รันทดหนุ่มใหญ่พิการต้องเลี้ยงพ่อ-แม่วัยชรา

แสดงความคิดเห็น

นายศักดิ์ ใจชุม ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ฝ่ายปกครอง บ้านทุ่งรวงทอง พร้อมผู้สื่อข่าว เข้าสัมภาษณ์ครอบครัว นายชาญ กันทะเนตร เมื่อวันที่ 4 มี.ค. ผู้สื่อข่าวรับแจ้งว่าที่บ้านเลขที่ 76 หมู่ 12 บ้านทุ่งรวงทอง ต.ร่มเย็น อ.เชียงคำ จ.พะเยา ซึ่งเป็นไม้ยกพื้นพื้นสูง หลังตากระเบื้อง ฝาบ้านมุงด้วยแฝก มีครอบครัวพิการพ่อแม่ลูกอาศัยอยู่ โดยไม่มีหน่วยงานไหนให้ความช่วยเหลือ เมื่อผู้สื่อข่าวไปถึงพบนายชาญ กันทะเนตร อายุ 50 ปี ซึ่งพิการเดินไม่ได้ต้องใช้วิธีคลานไปตามพื้นรอบบ้านโดยบนบ้านบริเวณมีแม่ อุ้ยติ๊บ กันทะเนตร วัย 87 ปี นอนอยู่บนที่นอนผืนเล็กๆ พอตัว ส่วนที่ด้านข้างมีพ่ออุ้ยติ๊บ กันทะเนตร วัย 98 ปี (ชื่อเหมือนภรรยา) นั่งเหยียดขาข้างซ้ายไปข้างหน้า ชันเขาขวา

นายชาญ กันทะเนตร หนุ่มใหญ่วัย 50 ปี กล่าวว่า เมื่ออายุ 19 ปีล้มป่วยหนักไปรักษาที่โรงพยาบาล หมอบอกว่าตัวจี๊ดเข้าไขสันหลังและขึ้นสมอง โดยหมอสันนิฐานว่ามาจากการกินอาหารสุกๆ ดิบ คือ ลาบดิบ และหอยโข่งที่หาได้ตามลำห้วยในหมู่บ้าน หลังจากรักษาหายขาทั้งสองข้างก็อ่อนแรง จนไม่สามารถเดินได้ แต่ก็ยังสามารถหารายได้ด้วยการรับจ้างจักสานสุ่มไก่ จักตอกให้เพื่อนบ้านแลกเงินเลี้ยงชีพได้ นอกจากนี้ยังช่วยเพื่อนบ้านซ่อมรถจักรยานยนต์พอมีรายได้ประทังชีวิตเลี้ยงดูทั้ง3คนพ่อลูก

นายชาญ กันทะเนตร หนุ่มใหญ่วัย 50 ปี นั่งบนรถสามล้อโยก นายชาญ กล่าต่อว่า ครอบครัวตนมีพี่น้องเป็นชายทั้ง 3 คน พี่คนโตอยู่ที่ ต.ทุ่งกล้วย อ.ภูซาง จ.พะเยา มีครอบครัวแล้วแต่ไม่สามารถมาจุนเจือพ่อแม่ได้เพราะฐานะยากจน ตนเป็นคนที่สองที่อยู่กับพ่อแม่ และมีน้องชายอีกคนมีครอบครัวอยู่ที่ อ.ปง จงพะเยา ซึ่งก็ทุกข์ยากเหมือนกัน ลำพังช่วงที่คนเฒ่าทั้งสองคนยังสามารถเดินได้ปกติตนก็ยังพอเลี้ยงดูได้ตาม ประสาอดมื้อกินมื้อ เพราะรายได้ไม่แน่นอน ประมาณ 10 ปีที่แล้ว พ่ออุ้ยตกบันไดบ้าน ขณะจะลงไปดายหญ้าบริเวณบ้าน หลังจากส่งรักษาที่ รพ.เชียงคำ หมอบอกว่าสะโพกหลุด กลายเป็นคนพิการเดินไม่ได้

และเมื่อปีที่แล้วแม่ก็ล้มป่วยชักต้องส่งโรงพยาบาล หมอบอกว่าเป็นเยื่อหุ้มสมองอักเสบ พอรักษาหายก็เดินไม่ได้อีกคน ถึงตรงนี้ตนต้องเลี้ยงดูปรนนิบัติพ่อแม่ที่พิการเดินไม่ได้ถึงสองคน จะไปรับจ้างนอกบ้านก็ไม่ได้เพราะเป็นห่วง โดยเฉพาะแม่นั้นจะเรียกหาตนอยู่ตลอดเวลา ถ้ามองไม่เห็นนานๆ ก็จะเรียก อาจจะกลัวว่าตนจะหนี ทิ้งทั้งสองคนไว้สู้ชีวิตตามลำพัง ถึงตรงนี้เริ่มลำบากเรื่องเงินเลี้ยงชีพเพราะไม่ได้ทำงาน ประกอบกับชาวบ้านที่เคยไหว้วานให้ช่วยจักสานสุ่มไก่ หรือจักสานอื่นๆ ก็ไม่คอยเอาไม้ไผ่มาให้ทำ เพราะรู้ว่าตนไม่มีเวลาเนื่องจากต้องดูแลคนพิการทั้งสองคนอย่างใกล้ชิด

นายชาญ กล่าวว่า ทุกวันนี้เช้าขึ้นมาจะไปตลาดด้วยการโยกรถคู่ชีพพร้อมไม้ค้ำยัน ไปซื้อกับข้าวมาทำอาหารให้สองผู้เฒ่า เมื่อทำเสร็จแล้วก็นำมาป้อน ทั้งเช้ากลางวันเย็น ช่วงกลางคืนต้องนอนใกล้กับแม่เพราะแกจะคลำหาตอลดคืน หากคลำไม่เจอก็จะเรียก ส่วนรายได้จากการเลี้ยงชีพมาจาก เงินผู้สูงอายุ ของพ่ออุ้ยได้ 1,500 บาท จากเบื้อยังชีพ 1,000 บาท พิการอีก 500 บาท แม่ได้ 800 ตนได้เบี้ยคนพิการ 500 รวม 2,800 บาทต่อเดือน และได้อาศัยเพื่อนบ้านที่ช่วยเกื้อกูลกันมีอาหารก็นำมาแบ่งด้านนายศักดิ์ ใจชุม ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ฝ่ายปกครอง บ้านทุ่งรวงทอง หมู่ 12 ตำบลร่มเย็น อำเภอเชียงคำ จังหวัดพะเยา กล่าวถึงแนวทางการช่วยเหลือว่า ตอนนี้กำลังทำหนังสือส่งให้ สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดพะเยา ( พมจ.พะเยา)อยู่ เพื่อขอความช่วยเหลือ นอกจากนี้ ทางผู้ใหญ่บ้าน ได้ประชุมหารือกันว่าจะนำสะสมของหมู่บ้านมาช่วยเหลือครอบครัวนี้ ซึ่งอยู่ระหว่างดำเนินการ นายศักดิ์ กล่าว..

ขอบคุณ... http://www.dailynews.co.th/thailand/188312 (ขนาดไฟล์: 167)

ที่มา: เดลินิวส์ออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 4 มี.ค.56
วันที่โพสต์: 5/03/2556 เวลา 04:36:05 ดูภาพสไลด์โชว์ รันทดหนุ่มใหญ่พิการต้องเลี้ยงพ่อ-แม่วัยชรา

แสดงความคิดเห็น

รอตรวจสอบ
จัดฟอร์แม็ต ดูการแสดงผล

รอตรวจสอบ

รอตรวจสอบ

รอตรวจสอบ

ยกเลิก

รายละเอียดกระทู้

นายศักดิ์ ใจชุม ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ฝ่ายปกครอง บ้านทุ่งรวงทอง พร้อมผู้สื่อข่าว เข้าสัมภาษณ์ครอบครัว นายชาญ กันทะเนตร เมื่อวันที่ 4 มี.ค. ผู้สื่อข่าวรับแจ้งว่าที่บ้านเลขที่ 76 หมู่ 12 บ้านทุ่งรวงทอง ต.ร่มเย็น อ.เชียงคำ จ.พะเยา ซึ่งเป็นไม้ยกพื้นพื้นสูง หลังตากระเบื้อง ฝาบ้านมุงด้วยแฝก มีครอบครัวพิการพ่อแม่ลูกอาศัยอยู่ โดยไม่มีหน่วยงานไหนให้ความช่วยเหลือ เมื่อผู้สื่อข่าวไปถึงพบนายชาญ กันทะเนตร อายุ 50 ปี ซึ่งพิการเดินไม่ได้ต้องใช้วิธีคลานไปตามพื้นรอบบ้านโดยบนบ้านบริเวณมีแม่ อุ้ยติ๊บ กันทะเนตร วัย 87 ปี นอนอยู่บนที่นอนผืนเล็กๆ พอตัว ส่วนที่ด้านข้างมีพ่ออุ้ยติ๊บ กันทะเนตร วัย 98 ปี (ชื่อเหมือนภรรยา) นั่งเหยียดขาข้างซ้ายไปข้างหน้า ชันเขาขวา นายชาญ กันทะเนตร หนุ่มใหญ่วัย 50 ปี กล่าวว่า เมื่ออายุ 19 ปีล้มป่วยหนักไปรักษาที่โรงพยาบาล หมอบอกว่าตัวจี๊ดเข้าไขสันหลังและขึ้นสมอง โดยหมอสันนิฐานว่ามาจากการกินอาหารสุกๆ ดิบ คือ ลาบดิบ และหอยโข่งที่หาได้ตามลำห้วยในหมู่บ้าน หลังจากรักษาหายขาทั้งสองข้างก็อ่อนแรง จนไม่สามารถเดินได้ แต่ก็ยังสามารถหารายได้ด้วยการรับจ้างจักสานสุ่มไก่ จักตอกให้เพื่อนบ้านแลกเงินเลี้ยงชีพได้ นอกจากนี้ยังช่วยเพื่อนบ้านซ่อมรถจักรยานยนต์พอมีรายได้ประทังชีวิตเลี้ยงดูทั้ง3คนพ่อลูก นายชาญ กันทะเนตร หนุ่มใหญ่วัย 50 ปี นั่งบนรถสามล้อโยกนายชาญ กล่าต่อว่า ครอบครัวตนมีพี่น้องเป็นชายทั้ง 3 คน พี่คนโตอยู่ที่ ต.ทุ่งกล้วย อ.ภูซาง จ.พะเยา มีครอบครัวแล้วแต่ไม่สามารถมาจุนเจือพ่อแม่ได้เพราะฐานะยากจน ตนเป็นคนที่สองที่อยู่กับพ่อแม่ และมีน้องชายอีกคนมีครอบครัวอยู่ที่ อ.ปง จงพะเยา ซึ่งก็ทุกข์ยากเหมือนกัน ลำพังช่วงที่คนเฒ่าทั้งสองคนยังสามารถเดินได้ปกติตนก็ยังพอเลี้ยงดูได้ตาม ประสาอดมื้อกินมื้อ เพราะรายได้ไม่แน่นอน ประมาณ 10 ปีที่แล้ว พ่ออุ้ยตกบันไดบ้าน ขณะจะลงไปดายหญ้าบริเวณบ้าน หลังจากส่งรักษาที่ รพ.เชียงคำ หมอบอกว่าสะโพกหลุด กลายเป็นคนพิการเดินไม่ได้ และเมื่อปีที่แล้วแม่ก็ล้มป่วยชักต้องส่งโรงพยาบาล หมอบอกว่าเป็นเยื่อหุ้มสมองอักเสบ พอรักษาหายก็เดินไม่ได้อีกคน ถึงตรงนี้ตนต้องเลี้ยงดูปรนนิบัติพ่อแม่ที่พิการเดินไม่ได้ถึงสองคน จะไปรับจ้างนอกบ้านก็ไม่ได้เพราะเป็นห่วง โดยเฉพาะแม่นั้นจะเรียกหาตนอยู่ตลอดเวลา ถ้ามองไม่เห็นนานๆ ก็จะเรียก อาจจะกลัวว่าตนจะหนี ทิ้งทั้งสองคนไว้สู้ชีวิตตามลำพัง ถึงตรงนี้เริ่มลำบากเรื่องเงินเลี้ยงชีพเพราะไม่ได้ทำงาน ประกอบกับชาวบ้านที่เคยไหว้วานให้ช่วยจักสานสุ่มไก่ หรือจักสานอื่นๆ ก็ไม่คอยเอาไม้ไผ่มาให้ทำ เพราะรู้ว่าตนไม่มีเวลาเนื่องจากต้องดูแลคนพิการทั้งสองคนอย่างใกล้ชิด นายชาญ กล่าวว่า ทุกวันนี้เช้าขึ้นมาจะไปตลาดด้วยการโยกรถคู่ชีพพร้อมไม้ค้ำยัน ไปซื้อกับข้าวมาทำอาหารให้สองผู้เฒ่า เมื่อทำเสร็จแล้วก็นำมาป้อน ทั้งเช้ากลางวันเย็น ช่วงกลางคืนต้องนอนใกล้กับแม่เพราะแกจะคลำหาตอลดคืน หากคลำไม่เจอก็จะเรียก ส่วนรายได้จากการเลี้ยงชีพมาจาก เงินผู้สูงอายุ ของพ่ออุ้ยได้ 1,500 บาท จากเบื้อยังชีพ 1,000 บาท พิการอีก 500 บาท แม่ได้ 800 ตนได้เบี้ยคนพิการ 500 รวม 2,800 บาทต่อเดือน และได้อาศัยเพื่อนบ้านที่ช่วยเกื้อกูลกันมีอาหารก็นำมาแบ่งด้านนายศักดิ์ ใจชุม ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ฝ่ายปกครอง บ้านทุ่งรวงทอง หมู่ 12 ตำบลร่มเย็น อำเภอเชียงคำ จังหวัดพะเยา กล่าวถึงแนวทางการช่วยเหลือว่า ตอนนี้กำลังทำหนังสือส่งให้ สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดพะเยา ( พมจ.พะเยา)อยู่ เพื่อขอความช่วยเหลือ นอกจากนี้ ทางผู้ใหญ่บ้าน ได้ประชุมหารือกันว่าจะนำสะสมของหมู่บ้านมาช่วยเหลือครอบครัวนี้ ซึ่งอยู่ระหว่างดำเนินการ นายศักดิ์ กล่าว.. ขอบคุณ... http://www.dailynews.co.th/thailand/188312

จัดฟอร์แม็ตข้อความและมัลติมีเดีย

  1. เพิ่ม
  2. เพิ่ม ลบ
  3. เพิ่ม ลบ
  4. เพิ่ม ลบ
  5. เพิ่ม ลบ
  6. เพิ่ม ลบ
  7. เพิ่ม ลบ
  8. เพิ่ม ลบ
  9. เพิ่ม ลบ
  10. ลบ
เลือกการตกแต่งที่ต้องการ

ตกลง ยกเลิก

รายละเอียดการใส่ ลิงค์ รูปภาพ วิดีโอ เพลง (Soundcloud)

Waiting...