“ผัวสาวมาด” วอนอย่าตราหน้าเมียลวงโลก ให้อภัยคนเสี้ยม! ยอมรับน้ำตาตกเมียถูกด่าเป็นคนพิการ
“กรุง สุขสันต์” สามีอดีตนักร้องดัง “สาวมาด เมกะแดนซ์” ขอโทษสังคมวอนทุกคนให้อภัย ไม่อยากให้ตราหน้าเมียลวงโลก ชี้อีกฝ่ายป่วย เรื่องบานปลายเพราะอยากประชดประชัน ยันไม่เอาเรื่องคนเสี้ยม เชื่อทำไปเพราะหลงผิดและเพราะรักสาวมาดมาก ทุกวันนี้ก็ยังให้อยู่ด้วยกัน เผยไม่รับงานโชว์เพราะไม่อยากถูกตราหน้าหากินกับคนพิการไม่เคยขอบัตรคนพิการเพราะไม่อยากให้สาวมาดมีปม
จากกรณีที่อดีตนักร้องดัง “สาวมาด เมกะแดนซ์” ออกมาให้สัมภาษณ์ว่าชีวิตตกต่ำ ถูกสามี “กรุง สุขสันต์” ทอดทิ้งไปมีหญิงอื่น 5 เดือน ต้องไปใช้ชีวิตลำบากในบ้านเช่า จนทำให้กลายเป็นเรื่องสะเทือนใจ มีหลายคนอยากให้ความช่วยเหลือ ก่อนทุกฝ่ายจะพากันเงิบ หลังจากที่ครูเพลง “สัญญาลักษณ์ ดอนศรี” ออกมาเผยความจริงอีกด้านว่าสาวมาดไม่ได้ตกต่ำและสามีไม่ได้ทอดทิ้งแฉซ้ำมีคนคอยจัดฉากอยู่เบื้องหลังหวังผลประโยชน์
ล่าสุดวันนี้ ( 22 พ.ค.) ที่สถานีโทรทัศน์อมรินทร์ทีวี สามีของสาวมาดได้เปิดใจถึงเรื่องดังกล่าว ซึ่งในตอนแรกสาวมาดจะต้องมาด้วยกันแต่ไม่สามารถเลื่อนนัดหมอได้ โดยกรุงเปิดใจขอโทษสังคมแทนเมีย อีกทั้งยังขอโทษแทนคนที่เสี้ยมสาวมาดคาดอีกฝ่ายคงหลงผิดเพราะรักสาวมาดมาก “วันนี้สาวมาดไปฉีดยาที่เสรีไทยครับ คุณหมอนัดเวลาเดียวกันเลยไม่ได้มาครับ ก็ทราบว่าต้องมาด้วยกัน ก็แจ้งทางรายการแล้วว่าถ้าไม่สะดวกวันนี้ก็พรุ่งนี้ก็ได้จะได้มาด้วยกันแต่ว่าเขาไม่ไปฉีดยาไม่ได้”
“สาวมาดเขาก็เป็นคนป่วยคนหนึ่งครับ แต่ก่อนอื่นต้องกราบประทานอภัยด้วยสำหรับแฟนเพลงของสาวมาดที่เรื่องมันออกมาในลักษณะนี้ ผมเห็นผมยังอึ้งเลย เขาก็น้อยใจผมครับ ที่จริงก็เป็นการทะเลาะกันของคู่สามีภรรยา ก็ประชดประชันกัน การประชดครั้งนี้มันก็มีที่ อ.สัญญาลักษณ์ ดอนศรี ออกมาพูดผ่านไลฟ์สดที่เป็นข่าว ก็ผิดที่ไม่ห้าม เขาตามใจสาวมาด รักกันมากเหมือนพี่น้อง ก็เลยเกิดเป็นเรื่องเป็นราว ผมดูทีวีตอนแรกก็อึ้ง พูดไม่ออก ไม่อยากคุยกับใครทั้งนั้น จนเรื่องมันใหญ่โต ผมเลยบอกงั้นพอก่อนเถอะ กลับบ้านก่อน ส่วนคนที่พูดเสี้ยมผมไม่อยากพูดถึงเขาก็ได้หนีไปผมก็ไปรับสาวมาดกลับมาที่บ้านเหมือนเดิม”
ยันทุกวันนี้ก็อยู่ด้วยกัน คาดอีกฝ่ายน้อยใจ เผยหลังตกเป็นข่าวใหญ่ สาวมาดตกใจคิดจะหนี แต่ตนห้ามไว้ แนะให้ออกมาขอโทษสังคม “ไม่เลยครับ จริงๆ ที่ทะเลาะกันคือผมมาทำภาพยนตร์เรื่องอีปึก อัศจรรย์วันแห่งศรัทธา เรื่องนี้ผมก็ทำเองหมดทุกอย่าง ก็เลยมาอยู่กรุงเทพฯ 2 - 3 วันกลับที แล้วที่มีเรื่องคือวันนั้นเขาจะมารายการข่าวอะไรไม่รู้ แล้วพอดีผมจะนัดห้องเสียงที่รามอินทราไว้ เขาก็เลยหาว่าผมไม่ใส่ใจ นักข่าวก็เลยมารับไปพอมารับไปเขาก็เลยประชดประชันเลยที่บอกว่าทิ้ง5เดือนก็ไม่ใช่เลยครับ”
“ตอนนี้อยู่บ้านที่เสาไห้ครับ ปัจจุบันก็อยู่ด้วยกัน เราก็คุยกันครับ ก็บอกทำไมทำแบบนี้ เขาก็บอกน้อยใจ ไม่คิดว่าจะใหญ่โตขนาดนี้ ผมก็ว่าตอนแรกเขาจะหนี ผมก็บอกมาเลย มันหลอกลวงสังคม มาขอโทษสังคมซะ เพราะว่ามันขัดแย้งกับข่าวที่ออกไป พอว่าผมทิ้งมา 5 เดือน อดอยาก คือก็ยังมี บ้านก็ยังมีครับ ผมก็ไม่เคยทิ้งเขาทุกวันนี้ก็ดูแลอยู่เหมือนเดิม”
รับมีคนเสี้ยมแต่ไม่ขอพูดรายละเอียด อยากให้จบๆ ไป “มีคนหวังดีประสงค์ร้าย เรื่องคนเสี้ยมผมขอไม่พูดดีกว่า เดี๋ยวเรื่องมันจะยาวกันไปใหญ่ เอาจบแค่นี้ก็พอ ต่อไปผมจะดูแลสาวมาดให้ดีกว่านี้ เวลาเราทำงานก็คนนี้แหละครับ เพื่อนเขานี่แหละ เห็นข่าวก็สงสารเขา เพราะมีคลิปที่เขาพูดแทนสาวมาด มีการแย่งโทรศัพท์ อาจารย์เขาก็เลยคิดว่าคนนี้แหละเป็นคนวางแผนเสี้ยม เขาก็ร้องห่มร้องไห้ว่าไม่เคยคิดอะไร เพราะเขาเป็นคนซื่อๆ เราก็เลยบอกถ้าไม่ได้คิดอะไรก็กลับมา เดี๋ยวผมจะคุยให้ (เรื่องบานปลายจนมีคนช่วยเหลือเรื่องเงิน?) ถ้ามีคนเขามาช่วยเหลือเรื่องเงินสงสัยคราวนี้ซวยกันทั้งหมดเลยดีนะที่ผมโทร.ไประงับก่อนว่าอย่าทำแบบนี้เลยพอเถอะ”
คาดมือเสี้ยมทำไปเพราะตามใจสาวมาด รับทุกวันนี้ยังอยู่ด้วย อยากทำอะไรก็ทำ ไม่หวั่นประวัติศาสตร์ซ้ำรอย “ผมคิดว่าเขาคงจะตามใจสาวมาดมากกว่า ฝั่งนี้ก็จะคิดว่าประชดผม ตัวเองไม่มีรถ จะไปออกรายการทีวี แล้วผมเอารถมาทำงาน เขาก็คงคิดว่าไม่มีรถเหรอ จน อะไรประมาณนี้ ก็เลยช่วยเหลือเขา เขาก็ประชดแต่คงไม่คิดว่าจะใหญ่โตขนาดนี้ (คนเสี้ยมยังอยู่มั้ย?) อยู่ครับ ก็อยู่ดูแลกัน ถามว่ากลัวเขาจะเสี้ยมอีกมั้ย ผมเป็นคนสบายๆ ใครจะทำอะไรก็ทำเถอะ”
“ถ้าทำอีกตอนนี้ก็แล้วแต่เวรแต่กรรมแล้ว แต่เราก็บอกไว้แล้วว่าเรื่องบางเรื่องคิดว่ามันเป็นเรื่องเล็ก มันไม่ใช่นะ เราอยู่ในสถานะแบบนี้ก็จริง แต่เวลาเป็นข่าวมามันลำบาก เขาก็ยอมฟัง เขาก็รักสาวมาดนะ ก็อยู่ดูแลกัน ถามว่าเราไว้ใจเขาหรือเปล่า เขาช่วยสาวมาดได้เยอะอยู่ ทั้งออกกำลังกาย แล้วเขาก็รักกันดี ถ้าไม่มีเขาสักคนสาวมาดก็คงจะเหงา เพราะผมก็ต้องมาทำงาน ถ้าให้อยู่บ้านด้วยกันก็ไม่มีคนทำงาน เขาอาจแค่เจตนาผิดไป ก็ประมาณว่าหลงผิดนิดๆ ตามใจสาวมาดมากรักมาก”
วอนสังคมให้อภัยทั้งสาวมาดและคนเสี้ยมสาวมาด "คุย ทุกวันนี้ก็คุยกันดีอยู่ ก่อนที่ผมจะออกมาทำงานก็คุยกันดี ตัวเขาก็ดูแลผมดีด้วย บางทีก็ถามไถ่กินข้าวหรือยัง เราก็ไม่อยากให้เขาเป็นแบบนี้ ผิดไปแล้วก็ขอให้สังคมอภัยคนสองคนนี้นะครับ ผมขอประทานโทษแทนแล้วกัน ห้องพักที่ไปเช่าอยู่ เป็นที่พี่สาวเขาอยู่ ตอนแรกก็จะไปเที่ยวไปหาพี่สาวก็มีแผนอะไรไม่รู้ถึงทำแบบนี้ผมก็ยังงง”
ยันไม่ได้ตกอับถึงขนาดอยู่ห้องเช่า ย้ำอีกครั้งไม่ได้ทอดทิ้ง ถ้าจะทิ้งคงทิ้งไปนานแล้ว “ไม่ใช่ครับ ถ้าตกอับจริงๆ ก็คงนานแล้วละผมว่า แต่ผมก็ไม่เคยพามาอยู่แบบนี้ อย่างน้อยๆก็ดูแลกัน ที่ผ่านมาก็ลำบากจนบางครั้งตังค์ซื้อข้าวก็ไม่มี แต่ผมก็ให้เขากินนะ ตอนตกงานก็มีผมกับน้องแม่บ้านคนเก่า แต่ผมก็พยายามพยุงครอบครัวให้อยู่เหมือนเดิมตอนนี้ก็ได้ทำภาพยนตร์แล้วอะไรๆมันก็น่าจะดีขึ้น”
“ที่สังคมว่าผมทิ้งเขา ถ้าทิ้งเขาใครจะดู ถ้าจะทิ้งผมทิ้งไปนานแล้ว ไม่มาดูแลกันตั้งแต่ป่วยมา 4 ปีกว่าแล้ว ถ้าจะทิ้งก็คงไปตั้งแต่เริ่มแรกแล้วไม่อยู่รอถึงขนาดหรอกครับ ก็ขอบคุณสำหรับท่านที่หวังดีด้วย ยังไงก็ฝากขอโทษแทนสาวมาดด้วยแล้วกัน”
สงสารถูกมองลวงโลก เพิ่งผ่าตัดเปิดสมอง มีความจำที่เลอะเลือน “ผมฝากขอโทษก็เพราะหลายคนจะมองว่ามันเป็นประมาณนี้ ผมก็สงสารเขา เขาคิดไม่ถึงว่าเรื่องมันจะขนาดนี้ คนที่อยู่ใกล้ๆ ตัวเขาน้าเขาก็ไม่ยอมเตือนกัน ปล่อยให้เป็นแบบนี้ได้ยังไง ผมก็สอนไปแล้ว ตอนนี้กะโหลกของเขายังเปิดอยู่ ผ่าตัดสมองมา 3 ครั้งแล้ว ก็อาจจะมีเลอะเลือนไปนิดหนึ่งครับ”
“สุขภาพดีทุกอย่าง เหลือแต่กายภาพด้านซ้าย มีโอกาสกลับมาเดินได้สูงถ้าเขาขยันขยับตัว ลดน้ำหนักลงมาอีกนิด อาการทางสมองบางทีก็สมบูรณ์ บางทีก็ไม่รู้อะไรเข้ามาบ้าง สั่งของออนไลน์โน่นนี่มาเยอะแยะเอาเรื่องอยู่เหมือนกัน” ค่าใช้จ่ายสูงเดือนละ 4 หมื่น หาคนเดียวก็ลำบาก แต่ไม่เคยเรียกร้องจากใคร “ก็เยอะอยู่เหมือนกันครับ รวมค่าน้ำค่าไฟ ก็ 3 - 4 หมื่นเหมือนกัน ตอนนี้เราก็หาคนเดียวมันก็พอบ้างไม่พอบ้างก็ถูไถกันไปเรื่อยๆ เพราะที่บ้านก็มีบ่อปลา ปลูกผักหากินกันไปก็พอไหวอยู่ครับ ที่ดูแลสาวมาดมาก็ไม่เคยเรียกร้องขอคอนเสิร์ตมาช่วยหรือขอบริจาคจากใคร”
ป้องครูเพลงแค่ห่วงใย ไม่อยากให้ใครมองสาวมาดไม่ดี “เขาก็เป็นห่วงครับ ว่ามีข่าวแบบนี้ได้ยังไง เพราะเขาเพิ่งมาบ้าน แล้วผมเอาเขามาเล่นหนังด้วย เขาก็เห็นอยู่ว่าสาวมาดก็มีบ้านอยู่ ไม่น่าทำแบบนี้ เหมือนลวงโลกลวงประชาชนแฟนเพลงที่เขารักเขาเมตตาเราเรามาทำแบบนี้มันน่าเกลียด”
ยันไม่คิดเอาหนังมาสร้างกระแสแบบนี้ “ผมกลัวทุกอย่างเลย ตอนแรกผมพูดไม่ออกเลย ขอยืนยันเลยว่าไม่มีการสร้างกระแส และไม่เคยคิดเอาหนังมาสร้างกระแสแบบนี้ เพราะทีมพีอาร์เราก็มี ก็ถ้าอีกฝ่ายจะออกมาให้สัมภาษณ์สวนทางกันก็แล้วแต่เขาครับ ผมไม่ได้ว่าอะไร ผมพูดความจริง ผมผิดก็คงผิดที่ออกมาทำงานไม่ได้ดูแลเขา แต่ก็ไม่กี่วัน แต่ผมว่าเขาคงไม่ออกมาพูดแล้วมั้ง คงจะจบ (เคยท้อ ถอดใจเรื่องดูแลเขามั้ย?) ผมก็ท้อบ้าง ตอนนี้ก็กลับบ้านบ่อยขึ้นตอนนี้หนังก็เหลือขั้นตอนการไล่สีอีกนิดหนึ่งแล้วก็เสียงก็คงจะกลับไปอยู่บ้านเหมือนเดิม”
ไม่ขอบัตรคนพิการเพราะอยากให้สาวมาดเป็นคนปกติ เผยไม่อยากให้มีปม “กางเกงมันก็มีขาดมั่งครับ แต่รถเข็นก็พอใช้ได้ก็ใช้กันไปก่อน มันก็ไม่ได้อัตคัดที่ต้องไปขอจากใคร ก็มีคนยื่นมือมาให้ความช่วยเหลือ กรมประชาสงเคราะห์ก็เพิ่งเข้ามา ที่ตอนแรกๆ ไม่มีใครเข้ามาเพราะผมไม่ขอบัตรคนพิการให้เขา ไม่ขอสิทธิคนพิการให้เขา เพราะผมอยากให้เขารู้สึกว่าเขาไม่ได้พิการ เป็นคนปกติ เราไม่อยากขอเพราะกลัวจะเป็นปมให้เขา คนอื่นผมไม่ได้แคร์อยู่แล้ว”
“ตอนข่าวออกมาโดนว่าเยอะแยะครับ เราก็แบบตายแล้วจะเดินไปทางไหนได้ ในคอมเมนต์ที่เปิดอ่านก็ด่าแรงเหมือนกัน แต่ก็เป็นเรื่องธรรมดาสังคมไทย เรื่องแบบนี้ก็ชอบด่าไอผู้ชายเลว เรื่องดีๆ เขามองไม่ค่อยเห็นเท่าไหร่ ตอนนี้บอกเขาแล้วให้หยุดให้ข่าว พอแล้ว ถ้าไม่หยุดคราวนี้ไปจริงนะ (หัวเราะ) เราอยู่บ้านก็เล่นกันตลก สนุกสนานเฮฮา ไม่ได้เครียดผมยังงงเลยตอนออกมาเป็นข่าวเราก็จะดูแลกันไปเรื่อยๆครับ”
อาการป่วยดีขึ้น 70 เปอร์เซ็นต์ พาไปร้องเพลงคลายเครียด เผยเคยน้ำตาตกสาวมาดถูกด่าเป็นคนพิการ “ก็ประมาณ 70 เปอร์เซ็นต์แล้ว เหลือแขนขา ก็กายภาพกันไป แต่จะกลับมา 100 เปอร์เซ็นต์คนจะไม่ได้ แต่มา 90 ก็ยังดี ช่วยเหลือตัวเองได้ตอนนี้ยังช่วยเหลือตัวเองไม่ได้เข้าห้องน้ำก็ยังต้องอุ้มต้องยกกันอยู่เหมือนเดิม”
“ก็มีพาไปร้องเพลงคลายเครียดบ้าง แต่ไปเล่นคอนเสิร์ตเหมือนเดิมคงไม่ไหว มีคนมาจ้างเหมือนกันแต่ผมไม่ให้ไป คือผมไปเจองานหนึ่งที่สาวมาดขึ้นเวลา แล้วคนกินเหล้ากันเขาตะโกนขึ้นไป ว่าเอาคนพิการมาร้องเพลงให้กูฟังทำไม เราก็น้ำตาตกเลย หลังจากนั้นมาก็ไม่เคยรับงานให้สาวมาดอีกเลย หลังจากนี้จะให้ออกรายการคู่กันก็ออกได้ครับ แต่วันนี้ขอเลื่อนเพราะลืมไปว่าหมอนัด”
ขอบคุณ... http://www.manager.co.th/Entertainment/ViewNews.aspx?NewsID=9600000051955 (ขนาดไฟล์: 174)
แสดงความคิดเห็น
รายละเอียดกระทู้
กรุง สุขสันต์ สามีอดีตนักร้องดัง สาวมาด เมกะแดนซ์ “กรุง สุขสันต์” สามีอดีตนักร้องดัง “สาวมาด เมกะแดนซ์” ขอโทษสังคมวอนทุกคนให้อภัย ไม่อยากให้ตราหน้าเมียลวงโลก ชี้อีกฝ่ายป่วย เรื่องบานปลายเพราะอยากประชดประชัน ยันไม่เอาเรื่องคนเสี้ยม เชื่อทำไปเพราะหลงผิดและเพราะรักสาวมาดมาก ทุกวันนี้ก็ยังให้อยู่ด้วยกัน เผยไม่รับงานโชว์เพราะไม่อยากถูกตราหน้าหากินกับคนพิการไม่เคยขอบัตรคนพิการเพราะไม่อยากให้สาวมาดมีปม จากกรณีที่อดีตนักร้องดัง “สาวมาด เมกะแดนซ์” ออกมาให้สัมภาษณ์ว่าชีวิตตกต่ำ ถูกสามี “กรุง สุขสันต์” ทอดทิ้งไปมีหญิงอื่น 5 เดือน ต้องไปใช้ชีวิตลำบากในบ้านเช่า จนทำให้กลายเป็นเรื่องสะเทือนใจ มีหลายคนอยากให้ความช่วยเหลือ ก่อนทุกฝ่ายจะพากันเงิบ หลังจากที่ครูเพลง “สัญญาลักษณ์ ดอนศรี” ออกมาเผยความจริงอีกด้านว่าสาวมาดไม่ได้ตกต่ำและสามีไม่ได้ทอดทิ้งแฉซ้ำมีคนคอยจัดฉากอยู่เบื้องหลังหวังผลประโยชน์ ล่าสุดวันนี้ ( 22 พ.ค.) ที่สถานีโทรทัศน์อมรินทร์ทีวี สามีของสาวมาดได้เปิดใจถึงเรื่องดังกล่าว ซึ่งในตอนแรกสาวมาดจะต้องมาด้วยกันแต่ไม่สามารถเลื่อนนัดหมอได้ โดยกรุงเปิดใจขอโทษสังคมแทนเมีย อีกทั้งยังขอโทษแทนคนที่เสี้ยมสาวมาดคาดอีกฝ่ายคงหลงผิดเพราะรักสาวมาดมาก “วันนี้สาวมาดไปฉีดยาที่เสรีไทยครับ คุณหมอนัดเวลาเดียวกันเลยไม่ได้มาครับ ก็ทราบว่าต้องมาด้วยกัน ก็แจ้งทางรายการแล้วว่าถ้าไม่สะดวกวันนี้ก็พรุ่งนี้ก็ได้จะได้มาด้วยกันแต่ว่าเขาไม่ไปฉีดยาไม่ได้” “สาวมาดเขาก็เป็นคนป่วยคนหนึ่งครับ แต่ก่อนอื่นต้องกราบประทานอภัยด้วยสำหรับแฟนเพลงของสาวมาดที่เรื่องมันออกมาในลักษณะนี้ ผมเห็นผมยังอึ้งเลย เขาก็น้อยใจผมครับ ที่จริงก็เป็นการทะเลาะกันของคู่สามีภรรยา ก็ประชดประชันกัน การประชดครั้งนี้มันก็มีที่ อ.สัญญาลักษณ์ ดอนศรี ออกมาพูดผ่านไลฟ์สดที่เป็นข่าว ก็ผิดที่ไม่ห้าม เขาตามใจสาวมาด รักกันมากเหมือนพี่น้อง ก็เลยเกิดเป็นเรื่องเป็นราว ผมดูทีวีตอนแรกก็อึ้ง พูดไม่ออก ไม่อยากคุยกับใครทั้งนั้น จนเรื่องมันใหญ่โต ผมเลยบอกงั้นพอก่อนเถอะ กลับบ้านก่อน ส่วนคนที่พูดเสี้ยมผมไม่อยากพูดถึงเขาก็ได้หนีไปผมก็ไปรับสาวมาดกลับมาที่บ้านเหมือนเดิม” สาวมาด เมกะแดนซ์ อดีตนักร้องดัง ยันทุกวันนี้ก็อยู่ด้วยกัน คาดอีกฝ่ายน้อยใจ เผยหลังตกเป็นข่าวใหญ่ สาวมาดตกใจคิดจะหนี แต่ตนห้ามไว้ แนะให้ออกมาขอโทษสังคม “ไม่เลยครับ จริงๆ ที่ทะเลาะกันคือผมมาทำภาพยนตร์เรื่องอีปึก อัศจรรย์วันแห่งศรัทธา เรื่องนี้ผมก็ทำเองหมดทุกอย่าง ก็เลยมาอยู่กรุงเทพฯ 2 - 3 วันกลับที แล้วที่มีเรื่องคือวันนั้นเขาจะมารายการข่าวอะไรไม่รู้ แล้วพอดีผมจะนัดห้องเสียงที่รามอินทราไว้ เขาก็เลยหาว่าผมไม่ใส่ใจ นักข่าวก็เลยมารับไปพอมารับไปเขาก็เลยประชดประชันเลยที่บอกว่าทิ้ง5เดือนก็ไม่ใช่เลยครับ” “ตอนนี้อยู่บ้านที่เสาไห้ครับ ปัจจุบันก็อยู่ด้วยกัน เราก็คุยกันครับ ก็บอกทำไมทำแบบนี้ เขาก็บอกน้อยใจ ไม่คิดว่าจะใหญ่โตขนาดนี้ ผมก็ว่าตอนแรกเขาจะหนี ผมก็บอกมาเลย มันหลอกลวงสังคม มาขอโทษสังคมซะ เพราะว่ามันขัดแย้งกับข่าวที่ออกไป พอว่าผมทิ้งมา 5 เดือน อดอยาก คือก็ยังมี บ้านก็ยังมีครับ ผมก็ไม่เคยทิ้งเขาทุกวันนี้ก็ดูแลอยู่เหมือนเดิม” รับมีคนเสี้ยมแต่ไม่ขอพูดรายละเอียด อยากให้จบๆ ไป “มีคนหวังดีประสงค์ร้าย เรื่องคนเสี้ยมผมขอไม่พูดดีกว่า เดี๋ยวเรื่องมันจะยาวกันไปใหญ่ เอาจบแค่นี้ก็พอ ต่อไปผมจะดูแลสาวมาดให้ดีกว่านี้ เวลาเราทำงานก็คนนี้แหละครับ เพื่อนเขานี่แหละ เห็นข่าวก็สงสารเขา เพราะมีคลิปที่เขาพูดแทนสาวมาด มีการแย่งโทรศัพท์ อาจารย์เขาก็เลยคิดว่าคนนี้แหละเป็นคนวางแผนเสี้ยม เขาก็ร้องห่มร้องไห้ว่าไม่เคยคิดอะไร เพราะเขาเป็นคนซื่อๆ เราก็เลยบอกถ้าไม่ได้คิดอะไรก็กลับมา เดี๋ยวผมจะคุยให้ (เรื่องบานปลายจนมีคนช่วยเหลือเรื่องเงิน?) ถ้ามีคนเขามาช่วยเหลือเรื่องเงินสงสัยคราวนี้ซวยกันทั้งหมดเลยดีนะที่ผมโทร.ไประงับก่อนว่าอย่าทำแบบนี้เลยพอเถอะ” คาดมือเสี้ยมทำไปเพราะตามใจสาวมาด รับทุกวันนี้ยังอยู่ด้วย อยากทำอะไรก็ทำ ไม่หวั่นประวัติศาสตร์ซ้ำรอย “ผมคิดว่าเขาคงจะตามใจสาวมาดมากกว่า ฝั่งนี้ก็จะคิดว่าประชดผม ตัวเองไม่มีรถ จะไปออกรายการทีวี แล้วผมเอารถมาทำงาน เขาก็คงคิดว่าไม่มีรถเหรอ จน อะไรประมาณนี้ ก็เลยช่วยเหลือเขา เขาก็ประชดแต่คงไม่คิดว่าจะใหญ่โตขนาดนี้ (คนเสี้ยมยังอยู่มั้ย?) อยู่ครับ ก็อยู่ดูแลกัน ถามว่ากลัวเขาจะเสี้ยมอีกมั้ย ผมเป็นคนสบายๆ ใครจะทำอะไรก็ทำเถอะ” “ถ้าทำอีกตอนนี้ก็แล้วแต่เวรแต่กรรมแล้ว แต่เราก็บอกไว้แล้วว่าเรื่องบางเรื่องคิดว่ามันเป็นเรื่องเล็ก มันไม่ใช่นะ เราอยู่ในสถานะแบบนี้ก็จริง แต่เวลาเป็นข่าวมามันลำบาก เขาก็ยอมฟัง เขาก็รักสาวมาดนะ ก็อยู่ดูแลกัน ถามว่าเราไว้ใจเขาหรือเปล่า เขาช่วยสาวมาดได้เยอะอยู่ ทั้งออกกำลังกาย แล้วเขาก็รักกันดี ถ้าไม่มีเขาสักคนสาวมาดก็คงจะเหงา เพราะผมก็ต้องมาทำงาน ถ้าให้อยู่บ้านด้วยกันก็ไม่มีคนทำงาน เขาอาจแค่เจตนาผิดไป ก็ประมาณว่าหลงผิดนิดๆ ตามใจสาวมาดมากรักมาก” วอนสังคมให้อภัยทั้งสาวมาดและคนเสี้ยมสาวมาด "คุย ทุกวันนี้ก็คุยกันดีอยู่ ก่อนที่ผมจะออกมาทำงานก็คุยกันดี ตัวเขาก็ดูแลผมดีด้วย บางทีก็ถามไถ่กินข้าวหรือยัง เราก็ไม่อยากให้เขาเป็นแบบนี้ ผิดไปแล้วก็ขอให้สังคมอภัยคนสองคนนี้นะครับ ผมขอประทานโทษแทนแล้วกัน ห้องพักที่ไปเช่าอยู่ เป็นที่พี่สาวเขาอยู่ ตอนแรกก็จะไปเที่ยวไปหาพี่สาวก็มีแผนอะไรไม่รู้ถึงทำแบบนี้ผมก็ยังงง” ยันไม่ได้ตกอับถึงขนาดอยู่ห้องเช่า ย้ำอีกครั้งไม่ได้ทอดทิ้ง ถ้าจะทิ้งคงทิ้งไปนานแล้ว “ไม่ใช่ครับ ถ้าตกอับจริงๆ ก็คงนานแล้วละผมว่า แต่ผมก็ไม่เคยพามาอยู่แบบนี้ อย่างน้อยๆก็ดูแลกัน ที่ผ่านมาก็ลำบากจนบางครั้งตังค์ซื้อข้าวก็ไม่มี แต่ผมก็ให้เขากินนะ ตอนตกงานก็มีผมกับน้องแม่บ้านคนเก่า แต่ผมก็พยายามพยุงครอบครัวให้อยู่เหมือนเดิมตอนนี้ก็ได้ทำภาพยนตร์แล้วอะไรๆมันก็น่าจะดีขึ้น” “ที่สังคมว่าผมทิ้งเขา ถ้าทิ้งเขาใครจะดู ถ้าจะทิ้งผมทิ้งไปนานแล้ว ไม่มาดูแลกันตั้งแต่ป่วยมา 4 ปีกว่าแล้ว ถ้าจะทิ้งก็คงไปตั้งแต่เริ่มแรกแล้วไม่อยู่รอถึงขนาดหรอกครับ ก็ขอบคุณสำหรับท่านที่หวังดีด้วย ยังไงก็ฝากขอโทษแทนสาวมาดด้วยแล้วกัน” สงสารถูกมองลวงโลก เพิ่งผ่าตัดเปิดสมอง มีความจำที่เลอะเลือน “ผมฝากขอโทษก็เพราะหลายคนจะมองว่ามันเป็นประมาณนี้ ผมก็สงสารเขา เขาคิดไม่ถึงว่าเรื่องมันจะขนาดนี้ คนที่อยู่ใกล้ๆ ตัวเขาน้าเขาก็ไม่ยอมเตือนกัน ปล่อยให้เป็นแบบนี้ได้ยังไง ผมก็สอนไปแล้ว ตอนนี้กะโหลกของเขายังเปิดอยู่ ผ่าตัดสมองมา 3 ครั้งแล้ว ก็อาจจะมีเลอะเลือนไปนิดหนึ่งครับ” “สุขภาพดีทุกอย่าง เหลือแต่กายภาพด้านซ้าย มีโอกาสกลับมาเดินได้สูงถ้าเขาขยันขยับตัว ลดน้ำหนักลงมาอีกนิด อาการทางสมองบางทีก็สมบูรณ์ บางทีก็ไม่รู้อะไรเข้ามาบ้าง สั่งของออนไลน์โน่นนี่มาเยอะแยะเอาเรื่องอยู่เหมือนกัน” ค่าใช้จ่ายสูงเดือนละ 4 หมื่น หาคนเดียวก็ลำบาก แต่ไม่เคยเรียกร้องจากใคร “ก็เยอะอยู่เหมือนกันครับ รวมค่าน้ำค่าไฟ ก็ 3 - 4 หมื่นเหมือนกัน ตอนนี้เราก็หาคนเดียวมันก็พอบ้างไม่พอบ้างก็ถูไถกันไปเรื่อยๆ เพราะที่บ้านก็มีบ่อปลา ปลูกผักหากินกันไปก็พอไหวอยู่ครับ ที่ดูแลสาวมาดมาก็ไม่เคยเรียกร้องขอคอนเสิร์ตมาช่วยหรือขอบริจาคจากใคร” ป้องครูเพลงแค่ห่วงใย ไม่อยากให้ใครมองสาวมาดไม่ดี “เขาก็เป็นห่วงครับ ว่ามีข่าวแบบนี้ได้ยังไง เพราะเขาเพิ่งมาบ้าน แล้วผมเอาเขามาเล่นหนังด้วย เขาก็เห็นอยู่ว่าสาวมาดก็มีบ้านอยู่ ไม่น่าทำแบบนี้ เหมือนลวงโลกลวงประชาชนแฟนเพลงที่เขารักเขาเมตตาเราเรามาทำแบบนี้มันน่าเกลียด” ยันไม่คิดเอาหนังมาสร้างกระแสแบบนี้ “ผมกลัวทุกอย่างเลย ตอนแรกผมพูดไม่ออกเลย ขอยืนยันเลยว่าไม่มีการสร้างกระแส และไม่เคยคิดเอาหนังมาสร้างกระแสแบบนี้ เพราะทีมพีอาร์เราก็มี ก็ถ้าอีกฝ่ายจะออกมาให้สัมภาษณ์สวนทางกันก็แล้วแต่เขาครับ ผมไม่ได้ว่าอะไร ผมพูดความจริง ผมผิดก็คงผิดที่ออกมาทำงานไม่ได้ดูแลเขา แต่ก็ไม่กี่วัน แต่ผมว่าเขาคงไม่ออกมาพูดแล้วมั้ง คงจะจบ (เคยท้อ ถอดใจเรื่องดูแลเขามั้ย?) ผมก็ท้อบ้าง ตอนนี้ก็กลับบ้านบ่อยขึ้นตอนนี้หนังก็เหลือขั้นตอนการไล่สีอีกนิดหนึ่งแล้วก็เสียงก็คงจะกลับไปอยู่บ้านเหมือนเดิม” ไม่ขอบัตรคนพิการเพราะอยากให้สาวมาดเป็นคนปกติ เผยไม่อยากให้มีปม “กางเกงมันก็มีขาดมั่งครับ แต่รถเข็นก็พอใช้ได้ก็ใช้กันไปก่อน มันก็ไม่ได้อัตคัดที่ต้องไปขอจากใคร
จัดฟอร์แม็ตข้อความและมัลติมีเดีย
รายละเอียดการใส่ ลิงค์ รูปภาพ วิดีโอ เพลง (Soundcloud)