'หนุ่มพิการ'..ยอดกตัญญูแบบฉบับแทนคุณ'พ่อแม่'
ความมุ่งหวังของ “ลูกๆ” หลายคน เมื่อโตขึ้นจนมีการมีงานทำ ก็อยากจะหาเงินมาจุนเจือครอบครัว หาเลี้ยงตอบแทนพระคุณ “พ่อ-แม่” ในยามแก่ชรา แต่กลับไม่เป็นเช่นนั้นเสมอไป กับชีวิตของเด็กชายคนหนึ่ง ที่ถูกทำลายลง เพราะอุบัติเหตุที่ไม่คาดคิด พลิกจากหน้ามือเป็นหลังเท้า เพียงแค่เสี้ยววินาทีเท่านั้นเอง!!!
จากเด็กชายวัย 15 ปี “พรเฉลิม เกิดสวัสดิ์” ขณะนี้อายุได้ 27 ปี ที่เมื่อ 10 ปีก่อนประสบอุบัติเหตุจากรถจักรยานยนต์ เหตุการณ์ครั้งนั้น เขาอยู่ในวัยกำลังอยากเรียนรู้ หาประสบการณ์ใหม่ๆ เพื่อเก็บวิชาความรู้ให้ได้มากๆ และมีความฝันอยากจะเรียนต่อให้สูงที่สุด วันนั้นเป็นวันสุดท้ายของการสอบชั้นม.2 “พรเฉลิม” กับเพื่อนอีก 2 คน ขับขี่รถจักรยานยนต์ซ้อน 3 กันมา เหลืออีกเพียง 1 กิโลเมตรข้างหน้าก็ถึง “บ้าน” แต่ทันใดนั้นขณะเลี้ยวโค้ง รถจักรยานยนต์กลับพุ่งอัดเข้ากับรถกระบะอย่างจัง!!! เด็กนักเรียนทั้ง 3 คน ถูกหามส่งโรงพยาบาล “เพื่อนคนหนึ่ง” เสียชีวิตคาที่ “อีกคน” แขนหัก ส่วนอาการของ “พรเฉลิม” เมื่อเจ้าตัวรู้สึกขึ้นมา ก็พบว่า “ขยับร่างกายไม่ได้” คำพูดของหมอ ที่ผู้เป็นแม่ไม่กล้าบอกลูกในเวลานั้นคือ “ต่อจากนี้...จะเดินไม่ได้อีกต่อไป” แม้จะยังไม่รู้ว่าอนาคตตัวเองจะทำอะไร แต่ความฝันของเด็กชายวัย 15 ปี ได้พังลงแล้ว
“พรเฉลิม” บอกว่า “ร้องไห้เสียใจมาก ทำใจไม่ได้ เราเองหรือป่าวที่ทำให้เพื่อนเสียชีวิต รู้สึกผิด แต่จะมาโทษก็ไม่ได้อะไร ถ้ามันเป็นแบบนี้แล้ว จะมาเสียใจให้พ่อแม่เห็น ครอบครัวจะไม่ยิ่งแย่ไปกันใหญ่หรือ ผมต้องอยู่ที่โรงพยาบาลถึง 8 เดือน ถึงจะกลับบ้านได้” ครอบครัวของ “พรเฉลิม” มีพ่อเป็นสัปเหร่อ และแม่รับจ้างล้างจานกับสานตะกร้า ในต.บางพลับ อ.โพธิ์ทอง จ.อ่างทอง หลังจากออกจาโรงพยาบาล หนุ่มพิการคนนี้ใช้เวลาถึง 5 ปี กว่าจะทำใจได้ และหันมามุ่งมั่นตั้งใจจะทำอะไรสักอย่าง ช่วยแบ่งเบาภาระ “พ่อ-แม่”
แม้จะรู้ว่าตัวเองขยับร่างกายได้แค่ช่วงบนเท่านั้น “นอนสานตะกร้าหวาย” คือสิ่งที่ทำได้ เพราะ “พรเฉลิม” บอกว่า “ตอนที่ผมเห็นแม่ปาดเหงื่อสานตะกร้า ผมน้ำตาตกใน คิดว่าเราทำอะไรอยู่ ปล่อยให้เป็นแบบนี้ได้อย่างไร จึงตั้งสติและรวบรวมกำลังใจ ส่งเป็นแรงฮึกเหิมให้พร้อมสู้ชีวิต เพราะเห็นว่า แม้ขาจะใช้การไม่ได้ แต่ยังมีมือที่ใช้การได้ จึงช่วยแม่สานตะกร้าอีกแรง” ความยากง่ายไม่ต้องพูดถึงเลย ช่วงแรกลำบาก เนื่องจากการนอนสานตะกร้าหวายไม่สะดวก แต่เมื่อฝึกฝนไปเรื่อยๆก็มีความชำนาญมากขึ้น
กระทั่งตอนนี้หนุ่มพิการอยากมีชีวิตอยู่ต่อ เพื่อช่วยพ่อแม่บังเกิดเกล้าให้มีชีวิตที่ดีขึ้นกว่านี้ แต่ใครจะรู้ว่า...ระหว่าง“ชีวิต” เริ่มมี “ความหวัง” เขาก็ต้องพบกับ “ความท้อแท้ชีวิต”...อีกครั้ง เมื่อ “พ่อบังเกิดเกล้า” ได้เสียชีวิต...อย่างไม่มีวันกลับ!!! “หมดหวังในชีวิต เหมือนมันซ้ำเติมลงไปทุกที พ่อเสียชีวิต ภาระต้องตกอยู่ที่แม่คนเดียว เวลานอนสานตะกร้าไปน้ำตาก็ไหล แต่ผมก็ต้องทำ ถึงเป็นสิ่งน้อยนิด ก็ต้องทำเพื่อแม่ ให้มีกำลังใจสู้ด้วยกันต่อไป เพราะแม่ก็แก่ลงทุกวันๆ” โชคดีที่ “ผู้ว่าราชการจังหวัดอ่างทอง” ทราบเรื่องราวทั้งหมด จึงจัดซื้อเตียงและรถเข็นให้กับหนุ่มพิการหัวใจแกร่งคนนี้ และเงินเบี้ยผู้พิการจำนวน 800 บาท เป็นค่าใช้จ่ายในครอบครัว
“ใครที่เป็นแบบผม...อย่าไปท้อ เมื่อมีลมหายใจ แสดงว่ายังอยู่ได้ ตราบใดที่ยังไม่สิ้นลม มือขยับได้ ปากขยับได้ ลองให้โอกาสตัวเองพิสูจน์ความสามารถที่เหลืออยู่ ท้อแท้มีกันทุกคน แค่เราจะเลือกข้ามผ่านมันไปก็เท่านั้นเอง กว่าผมจะทำใจได้ก็ตั้ง 5 ปี แถมพ่อมาเสียไปอีก คงไม่มีลมหายใจนั่นแหละ ผมถึงจะหยุดทำตรงนี้ช่วยแม่” ได้ฟังความเห็น “ชายผู้ไม่ยอมแพ้คนนี้” แล้ว ต้องยอมรับว่าเป็นคนสู้ชีวิตคนหนึ่ง เพราะชีวิตทุกคนที่เจอปัญหาอุปสรรคนั้น “ท้อได้...แต่อย่าถอย” ไม่เช่นนั้นก็จะอยู่อย่างไรความหมาย แม้ความตั้งใจและความฝันของ “พรเฉลิม” อยากหาเลี้ยงครอบครัวจะไม่ได้สวยหรูเหมือนที่เคยคาดหวังไว้ แต่...สุดท้าย “หัวใจยอดกตัญญู” ของผู้ชายคนนี้ แม้จะพิการอัมพาต แต่ก็เลือกหนทางตอบแทนบุญคุณ “พ่อ-แม่” ได้ในแบบของเขาเอง
นิยายชีวิต อาทิตย์สไตล์
โดย "ทวีลาภ บวกทอง"
ขอบคุณ... http://www.dailynews.co.th/article/385031 (ขนาดไฟล์: 167)
แสดงความคิดเห็น
รายละเอียดกระทู้
ความมุ่งหวังของ “ลูกๆ” หลายคน เมื่อโตขึ้นจนมีการมีงานทำ ก็อยากจะหาเงินมาจุนเจือครอบครัว หาเลี้ยงตอบแทนพระคุณ “พ่อ-แม่” ในยามแก่ชรา แต่กลับไม่เป็นเช่นนั้นเสมอไป กับชีวิตของเด็กชายคนหนึ่ง ที่ถูกทำลายลง เพราะอุบัติเหตุที่ไม่คาดคิด พลิกจากหน้ามือเป็นหลังเท้า เพียงแค่เสี้ยววินาทีเท่านั้นเอง!!! นายพรเฉลิม เกิดสวัสดิ์ อายุ 27 ปี กำลังนอนสานตะกร้า จากเด็กชายวัย 15 ปี “พรเฉลิม เกิดสวัสดิ์” ขณะนี้อายุได้ 27 ปี ที่เมื่อ 10 ปีก่อนประสบอุบัติเหตุจากรถจักรยานยนต์ เหตุการณ์ครั้งนั้น เขาอยู่ในวัยกำลังอยากเรียนรู้ หาประสบการณ์ใหม่ๆ เพื่อเก็บวิชาความรู้ให้ได้มากๆ และมีความฝันอยากจะเรียนต่อให้สูงที่สุด วันนั้นเป็นวันสุดท้ายของการสอบชั้นม.2 “พรเฉลิม” กับเพื่อนอีก 2 คน ขับขี่รถจักรยานยนต์ซ้อน 3 กันมา เหลืออีกเพียง 1 กิโลเมตรข้างหน้าก็ถึง “บ้าน” แต่ทันใดนั้นขณะเลี้ยวโค้ง รถจักรยานยนต์กลับพุ่งอัดเข้ากับรถกระบะอย่างจัง!!! เด็กนักเรียนทั้ง 3 คน ถูกหามส่งโรงพยาบาล “เพื่อนคนหนึ่ง” เสียชีวิตคาที่ “อีกคน” แขนหัก ส่วนอาการของ “พรเฉลิม” เมื่อเจ้าตัวรู้สึกขึ้นมา ก็พบว่า “ขยับร่างกายไม่ได้” คำพูดของหมอ ที่ผู้เป็นแม่ไม่กล้าบอกลูกในเวลานั้นคือ “ต่อจากนี้...จะเดินไม่ได้อีกต่อไป” แม้จะยังไม่รู้ว่าอนาคตตัวเองจะทำอะไร แต่ความฝันของเด็กชายวัย 15 ปี ได้พังลงแล้ว “พรเฉลิม” บอกว่า “ร้องไห้เสียใจมาก ทำใจไม่ได้ เราเองหรือป่าวที่ทำให้เพื่อนเสียชีวิต รู้สึกผิด แต่จะมาโทษก็ไม่ได้อะไร ถ้ามันเป็นแบบนี้แล้ว จะมาเสียใจให้พ่อแม่เห็น ครอบครัวจะไม่ยิ่งแย่ไปกันใหญ่หรือ ผมต้องอยู่ที่โรงพยาบาลถึง 8 เดือน ถึงจะกลับบ้านได้” ครอบครัวของ “พรเฉลิม” มีพ่อเป็นสัปเหร่อ และแม่รับจ้างล้างจานกับสานตะกร้า ในต.บางพลับ อ.โพธิ์ทอง จ.อ่างทอง หลังจากออกจาโรงพยาบาล หนุ่มพิการคนนี้ใช้เวลาถึง 5 ปี กว่าจะทำใจได้ และหันมามุ่งมั่นตั้งใจจะทำอะไรสักอย่าง ช่วยแบ่งเบาภาระ “พ่อ-แม่” แม้จะรู้ว่าตัวเองขยับร่างกายได้แค่ช่วงบนเท่านั้น “นอนสานตะกร้าหวาย” คือสิ่งที่ทำได้ เพราะ “พรเฉลิม” บอกว่า “ตอนที่ผมเห็นแม่ปาดเหงื่อสานตะกร้า ผมน้ำตาตกใน คิดว่าเราทำอะไรอยู่ ปล่อยให้เป็นแบบนี้ได้อย่างไร จึงตั้งสติและรวบรวมกำลังใจ ส่งเป็นแรงฮึกเหิมให้พร้อมสู้ชีวิต เพราะเห็นว่า แม้ขาจะใช้การไม่ได้ แต่ยังมีมือที่ใช้การได้ จึงช่วยแม่สานตะกร้าอีกแรง” ความยากง่ายไม่ต้องพูดถึงเลย ช่วงแรกลำบาก เนื่องจากการนอนสานตะกร้าหวายไม่สะดวก แต่เมื่อฝึกฝนไปเรื่อยๆก็มีความชำนาญมากขึ้น นายพรเฉลิม เกิดสวัสดิ์ อายุ 27 ปี กำลังนอนสานตะกร้า กระทั่งตอนนี้หนุ่มพิการอยากมีชีวิตอยู่ต่อ เพื่อช่วยพ่อแม่บังเกิดเกล้าให้มีชีวิตที่ดีขึ้นกว่านี้ แต่ใครจะรู้ว่า...ระหว่าง“ชีวิต” เริ่มมี “ความหวัง” เขาก็ต้องพบกับ “ความท้อแท้ชีวิต”...อีกครั้ง เมื่อ “พ่อบังเกิดเกล้า” ได้เสียชีวิต...อย่างไม่มีวันกลับ!!! “หมดหวังในชีวิต เหมือนมันซ้ำเติมลงไปทุกที พ่อเสียชีวิต ภาระต้องตกอยู่ที่แม่คนเดียว เวลานอนสานตะกร้าไปน้ำตาก็ไหล แต่ผมก็ต้องทำ ถึงเป็นสิ่งน้อยนิด ก็ต้องทำเพื่อแม่ ให้มีกำลังใจสู้ด้วยกันต่อไป เพราะแม่ก็แก่ลงทุกวันๆ” โชคดีที่ “ผู้ว่าราชการจังหวัดอ่างทอง” ทราบเรื่องราวทั้งหมด จึงจัดซื้อเตียงและรถเข็นให้กับหนุ่มพิการหัวใจแกร่งคนนี้ และเงินเบี้ยผู้พิการจำนวน 800 บาท เป็นค่าใช้จ่ายในครอบครัว “ใครที่เป็นแบบผม...อย่าไปท้อ เมื่อมีลมหายใจ แสดงว่ายังอยู่ได้ ตราบใดที่ยังไม่สิ้นลม มือขยับได้ ปากขยับได้ ลองให้โอกาสตัวเองพิสูจน์ความสามารถที่เหลืออยู่ ท้อแท้มีกันทุกคน แค่เราจะเลือกข้ามผ่านมันไปก็เท่านั้นเอง กว่าผมจะทำใจได้ก็ตั้ง 5 ปี แถมพ่อมาเสียไปอีก คงไม่มีลมหายใจนั่นแหละ ผมถึงจะหยุดทำตรงนี้ช่วยแม่” ได้ฟังความเห็น “ชายผู้ไม่ยอมแพ้คนนี้” แล้ว ต้องยอมรับว่าเป็นคนสู้ชีวิตคนหนึ่ง เพราะชีวิตทุกคนที่เจอปัญหาอุปสรรคนั้น “ท้อได้...แต่อย่าถอย” ไม่เช่นนั้นก็จะอยู่อย่างไรความหมาย แม้ความตั้งใจและความฝันของ “พรเฉลิม” อยากหาเลี้ยงครอบครัวจะไม่ได้สวยหรูเหมือนที่เคยคาดหวังไว้ แต่...สุดท้าย “หัวใจยอดกตัญญู” ของผู้ชายคนนี้ แม้จะพิการอัมพาต แต่ก็เลือกหนทางตอบแทนบุญคุณ “พ่อ-แม่” ได้ในแบบของเขาเอง นิยายชีวิต อาทิตย์สไตล์ โดย "ทวีลาภ บวกทอง" ขอบคุณ... http://www.dailynews.co.th/article/385031
จัดฟอร์แม็ตข้อความและมัลติมีเดีย
รายละเอียดการใส่ ลิงค์ รูปภาพ วิดีโอ เพลง (Soundcloud)