'อดุลย์'ยกย่องดาบตำรวจพิการสู้ชีวิต สั่งให้ ๒ ขั้น-ช่วยเหลือเต็มที่

แสดงความคิดเห็น

ด.ต.สุรีย์ ฮามีดี อายุ ๔๕ ปี ตำแหน่ง ผบ.หมู่งานสืบสวน สภ.เมืองนครศรีธรรมราชประสบอุบัติเหตุถูกไฟฟ้าช็อต จนต้องตัดแขนเกือบถึงข้อศอกทั้งสองข้าง และตัดขาข้างขวาตั้งแต่เหนือเข่าขึ้นมาเล็กน้อย จนกลายเป็นคนพิการ "อดุลย์ "ประชุมวิดีโอคอนเฟอเรนซ์พูดคุย "ดาบตำรวจ" เมืองคอน พิการแขน-ขาขาด สู้ชีวิต ถามถึงเงินช่วยเหลือพบว่าน้อยนิด สั่งให้ขึ้นเงินเดือน ๒ ขั้น กำชับหาช่องทางช่วยเหลือให้เหมาะสม ยกย่องเป็นตัวอย่างที่ดีขอให้ตั้งใจทำงานต่อไป...

จากกรณีการนำเสนอ เรื่องราวการสู้ชีวิตของ ด.ต.สุรีย์ ฮามีดี อายุ ๔๕ ปี ตำแหน่ง ผบ.หมู่งานสืบสวน สภ.เมืองนครศรีธรรมราช ที่ประสบอุบัติเหตุถูกไฟฟ้าช็อต จนต้องตัดแขนเกือบถึงข้อศอกทั้งสองข้าง และตัดขาข้างขวาตั้งแต่เหนือเข่าขึ้นมาเล็กน้อย จนกลายเป็นคนพิการ ต้องใช้ขาเทียมในการเดินเหิน ขณะไปประจำสภ.โสร่ง อ.ยะรัง จ.ปัตตานี เมื่อปี ๒๕๓๗ และต่อมาย้ายมาที่ สภ.เมืองนครศรีธรรมราช โดยมีความสามารถในการใช้คอมพิวเตอร์พิมพ์เอกสาร และโปรแกรมคอมพิวเตอร์ได้อย่างเชี่ยวชาญ รวมถึงรับผิดชอบงานเอกสารและธุรการได้เป็นอย่างดี จนเป็นที่ไว้วางใจของผู้บังคับบัญชาและเพื่อนร่วมงาน และยังได้รับการพิจารณาให้ได้รับรางวัลเจ้าหน้าที่ตำรวจปฏิบัติหน้าที่ดี เด่นทั้งระดับโรงพักและระดับจังหวัดหลายครั้ง

ล่าสุด พล.ต.ต.รณพงษ์ ทรายแก้ว ผบก.ภ.จว.นครศรีธรรมราช กล่าวว่า เมื่อช่วงเช้าระหว่างที่ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร. ประชุมข้าราชการตำรวจทั่วประเทศผ่านวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ ได้ขอพูดคุยกับ ด.ต.สุรีย์ โดยได้ทักทายพร้อมสอบถามรายละเอียดต่างๆ กับ ด.ต.สุรีย์ เรื่องการได้รับความช่วยเหลือตามระเบียบของสำนักงานตำรวจแห่งชาติมากน้อยแค่ไหน ซึ่ง ด.ต.สุรีย์ กล่าวกับ ผบ.ตร.ถึงเหตุการณ์ในช่วงเกิดเหตุวันที่ ๑๓ ธ.ค. ๒๕๓๗ ขณะดำรงตำแหน่ง ผบ.หมู่งานป้องกันปราบปราม ประจำ สภ.โสร่ง อ.ยะรัง จ.ปัตตานี ได้รับคำสั่งให้ไปประจำป้อมยามหน้าโรงงานกระเบื้อง หมู่ ๗ ต.เขาตูม อ.ยะรัง จ.ปัตตานี แต่ในขณะปฏิบัติหน้าที่อยู่นั้น วิทยุสื่อสารไม่สามารถติดต่อกับ สภ.ต้นสังกัด และ สภ.ข้างเคียงได้ เนื่องจากมีลมพัดกระโชกและฝนกำลังจะตก จึงปีนขึ้นไปหมุนเสาอากาศวิทยุสื่อสาร และเกิดอุบัติเหตุเสาเกิดล้มไปพาดกับสายไฟฟ้าแรงสูง ทำให้โดนกระแสไฟฟ้าช็อตจนหมดสติ ถูกนำตัวส่ง รพ.ปัตตานี และส่งต่อไปรักษาที่ รพ.ตำรวจและแพทย์ต้องตัดแขนทั้งสองข้างพร้อมขาขวาทิ้ง

ส่วนเงินช่วยเหลือได้จากสมาคมแม่บ้านตำรวจ ๒๐,๐๐๐ บาท สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ๑๐,๐๐๐ บาท และเข้ารับการฝึกฝนคอมพิวเตอร์จนสามารถใช้งานได้เป็นอย่างดี จากนั้นได้ย้ายกลับภูมิลำเนา จ.นครศรีธรรมราช ประจำงานธุรการสืบสวน สภ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ในปี ๒๕๕๔๑

ขณะ ที่ พล.ต.อ.อดุลย์ ได้แสดงความแปลกใจที่ได้รับการช่วยเหลือด้วยเงินเพียงเท่านั้น จึงถามถึงเหตุผลที่ไม่ได้รับการช่วยเหลือเป็นกรณีพิเศษเนื่องจากการปฏิบัติหน้าที่ ด.ต.สุรีย์ กล่าวตอบว่า ทางต้นสังกัดเดิมได้ทำเรื่องไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติขอให้พิจารณาความดี ความชอบในการปฏิบัติหน้าที่ ๓ ขั้นเงินเดือน แต่ไม่ได้รับการอนุมัติ โดยคณะกรรมการของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ให้เหตุผลว่า แม้จะเป็นการปฏิบัติหน้าที่ แต่ถือว่าไม่ใช่หน้าที่ของตนโดยตรง เพราะตนมีหน้าที่ด้านป้องกันปราบปราม แต่การไปหมุนเสาอากาศวิทยุเป็นหน้าที่ของฝ่ายสื่อสาร

พล.ต.ต.อดุลย์ จึงได้หันไปสั่งการให้ฝ่ายกำลังพล สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ดำเนินการช่วยเหลือ ด.ต.สุรีย์ โดยให้ทำการตรวจสอบรายละเอียดต่างๆ เพื่อหาช่องทางช่วยเหลือ ด.ต.สุรีย์ ให้เหมาะสมกับการสูญเสีย เพราะโดยส่วนตัวคิดว่าอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นดังกล่าวเป็นการปฏิบัติหน้าที่ราชการ พร้อมกันนี้ พล.ต.อ.อดุลย์ ยังกล่าวยกย่อง ชื่นชม และให้กำลังใจ ด.ต.สุรีย์ ขอให้ตั้งใจทำงานต่อไป เป็นตัวอย่างแก่ตำรวจทั้งที่มีร่างกายปกติและพิการโดยยืนยันว่าจะให้การดูแลช่วยเหลืออย่างดีที่สุด

นอกจากนี้ ผบ.ตร.ยังสอบถามว่า หลังเกิดเหตุมาจนถึงปัจจุบันได้รับการพิจารณาเลื่อนขั้นเงินเดือน ๒ ขั้นมาแล้วกี่ครั้ง ด.ต.สุรีย์ กล่าวตอบว่า ๓ ครั้ง ทาง พล.ต.อ.อดุลย์ จึงกำชับให้ทางตำรวจภูธรจังหวัดนครศรีธรรมราช และ สภ.เมืองนครศรีธรรมราช ให้พิจารณา ๒ ขั้นให้ ด.ต.สุรีย์ ในปีนี้ด้วย เพราะในภาพรวมการปฏิบัติหน้าที่ประจำ สภ.เมืองนครศรีธรรมราช ๑๕-๑๖ ปี ได้ ๒ ขั้นแค่ ๓ ครั้ง ถือว่าน้อยเกินไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ปัจจุบัน ด.ต.สุรีย์ พักอาศัยอยู่ห้องพักชั้น ๔ แฟลตตำรวจ บก.ภ.จว.นครศรีธรรมราช โดยนำบิดาวัย ๗๕ ปี และมารดาวัย ๗๐ ปีมาอยู่ด้วย มีความเป็นอยู่แบบพอเพียง ภายในห้องไม่มีทรัพย์สินอะไรมากนัก ฝาห้องติดประกาศนียบัตรตำรวจดีเด่น ๓ ปี คือ ประจำปี ๒๕๔๙, ๒๕๕๑ และ ๒๕๕๒ ซึ่งในการใช้ชีวิตประจำวัน ส่วนใหญ่ ด.ต.สุรีย์ สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ และมีมารดาคอยช่วยเหลืออีกแรงหนึ่ง เช่น การสวมใส่เสื้อผ้า รองเท้า เป็นต้น ในขณะที่ห้องพักคับแคบ ภรรยาและลูกชายวัย ๒ ขวบเศษ ๑ คน ของ ด.ต.สุรีย์ จึงไปพักอาศัยอยู่กับพ่อตาแม่ยาย ซึ่งอยู่ไม่ไกลจาก บก.ภ.จว.นครศรีธรรมราช มากนัก.(ไทยรัฐออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย ๙ ก.พ.๕๖)

ที่มา: ไทยรัฐออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย ๙ ก.พ.๕๖
วันที่โพสต์: 27/02/2556 เวลา 06:37:23 ดูภาพสไลด์โชว์ 'อดุลย์'ยกย่องดาบตำรวจพิการสู้ชีวิต สั่งให้ ๒ ขั้น-ช่วยเหลือเต็มที่

แสดงความคิดเห็น

รอตรวจสอบ
จัดฟอร์แม็ต ดูการแสดงผล

รอตรวจสอบ

รอตรวจสอบ

รอตรวจสอบ

ยกเลิก

รายละเอียดกระทู้

ด.ต.สุรีย์ ฮามีดี อายุ ๔๕ ปี ตำแหน่ง ผบ.หมู่งานสืบสวน สภ.เมืองนครศรีธรรมราชประสบอุบัติเหตุถูกไฟฟ้าช็อต จนต้องตัดแขนเกือบถึงข้อศอกทั้งสองข้าง และตัดขาข้างขวาตั้งแต่เหนือเข่าขึ้นมาเล็กน้อย จนกลายเป็นคนพิการ "อดุลย์ "ประชุมวิดีโอคอนเฟอเรนซ์พูดคุย "ดาบตำรวจ" เมืองคอน พิการแขน-ขาขาด สู้ชีวิต ถามถึงเงินช่วยเหลือพบว่าน้อยนิด สั่งให้ขึ้นเงินเดือน ๒ ขั้น กำชับหาช่องทางช่วยเหลือให้เหมาะสม ยกย่องเป็นตัวอย่างที่ดีขอให้ตั้งใจทำงานต่อไป... จากกรณีการนำเสนอ เรื่องราวการสู้ชีวิตของ ด.ต.สุรีย์ ฮามีดี อายุ ๔๕ ปี ตำแหน่ง ผบ.หมู่งานสืบสวน สภ.เมืองนครศรีธรรมราช ที่ประสบอุบัติเหตุถูกไฟฟ้าช็อต จนต้องตัดแขนเกือบถึงข้อศอกทั้งสองข้าง และตัดขาข้างขวาตั้งแต่เหนือเข่าขึ้นมาเล็กน้อย จนกลายเป็นคนพิการ ต้องใช้ขาเทียมในการเดินเหิน ขณะไปประจำสภ.โสร่ง อ.ยะรัง จ.ปัตตานี เมื่อปี ๒๕๓๗ และต่อมาย้ายมาที่ สภ.เมืองนครศรีธรรมราช โดยมีความสามารถในการใช้คอมพิวเตอร์พิมพ์เอกสาร และโปรแกรมคอมพิวเตอร์ได้อย่างเชี่ยวชาญ รวมถึงรับผิดชอบงานเอกสารและธุรการได้เป็นอย่างดี จนเป็นที่ไว้วางใจของผู้บังคับบัญชาและเพื่อนร่วมงาน และยังได้รับการพิจารณาให้ได้รับรางวัลเจ้าหน้าที่ตำรวจปฏิบัติหน้าที่ดี เด่นทั้งระดับโรงพักและระดับจังหวัดหลายครั้ง ล่าสุด พล.ต.ต.รณพงษ์ ทรายแก้ว ผบก.ภ.จว.นครศรีธรรมราช กล่าวว่า เมื่อช่วงเช้าระหว่างที่ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร. ประชุมข้าราชการตำรวจทั่วประเทศผ่านวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ ได้ขอพูดคุยกับ ด.ต.สุรีย์ โดยได้ทักทายพร้อมสอบถามรายละเอียดต่างๆ กับ ด.ต.สุรีย์ เรื่องการได้รับความช่วยเหลือตามระเบียบของสำนักงานตำรวจแห่งชาติมากน้อยแค่ไหน ซึ่ง ด.ต.สุรีย์ กล่าวกับ ผบ.ตร.ถึงเหตุการณ์ในช่วงเกิดเหตุวันที่ ๑๓ ธ.ค. ๒๕๓๗ ขณะดำรงตำแหน่ง ผบ.หมู่งานป้องกันปราบปราม ประจำ สภ.โสร่ง อ.ยะรัง จ.ปัตตานี ได้รับคำสั่งให้ไปประจำป้อมยามหน้าโรงงานกระเบื้อง หมู่ ๗ ต.เขาตูม อ.ยะรัง จ.ปัตตานี แต่ในขณะปฏิบัติหน้าที่อยู่นั้น วิทยุสื่อสารไม่สามารถติดต่อกับ สภ.ต้นสังกัด และ สภ.ข้างเคียงได้ เนื่องจากมีลมพัดกระโชกและฝนกำลังจะตก จึงปีนขึ้นไปหมุนเสาอากาศวิทยุสื่อสาร และเกิดอุบัติเหตุเสาเกิดล้มไปพาดกับสายไฟฟ้าแรงสูง ทำให้โดนกระแสไฟฟ้าช็อตจนหมดสติ ถูกนำตัวส่ง รพ.ปัตตานี และส่งต่อไปรักษาที่ รพ.ตำรวจและแพทย์ต้องตัดแขนทั้งสองข้างพร้อมขาขวาทิ้ง ส่วนเงินช่วยเหลือได้จากสมาคมแม่บ้านตำรวจ ๒๐,๐๐๐ บาท สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ๑๐,๐๐๐ บาท และเข้ารับการฝึกฝนคอมพิวเตอร์จนสามารถใช้งานได้เป็นอย่างดี จากนั้นได้ย้ายกลับภูมิลำเนา จ.นครศรีธรรมราช ประจำงานธุรการสืบสวน สภ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ในปี ๒๕๕๔๑ ขณะ ที่ พล.ต.อ.อดุลย์ ได้แสดงความแปลกใจที่ได้รับการช่วยเหลือด้วยเงินเพียงเท่านั้น จึงถามถึงเหตุผลที่ไม่ได้รับการช่วยเหลือเป็นกรณีพิเศษเนื่องจากการปฏิบัติหน้าที่ ด.ต.สุรีย์ กล่าวตอบว่า ทางต้นสังกัดเดิมได้ทำเรื่องไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติขอให้พิจารณาความดี ความชอบในการปฏิบัติหน้าที่ ๓ ขั้นเงินเดือน แต่ไม่ได้รับการอนุมัติ โดยคณะกรรมการของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ให้เหตุผลว่า แม้จะเป็นการปฏิบัติหน้าที่ แต่ถือว่าไม่ใช่หน้าที่ของตนโดยตรง เพราะตนมีหน้าที่ด้านป้องกันปราบปราม แต่การไปหมุนเสาอากาศวิทยุเป็นหน้าที่ของฝ่ายสื่อสาร พล.ต.ต.อดุลย์ จึงได้หันไปสั่งการให้ฝ่ายกำลังพล สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ดำเนินการช่วยเหลือ ด.ต.สุรีย์ โดยให้ทำการตรวจสอบรายละเอียดต่างๆ เพื่อหาช่องทางช่วยเหลือ ด.ต.สุรีย์ ให้เหมาะสมกับการสูญเสีย เพราะโดยส่วนตัวคิดว่าอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นดังกล่าวเป็นการปฏิบัติหน้าที่ราชการ พร้อมกันนี้ พล.ต.อ.อดุลย์ ยังกล่าวยกย่อง ชื่นชม และให้กำลังใจ ด.ต.สุรีย์ ขอให้ตั้งใจทำงานต่อไป เป็นตัวอย่างแก่ตำรวจทั้งที่มีร่างกายปกติและพิการโดยยืนยันว่าจะให้การดูแลช่วยเหลืออย่างดีที่สุด นอกจากนี้ ผบ.ตร.ยังสอบถามว่า หลังเกิดเหตุมาจนถึงปัจจุบันได้รับการพิจารณาเลื่อนขั้นเงินเดือน ๒ ขั้นมาแล้วกี่ครั้ง ด.ต.สุรีย์ กล่าวตอบว่า ๓ ครั้ง ทาง พล.ต.อ.อดุลย์ จึงกำชับให้ทางตำรวจภูธรจังหวัดนครศรีธรรมราช และ สภ.เมืองนครศรีธรรมราช ให้พิจารณา ๒ ขั้นให้ ด.ต.สุรีย์ ในปีนี้ด้วย เพราะในภาพรวมการปฏิบัติหน้าที่ประจำ สภ.เมืองนครศรีธรรมราช ๑๕-๑๖ ปี ได้ ๒ ขั้นแค่ ๓ ครั้ง ถือว่าน้อยเกินไป ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ปัจจุบัน ด.ต.สุรีย์ พักอาศัยอยู่ห้องพักชั้น ๔ แฟลตตำรวจ บก.ภ.จว.นครศรีธรรมราช โดยนำบิดาวัย ๗๕ ปี และมารดาวัย ๗๐ ปีมาอยู่ด้วย มีความเป็นอยู่แบบพอเพียง ภายในห้องไม่มีทรัพย์สินอะไรมากนัก ฝาห้องติดประกาศนียบัตรตำรวจดีเด่น ๓ ปี คือ ประจำปี ๒๕๔๙, ๒๕๕๑ และ ๒๕๕๒ ซึ่งในการใช้ชีวิตประจำวัน ส่วนใหญ่ ด.ต.สุรีย์ สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ และมีมารดาคอยช่วยเหลืออีกแรงหนึ่ง เช่น การสวมใส่เสื้อผ้า รองเท้า เป็นต้น ในขณะที่ห้องพักคับแคบ ภรรยาและลูกชายวัย ๒ ขวบเศษ ๑ คน ของ ด.ต.สุรีย์ จึงไปพักอาศัยอยู่กับพ่อตาแม่ยาย ซึ่งอยู่ไม่ไกลจาก บก.ภ.จว.นครศรีธรรมราช มากนัก.(ไทยรัฐออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย ๙ ก.พ.๕๖)

จัดฟอร์แม็ตข้อความและมัลติมีเดีย

  1. เพิ่ม
  2. เพิ่ม ลบ
  3. เพิ่ม ลบ
  4. เพิ่ม ลบ
  5. เพิ่ม ลบ
  6. เพิ่ม ลบ
  7. เพิ่ม ลบ
  8. เพิ่ม ลบ
  9. เพิ่ม ลบ
  10. ลบ
เลือกการตกแต่งที่ต้องการ

ตกลง ยกเลิก

รายละเอียดการใส่ ลิงค์ รูปภาพ วิดีโอ เพลง (Soundcloud)

Waiting...