รายละเอียดกระทู้

นายอาคม ห่อเพ็ชร หรือไก่ หนุ่มพิการวัย 33 ปี ไม่ยอมแพ้ต่อชะตาชีวิต แม้จะพิการแขนขวาและขาขวาลีบเล็ก แต่ก็ยังสามารถประกอบอาชีพเลี้ยงตัวเอง ไม่เป็นภาระของครอบครัวและสังคม โดยได้ใช้สมองและฝีมือ ทำงานหัตถกรรมจากกะลามะพร้าว เมล็ดพืช รวมถึงสิ่งของเหลือใช้อื่นๆ มาประดิษฐ์เป็นพวงกุญแจ กระปุกออมสิน เครื่องตกแต่งบ้าน ของเล่นวางจำหน่ายตามงานจัดแสดงสินค้า รวมถึงห้างไดอาน่าหาดใหญ่ยังเปิดโอกาสให้อาคมนำสินค้าไปวางจำหน่ายได้ทุกวันโดยไม่คิดค่าที่แต่อย่างใด นายอาคม ห่อเพ็ชร หรือไก่ หนุ่มพิการวัย 33 ปี นายอาคม กล่าวว่า เมื่อเรียนจบการศึกษาภาคบังคับก็อยากที่จะมีงานทำหาเลี้ยงตัวเอง จึงได้ปรึกษากับผู้นำท้องถิ่นในหมู่บ้าน บ้านไร่ ตำบลบ้านพรุ อำเภอหาดใหญ่ เพื่อขอให้ช่วยในเรื่องอาชีพ โดยเริ่มต้นก็ได้รับการส่งเสริมให้เรียนรู้การทำกรอบรูปวิทยาศาสตร์ ซึ่งก็ทำมาได้ระยะหนึ่ง แต่ต่อมาก็มีคนทำกันมาก ทำให้ผู้พิการอย่างตนแข่งขันได้ยาก จึงได้รับการส่งเสริมให้ฝึกอาชีพในด้านงานหัตถกรรมจากกะลามะพร้าว จากนั้นก็นำมาขยายผล ปรับแต่งสินค้าให้หลากหลาย รวมถึงวัสดุก็หลากหลายมากขึ้น ทั้งกะลามะพร้าว เมล็ดยางพารา เมล็ดสะบ้า กิ่งไม้ เมล็ดฟัก เมล็ดตาลโตนด แล้วแต่จะหามาได้ นำมาตกแต่ง และประกอบเข้ารูป เจาะบ้าง ตัดบ้าง ตกแต่งลงแลกเกอร์ แล้วนำมาประกอบเป็นตุ๊กตาไกวเปล เล่นกีตาร์ พวงกุญแจหนูน้อยหมวกแดง พวงกุญแจจากกะลา ตุ๊กตาควาย ไก่ เป็ด แล้วแต่วัสดุจะเหมาะสมกับการตกแต่งเป็นชิ้นงานอะไรขึ้นมา นายอาคม กล่าวอีกว่า จากวันนั้นจนถึงวันนี้ ตนผลิตชิ้นงานหัตถกรรมด้วยตัวเองมานาน 7 ปี 4 ปีก่อนหน้า โดยจะเน้นนำสินค้าออกวางจำหน่ายตามงานจัดแสดงของหน่วยงานต่างๆ แต่ 3 ปีหลัง ได้รับโอกาสจากห้างสรรพสินค้าไดอาน่าหาดใหญ่ ซึ่งเป็นห้างท้องถิ่น ที่เห็นความสำคัญในการส่งเสริมอาชีพให้แก่ผู้พิการ จึงได้ให้สถานที่สำหรับวางจำหน่ายสินค้าอย่างถาวร โดยได้ไม่คิดมูลค่า อาคมจึงมีที่วางจำหน่ายสินค้าเป็นประจำทุกวันกลายเป็นอาชีพหลักของเค้า ด้านนายจำเริญ สีโยม ผู้จัดการฝ่ายพัฒนาบุคคล ห้างไดอาน่าหาดใหญ่ กล่าวว่าทางห้างฯนั้นมีนโยบายที่ชัดเจนในการให้ความช่วยเหลือผู้พิการในเรื่องอาชีพ ซึ่งอาจจะเป็นการรับเป็นพนักงานหรือการนั่งจำหน่ายสินค้าในห้างฯโดยไม่คิดค่าเช่าที่ ซึ่งปกติจะมีราคาสูง โดยในรายนายอาคมนั้นมีการจัดสถานที่ ที่ถือเป็นทำเลทองให้ เพราะเห็นถึงความตั้งใจจริง ซึ่งที่ผ่านมาก็มาจำหน่ายสินค้าอยู่ทุกวัน และมีมนุษย์สัมพันธ์ที่ดีกับพนักงานของห้าง แม้ไม่อยู่ก็จะมีพนักงานช่วยจำหน่ายสินค้าให้ นอกจากนั้น ยังมีผู้พิการจำหน่ายล๊อตเตอร์รี่ ห้างฯก็ให้โอกาสอีกด้วย นอกเหนือจากสินค้าที่วางจำหน่ายแล้ว อาคมยังได้รับการช่วยเหลือจากชุมชน ท้องถิ่น ทั้งการช่วยกันนำวัตถุดิบมาให้ การช่วยหาตลาดจากหน่วยงาน องค์กรในพื้นที่ การช่วยเหลือในเรื่องของรถรับส่งสินค้า เมื่อต้องเดินทางไกล ๆ ทำให้ชายหนุ่มคนนี้มีความสะดวกมากขึ้น ในการนำสินค้าออกไปจัดแสดง หารายได้ด้วยน้ำพักน้ำแรงของตัวเองซึ่งชุมชนเองก็พร้อมที่จะให้ความช่วยเหลือต่อไป ขณะที่ นายมโน สุวรรณโน ผู้ใหญ่บ้าน ม.10 ต.บ้านพรุ กล่าวว่าตนเองนั้นได้ให้การสนับสนุนกับอาคมมาตั้งแต่ต้น ซึ่งมาขอคำปรึกษาเรื่องของอาชีพ เพราะนายอาคมอยากจะมีงานทำ ไม่อยากเป็นภาระของใคร จึงได้ให้คำแนะนำ พร้อมกับประสานงานไปยังหลายๆหน่วยงานเพื่อให้เค้าได้ฝึกอบรมอาชีพ ที่สามารถทำในเชิงธุรกิจส่วนตัวได้ ซึ่งหลายๆหน่วยก็ให้ความช่วยเหลือเป็นอย่างดี และมีการช่วยเหลือต่อเนื่อง ชุมชนเองก็ให้การต้อนรับ สนับสนุนทุกด้าน ทำให้เค้าไม่รู้สึกโดดเดี่ยวหรือเป็นภาระของใคร นอกจากนี้ นายวีรพงศ์ เกื้อกุล นายกเทศมนตรีตำบลบ้านไร่ อ.หาดใหญ่กล่าวว่า นอกเหนือจากการช่วยเหลือในเรื่องโครงการต่างๆ ที่นายอาคมเสนอมา ทั้งเรื่องการอบรมอาชีพ รวมถึงการอำนวยความสะดวก การจัดรถนำสินค้าไปส่งยังสถานที่จัดแสดงวางจำหน่ายสินค้า และ จะรับกลับบ้านเมื่อครบกำหนดจัดงาน ซึ่งเป็นสิ่งที่ทางเทศบาลดำเนินการมาตลอด เพราะเห็นว่าเป็นผู้พิการที่สู้ชีวิตและมีการสร้างสรรค์ผลงานอยู่ตลอดเวลา และพร้อมที่จะช่วยเหลือชุมชนเมื่อได้รับการบอกขอ เช่น การไปสอนเด็กๆ ในเรื่องการทำกรอบรูป การทำงานฝีมือในแบบที่เค้าถนัด เค้าก็เต็มใจที่จะช่วยเหลือ ซึ่งก็ดีใจที่มีส่วนทำให้เค้ามีโอกาส มีรายได้ และมีความภาคภูมิใจ ที่มีอาชีพไม่เป็นภาระของใคร สำหรับผลงานของนายอาคมบางชิ้น ต้องใช้เวลาทำถึง 2 วัน ขึ้นอยู่กับความยากง่าย การใช้อุปกรณ์ รวมถึงมือขวา ที่มีแรงน้อยกว่า ทำให้เค้าไม่สามารถรับคำสั่งซื้อและส่งมอบสินค้าจำนวนมากในระยะเวลาสั้นๆ ได้ ดังนั้น หากจะอุดหนุนเป็นจำนวนมากก็จะต้องให้เวลาในการผลิต เพราะทุกชิ้นเป็นงานที่มาจากมือของนายอาคม โดยสินค้านั้นได้รับความสนใจจากลูกค้าทุกกลุ่ม บางคนสนใจซื้อเพราะเค้านำเครื่องมือมานั่งประดิษฐ์ภายในที่จำหน่ายบางคนก็เห็นใจที่ไม่ย่อท้อตั้งใจทำงาน ไม่เพียงเท่านั้น ลูกค้าบางรายก็ยังนำวัตถุดิบมาให้ เพื่อช่วยประหยัดต้นทุน ทำให้นายอาคมมีรายได้เลี้ยงตัวเองโดยไม่เดือดร้อน อาคมบอกว่าสินค้าของเค้านั้นราคาจะอยู่ที่ชิ้นละ 15 บาท จนถึง 400 บาท สินค้าหลักเป็นพวงกุญแจกะลามะพร้าว เขียนข้อความต่าง ๆ และจะมีการพัฒนารูปแบบไปเรื่อยๆ ไม่ซ้ำซากจำเจทำให้นายอาคมเองได้มีพัฒนาการมีสมองในการคิดพัฒนางานของตัวเอง ทั้งนี้ สิ่งสำคัญที่ทำให้นายอาคม ไม่ยอมแพ้ต่อโชคชะตา คือโอกาสที่ได้รับจากสังคม ทั้งการช่วยเหลือ ส่งเสริมและอุดหนุน ทำให้เค้าตั้งใจที่จะพัฒนาตัวเอง พัฒนาชิ้นงาน หารายได้ดูแลตัวเองต่อไป ถือเป็นแบบอย่างของผู้พิการ ที่สู้ชีวิต และเป็นแบบอย่างของผู้ที่กำลังประสบปัญหาและกำลังท้อถอย ได้เป็นอย่างดี ขอบคุณ... http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1440753010