มือหงิกงอขอดูแลน้องพิการ 'ไข่เจียว1ฟอง'แบ่งกิน3วัน!
มาม่า 1 ห่อกับไข่ 1 ฟอง พี่สาวโรครุมมือหงิกงอคนนี้ ต้องแบ่งกินให้ได้ 3 วัน น้องพิการกินเส้นกับไข่ ส่วนเธอกินน้ำที่เหลือคลุกกับข้าว สุดเวทนาแค่ไหนไปช่วยเหลือกัน
ได้ชื่อว่า “ละครดาม่าในทีวี” เรามักสามารถแต่งเติมเรื่องราวได้ตามจิตนาการดังใจหวัง แต่สำหรับชีวิตจริง...ที่หญิงวัย 55 ปี “ทองสุก อุ่นเกสร” ไม่อาจกำหนดให้ชีวิตแต่งเติมในรูปแบบไหนได้เลย เพราะต้องเฝ้าเผชิญกับชะตากรรม เพื่อให้ตัวเองและน้องชายอยู่รอดเพื่อวันต่อไป
คุณป้าทองสุก ป่วยด้วยโรครุมเร้าหลายโรคมากมาย ซ้ำร้ายตัวเองต้องประสบปัญหาพิการ “มือข้างซ้ายหงิกงอ” ไม่สามารถประกอบอาชีพอะไรได้เลย ส่วนน้องชายที่คลานตามกันมา ก็กลายเป็น... “คนพิการ” มีอาการทางสมอง (ปัญญาอ่อน) ขั้นรุนแรง ควบคุมตัวเองไม่ได้ บ่อยครั้งเสียงโวยวายของน้องชาย กลายเป็นเรื่องชินชาของคนละแวกนี้ ดังลั่นบ้านอยู่ตลอดเวลา หรือในบางครั้งยังทำร้ายพี่สาวอย่างไม่รู้ตัวถึงกับเลือดตกยางออก
แต่คุณป้ายังต้องอดทน ทำเหมือนไม่เจ็บ ส่วนบ้านที่อยู่อาศัยใน จ.สมุทรปราการ กำหนดใกล้ถูกยึดกำลังคืบเข้ามาเรื่อยๆ ต้องย้ายออกปลายเดือน เม.ย.นี้แล้ว ซึ่งทุกวันนี้ทั้ง 2 ชีวิต อาศัยเบี้ยยังชีวิตคนพิการรวมกัน 1,600 บาท เมื่อได้มา “คุณป้าทองสุก” ก็จะรีบนำไปใช้หนี้ เป็นค่า “มาม่า” และ “ไข่ไก่” ที่เป็นอาหารหลักใช้กินประทังชีวิต
ทำให้เงินเหลือใช้เดือนละไม่เกิน 100-200 บาท จะให้ออกไปทำงานที่ไหนก็ไม่ได้ เพราะสภาพร่างกายของคุณป้าที่เจ็บป่วยหลายโรค ทั้งมือหงิกงอ และที่สำคัญจำเป็นต้องอยู่ดูแลน้องชายตลอดเวลาทุกวินาที
ด้วยความรักและความผูกพันที่มีให้ “น้องชาย” บ้างทีอยากจะเข้าไปโอบกอดน้องตัวเองยังทำไม่ได้ มีเพียงสายตาที่มีได้แต่เฝ้ามองด้วยดูความเป็นห่วง ในยามที่เหลือเพียงเศษสตางค์ติดบ้าน คุณป้าต้องออกไปหาข้าวเพื่อให้น้องชายมีกินได้อิ่มท้อง ส่วนตัวเอง “ขอยอม...อด!!!” อดเพื่อให้น้องชายอยู่รอด ไข่เจียว 1 ฟอง ทำอย่างไรให้เหลือกินได้ 3 วัน ส่วนป้าทองสุกจะนั่งกินข้าวคลุกกะปิที่เหลือติดบ้าน
บางวันที่มีเงินนิดๆ หน่อยๆ พอได้ซื้อมาม่าต้มสุกผสมไข่ไก่แบ่งกันกิน โดยจะแบ่งให้น้องชายกินเส้นกับไข่คลุกกับข้าว ส่วนตัวคุณป้าเอง นำน้ำมาคลุกกับข้าวกิน เพราะไม่มีวันไหนที่จะให้น้องชายอด ถ้าไม่มีเงินจริงๆ ก็เอาน้ำประปามาลูบท้อง แล้วคิดเสียว่า...กินอิ่มแล้ว
ชีวิตจริงที่คุณป้าและน้องชายต้องเผชิญชะตากรรม จึงไม่ใช่ละครที่จะแต่งเติมให้สวยงามดั่งใจได้ เพราะนี่คือชีวิตจริง ชีวิตที่คุณป้าและน้องชายต้องพบกับชะตาฟ้ากำหนดไว้ หนึ่งคำขอจากคุณป้าหากต้องตายจากไป วอนให้หน่วยงานรัฐรับน้องชายไปดูแลจะได้ไหม? เพราะว่า... “ป้าเป็นห่วงเขา ป้ารักเขามาก ตอนนี้ป้าไม่มีกิน ป้าทนได้นะหนู ป้าทนได้ ถึงเขาจะปัญญาอ่อนป้าก็รัก เพราะเขาคือน้องชายป้า”
แม้ว่าเราไม่อาจเปลี่ยนพลิกฟื้นชะตากรรมได้ แต่เราสามารถเป็นส่วนหนึ่ง หยิบยื่นกำลังใจเล็กๆ ให้คุณป้า ได้มีชีวิตที่ดีขึ้น ดำรงชีวิตก้าวเดินต่อไป หวังว่าคงจะสร้างรอยยิ้มให้กับคุณป้าและน้องชายในช่วงเวลาหนึ่ง จนกระทั่งเรื่องราวนี้ถูกแชร์ออกไปบนโลกออนไลน์ วันนั้นได้มาถึง...บัญชีของคุณป้ามียอดบริจาคเข้ามาจากทั่วทุกสารทิศ “ทะลุครึ่งล้านบาท” เพราะน้ำใจคนไทยเพียง 2 วันเท่านั้น
คุณป้าทองสุก บอกว่า ตลอดระยะ 5 ปี ที่หมดความหวังคิดเสมอว่า...บ้านจะถูกยึด ไหนจะต้องดูแลน้องชายพิการทางสมอง ตัวป้ายอม อดข้าว!!! อดน้ำ!!! เพื่อให้น้องชายกิน บ้างทีตัวเองต้องทนหิว ขนาดเอาน้ำลูบท้อง วันนี้น้ำตาแห่งความดีใจ ได้ไหลออกมาจากดวงตาที่ไม่เคยคิดเลยว่า “จะมีวันนี้...วันที่ความฝันเป็นจริง”
โดยเงินจำนวนทั้งหมด จะแบ่งออกเป็น 2 ส่วน ได้แก่ “ค่าบ้าน” จำนวน 4 แสนบาท และ “ส่วนที่เหลือ” คุณป้า จะเก็บเอาไว้ใช้ดำรงชีวิตต่อไป ซึ่งจะมีประธานชุมชน และแพทย์อาสาดูแลคุณป้าและน้องชายในเบื้องต้น ทั้งหมดนี้แหละ...คือน้ำใจของคนไทยด้วยกัน เผื่อแผ่ให้กับเพื่อนร่วมโลกใบนี้ จนวันนี้คุณป้ากลับมามีรอยยิ้มอีกครั้ง.
คอลัมน์ : นิยายชีวิตอาทิตย์สไตล์
โดย “ทวีลาภ บวกทอง”
ขอบคุณภาพ : @Poramet Misomphop (เมศ เจ้าชายน้อย)