วอนช่วย! หมอนวดพิการขาขาด รายได้หด เลี้ยงหลาน 7 เดือนลำพัง

แสดงความคิดเห็น

นางรัชนู สุประการ อายุ 57 ปี พิการขาขาด 1 ข้าง

วอนผู้ใจบุญช่วยเหลือ! สาวใหญ่วัย 57 ปี พิการขาขาดหลังประสบอุบัติเหตุ ซ้ำสามีทิ้งไปแต่งงานใหม่ รายได้จากนวดจับเส้นลดลง เนื่องจากความไม่คล่องตัว อาศัยอยู่กับลูกสาวและหลานสาว ดำรงชีพด้วยเบี้ยคนพิการเดือนละ 800...

เมื่อวันที่ 14 พ.ย. 58 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่า มีหญิงชราขาขาดหลังประสบอุบัติเหตุขี่รถจักรยานยนต์ถูกรถยนต์ชน กระดูกขาแตกละเอียด แพทย์จำเป็นต้องตัดขาทิ้ง ถูกสามีทิ้งไปมีเมียใหม่ มีความเป็นอยู่อย่างยากแค้น แถมต้องเลี้ยงหลานอายุ 7 เดือนอีกคน จึงได้เดินทางไปตรวจสอบที่บ้านเลขที่ 180 ม.5 บ้านหนองบัวสด ต.ป่าสัก อ.เชียงแสน จ.เชียงราย ที่หน้ารั้วบ้านมีป้ายคำว่า “นวดจับเส้น ชั่วโมงละ 100 บาท” พบนางรัชนู สุประการ อายุ 57 ปี เจ้าของบ้าน นั่งอยู่หน้าบ้าน

นางรัชนู พิการขาซ้ายตั้งแต่ต้นขา อาศัยอยู่บ้านกับลูกสาวและหลานอายุ 7 เดือน อีก 1 คน เล่าด้วยน้ำตานองหน้าว่า ก่อนหน้านั้นครอบครัวของตนอยู่อย่างมีความสุข พร้อมหน้าทั้งสามีและลูก 2 คน เพราะตนยึดอาชีพเป็นหมอไปรับนวดจับเส้นตามบ้าน มีรายได้วันละเป็นพันบาท กระทั่งปี 2551 ตนประสบอุบัติเหตุขับขี่รถจักรยานยนต์ไปทำธุระที่ตัวเมืองเชียงแสน ระหว่างทางถูกรถยนต์ชนสลบไม่รู้สึกตัว ต้องนอนอยู่ที่โรงพยาบาล พอฟื้นก็รู้ว่าขาข้างซ้ายถูกตัดทิ้งไปแล้ว พอตนกลับมาอยู่บ้านยังพอช่วยตัวเองได้บ้าง แต่ก็ไม่เหมือนเก่า ต่อมาสามีก็หนีออกจากบ้าน ปล่อยให้ตนและลูกต้องเผชิญกับชะตากรรม

ทั้งนี้ นางรัชนู เล่าต่อว่า ลูกสาวที่อยู่ด้วยกันก็มีครอบครัว จนมีหลานอายุเพิ่งจะ 7 เดือน แต่ครอบครัวแยกกันอยู่ ตนก็ต้องรับเลี้ยงหลานอีกคน ผู้คนที่ทราบเรื่องของตน มาหาถึงบ้านเพื่อให้นวดจับเส้น เพราะตนเคยผ่านการอบรมและเข้าคอร์สเรียนนวดจากโรงเรียนแพทย์แผนโบราณ วัดพระเชตุพนฯ กทม. และอีกหลายที่ จนมีความชำนาญในการจับเส้น จึงมีคนมาให้นวดถึงที่บ้าน ปัจจุบันก็นวดน้อยลง เพราะความไม่คล่องตัว และบางวันก็ไม่มีคนมานวด ดีว่าตนยังได้เงินเดือนละ 800 บาท จากเบี้ยคนพิการมาช่วยเหลือ ทุกวันนี้จะไปไหนก็ต้องใช้ไม้ค้ำยัน ซึ่งหลังจากตนพิการ ก็มีกิ่งกาชาดอำเภอเชียงแสน นำสิ่งของมามอบให้ ทุกวันนี้ก็อยู่อย่างท้อแท้ ยิ่งมารู้ว่าสามีไปแต่งงานใหม่ ทุกวันห่วงแต่หลานตัวเล็ก จึงขอวิงวอนอยากจะให้หน่วยงานที่ช่วยคนพิการ ได้เข้ามาช่วยเหลือตน หรือฝึกอาชีพสำหรับคนพิการให้กับตนด้วย

ขอบคุณ... http://www.thairath.co.th/content/539374 (ขนาดไฟล์: 167)

ที่มา: ไทยรัฐออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 14 พ.ย.58
วันที่โพสต์: 17/11/2558 เวลา 14:05:00 ดูภาพสไลด์โชว์ วอนช่วย! หมอนวดพิการขาขาด รายได้หด เลี้ยงหลาน 7 เดือนลำพัง

แสดงความคิดเห็น

รอตรวจสอบ
จัดฟอร์แม็ต ดูการแสดงผล

รอตรวจสอบ

รอตรวจสอบ

รอตรวจสอบ

ยกเลิก

รายละเอียดกระทู้

นางรัชนู สุประการ อายุ 57 ปี พิการขาขาด 1 ข้าง วอนผู้ใจบุญช่วยเหลือ! สาวใหญ่วัย 57 ปี พิการขาขาดหลังประสบอุบัติเหตุ ซ้ำสามีทิ้งไปแต่งงานใหม่ รายได้จากนวดจับเส้นลดลง เนื่องจากความไม่คล่องตัว อาศัยอยู่กับลูกสาวและหลานสาว ดำรงชีพด้วยเบี้ยคนพิการเดือนละ 800... เมื่อวันที่ 14 พ.ย. 58 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่า มีหญิงชราขาขาดหลังประสบอุบัติเหตุขี่รถจักรยานยนต์ถูกรถยนต์ชน กระดูกขาแตกละเอียด แพทย์จำเป็นต้องตัดขาทิ้ง ถูกสามีทิ้งไปมีเมียใหม่ มีความเป็นอยู่อย่างยากแค้น แถมต้องเลี้ยงหลานอายุ 7 เดือนอีกคน จึงได้เดินทางไปตรวจสอบที่บ้านเลขที่ 180 ม.5 บ้านหนองบัวสด ต.ป่าสัก อ.เชียงแสน จ.เชียงราย ที่หน้ารั้วบ้านมีป้ายคำว่า “นวดจับเส้น ชั่วโมงละ 100 บาท” พบนางรัชนู สุประการ อายุ 57 ปี เจ้าของบ้าน นั่งอยู่หน้าบ้าน นางรัชนู พิการขาซ้ายตั้งแต่ต้นขา อาศัยอยู่บ้านกับลูกสาวและหลานอายุ 7 เดือน อีก 1 คน เล่าด้วยน้ำตานองหน้าว่า ก่อนหน้านั้นครอบครัวของตนอยู่อย่างมีความสุข พร้อมหน้าทั้งสามีและลูก 2 คน เพราะตนยึดอาชีพเป็นหมอไปรับนวดจับเส้นตามบ้าน มีรายได้วันละเป็นพันบาท กระทั่งปี 2551 ตนประสบอุบัติเหตุขับขี่รถจักรยานยนต์ไปทำธุระที่ตัวเมืองเชียงแสน ระหว่างทางถูกรถยนต์ชนสลบไม่รู้สึกตัว ต้องนอนอยู่ที่โรงพยาบาล พอฟื้นก็รู้ว่าขาข้างซ้ายถูกตัดทิ้งไปแล้ว พอตนกลับมาอยู่บ้านยังพอช่วยตัวเองได้บ้าง แต่ก็ไม่เหมือนเก่า ต่อมาสามีก็หนีออกจากบ้าน ปล่อยให้ตนและลูกต้องเผชิญกับชะตากรรม ทั้งนี้ นางรัชนู เล่าต่อว่า ลูกสาวที่อยู่ด้วยกันก็มีครอบครัว จนมีหลานอายุเพิ่งจะ 7 เดือน แต่ครอบครัวแยกกันอยู่ ตนก็ต้องรับเลี้ยงหลานอีกคน ผู้คนที่ทราบเรื่องของตน มาหาถึงบ้านเพื่อให้นวดจับเส้น เพราะตนเคยผ่านการอบรมและเข้าคอร์สเรียนนวดจากโรงเรียนแพทย์แผนโบราณ วัดพระเชตุพนฯ กทม. และอีกหลายที่ จนมีความชำนาญในการจับเส้น จึงมีคนมาให้นวดถึงที่บ้าน ปัจจุบันก็นวดน้อยลง เพราะความไม่คล่องตัว และบางวันก็ไม่มีคนมานวด ดีว่าตนยังได้เงินเดือนละ 800 บาท จากเบี้ยคนพิการมาช่วยเหลือ ทุกวันนี้จะไปไหนก็ต้องใช้ไม้ค้ำยัน ซึ่งหลังจากตนพิการ ก็มีกิ่งกาชาดอำเภอเชียงแสน นำสิ่งของมามอบให้ ทุกวันนี้ก็อยู่อย่างท้อแท้ ยิ่งมารู้ว่าสามีไปแต่งงานใหม่ ทุกวันห่วงแต่หลานตัวเล็ก จึงขอวิงวอนอยากจะให้หน่วยงานที่ช่วยคนพิการ ได้เข้ามาช่วยเหลือตน หรือฝึกอาชีพสำหรับคนพิการให้กับตนด้วย ขอบคุณ... http://www.thairath.co.th/content/539374

จัดฟอร์แม็ตข้อความและมัลติมีเดีย

  1. เพิ่ม
  2. เพิ่ม ลบ
  3. เพิ่ม ลบ
  4. เพิ่ม ลบ
  5. เพิ่ม ลบ
  6. เพิ่ม ลบ
  7. เพิ่ม ลบ
  8. เพิ่ม ลบ
  9. เพิ่ม ลบ
  10. ลบ
เลือกการตกแต่งที่ต้องการ

ตกลง ยกเลิก

รายละเอียดการใส่ ลิงค์ รูปภาพ วิดีโอ เพลง (Soundcloud)

Waiting...