รายละเอียดกระทู้

นางน้อย สุขนอก อายุ 86 ปี ตาเริ่มมองไม่เห็น อาศัยอยู่กับนายประยูร นามนอก อายุ 50 ปี วันนี้ (24 ธ.ค.) ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจาก นายประรมย์ บัณฑิตย์ธรรม ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 11 ต.หนองบัว อ.บ้านค่าย จ.ระยอง ว่า มีหญิงชราชื่อ นางน้อย สุขนอก อายุ 86 ปี ตาเริ่มมองไม่เห็น อาศัยอยู่กับนายประยูร นามนอก อายุ 50 ปี บุตรชายซึ่งถูกรถชนได้รับบาดเจ็บ และกลายเป็นคนสติไม่สมประกอบ โดย 2 แม่ลูกอาศัยอยู่ในบ้านเก่าสภาพทรุดโทรม ประทังชีวิตด้วยการขอข้าววัดและชาวบ้านกินไปวันๆ เนื่องจากฐานะยากจน จึงไปตรวจสอบพร้อมด้วย นายศรศักดิ์บือทองนักพัฒนาชุมชนองค์การบริหารส่วนตำบลหนองบัว เมื่อไปถึงพบบ้านปลูกอยู่ริมถนนหัวชวด-โรงน้ำตาล หมู่ 11 ติดกับนิคมอุตสาหกรรมบ้านค่าย (ไออาร์พีซี) โดยมีชาวบ้านใกล้เคียงนำข้าวสารอาหารแห้งมาแบ่งให้ 2 แม่ลูก ขณะที่ นายประรมย์ กล่าวว่า หญิงชรา และลูกอดีตเคยเป็นลูกจ้างเฝ้าสวนมะม่วง ซึ่งเจ้าของสวนอยู่ต่างประเทศ ได้รับค่าจ้างเดือนละ 3,000 บาท ผ่านทางทางบุคคลผู้หนึ่ง ซึ่งเจ้าของสวนมอบหมายให้นำเงินมาให้ 2 แม่ลูกทุกเดือน แต่ปัจจุบันบุคคลดังกล่าวได้เสียชีวิตไป ทำให้ 2 แม่ลูกไม่มีรายได้ซื้ออาหาร ประกอบกับลูกชายกลายเป็นคนสติไม่สมประกอบ จึงไม่มีใครจ้างไปทำงาน โดยในแต่ละวัน นางน้อย ต้องเดินไปขอข้าววัด และชาวบ้านใกล้เคียงมากินประทังชีวิต ขณะที่ดวงตาทั้ง 2 ข้างของนางน้อย เริ่มมองไม่เห็น หูไม่ค่อยได้ยิน ชาวบ้านที่พบเห็นพากันสงสาร ต้องผลัดกันนำข้าวสาร และอาหารแห้งมาให้เป็นประจำ สภาพบ้านพักอาศัยของนางน้อย สุขนอก “ที่ผ่านมา ได้เคยประสานไปยังโรงงานแห่งหนึ่งในพื้นที่เพื่อขอความช่วยเหลือ แต่ก็ถูกปฏิเสธ โดยโรงงานแห่งนั้นอ้างว่าไม่มีนโยบายให้การช่วยเหลือ แต่พนักงานของโรงงานที่มีจิตอาสาได้ร่วมกับชาวบ้านตัดต้นไม้ที่ขึ้นรกรุงรัง และซ่อมแซมบ้าน พร้อมนำที่นอนมาเปลี่ยนให้ 2 แม่ลูก” นายประรมย์ กล่าวว่า ได้พยายามที่จะช่วยทำบัตรประจำตัวประชาชนให้หญิงชรา และลูก แต่เนื่องจากไม่มีใบแจ้งเกิด จึงทำให้ไม่ได้รับสิทธิ และความช่วยเหลือต่างๆ จากหน่วยงานท้องถิ่น ขณะนี้ทางบริษัทไออาร์พีซี จ.ระยองได้รับทราบเรื่องราวของครอบครัวนี้แล้ว โดยทางเจ้าหน้าที่ของบริษัทฯเตรียมนำเรื่องเสนอผู้บริหาร เพื่อดำเนินการช่วยเหลือโดยผ่านองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น(อบต.หนองบัว) ขอบคุณ... http://manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9560000157597 (ASTVผู้จัดการออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 24 ธ.ค.56)