สุดรันทด! หนุ่มนครพนมเจอเคราะห์กรรมซัด ป่วยมะเร็งตาบอดสนิทครอบครัวไร้เงินรักษา
นครพนม – ชีวิตสุดรันทด!! หนุ่มวัย 23 ปี จากเสาหลักดูแลครอบครัวกลับต้องกลายเป็นหนุ่มพิการตาบอดทั้งสองข้าง หลังป่วยโรคประหลาดเนื้องอกร้าย ลูกตาทะลักออกนอกเบ้าตา ไร้เงินรักษา ทั้งยังมีภาระดูแลแม่ป่วยไตอาการทรุด เลี้ยงลูกสาววัย 4 ขวบ ชาวบ้านวอนผู้ใจบุญช่วยเหลือ ห่วงอนาคตน้องสาวยังเรียนชั้นม.5
นายวัฒนา นวนบุรี อายุ 56 ปี รองนายกองค์การบริหารส่วนตำบลอุ่มเหม้า อ.ธาตุพะนม จ.นครพนม พร้อมด้วย นายอำนวย ตะวังพัน อายุ 48 ปี รองนายก อบต.อุ่มเหม้า จ่าเอกภูริต ชอบสูงเนิน อายุ 33 ปี ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.นครพนม นายวีรวัฒน์ ยี่สารพัฒน์ นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลนาหนาด ในฐานะรองประธานมูลนิธิแสงแก้วร่วมใจสื่ออาสาช่วยเหลือผู้ประสบภัยนำสื่อมวลชนเข้าตรวจสอบให้การช่วยเหลือ
หลังชาวบ้านแจ้งว่า มีผู้ป่วยเป็นโรคประหลาดเนื้อร้ายที่เบ้าตาสองข้าง ครอบครัวยากจน ไม่มีเงินรักษาต้องทนทุกข์ทรมานอยู่ตามสภาพ จนทำให้ตาบอดทั้ง 2 ข้าง ต้องการให้หน่วยงานเกี่ยวข้อง และผู้ใจบุญช่วยเหลือเพราะผู้ป่วยเป็นเสาหลักของครอบครัว ต้องทำงานรับจ้างกรีดยาง ดูแลพ่อแม่ รวมถึงครอบครัวลูกสาววัย4ขวบและน้องสาวคนสุดท้องอีก1คนกำลังเรียนอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่5
จากการตรวจสอบพบผู้ป่วย คือ นายเดชฤทธิ์ คำมุงคุณ อายุ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่ 17 หมู่ 2 บ้านโสกแมว ต.อุ่มเหม้า อ.ธาตุพนม จ.นครพนม ซึ่งอาศัยอยู่ในบ้านพักแบบปูนชั้นเดียว สภาพเก่า โดยผู้ป่วยอาศัยอยู่ในบ้าน แต่ต้องกางมุ้งป้องกันแมลง เนื่องจากผู้ป่วยมีอาการป่วยเป็นโรคประหลาด เกิดเนื้องอกร้ายบริเวณเบ้าตาจนลูกตาทะลักออกมาเป็นก้อนเท่าขนาดไข่ไก่ และเป็นแผลน้ำเหลือง และน้ำตาไหลตลอดเวลา สุดแสนทรมานสร้างความหดหู่ให้แก่ผู้พบเห็น
มีเพียงภรรยาคู่ชีวิตที่อยู่กินกันมาประมาณ 5 ปี คือ น.ส.พัชรีพร สุวรรณพรม อายุ 20 ปี พร้อมลูกสาววัย 4 ขวบ คอยดูแลให้กำลังใจ เช็ดแผลบริเวณเบ้าตาตลอดเวลา ขณะที่ครอบครัวฐานะยากจน ไม่มีเงินไปรักษาที่โรงพยาบาล เงินที่มีบางส่วนต้องนำไปเป็นค่าใช้จ่ายดูแลรักษา ที่สำคัญสมาชิกในครอบครัวอีกคน คือ นางนันทพร คำมงคุณ อายุ 49 ปี ผู้เป็นแม่ ก็ป่วยเป็นโรคไตมานานหลายปี อาการทรุดหนักต้องไปรักษาตัวฟอกไตต่อเนื่องที่โรงพยาบาลนครพนม
ส่วนผู้เป็นพ่อ คือ นายประเสริฐ คำมุงคุณ อายุ 56 ปี ต้องไปคอยดูแลแม่ที่โรงพยาบาล ทั้งยังมีน้องสาวคนสุดท้องในบรรดาพี่น้อง 3 คน ที่กำลังเรียนหนังสืออยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ภาระค่าใช้จ่ายในครัวเรือนค่อนข้างมาก แต่เสาหลักครอบครัวคือ นายเดชฤทธิ์ คำมุงคุณ กลับมาป่วยซ้ำเติมให้ครอบครัวนี้ทุกข์ทรมานขึ้นไปอีก ชาวบ้านข้างเคียงต่างเวทนาในชะตากรรมที่เกิดเคราะห์ซ้ำกรรมซัดครอบครัว จึงได้ร้องทุกข์ขอความช่วยเหลือผ่านหน่วยงานรัฐสื่อมวลชนและโลกโซเชียล
น.ส.พัชรีพร สุวรรณพรม อายุ 20 ปี ภรรยาผู้ป่วยกล่าวถึงอาการสามี ว่า ปกติสามีตนมีร่างกายแข็งแรง ไม่มีโรคประจำตัว จะพากันไปทำงานรับจ้างกรีดยางเป็นหลัก อยู่กินกันมาประมาณ 5 ปี สามีเป็นเสาหลักดูแลครอบครัว ในบรรดาพี่น้อง 3 คน สามีเป็นลูกคนที่ 2 ส่วนพี่สาวออกเรือนไปมีครอบครัวแล้ว ปัญหาหลักคือ แม่ป่วยเป็นโรคไต ต้องไปรักษาฟอกไตต่อเนื่อง ทั้งมีภาระเลี้ยงลูกสาววัย 4 ขวบ และน้องสาวคนสุดท้องที่ยังเรียนหนังสือชั้นมัธยมศึกษาปีที่5
เมื่อต้นปีโชคร้ายมาเยือนครอบครัว เมื่อสามีป่วยกะทันหันไม่คาดคิด จมูกไม่รับรู้กลิ่น ตาพร่ามัว ไปหาหมอหลายครั้ง แต่ไม่ทราบสาเหตุชัดเจน นึกว่าเกิดจากอาการสายตาสั้น แต่สุดท้ายไปตรวจที่โรงพยาบาล จ.ขอนแก่น พบว่า มีเนื้องอกในจมูก แพทย์วินิจฉัยเบื้องต้นป่วยเป็นมะเร็ง แต่ไม่มีเงินตรวจรักษาละเอียด ต้องกลับมาบ้านรักษาตามสภาพกระทั่งช่วงเดือนมีนาคม2559พบว่าเกิดเนื้องอกเพิ่มขึ้นอีกที่บริเวณเบ้าตา
เนื้อร้ายกลับโตขึ้นเรื่อยๆ ทำให้ลูกตาทะลักออกมาจนตาบอดสนิททั้ง 2 ข้าง ต้องอยู่แบบทุกข์ทรมาน ไม่มีเงินไปหาหมอรักษา ทำได้เพียงให้กำลังใจดูแลตามสภาพ ต้องคอยเช็ดน้ำเหลือง น้ำตาที่ไหลออกบริเวณแผลเนื้องอก บางครั้งนั่งร้องให้สงสารสามี จึงอยากขอวอนผู้ใจบุญ หน่วยงานต่างๆ ช่วยเหลือหาทางรักษาสามีของตนได้และฝากให้ช่วยเหลือแม่ที่ป่วยและครอบครัวด้วย
เบื้องต้น คณะผู้บริหารที่เข้ามาตรวจเยี่ยมได้ตั้งกองทุนขอรับบริจาคช่วยเหลือจากผู้ใจบุญ พร้อมเร่งประสานหน่วยงานเกี่ยวข้องเข้ามาดูแลช่วยเหลือรักษาอาการเจ็บป่วย ซึ่งผู้มีจิตเมตตาสามารถบริจาคให้การช่วยเหลือผ่านบัญชีภรรยาผู้ป่วย ชื่อบัญชี น.ส.พัชรีพร สุวรรณพรม ธนาคารออมสิน สาขาอำเภอธาตุพนม ประเภทเผื่อเรียก เลขที่บัญชี 020-1522-8270-1 หรือสามารถติดต่อสอบถามให้การช่วยเหลือได้ที่โทร.08-2837-5183 หรือติดต่อ นางอำนวย ตะวังพัน น้าสาวผู้ป่วย โทร.08-5471-9959
ขอบคุณ... http://www.manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9590000075481 (ขนาดไฟล์: 166)
แสดงความคิดเห็น
รายละเอียดกระทู้
นายเดชฤทธิ์ คำมุงคุณ ป่วยมะเร็งจนตาบอดทั้งสองข้าง พร้อมภรรยาดูแลอย่างใกล้ชิด นครพนม – ชีวิตสุดรันทด!! หนุ่มวัย 23 ปี จากเสาหลักดูแลครอบครัวกลับต้องกลายเป็นหนุ่มพิการตาบอดทั้งสองข้าง หลังป่วยโรคประหลาดเนื้องอกร้าย ลูกตาทะลักออกนอกเบ้าตา ไร้เงินรักษา ทั้งยังมีภาระดูแลแม่ป่วยไตอาการทรุด เลี้ยงลูกสาววัย 4 ขวบ ชาวบ้านวอนผู้ใจบุญช่วยเหลือ ห่วงอนาคตน้องสาวยังเรียนชั้นม.5 นายวัฒนา นวนบุรี อายุ 56 ปี รองนายกองค์การบริหารส่วนตำบลอุ่มเหม้า อ.ธาตุพะนม จ.นครพนม พร้อมด้วย นายอำนวย ตะวังพัน อายุ 48 ปี รองนายก อบต.อุ่มเหม้า จ่าเอกภูริต ชอบสูงเนิน อายุ 33 ปี ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.นครพนม นายวีรวัฒน์ ยี่สารพัฒน์ นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลนาหนาด ในฐานะรองประธานมูลนิธิแสงแก้วร่วมใจสื่ออาสาช่วยเหลือผู้ประสบภัยนำสื่อมวลชนเข้าตรวจสอบให้การช่วยเหลือ หลังชาวบ้านแจ้งว่า มีผู้ป่วยเป็นโรคประหลาดเนื้อร้ายที่เบ้าตาสองข้าง ครอบครัวยากจน ไม่มีเงินรักษาต้องทนทุกข์ทรมานอยู่ตามสภาพ จนทำให้ตาบอดทั้ง 2 ข้าง ต้องการให้หน่วยงานเกี่ยวข้อง และผู้ใจบุญช่วยเหลือเพราะผู้ป่วยเป็นเสาหลักของครอบครัว ต้องทำงานรับจ้างกรีดยาง ดูแลพ่อแม่ รวมถึงครอบครัวลูกสาววัย4ขวบและน้องสาวคนสุดท้องอีก1คนกำลังเรียนอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่5 จากการตรวจสอบพบผู้ป่วย คือ นายเดชฤทธิ์ คำมุงคุณ อายุ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่ 17 หมู่ 2 บ้านโสกแมว ต.อุ่มเหม้า อ.ธาตุพนม จ.นครพนม ซึ่งอาศัยอยู่ในบ้านพักแบบปูนชั้นเดียว สภาพเก่า โดยผู้ป่วยอาศัยอยู่ในบ้าน แต่ต้องกางมุ้งป้องกันแมลง เนื่องจากผู้ป่วยมีอาการป่วยเป็นโรคประหลาด เกิดเนื้องอกร้ายบริเวณเบ้าตาจนลูกตาทะลักออกมาเป็นก้อนเท่าขนาดไข่ไก่ และเป็นแผลน้ำเหลือง และน้ำตาไหลตลอดเวลา สุดแสนทรมานสร้างความหดหู่ให้แก่ผู้พบเห็น มีเพียงภรรยาคู่ชีวิตที่อยู่กินกันมาประมาณ 5 ปี คือ น.ส.พัชรีพร สุวรรณพรม อายุ 20 ปี พร้อมลูกสาววัย 4 ขวบ คอยดูแลให้กำลังใจ เช็ดแผลบริเวณเบ้าตาตลอดเวลา ขณะที่ครอบครัวฐานะยากจน ไม่มีเงินไปรักษาที่โรงพยาบาล เงินที่มีบางส่วนต้องนำไปเป็นค่าใช้จ่ายดูแลรักษา ที่สำคัญสมาชิกในครอบครัวอีกคน คือ นางนันทพร คำมงคุณ อายุ 49 ปี ผู้เป็นแม่ ก็ป่วยเป็นโรคไตมานานหลายปี อาการทรุดหนักต้องไปรักษาตัวฟอกไตต่อเนื่องที่โรงพยาบาลนครพนม ส่วนผู้เป็นพ่อ คือ นายประเสริฐ คำมุงคุณ อายุ 56 ปี ต้องไปคอยดูแลแม่ที่โรงพยาบาล ทั้งยังมีน้องสาวคนสุดท้องในบรรดาพี่น้อง 3 คน ที่กำลังเรียนหนังสืออยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ภาระค่าใช้จ่ายในครัวเรือนค่อนข้างมาก แต่เสาหลักครอบครัวคือ นายเดชฤทธิ์ คำมุงคุณ กลับมาป่วยซ้ำเติมให้ครอบครัวนี้ทุกข์ทรมานขึ้นไปอีก ชาวบ้านข้างเคียงต่างเวทนาในชะตากรรมที่เกิดเคราะห์ซ้ำกรรมซัดครอบครัว จึงได้ร้องทุกข์ขอความช่วยเหลือผ่านหน่วยงานรัฐสื่อมวลชนและโลกโซเชียล น.ส.พัชรีพร สุวรรณพรม อายุ 20 ปี ภรรยาผู้ป่วยกล่าวถึงอาการสามี ว่า ปกติสามีตนมีร่างกายแข็งแรง ไม่มีโรคประจำตัว จะพากันไปทำงานรับจ้างกรีดยางเป็นหลัก อยู่กินกันมาประมาณ 5 ปี สามีเป็นเสาหลักดูแลครอบครัว ในบรรดาพี่น้อง 3 คน สามีเป็นลูกคนที่ 2 ส่วนพี่สาวออกเรือนไปมีครอบครัวแล้ว ปัญหาหลักคือ แม่ป่วยเป็นโรคไต ต้องไปรักษาฟอกไตต่อเนื่อง ทั้งมีภาระเลี้ยงลูกสาววัย 4 ขวบ และน้องสาวคนสุดท้องที่ยังเรียนหนังสือชั้นมัธยมศึกษาปีที่5 เมื่อต้นปีโชคร้ายมาเยือนครอบครัว เมื่อสามีป่วยกะทันหันไม่คาดคิด จมูกไม่รับรู้กลิ่น ตาพร่ามัว ไปหาหมอหลายครั้ง แต่ไม่ทราบสาเหตุชัดเจน นึกว่าเกิดจากอาการสายตาสั้น แต่สุดท้ายไปตรวจที่โรงพยาบาล จ.ขอนแก่น พบว่า มีเนื้องอกในจมูก แพทย์วินิจฉัยเบื้องต้นป่วยเป็นมะเร็ง แต่ไม่มีเงินตรวจรักษาละเอียด ต้องกลับมาบ้านรักษาตามสภาพกระทั่งช่วงเดือนมีนาคม2559พบว่าเกิดเนื้องอกเพิ่มขึ้นอีกที่บริเวณเบ้าตา เนื้อร้ายกลับโตขึ้นเรื่อยๆ ทำให้ลูกตาทะลักออกมาจนตาบอดสนิททั้ง 2 ข้าง ต้องอยู่แบบทุกข์ทรมาน ไม่มีเงินไปหาหมอรักษา ทำได้เพียงให้กำลังใจดูแลตามสภาพ ต้องคอยเช็ดน้ำเหลือง น้ำตาที่ไหลออกบริเวณแผลเนื้องอก บางครั้งนั่งร้องให้สงสารสามี จึงอยากขอวอนผู้ใจบุญ หน่วยงานต่างๆ ช่วยเหลือหาทางรักษาสามีของตนได้และฝากให้ช่วยเหลือแม่ที่ป่วยและครอบครัวด้วย เบื้องต้น คณะผู้บริหารที่เข้ามาตรวจเยี่ยมได้ตั้งกองทุนขอรับบริจาคช่วยเหลือจากผู้ใจบุญ พร้อมเร่งประสานหน่วยงานเกี่ยวข้องเข้ามาดูแลช่วยเหลือรักษาอาการเจ็บป่วย ซึ่งผู้มีจิตเมตตาสามารถบริจาคให้การช่วยเหลือผ่านบัญชีภรรยาผู้ป่วย ชื่อบัญชี น.ส.พัชรีพร สุวรรณพรม ธนาคารออมสิน สาขาอำเภอธาตุพนม ประเภทเผื่อเรียก เลขที่บัญชี 020-1522-8270-1 หรือสามารถติดต่อสอบถามให้การช่วยเหลือได้ที่โทร.08-2837-5183 หรือติดต่อ นางอำนวย ตะวังพัน น้าสาวผู้ป่วย โทร.08-5471-9959 ขอบคุณ... http://www.manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9590000075481
จัดฟอร์แม็ตข้อความและมัลติมีเดีย
รายละเอียดการใส่ ลิงค์ รูปภาพ วิดีโอ เพลง (Soundcloud)