เปิดหัวใจ ๒ ฮีโร่ กีฬาและความรัก
สายสุนีย์ จ๊ะนะ นักกีฬาวีลแชร์ฟันดาบ และ สายชล คนเจน นักกีฬาวีลแชร์เรสซิ่ง ถูกสัมภาษณ์เรื่องของความรักและครอบครัว"ดีใจ อบอุ่นใจสุดๆ ไม่คิดว่าจะได้รับการต้อนรับจากภาครัฐ ภาคเอกชนและประชาชนขนาดนี้มัน ต่างกับปีที่ผ่านๆ มาเยอะมาก อาจเป็นเพราะเราได้เหรียญ และที่สำคัญธงชาติไทยได้โบกสะบัดขึ้นสู่ยอดเสาและเพลงชาติไทยดังกระหึ่มในสนามแข่งขัน
เสียงตอบรับเหล่านี้ ทำให้มีความหวังว่าอนาคตคงมีความเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นของนักกีฬาคนพิการ เพราะสิ่งที่ได้รับมันเกินคาด เป็นนิมิตหมายที่ดีที่ได้รับการตอบรับจากทุกภาคส่วนรวมถึงสื่อมวลชน ถ้าไม่มีสื่อคงไม่เป็นแบบนี้สื่อช่วยเราเยอะมาก"
ฮีโร่หญิง หนึ่งเดียวในพาราลิมปิกเกมส์ "แวว”สายสุนีย์ จ๊ะนะ เหรียญทองวีลแชร์ฟันดาบ สาวเชียงใหม่ วัย ๓๘ ปี เผยความรู้สึกด้วยความตื้นตันใจระหว่างพิธีมอบเงินรางวัล ซึ่งหนังสือพิมพ์ข่าวสด ร่วมกับ บริษัท สิงห์ คอร์เปอ เรชั่น และ บริษัท โอสถสภา จำกัด จัดขึ้นในโครงการ "ข่าวสด พาราลิมปิกเกมส์ ยินดีกับนักกีฬาไทย หัวใจสิงห์ เพื่อชีวิตที่ดี...ยิ่งกว่า" โดยมอบเงินรางวัลให้นักกีฬาพาราลิมปิกทุกคนเช่นเดียวกับทัพนักกีฬาโอลิมปิก เกมส์ ๒๐๑๒ เพื่อตอบแทนความมุ่งมั่นพลังใจ และรอยยิ้มที่มอบให้กับชาวไทยทุกคนที่อาคารมติชนอคาเดมี
สาย สุนีย์เล่าถึงเสน่ห์กีฬาฟันดาบว่า แค่ชุดก็สวยเป็นกีฬาในร่มไม่ดำไม่ร้อนยังสวยอยู่ มองภายนอกก็สวยมีเสน่ห์ ช่วงนี้เดินสายหนักๆ ก็หาอาหารเสริมรับประทานบำรุงร่างกาย ไม่ปล่อยให้ตัวเองเครียด ที่ขาดไม่ได้คือดูแลเรื่องผิวพรรณรวมถึงอาหารการกินด้วย
สายสุนีย์ประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ เมื่อ ๒๑ ปีที่แล้ว ส่งผลให้เธอเป็นอัมพาต ฮีโร่หญิงเล่าว่า "มีช่วงที่ท้อแท้บ่อยมาก ร้องไห้ก็มี ยิ่งเราเล่นกีฬายิ่งตั้งความหวังไว้สูง หรือเวลาซ้อมเล่นไม่ได้ดังหวังจะรู้สึกแย่มาก แต่ดีที่ได้รับกำลังใจจากครอบครัว และตั้งเป้าไว้ว่าต้องทำให้ได้ คิดเสมอว่าถ้าทำไม่ได้ครอบครัวจะเป็นอย่างไร ครอบครัวรอเราอยู่ เราต้องดูแลใครบ้าง ดังนั้นต้องเริ่มใหม่ จะท้ออย่างไรก็ต้องเริ่มใหม่ ท้อเมื่อไหร่ให้นึกถึงครอบครัว ทำให้แววเข้มแข็งขึ้นและประสบความสำเร็จ ร่างกายก็ไม่ดร็อปลง หากวันนี้เหนื่อยไม่อยากซ้อมแต่คนไม่ซ้อมก็ไม่มีวันที่จะชนะจึงต้องขยัน
ก้าวต่อไป เงินรางวัลเราต้องรู้จักจัดสรรให้พ่อแม่ ส่วนหนึ่งไว้ใช้กับตัวเอง ตั้งใจอยากทำธุรกิจ เปิดร้านอาหารอีสานที่ภาคเหนือ แต่ต้องศึกษาหาทำเลก่อน เรามีต้นทุนคือชอบทำอาหาร หัดทำและก็อร่อยด้วย จะเริ่มต้นเล็กๆแล้วค่อยขยับขยายวางไว้เป็นธุรกิจครอบครัวเพราะยอมรับว่าญาติพี่น้องเรายังลำบากอยู่
ส่วนเรื่องกีฬา พยายามมองหานักกีฬาหน้าใหม่ เผื่อวันหนึ่งจะมีสายสุนีย์คนใหม่เกิดขึ้น และเริ่มสอนเพราะอยากให้มีนักกีฬาฟันดาบเพิ่มมากขึ้น และตั้งใจไปรักษาแชมป์ที่บราซิล จะเล่นต่อไปจนไม่สามารถเล่นได้"ไม่ เพียงจะ "ลักกี้อินเกม" "แวว”สายสุนีย์ ยัง "ลักกี้ อินเลิฟ" หญิงเก่งเล่าถึงเจ้าของหัวใจที่ทำหน้าที่โค้ชส่วนตัวและคอยเคียงข้างเป็น กำลังใจให้ตลอดมา นายอนุวัตน์ เยาว์ธานี สามีวัย ๒๘ ปี
"เขา เป็นคนเชียงราย เป็นรุ่นน้องที่มาขอเรียนฟันดาบด้วย เราแต่งงานอยู่ด้วยกันมา ๔ ปีแล้ว เขาเป็นหลายอย่าง ทั้งกำลังใจ คู่ซ้อม เขาไม่ทำให้เราเครียด หากทะเลาะกันเขาจะเดินหนี ไม่อย่างนั้นเราจะเครียด ส่งผลกับการเล่นกีฬาซึ่งบั่นทอนกำลังใจ ถ้าเราเล่นไม่ได้หรือไม่ดีดังที่ซ้อมหรือหวังไว้เขาจะหาวิดีโอมาให้ดูการ แข่งขัน ไม่ว่าเราจะแพ้ใครจะหามาให้ดู ให้เราซ้อมแก้ทางเพื่อหาทางชนะ เป็นสิ่งที่ช่วยเราได้มาก โชคดีที่มีโค้ชส่วนตัว
ช่องว่าง ระหว่างวัยมีปัญหาอยู่บ้าง แต่เราพยายามปรับเข้าหากัน ซึ่งก็ลงตัวดี ที่เลือกเขาเป็นคู่ชีวิตเพราะเขาดูแลเราได้ ยามที่เราเจ็บไข้ได้ป่วยเขาเดินได้แม้จะพิการแขนแต่เราจะเป็นส่วนเติมเต็มให้กันและกัน" สายสุนีย์ซึ่งมีความหวังอยากให้ศูนย์กีฬาคนพิการเกิดขึ้น บอกเล่าด้วยน้ำเสียงเปี่ยมพลังพร้อมให้กำลังใจเพื่อนนักกีฬาที่ไปไม่ถึงฝันว่า "ไม่ใช่เราไม่เก่ง สถิติครั้งนี้เราทำดีกว่าเดิม ไม่ใช่ว่าเขาเก่งกว่าหรือซ้อมเยอะกว่า เพียงแต่เขามีโอกาสมากกว่าในสิ่งที่เราไม่มี เช่น การฝึกซ้อม สวัสดิการ สนามฝึก รวมถึงอุปกรณ์เขาดีกว่าเรา ถ้าเรามีตรงนี้เราอาจเก่งกว่าเขาอยากเพิ่งท้อเราต้องเชื่อมั่นในตัวเราว่าเราทำได้และจะประสบผลสำเร็จ"
อีกหนึ่งฮีโร่พาราลิมปิก สายชล คนเจน ซึ่งคว้า ๑ เหรียญเงิน วีลแชร์ ๔x๔๐๐ เมตร และ ๒ เหรียญทองแดง จากวีลแชร์เรสซิ่ง ๑๐๐ เมตร และ ๘๐๐ เมตร กล่าวว่า "ดีใจและขอบคุณที่ข่าวสดให้ความสำคัญกับนักกีฬาที่ไปแข่งขันทุกคนทั้งคนที่ได้เหรียญและไม่ได้เหรียญ"
สายชลบอกเล่าถึงความสุข ความอบอุ่นในครอบครัว โดยเฉพาะศรีภรรยา หมอเอ๋ พ.ญ.นิภาภรณ์ คนเจน ศูนย์เวช ศาสตร์ฟื้นฟู สภากาชาดไทย คู่ชีวิตซึ่งพบรักกันเพราะเป็นแพทย์ประจำทีมที่ดูแลนักกีฬาเจ้าของเสียงที่ดังก้องอยู่ในใจฮีโร่โอลิมปิกคนนี้ว่า"ไม่ท้อนะ"ยามที่เขาเหนื่อยล้า
"ชอบที่ใจเขา เขาเป็นคนใจดี ไม่ถึงกับหวานมาก แต่เขาเปิดรับและยอมรับเรา ไม่คิดว่าเราเป็นคนพิการหรือมีความต่าง มีร่างกายจิตใจเหมือนกัน เราสองคนมีกันและกัน และดูแลครอบครัว ให้กำลังใจกันและกันต่อไป" กว่าจะมาถึงวันนี้ของสายชลไม่ง่ายเลย เขาต้องผ่านบททดสอบชีวิตมากมาย โดยไม่ปล่อยให้โชคชะตาหรือความพิการทางร่างกายมาเป็นอุปสรรค
วันนี้ทั้งคู่มีพยานรักด้วยกัน ๑ คน อยู่ในวัยกำลังน่ารัก ช่างคุย น้องอิ๊กคิว ด.ช.ณัฏฐกร คนเจน วัย ๔ ขวบ หมอ เอ๋กล่าวถึงสามีคู่ชีวิตว่า "เขาเป็นคนจิตใจดี มีความตั้งใจ มุ่งมั่นทำจริง ทำให้พิชิตใจเราได้ คบกันมา ๒-๓ ปีก่อนตัดสินใจแต่งงาน หลายคนบอกว่าเขาเป็นคนมีน้ำใจ คิดถึงผู้อื่นก่อน เป็นคนเจียมตัว รู้จักกาลเทศะ หมอเองไม่ใช่คนพูดเยอะ แต่ดูออกยามเขาเหนื่อยและท้อ เราไม่อยากให้เขาเครียด แต่เขาสามารถละลายความทุกข์ได้ด้วยตัวเองเหนื่อยสักพักเขาก็ลุกขึ้นมาเพราะมีหน้าที่ต้องรับผิดชอบ"
ด้าน สายชลกล่าวเสริมว่า คนเป็นพ่อเห็นหน้าลูกก็หายเหนื่อย มีกำลังใจต่อสู้ต่อไป ไม่ได้คาดหวังอะไรในตัวเขามาก เพราะยังเด็ก แต่ไม่ว่าจะเป็นอย่างไรขอให้เขาเป็นคนดี กำลังใจของผม ผมได้มาจากทุกคน พ่อแม่และครอบครัวเรา เรามีหน้าที่หลายอย่างที่ต้องทำ ไม่ควรท้อ คิดได้แต่เราต้องไม่ถอย ต้องต่อสู้เพราะเรามีอะไรหลายอย่างที่ต้องรับผิดชอบอีก๔ปีข้างหน้ายังเล่นอยู่ตั้งใจฝึกซ้อมทำตามฝันต่อไป
"อยากบอกคนพิการทั่วประเทศว่า บางสิ่งบางอย่างที่เราคิดว่าไม่มีใครยอมรับเรา เราคิดมาก คิดไปเอง คิดคนเดียว คิดว่าเราเป็นปมด้อยของสังคมหรือคนอื่นตอนนี้สังคมเปิดรับพวกเรามากขึ้น ขอให้ทุกคนออกมาแสดงความสามารถให้คนอื่นเห็นอย่าท้ออย่าถอยออกมาสู้หรือออกมาเล่นกีฬาก็ได้ "เพราะเราเป็นส่วนหนึ่งของสังคม"
ยังไม่มีเรตติ้ง
แสดงความคิดเห็น
รายละเอียดกระทู้
เปิดหัวใจ2ฮีโร่ กีฬาและความรัก สายสุนีย์ จ๊ะนะ นักกีฬาวีลแชร์ฟันดาบ และ สายชล คนเจน นักกีฬาวีลแชร์เรสซิ่ง ถูกสัมภาษณ์เรื่องของความรักและครอบครัว"ดีใจ อบอุ่นใจสุดๆ ไม่คิดว่าจะได้รับการต้อนรับจากภาครัฐ ภาคเอกชนและประชาชนขนาดนี้มัน ต่างกับปีที่ผ่านๆ มาเยอะมาก อาจเป็นเพราะเราได้เหรียญ และที่สำคัญธงชาติไทยได้โบกสะบัดขึ้นสู่ยอดเสาและเพลงชาติไทยดังกระหึ่มในสนามแข่งขัน เสียงตอบรับเหล่านี้ ทำให้มีความหวังว่าอนาคตคงมีความเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นของนักกีฬาคนพิการ เพราะสิ่งที่ได้รับมันเกินคาด เป็นนิมิตหมายที่ดีที่ได้รับการตอบรับจากทุกภาคส่วนรวมถึงสื่อมวลชน ถ้าไม่มีสื่อคงไม่เป็นแบบนี้สื่อช่วยเราเยอะมาก" ฮีโร่หญิง หนึ่งเดียวในพาราลิมปิกเกมส์ "แวว”สายสุนีย์ จ๊ะนะ เหรียญทองวีลแชร์ฟันดาบ สาวเชียงใหม่ วัย ๓๘ ปี เผยความรู้สึกด้วยความตื้นตันใจระหว่างพิธีมอบเงินรางวัล ซึ่งหนังสือพิมพ์ข่าวสด ร่วมกับ บริษัท สิงห์ คอร์เปอ เรชั่น และ บริษัท โอสถสภา จำกัด จัดขึ้นในโครงการ "ข่าวสด พาราลิมปิกเกมส์ ยินดีกับนักกีฬาไทย หัวใจสิงห์ เพื่อชีวิตที่ดี...ยิ่งกว่า" โดยมอบเงินรางวัลให้นักกีฬาพาราลิมปิกทุกคนเช่นเดียวกับทัพนักกีฬาโอลิมปิก เกมส์ ๒๐๑๒ เพื่อตอบแทนความมุ่งมั่นพลังใจ และรอยยิ้มที่มอบให้กับชาวไทยทุกคนที่อาคารมติชนอคาเดมี สาย สุนีย์เล่าถึงเสน่ห์กีฬาฟันดาบว่า แค่ชุดก็สวยเป็นกีฬาในร่มไม่ดำไม่ร้อนยังสวยอยู่ มองภายนอกก็สวยมีเสน่ห์ ช่วงนี้เดินสายหนักๆ ก็หาอาหารเสริมรับประทานบำรุงร่างกาย ไม่ปล่อยให้ตัวเองเครียด ที่ขาดไม่ได้คือดูแลเรื่องผิวพรรณรวมถึงอาหารการกินด้วย สายสุนีย์ประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ เมื่อ ๒๑ ปีที่แล้ว ส่งผลให้เธอเป็นอัมพาต ฮีโร่หญิงเล่าว่า "มีช่วงที่ท้อแท้บ่อยมาก ร้องไห้ก็มี ยิ่งเราเล่นกีฬายิ่งตั้งความหวังไว้สูง หรือเวลาซ้อมเล่นไม่ได้ดังหวังจะรู้สึกแย่มาก แต่ดีที่ได้รับกำลังใจจากครอบครัว และตั้งเป้าไว้ว่าต้องทำให้ได้ คิดเสมอว่าถ้าทำไม่ได้ครอบครัวจะเป็นอย่างไร ครอบครัวรอเราอยู่ เราต้องดูแลใครบ้าง ดังนั้นต้องเริ่มใหม่ จะท้ออย่างไรก็ต้องเริ่มใหม่ ท้อเมื่อไหร่ให้นึกถึงครอบครัว ทำให้แววเข้มแข็งขึ้นและประสบความสำเร็จ ร่างกายก็ไม่ดร็อปลง หากวันนี้เหนื่อยไม่อยากซ้อมแต่คนไม่ซ้อมก็ไม่มีวันที่จะชนะจึงต้องขยัน ก้าวต่อไป เงินรางวัลเราต้องรู้จักจัดสรรให้พ่อแม่ ส่วนหนึ่งไว้ใช้กับตัวเอง ตั้งใจอยากทำธุรกิจ เปิดร้านอาหารอีสานที่ภาคเหนือ แต่ต้องศึกษาหาทำเลก่อน เรามีต้นทุนคือชอบทำอาหาร หัดทำและก็อร่อยด้วย จะเริ่มต้นเล็กๆแล้วค่อยขยับขยายวางไว้เป็นธุรกิจครอบครัวเพราะยอมรับว่าญาติพี่น้องเรายังลำบากอยู่ ส่วนเรื่องกีฬา พยายามมองหานักกีฬาหน้าใหม่ เผื่อวันหนึ่งจะมีสายสุนีย์คนใหม่เกิดขึ้น และเริ่มสอนเพราะอยากให้มีนักกีฬาฟันดาบเพิ่มมากขึ้น และตั้งใจไปรักษาแชมป์ที่บราซิล จะเล่นต่อไปจนไม่สามารถเล่นได้"ไม่ เพียงจะ "ลักกี้อินเกม" "แวว”สายสุนีย์ ยัง "ลักกี้ อินเลิฟ" หญิงเก่งเล่าถึงเจ้าของหัวใจที่ทำหน้าที่โค้ชส่วนตัวและคอยเคียงข้างเป็น กำลังใจให้ตลอดมา นายอนุวัตน์ เยาว์ธานี สามีวัย ๒๘ ปี "เขา เป็นคนเชียงราย เป็นรุ่นน้องที่มาขอเรียนฟันดาบด้วย เราแต่งงานอยู่ด้วยกันมา ๔ ปีแล้ว เขาเป็นหลายอย่าง ทั้งกำลังใจ คู่ซ้อม เขาไม่ทำให้เราเครียด หากทะเลาะกันเขาจะเดินหนี ไม่อย่างนั้นเราจะเครียด ส่งผลกับการเล่นกีฬาซึ่งบั่นทอนกำลังใจ ถ้าเราเล่นไม่ได้หรือไม่ดีดังที่ซ้อมหรือหวังไว้เขาจะหาวิดีโอมาให้ดูการ แข่งขัน ไม่ว่าเราจะแพ้ใครจะหามาให้ดู ให้เราซ้อมแก้ทางเพื่อหาทางชนะ เป็นสิ่งที่ช่วยเราได้มาก โชคดีที่มีโค้ชส่วนตัว ช่องว่าง ระหว่างวัยมีปัญหาอยู่บ้าง แต่เราพยายามปรับเข้าหากัน ซึ่งก็ลงตัวดี ที่เลือกเขาเป็นคู่ชีวิตเพราะเขาดูแลเราได้ ยามที่เราเจ็บไข้ได้ป่วยเขาเดินได้แม้จะพิการแขนแต่เราจะเป็นส่วนเติมเต็มให้กันและกัน" สายสุนีย์ซึ่งมีความหวังอยากให้ศูนย์กีฬาคนพิการเกิดขึ้น บอกเล่าด้วยน้ำเสียงเปี่ยมพลังพร้อมให้กำลังใจเพื่อนนักกีฬาที่ไปไม่ถึงฝันว่า "ไม่ใช่เราไม่เก่ง สถิติครั้งนี้เราทำดีกว่าเดิม ไม่ใช่ว่าเขาเก่งกว่าหรือซ้อมเยอะกว่า เพียงแต่เขามีโอกาสมากกว่าในสิ่งที่เราไม่มี เช่น การฝึกซ้อม สวัสดิการ สนามฝึก รวมถึงอุปกรณ์เขาดีกว่าเรา ถ้าเรามีตรงนี้เราอาจเก่งกว่าเขาอยากเพิ่งท้อเราต้องเชื่อมั่นในตัวเราว่าเราทำได้และจะประสบผลสำเร็จ" อีกหนึ่งฮีโร่พาราลิมปิก สายชล คนเจน ซึ่งคว้า ๑ เหรียญเงิน วีลแชร์ ๔x๔๐๐ เมตร และ ๒ เหรียญทองแดง จากวีลแชร์เรสซิ่ง ๑๐๐ เมตร และ ๘๐๐ เมตร กล่าวว่า "ดีใจและขอบคุณที่ข่าวสดให้ความสำคัญกับนักกีฬาที่ไปแข่งขันทุกคนทั้งคนที่ได้เหรียญและไม่ได้เหรียญ" สายชลบอกเล่าถึงความสุข ความอบอุ่นในครอบครัว โดยเฉพาะศรีภรรยา หมอเอ๋ พ.ญ.นิภาภรณ์ คนเจน ศูนย์เวช ศาสตร์ฟื้นฟู สภากาชาดไทย คู่ชีวิตซึ่งพบรักกันเพราะเป็นแพทย์ประจำทีมที่ดูแลนักกีฬาเจ้าของเสียงที่ดังก้องอยู่ในใจฮีโร่โอลิมปิกคนนี้ว่า"ไม่ท้อนะ"ยามที่เขาเหนื่อยล้า "ชอบที่ใจเขา เขาเป็นคนใจดี ไม่ถึงกับหวานมาก แต่เขาเปิดรับและยอมรับเรา ไม่คิดว่าเราเป็นคนพิการหรือมีความต่าง มีร่างกายจิตใจเหมือนกัน เราสองคนมีกันและกัน และดูแลครอบครัว ให้กำลังใจกันและกันต่อไป" กว่าจะมาถึงวันนี้ของสายชลไม่ง่ายเลย เขาต้องผ่านบททดสอบชีวิตมากมาย โดยไม่ปล่อยให้โชคชะตาหรือความพิการทางร่างกายมาเป็นอุปสรรค วันนี้ทั้งคู่มีพยานรักด้วยกัน ๑ คน อยู่ในวัยกำลังน่ารัก ช่างคุย น้องอิ๊กคิว ด.ช.ณัฏฐกร คนเจน วัย ๔ ขวบ หมอ เอ๋กล่าวถึงสามีคู่ชีวิตว่า "เขาเป็นคนจิตใจดี มีความตั้งใจ มุ่งมั่นทำจริง ทำให้พิชิตใจเราได้ คบกันมา ๒-๓ ปีก่อนตัดสินใจแต่งงาน หลายคนบอกว่าเขาเป็นคนมีน้ำใจ คิดถึงผู้อื่นก่อน เป็นคนเจียมตัว รู้จักกาลเทศะ หมอเองไม่ใช่คนพูดเยอะ แต่ดูออกยามเขาเหนื่อยและท้อ เราไม่อยากให้เขาเครียด แต่เขาสามารถละลายความทุกข์ได้ด้วยตัวเองเหนื่อยสักพักเขาก็ลุกขึ้นมาเพราะมีหน้าที่ต้องรับผิดชอบ" ด้าน สายชลกล่าวเสริมว่า คนเป็นพ่อเห็นหน้าลูกก็หายเหนื่อย มีกำลังใจต่อสู้ต่อไป ไม่ได้คาดหวังอะไรในตัวเขามาก เพราะยังเด็ก แต่ไม่ว่าจะเป็นอย่างไรขอให้เขาเป็นคนดี กำลังใจของผม ผมได้มาจากทุกคน พ่อแม่และครอบครัวเรา เรามีหน้าที่หลายอย่างที่ต้องทำ ไม่ควรท้อ คิดได้แต่เราต้องไม่ถอย ต้องต่อสู้เพราะเรามีอะไรหลายอย่างที่ต้องรับผิดชอบอีก๔ปีข้างหน้ายังเล่นอยู่ตั้งใจฝึกซ้อมทำตามฝันต่อไป "อยากบอกคนพิการทั่วประเทศว่า บางสิ่งบางอย่างที่เราคิดว่าไม่มีใครยอมรับเรา เราคิดมาก คิดไปเอง คิดคนเดียว คิดว่าเราเป็นปมด้อยของสังคมหรือคนอื่นตอนนี้สังคมเปิดรับพวกเรามากขึ้น ขอให้ทุกคนออกมาแสดงความสามารถให้คนอื่นเห็นอย่าท้ออย่าถอยออกมาสู้หรือออกมาเล่นกีฬาก็ได้
จัดฟอร์แม็ตข้อความและมัลติมีเดีย
รายละเอียดการใส่ ลิงค์ รูปภาพ วิดีโอ เพลง (Soundcloud)