่ให้พนักงานออกไปทำในลักษณะดังกล่าวกับลูกค้าคนอื่นที่ด้อยโอกาสอีก พร้อมฝากเตือนประชาชนหรือผู้พิการหากจะซื้อสินค้าอะไรให้ดูให้รอบคอบเพื่อจะได้ไม่ถูกหลอกเหมือนกับตนเอง
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า จากการติดต่อสอบถามไปยังทางบริษัทดังกล่าวไม่ได้ชี้แจงถึงปัญหาที่เกิดขึ้น เพียงบอกว่าขณะนี้ได้ติดต่อกับลูกค้าคนดังกล่าวแล้ว ว่าทางบริษัทพร้อมจะรับผิดชอบตามที่ลูกค้าต้องการเพราะทางบริษัทไม่ได้ต้องการให้เกิดปัญหาดังกล่าวขึ้น แต่น่าจะเกิดความบกพร่องของตัวพนักงานขายมากกว่า
ขอบคุณ... http://www.manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9590000127656 (ขนาดไฟล์: 166)
แสดงความคิดเห็น
รายละเอียดกระทู้
สองสามีภรรยา โดนหลอกขายเครื่องซักผ้าเก่า บุรีรัมย์ - สองผัวเมียตาบอดเปิดร้านนวดแผนไทยที่บุรีรัมย์ ร้องขอความเป็นธรรมให้บริษัทคืนเงินดาวน์ ค่างวด และนำเครื่องซักผ้าเจ้าปัญหากลับคืน หลังถูกเซลส์แมนหลอกขายเครื่องซักผ้าเก่าอ้างเป็นเครื่องใหม่ แต่พอนำของมาส่งกลับไปเครื่องมือสองใช้ 2 สัปดาห์น้ำรั่ว ทั้งราคาที่เสนอขายไม่ตรงกับที่ระบุในสัญญาชี้เจตนาหลอกผู้บริโภคล่าสุดบริษัทบอกจะรับผิดชอบตามที่ลูกค้าต้องการ วันที่ (23 ธ.ค.) นายสนั่น ฉิวรัมย์ อายุ 44 ปี และ น.ส.รจนา วังครอง อายุ 34 ปี สองสามีภรรยาพิการตาบอดทั้งคู่ ซึ่งได้เช่าห้องแถวเลขที่ 246/22 ตั้งอยู่ถนนนิวาศ ตรงข้ามตลาดแฮปปี้ไลท์ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ เดือนละ 2,500 บาท เปิดเป็นร้านบริการนวดแผนไทยเพื่อเลี้ยงชีพ ได้ออกมาร้องขอความเป็นธรรมผ่านสื่อมวลชน กรณีที่เมื่อวันที่ 22 ต.ค.ที่ผ่านมา ได้มีเซลส์แมนของบริษัทขายเครื่องไฟฟ้าแห่งหนึ่งมาติดต่อขายเครื่องซักผ้าให้ ตอนแรกสองสามีภรรยาตาบอดบอกว่าไม่มีเงิน แต่เซลส์แมนพยายามหาแนวทางที่จะขายให้ โดยบอกว่าเป็นเครื่องซักผ้าใหม่แบบ 2 ถัง ขนาด 11 กิโลกรัม จะขายให้ในราคา 18,000 บาท ทั้งเสนอเงื่อนไขให้ว่าจะออกเงินดาวน์จำนวน 1,490 บาทให้ก่อน จากนั้นส่งผ่อนเป็นงวดๆ ละ 803 บาท จึงตกลงซื้อเครื่องซักผ้าตาที่เซลส์แมนคนนั้นมาเสนอขายให้เพราะเครื่องซักผ้าเก่ามีขนาดเล็กและหากได้เครื่องใหม่จะบริจาคเครื่องเก่าให้คนที่ยังไม่มีเครื่องซักผ้า ต่อมาเมื่อถึงวันนัดส่งเครื่องซักผ้า นายสนั่นและภรรยาดีใจที่จะได้เครื่องซักผ้าใหม่ที่ใหญ่กว่าเดิมไว้สำหรับซักผ้าปูเตียงบริการนวดให้แก่ลูกค้า โดยวันมาส่งสินค้ามีเพียงเครื่องซักผ้า ไม่ได้บรรจุกล่องและไม่มีคู่มือการใช้งานเหมือนกับที่ซื้อสินค้าใหม่ทั่วไป แต่ด้วยความเชื่อใจเซลส์แมนที่มาติดต่อขายจึงไม่ได้ทักท้วงอะไร แต่พอผ่านไปประมาณ 2 สัปดาห์ เครื่องซักผ้าเกิดมีปัญหารั่วน้ำไหลซึมออกตลอดเวลา จึงแจ้งไปทางร้านส่งช่างมาซ่อมด้วยการเอาลวดมาผูกไว้ให้เท่านั้น ต่อมาเซลส์แมนที่มาติดต่อขายได้มาเก็บเงินดาวน์จำนวน 1,490 บาท ส่วนเครื่องซักผ้าใช้ตามปกติ จนกระทั่งครบกำหนดส่งงวดแรกจำนวน 803 บาท มีเพื่อนบ้านมาดูเครื่องซักผ้าพบความผิดปกติเพราะมีรอยขูดขีดทั่วเครื่อง ทั้งไม่มีทั้งกล่องใส่สินค้าตอนนำมาส่ง และไม่มีคู่มือการใช้งาน โดยเพื่อนบ้านที่มาช่วยดูให้เพราะสองสามีภรรยาตาบอดมองไม่เห็น ยืนยันว่าเป็นเครื่องซักผ้าเก่า ตนจึงโทรศัพท์ไปถามเซลส์แมนคนเดิมยังได้รับการยืนยันว่าเป็นเครื่องซักผ้าใหม่ พอเรื่องทราบถึงผู้จัดการบริษัทออกมาดูจากเอกสารการจ่ายเงิน กลับยอมรับว่าเครื่องซักผ้าดังกล่าวเป็นเครื่องมือสอง ไม่ใช่เครื่องใหม่ แต่ไม่ได้พูดถึงแนวทางการเยียวยาที่ชัดเจน เพียงแจ้งว่าหลังปีใหม่ค่อยมาคุยกัน จนเพื่อนบ้านเกรงว่าจะถูกหลอกซ้ำสองเพราะราคาที่ตกลงกัน 18,000 บาทแต่ที่ระบุในใบสัญญาเพื่อนบ้านบอกว่าราคา20,762บาท อย่างไรก็ตาม มาถึงตอนนี้ไม่อยากได้เครื่องซักผ้าเครื่องนี้แล้ว อยากให้ทางบริษัทมาเอาเครื่องกลับไปคืน เพราะเสียความรู้สึกที่มาหลอกลวงกันแบบนี้ทั้งที่เป็นคนพิการตาบอด และหากเป็นไปได้อยากให้บริษัทคืนเงินดาวน์และเงินงวดที่ส่งไปคืนให้ด้วย เพราะถือมีเจตนาหลอกลวงผู้บริโภค แต่ไม่อยากเอาเรื่อง เพียงแต่บริษัทต้องออกมารับผิดชอบ เพื่อไม่ให้พนักงานออกไปทำในลักษณะดังกล่าวกับลูกค้าคนอื่นที่ด้อยโอกาสอีก พร้อมฝากเตือนประชาชนหรือผู้พิการหากจะซื้อสินค้าอะไรให้ดูให้รอบคอบเพื่อจะได้ไม่ถูกหลอกเหมือนกับตนเอง ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า จากการติดต่อสอบถามไปยังทางบริษัทดังกล่าวไม่ได้ชี้แจงถึงปัญหาที่เกิดขึ้น เพียงบอกว่าขณะนี้ได้ติดต่อกับลูกค้าคนดังกล่าวแล้ว ว่าทางบริษัทพร้อมจะรับผิดชอบตามที่ลูกค้าต้องการเพราะทางบริษัทไม่ได้ต้องการให้เกิดปัญหาดังกล่าวขึ้น แต่น่าจะเกิดความบกพร่องของตัวพนักงานขายมากกว่า ขอบคุณ... http://www.manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9590000127656
จัดฟอร์แม็ตข้อความและมัลติมีเดีย
รายละเอียดการใส่ ลิงค์ รูปภาพ วิดีโอ เพลง (Soundcloud)