ช่างไฟฟ้าพิการมานะเรียนรู้ด้วยตนเอง
เด็กหนุ่มสู้ชีวิต เกิดมาพิการ มีเนื้องอกที่ใบหน้าจนตาขวาปิด ต้องเข้ารับการผ่าตัดเป็นระยะ ขณะที่ครอบครัวสุดขัดสน อยู่กับพ่อเพียงลำพังเพราะแม่ตาย บากบั่นหาความรู้ด้วยตนเอง กระทั่งสามารถช่อมเครื่องใช้ไฟฟ้าหาเงินจุนเจือ 2 ชีวิต แต่ก็ยังมีปัญหาอยากรักษาโรคร้ายให้หายขาด
ที่บ้านเช่าอันทรุดโทรม เลขที่ 400 ในหมู่บ้านมงคลกาญจน์ เทศบาลเมืองเขลางค์นคร ต.ปงแสนทอง อ.เมือง จ.ลำปาง ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปสำรวจเมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์นี้ ทราบว่าเป็นบ้านพักของสองพ่อลูก คือนายวิสุทธิ์ กิมสุวรรณ อายุ 62 ปี กับน้องเอิร์ท หรือนายวสุ กิมสุวรรณ อายุ 15 ปี ซึ่งป่วยด้วยโรคเนื้องอกที่บริเวณใบหน้า ทางการแพทย์เรียกว่า โรคพาราไฟโบม่า ทำให้ดวงตาด้านขวาปิดและต้องเข้ารับการผ่าตัดอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากก้อนเนื้อที่ใบหน้าจะพองโตขึ้นตลอดเวลา ซึ่งที่ผ่านมาก็เข้ารับการผ่าตัดเอาเนื้อที่พองโตออกไปแล้วเกือบ 10 ครั้ง แต่น้องเอิร์ทยังใช้ความสามารถของตนเองที่ถนัดด้านอิเล็กทรอนิกส์หาเงินเพื่อให้ตนเองและคุณพ่อได้มีกินมีใช้ไปวันๆ
นายวิสุทธิ์เล่าว่า ก่อนหน้านี้เคยทำงานอยู่ประเทศออสเตรเลีย ต่อมามารดาป่วยจึงกลับมาประเทศไทย จากนั้นมารดาได้เสียชีวิต ตนจึงนำบ้านและทรัพย์สินไปเข้าธนาคารเพื่อนำเงิน ออกมาลงทุนทำธุรกิจด้านรับเหมาระบบไฟฟ้า แต่สุดท้ายก็ไปไม่รอดเนื่องจากถูกโกง ทำให้ทั้งบ้าน ที่ดิน และทรัพย์สินอื่นที่นำเข้าธนาคารถูกยึดทั้งหมด จึงต้องเช่าบ้านอยู่ แต่ก็ไม่มีทุนทรัพย์ ได้แต่รับจ้างซ่อมเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ มีรายๆ ได้เล็กน้อย
นายวิสุทธิ์กล่าวว่า ภรรยาเสียชีวิตไปตั้งแต่น้องเอิร์ทอายุได้ 7 เดือน โดยลูกชายเกิดมาก็พิการอย่างที่เห็น จึงต้องดูแลและพาลูกไปรักษาตลอดมา หาเงินมาได้ก็หมดไปกับค่ารักษา เพราะต้องเข้ารับการผ่าตัดเป็นระยะ จนถึงปัจจุบันก็ยังต้องเข้ารับการผ่าตัดอยู่ ปัจจุบันตามองเห็นเพียงข้างเดียว กะโหลกศีรษะด้านขวาก็ถูกผ่าตัดออกไป แต่ความจำและความคิดสติปัญญาของลูกดีมาก ทั้งที่เรียนแค่ชั้น ป.1 เท่านั้น เนื่องจากตอนเด็ก.พ.าเข้าโรงเรียน แต่ลูกก็ถูกเพื่อนในโรงเรียนล้อและแกล้งจนไม่สามารถเรียนได้ กระนั้นลูกก็ไม่ทิ้งความพยายาม คอยค้นคว้าหาความรู้ แม้แต่ความรู้ด้านอิเล็กทรอนิกส์ นอกจากตนสอนให้บ้าง อีกส่วนลูกก็ค้นคว้าหาความรู้จากร้านอินเทอร์เน็ต จนสามารถซ่อมเครื่องใช้ไฟฟ้าได้ อาทิ โทรทัศน์ ดีวีดี ตู้เย็น พัดลม โทรศัพท์มือถือ โดยที่ไม่ได้เข้าโรงเรียนเลย เขากล่าวว่า ปัจจุบันได้รับเบี้ยยังชีพคนชราเดือนละ 600 บาท ลูกชายได้รับเบี้ยคนพิการเดือนละ 500 บาท นอกจากนั้นจะพาลูกชายตระเวนไปตามร้านรับซื้อของเก่า เพื่อขอซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าที่เสียแล้วราคาประมาณเครื่องละ 100-200 บาท เอามาซ่อมและขายต่อ หากขายไม่ได้ก็จะนำมาแกะเอาชิ้นส่วนไว้เป็นอะไหล่ซ่อมอุปกรณ์ตัวอื่นต่อไป ซึ่งรายได้ทุกวันนี้ บางวันก็ได้ บางวันก็ไม่ได้เลย
"ถึงจะไม่มีกินเลย ผมกับลูกชายก็คงไม่ออกไปขอทานแน่นอน เพราะคนเราทุกคนต้องมีศักดิ์ศรี ตราบใดที่เรายังมีแรง มีสมองที่จะทำงานได้ แม้จะไม่ได้มากก็ต้องทำ" นายวิสุทธิ์กล่าว มีรายงานว่า ด้วยความกตัญญูและดิ้นรนต่อสู้กับชีวิตแบบไม่ย่อท้อของน้องเอิร์ท ทำให้ทางชมรมมวยไทยอาชีพ จ.ลำปาง ได้ร่วมกับภาคเอกชนหลายส่วน จัดมวยการกุศลขึ้นในวันที่ 15 ก.พ.57 ณ เวทีมวย ดนูดลสเตเดียม สายบายพาสถนนเลี่ยงเมือง ต.ชมพู อ.เมือง จ.ลำปาง จำหน่ายบัตรใบละ 100 บาท เพื่อนำเงินรายได้ที่เหลือจากการหักค่าใช้จ่ายทั้งหมดมอบให้กับครอบครัวน้องเอิร์ท หรือจะบริจาคโดยการโอนเงินเข้าบัญชีชื่อ นายวิสุทธิ์ กิมสุวรรณ ธนาคารกรุงเทพ สาขาเทสโก้โลตัสปงสนุก หมายเลข 624-7-01250-0 หรือจะโทรศัพท์สอบถามได้ที่คุณพนมวัน 08-6118-8131.
ขอบคุณ... http://www.thaipost.net/x-cite/050214/85546 (ขนาดไฟล์: 167)
(thaipost.net ออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 4 ก.พ.57 )
แสดงความคิดเห็น
รายละเอียดกระทู้
นายวสุ กิมสุวรรณ อายุ 15 ปี ซึ่งป่วยด้วยโรคเนื้องอกที่บริเวณใบหน้า เด็กหนุ่มสู้ชีวิต เกิดมาพิการ มีเนื้องอกที่ใบหน้าจนตาขวาปิด ต้องเข้ารับการผ่าตัดเป็นระยะ ขณะที่ครอบครัวสุดขัดสน อยู่กับพ่อเพียงลำพังเพราะแม่ตาย บากบั่นหาความรู้ด้วยตนเอง กระทั่งสามารถช่อมเครื่องใช้ไฟฟ้าหาเงินจุนเจือ 2 ชีวิต แต่ก็ยังมีปัญหาอยากรักษาโรคร้ายให้หายขาด ที่บ้านเช่าอันทรุดโทรม เลขที่ 400 ในหมู่บ้านมงคลกาญจน์ เทศบาลเมืองเขลางค์นคร ต.ปงแสนทอง อ.เมือง จ.ลำปาง ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปสำรวจเมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์นี้ ทราบว่าเป็นบ้านพักของสองพ่อลูก คือนายวิสุทธิ์ กิมสุวรรณ อายุ 62 ปี กับน้องเอิร์ท หรือนายวสุ กิมสุวรรณ อายุ 15 ปี ซึ่งป่วยด้วยโรคเนื้องอกที่บริเวณใบหน้า ทางการแพทย์เรียกว่า โรคพาราไฟโบม่า ทำให้ดวงตาด้านขวาปิดและต้องเข้ารับการผ่าตัดอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากก้อนเนื้อที่ใบหน้าจะพองโตขึ้นตลอดเวลา ซึ่งที่ผ่านมาก็เข้ารับการผ่าตัดเอาเนื้อที่พองโตออกไปแล้วเกือบ 10 ครั้ง แต่น้องเอิร์ทยังใช้ความสามารถของตนเองที่ถนัดด้านอิเล็กทรอนิกส์หาเงินเพื่อให้ตนเองและคุณพ่อได้มีกินมีใช้ไปวันๆ นายวิสุทธิ์เล่าว่า ก่อนหน้านี้เคยทำงานอยู่ประเทศออสเตรเลีย ต่อมามารดาป่วยจึงกลับมาประเทศไทย จากนั้นมารดาได้เสียชีวิต ตนจึงนำบ้านและทรัพย์สินไปเข้าธนาคารเพื่อนำเงิน ออกมาลงทุนทำธุรกิจด้านรับเหมาระบบไฟฟ้า แต่สุดท้ายก็ไปไม่รอดเนื่องจากถูกโกง ทำให้ทั้งบ้าน ที่ดิน และทรัพย์สินอื่นที่นำเข้าธนาคารถูกยึดทั้งหมด จึงต้องเช่าบ้านอยู่ แต่ก็ไม่มีทุนทรัพย์ ได้แต่รับจ้างซ่อมเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ มีรายๆ ได้เล็กน้อย นายวสุ กิมสุวรรณ อายุ 15 ปี ซึ่งป่วยด้วยโรคเนื้องอกที่บริเวณใบหน้า นายวิสุทธิ์กล่าวว่า ภรรยาเสียชีวิตไปตั้งแต่น้องเอิร์ทอายุได้ 7 เดือน โดยลูกชายเกิดมาก็พิการอย่างที่เห็น จึงต้องดูแลและพาลูกไปรักษาตลอดมา หาเงินมาได้ก็หมดไปกับค่ารักษา เพราะต้องเข้ารับการผ่าตัดเป็นระยะ จนถึงปัจจุบันก็ยังต้องเข้ารับการผ่าตัดอยู่ ปัจจุบันตามองเห็นเพียงข้างเดียว กะโหลกศีรษะด้านขวาก็ถูกผ่าตัดออกไป แต่ความจำและความคิดสติปัญญาของลูกดีมาก ทั้งที่เรียนแค่ชั้น ป.1 เท่านั้น เนื่องจากตอนเด็ก.พ.าเข้าโรงเรียน แต่ลูกก็ถูกเพื่อนในโรงเรียนล้อและแกล้งจนไม่สามารถเรียนได้ กระนั้นลูกก็ไม่ทิ้งความพยายาม คอยค้นคว้าหาความรู้ แม้แต่ความรู้ด้านอิเล็กทรอนิกส์ นอกจากตนสอนให้บ้าง อีกส่วนลูกก็ค้นคว้าหาความรู้จากร้านอินเทอร์เน็ต จนสามารถซ่อมเครื่องใช้ไฟฟ้าได้ อาทิ โทรทัศน์ ดีวีดี ตู้เย็น พัดลม โทรศัพท์มือถือ โดยที่ไม่ได้เข้าโรงเรียนเลย เขากล่าวว่า ปัจจุบันได้รับเบี้ยยังชีพคนชราเดือนละ 600 บาท ลูกชายได้รับเบี้ยคนพิการเดือนละ 500 บาท นอกจากนั้นจะพาลูกชายตระเวนไปตามร้านรับซื้อของเก่า เพื่อขอซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าที่เสียแล้วราคาประมาณเครื่องละ 100-200 บาท เอามาซ่อมและขายต่อ หากขายไม่ได้ก็จะนำมาแกะเอาชิ้นส่วนไว้เป็นอะไหล่ซ่อมอุปกรณ์ตัวอื่นต่อไป ซึ่งรายได้ทุกวันนี้ บางวันก็ได้ บางวันก็ไม่ได้เลย "ถึงจะไม่มีกินเลย ผมกับลูกชายก็คงไม่ออกไปขอทานแน่นอน เพราะคนเราทุกคนต้องมีศักดิ์ศรี ตราบใดที่เรายังมีแรง มีสมองที่จะทำงานได้ แม้จะไม่ได้มากก็ต้องทำ" นายวิสุทธิ์กล่าว มีรายงานว่า ด้วยความกตัญญูและดิ้นรนต่อสู้กับชีวิตแบบไม่ย่อท้อของน้องเอิร์ท ทำให้ทางชมรมมวยไทยอาชีพ จ.ลำปาง ได้ร่วมกับภาคเอกชนหลายส่วน จัดมวยการกุศลขึ้นในวันที่ 15 ก.พ.57 ณ เวทีมวย ดนูดลสเตเดียม สายบายพาสถนนเลี่ยงเมือง ต.ชมพู อ.เมือง จ.ลำปาง จำหน่ายบัตรใบละ 100 บาท เพื่อนำเงินรายได้ที่เหลือจากการหักค่าใช้จ่ายทั้งหมดมอบให้กับครอบครัวน้องเอิร์ท หรือจะบริจาคโดยการโอนเงินเข้าบัญชีชื่อ นายวิสุทธิ์ กิมสุวรรณ ธนาคารกรุงเทพ สาขาเทสโก้โลตัสปงสนุก หมายเลข 624-7-01250-0 หรือจะโทรศัพท์สอบถามได้ที่คุณพนมวัน 08-6118-8131. ขอบคุณ... http://www.thaipost.net/x-cite/050214/85546 (thaipost.net ออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 4 ก.พ.57 )
จัดฟอร์แม็ตข้อความและมัลติมีเดีย
รายละเอียดการใส่ ลิงค์ รูปภาพ วิดีโอ เพลง (Soundcloud)