น้องส้ม นศ.สาวพิการ คิดบวก และสู้เมื่อได้โอกาส

แสดงความคิดเห็น

นางสาวอรธีรา รสหอม หรือน้องส้ม และครอบครัว ได้รับทุนการศึกษามูลนิธิสำนักทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ตอนปี 2553 จนสำเร็จปริญญาตรี

“อุบัติเหตุครั้งนั้นเปลี่ยนชีวิตของหนู จากคนปกติ กลายเป็นคนพิการ แต่ฟ้าอาจจะลิขิตชีวิตของหนู ให้เป็นแบบอย่างในชีวิตให้คนที่มีความท้อก็ได้” คำพูดของ “ส้ม” นางสาวอรธีรา รสหอม นักศึกษาชั้นปีที่ 2 (หลักสูตรต่อเนื่อง) สาขาการบัญชี คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล (มทร.) ธัญบุรี นักศึกษาพิการทางการเคลื่อนไหวผู้คิดบวก

“ส้ม” นางสาวอรธีรา รสหอม นักศึกษาชั้นปีที่ 2 (หลักสูตรต่อเนื่อง) สาขาการบัญชี คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล (มทร.) ธัญบุรี เล่าว่า ช่วงนั้นเรียนอยู่ชั้นมัธยมศึกษาชั้นปีที่ 2 โรงเรียนศรีวิชัย และทางโรงเรียนมีการทำโครงงานวิทย์ ตนเองและเพื่อนขับมอเตอร์ไซต์เพื่อไปทำโครงการ โดยเพื่อนเป็นคนขับ ตนเองเป็นคนซ้อน ระหว่างไฟสัญญาณจราจรทางตนเป็นไฟเขียวตามปกติ เพื่อนจึงได้ออกตัว แต่จู่ๆ มีสิบล้อฝ่าไฟแดง มาชนรถมอเตอร์ไซต์ เพื่อนได้กระเด็นออกจากตัวรถ และเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ แต่ตนเองติดอยู่ในรถมอเตอร์ไซต์และถูกลากไปกับท้องถนนจนทำให้มอเตอร์ไซต์ระเบิดไฟคลอกตนเอง

นางสาวอรธีรา รสหอม หรือน้องส้ม และครอบครัว

จากเหตุการณ์ดังกล่าว ทำให้เธอสลบไปถึง 9 วัน นอนในห้อง ICU 19 วัน และต้องใช้เวลาในการรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลถึง 4 เดือน โดยผ่านการผ่าตัดมาแล้วกว่า 20 ครั้ง โดนตัดขาขวา ใส่ขาเทียมข้างขวา มือข้างซ้ายไม่มีนิ้ว ข้างขวาเหลือเพียงนิ้วก้อยและนิ้วนาง ตามร่างกายและแขนข้างขวา และศีรษะมีแผลจากไฟไหม้ตนเองต้องสวมวิกผมปลอมตลอดชีวิต

แม่เล่าให้หนูฟังว่า “ตอนที่ฟื้นขึ้นมาตนเองไม่อยากรับสภาพของตนเอง ต้องพันตัวเหมือนมัมมี่นอนรักษาแผลตามร่างกายอยู่บนเตียงในห้องปลอดเชื้อถึง 4 เดือน และที่เสียใจยิ่งคือไม่มีขาข้างขวาอีกต่อไป ตอนนั้นตนเองได้แต่ร้องไห้ ครวญคางกับแม่ว่าอยากจะตาย ไม่อยากมีชีวิตอยู่ และต้องทรมานกับแผลไฟไหม้ ที่ต้องตัดชิ้นเนื้อในร่างกายมาปะติด” ตอนนั้นมีเพียงแม่ที่นอนเฝ้าตนเองอยู่ข้างเตียง เนื่องจากพ่อกับแม่แยกทางกันตั้งแต่ตนเอง 2 ขวบ

ปัจจุบันตนเองอาศัยอยู่กับแม่และพ่อเลี้ยง และน้องสาวอีกหนึ่งคน กำลังใจจากคนรอบข้างเป็นสิ่งที่สำคัญ “กำลังใจของแม่” เป็นพลังพิเศษที่ทำให้ตนเองอยากมีชีวิตอยู่ต่อไป ซึ่งระหว่างที่รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล เพื่อน ครูอาจารย์มาให้กำลังใจ และให้ตนเองสามารถเรียนที่โรงพยาบาลได้ ทำให้เรียนทันกับเพื่อน ระหว่างนอนพักที่โรงพยาบาลค่าใช้จ่ายสูงมากตอนนั้นแม่ต้องมาเฝ้าที่โรงพยาบาลจึงต้องลาออกจากงาน

ภาระจึงเป็นของพ่อเลี้ยง ซึ่งไม่พอกับการรักษา ด้วยคนเป็นแม่ที่อยากให้ลูกหายจากโรคและความทรมาน แม่จึงได้เขียนหนังสือถวายฎีกาถึงในหลวง ตนเองจึงได้รับเป็นผู้ป่วยในพระบรมราชานุเคราะห์ และได้รับทุนการศึกษามูลนิธิสำนักทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ตอนปี 2553 จนสำเร็จปริญญาตรี ปีละ 30,000บาท

หลังจากที่พักฟื้นจนแผลหายหมด มีช่วงอารมณ์หนึ่งที่คิดตั้งคำถามในใจ ว่ารถสิบล้อต้องลากตนเองไป จนเกิดไฟไหม้ เคยมีอารมณ์โมโหกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่ตอนนี้ไม่โทษใคร เนื่องจากอาจจะเป็นเวรกรรม ชาติไหนหรือชาติหน้าที่ตนเองอาจจะทำไว้ หรือถือว่าเป็นเรื่องโชคดี ที่ตนเองไม่เสียชีวิต ฟ้าอาจลิขิตให้ตนเองเกิดมาเป็นแบบอย่างให้กับคนท้อ เป็นแบบอย่างในการใช้ชีวิต “เหตุการณ์ดังกล่าว มันสามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน ทุกคนมีความประมาท ดังนั้นควรขับรถอย่างระมัดระวัง เคารพกฎจราจร ให้ระวังชีวิตของตัวเอง หรืออีกฝ่ายอาจจะได้รับอันตรายจากความประมาทของคุณ”

เมื่อโดนตัดขา สิ่งที่ตามมา คือ เดินไม่ได้ ถ้าเดินไม่ได้ จะไปเรียนได้อย่างไร ตนเองจึงต้องใส่ขาเทียม เพื่อจะได้ใช้ชีวิตเหมือนปกติที่เคยใช้ ซึ่งกว่าตนเองจะชินกับขาเทียม เหมือนเริ่มหัดเดินใหม่ ต้องใช้ระยะเวลาพอสมควร มีท้อบ้างแต่แม่จะคอยบอกว่า “ถ้าอยากไปเรียนต้องเดินให้ได้” เมื่อเดินได้และหายจึงกลับไปเรียนตามปกติ ตอนที่กลับไปโรงเรียนอีกครั้งการใช้ชีวิตอาจจะไม่เหมือนเดิม จากที่เคยทำกิจกรรมกับเพื่อน เคยยิ้ม เคยสนุก กลับเป็นคนเก็บตัว เพราะว่าตนเองไม่เหมือนเดิม นั่นคือความคิดที่เกิดจากการคิดของตนเอง แต่เมื่อไปที่โรงเรียน มีกำลังใจจากเพื่อนและครู ตนเองจึงยอมรับกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับตนเอง พยายามใช้ชีวิตให้ปกติที่สุด

“ส้ม” นางสาวอรธีรา รสหอม นักศึกษาชั้นปีที่ 2

จนเรียนจบชั้นมัธยมศึกษาชั้นปีที่ 3 ด้วยเกรดเฉลี่ย 3.86 หลังจากเรียนจบ ด้วยร่างกายของตนเอง แม่จึงอยากให้เรียนสายที่หางานทำง่าย จึงเลือกเรียนสายวิชาชีพ จึงเลือกเรียนสาขาบัญชี จนสำเร็จการศึกษาในระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) ด้วยเกรดเฉลี่ย 3.81 ระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.) เกรดเฉลี่ย 3.69 เมื่อทางมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล (มทร.) ธัญบุรี มีโควตาไปที่วิทยาลัย จึงตัดสินใจสมัครในรอบโควตา ตอนมาที่มหาวิทยาลัยรู้สึกกังวลเล็กน้อย เนื่องจากต้องย้ายมาอยู่ที่หอ ตอนที่เข้ามาเรียน 1 เดือนแรก แม่มาอยู่ด้วย ด้วยความเป็นห่วง แต่ตอนนี้เริ่มปรับตัวได้แล้ว อาจจะเดินไม่สะดวกสบายเหมือนคนอื่น อาจจะนั่ง เดิน หรือยืนนาน ๆ ไม่ได้ ต้องขออนุญาตอาจารย์เวลาที่ปวดขา นานทีจะกลับบ้าน เพราะว่า ใส่ขาเทียมนั่งนานไม่ได้ เพราะว่าปวด เวลาคิดถึงบ้านจะโทรหาแม่ แต่ตนเองคิดเสมอว่าแม่อยู่กับตนเอง เพราะว่า แม่จะเย็บถุงมือให้ใส่ข้างซ้าย ถุงมือที่เย็บเป็นเหมือนเครื่องป้องกันตนเองจากภัยร้าย และเวลาที่ท้อจะคิดเสมอ “คิดเรื่องอดีตในปัจจุบันจะทำให้เสียเวลาในอนาคต” ในเมื่อมันผ่านมาแล้วจะไปร้องไห้หรือเรียกร้องกลับมามันคงกลับมาไม่ได้

กว่า 7 ปี ที่ใช้ชีวิตในสังคม พยายามมองทุกอย่างให้เป็นบวก ชีวิตจะได้มีความสุข ยอมรับในสิ่งที่ตนเองเป็นและตนเองมี ปัจจุบันแม่ได้เปิดร้านขายของเล็ก ๆ โดยได้รับทุนพระราชทานในการเปิดร้าน แต่ด้วยเศรษฐกิจไม่ดี ทำให้ขายไม่ดี ส่วนพ่อเลี้ยงยังทำงานเป็นลูกจ้างที่กรมชลประทาน จังหวัดชัยนาท รายได้เพียงเดือนละ 4,000 บาท เพราะต้องหักเงินที่กู้มา และยังมีน้องสาวที่เรียนอยู่ชั้นมัธยมศึกษาชั้นปีที่ 1 ฐานะทางบ้านไม่ดีมาอยู่หอเพิ่มภาระให้กับที่บ้าน

มาอยู่หอพัก ต้องประหยัดค่าใช้จ่ายให้มากที่สุด ตนเองต้องเปลี่ยนขาเทียมทุก ๆ 3 ปี และสิ่งที่สำคัญคือวิกผม โดยวิกผมเป็นผมจริงค่อนข้างมีราคาสูง พยายามจะรักษาวิกผมให้ใช้ได้นานที่สุด วิกผมจริงราคาประมาณ 15,000 บาท ซึ่งมันแพงมาก อีกประมาณ 2 ปีครึ่ง ตนเองจะสำเร็จการศึกษา อยากทำงาน อะไรก็ได้ที่สังคมให้โอกาส รับตนเองเข้าทำงานตนเองมีความฝันอยากทำงานราชการ ทำงานรับใช้เบื้องพระยุคลบาท ช่วยเหลือสังคมช่วยเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน

อยากฝากถึงเพื่อนที่มีร่างกายสมบูรณ์ ต้องอดทน อย่าท้อแท้ เมื่อมีโอกาสเรียนควรตั้งใจเรียน บางคนอยากเรียนไม่ได้เรียน เมื่อมีโอกาสควรรักษาโอกาสไว้ อดทนกับปัญหาที่เกิดขึ้น สำหรับคนพิการ เพิ่งพิการหรือพิการมาตั้งแต่เกิด ให้ใช้ชีวิตต่อสู้กับสิ่งที่ตนเป็น ยอมรับกับสิ่งที่เกิดขึ้น ใช้ชีวิตปกติ ทุกคนมีจิตใจเหมือนกัน พิการเพียงร่างกาย แต่ใจไม่พิการ...

ขอบคุณ... http://www.manager.co.th/Campus/ViewNews.aspx?NewsID=9580000124966 (ขนาดไฟล์: 167)

ที่มา: ASTVผู้จัดการออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย10พ.ย.58
วันที่โพสต์: 13/11/2558 เวลา 13:32:17 ดูภาพสไลด์โชว์ น้องส้ม นศ.สาวพิการ คิดบวก และสู้เมื่อได้โอกาส

แสดงความคิดเห็น

รอตรวจสอบ
จัดฟอร์แม็ต ดูการแสดงผล

รอตรวจสอบ

รอตรวจสอบ

รอตรวจสอบ

ยกเลิก

รายละเอียดกระทู้

นางสาวอรธีรา รสหอม หรือน้องส้ม และครอบครัว ได้รับทุนการศึกษามูลนิธิสำนักทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ตอนปี 2553 จนสำเร็จปริญญาตรี “อุบัติเหตุครั้งนั้นเปลี่ยนชีวิตของหนู จากคนปกติ กลายเป็นคนพิการ แต่ฟ้าอาจจะลิขิตชีวิตของหนู ให้เป็นแบบอย่างในชีวิตให้คนที่มีความท้อก็ได้” คำพูดของ “ส้ม” นางสาวอรธีรา รสหอม นักศึกษาชั้นปีที่ 2 (หลักสูตรต่อเนื่อง) สาขาการบัญชี คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล (มทร.) ธัญบุรี นักศึกษาพิการทางการเคลื่อนไหวผู้คิดบวก “ส้ม” นางสาวอรธีรา รสหอม นักศึกษาชั้นปีที่ 2 (หลักสูตรต่อเนื่อง) สาขาการบัญชี คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล (มทร.) ธัญบุรี เล่าว่า ช่วงนั้นเรียนอยู่ชั้นมัธยมศึกษาชั้นปีที่ 2 โรงเรียนศรีวิชัย และทางโรงเรียนมีการทำโครงงานวิทย์ ตนเองและเพื่อนขับมอเตอร์ไซต์เพื่อไปทำโครงการ โดยเพื่อนเป็นคนขับ ตนเองเป็นคนซ้อน ระหว่างไฟสัญญาณจราจรทางตนเป็นไฟเขียวตามปกติ เพื่อนจึงได้ออกตัว แต่จู่ๆ มีสิบล้อฝ่าไฟแดง มาชนรถมอเตอร์ไซต์ เพื่อนได้กระเด็นออกจากตัวรถ และเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ แต่ตนเองติดอยู่ในรถมอเตอร์ไซต์และถูกลากไปกับท้องถนนจนทำให้มอเตอร์ไซต์ระเบิดไฟคลอกตนเอง นางสาวอรธีรา รสหอม หรือน้องส้ม และครอบครัว จากเหตุการณ์ดังกล่าว ทำให้เธอสลบไปถึง 9 วัน นอนในห้อง ICU 19 วัน และต้องใช้เวลาในการรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลถึง 4 เดือน โดยผ่านการผ่าตัดมาแล้วกว่า 20 ครั้ง โดนตัดขาขวา ใส่ขาเทียมข้างขวา มือข้างซ้ายไม่มีนิ้ว ข้างขวาเหลือเพียงนิ้วก้อยและนิ้วนาง ตามร่างกายและแขนข้างขวา และศีรษะมีแผลจากไฟไหม้ตนเองต้องสวมวิกผมปลอมตลอดชีวิต แม่เล่าให้หนูฟังว่า “ตอนที่ฟื้นขึ้นมาตนเองไม่อยากรับสภาพของตนเอง ต้องพันตัวเหมือนมัมมี่นอนรักษาแผลตามร่างกายอยู่บนเตียงในห้องปลอดเชื้อถึง 4 เดือน และที่เสียใจยิ่งคือไม่มีขาข้างขวาอีกต่อไป ตอนนั้นตนเองได้แต่ร้องไห้ ครวญคางกับแม่ว่าอยากจะตาย ไม่อยากมีชีวิตอยู่ และต้องทรมานกับแผลไฟไหม้ ที่ต้องตัดชิ้นเนื้อในร่างกายมาปะติด” ตอนนั้นมีเพียงแม่ที่นอนเฝ้าตนเองอยู่ข้างเตียง เนื่องจากพ่อกับแม่แยกทางกันตั้งแต่ตนเอง 2 ขวบ ปัจจุบันตนเองอาศัยอยู่กับแม่และพ่อเลี้ยง และน้องสาวอีกหนึ่งคน กำลังใจจากคนรอบข้างเป็นสิ่งที่สำคัญ “กำลังใจของแม่” เป็นพลังพิเศษที่ทำให้ตนเองอยากมีชีวิตอยู่ต่อไป ซึ่งระหว่างที่รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล เพื่อน ครูอาจารย์มาให้กำลังใจ และให้ตนเองสามารถเรียนที่โรงพยาบาลได้ ทำให้เรียนทันกับเพื่อน ระหว่างนอนพักที่โรงพยาบาลค่าใช้จ่ายสูงมากตอนนั้นแม่ต้องมาเฝ้าที่โรงพยาบาลจึงต้องลาออกจากงาน ภาระจึงเป็นของพ่อเลี้ยง ซึ่งไม่พอกับการรักษา ด้วยคนเป็นแม่ที่อยากให้ลูกหายจากโรคและความทรมาน แม่จึงได้เขียนหนังสือถวายฎีกาถึงในหลวง ตนเองจึงได้รับเป็นผู้ป่วยในพระบรมราชานุเคราะห์ และได้รับทุนการศึกษามูลนิธิสำนักทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ตอนปี 2553 จนสำเร็จปริญญาตรี ปีละ 30,000บาท หลังจากที่พักฟื้นจนแผลหายหมด มีช่วงอารมณ์หนึ่งที่คิดตั้งคำถามในใจ ว่ารถสิบล้อต้องลากตนเองไป จนเกิดไฟไหม้ เคยมีอารมณ์โมโหกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่ตอนนี้ไม่โทษใคร เนื่องจากอาจจะเป็นเวรกรรม ชาติไหนหรือชาติหน้าที่ตนเองอาจจะทำไว้ หรือถือว่าเป็นเรื่องโชคดี ที่ตนเองไม่เสียชีวิต ฟ้าอาจลิขิตให้ตนเองเกิดมาเป็นแบบอย่างให้กับคนท้อ เป็นแบบอย่างในการใช้ชีวิต “เหตุการณ์ดังกล่าว มันสามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน ทุกคนมีความประมาท ดังนั้นควรขับรถอย่างระมัดระวัง เคารพกฎจราจร ให้ระวังชีวิตของตัวเอง หรืออีกฝ่ายอาจจะได้รับอันตรายจากความประมาทของคุณ” เมื่อโดนตัดขา สิ่งที่ตามมา คือ เดินไม่ได้ ถ้าเดินไม่ได้ จะไปเรียนได้อย่างไร ตนเองจึงต้องใส่ขาเทียม เพื่อจะได้ใช้ชีวิตเหมือนปกติที่เคยใช้ ซึ่งกว่าตนเองจะชินกับขาเทียม เหมือนเริ่มหัดเดินใหม่ ต้องใช้ระยะเวลาพอสมควร มีท้อบ้างแต่แม่จะคอยบอกว่า “ถ้าอยากไปเรียนต้องเดินให้ได้” เมื่อเดินได้และหายจึงกลับไปเรียนตามปกติ ตอนที่กลับไปโรงเรียนอีกครั้งการใช้ชีวิตอาจจะไม่เหมือนเดิม จากที่เคยทำกิจกรรมกับเพื่อน เคยยิ้ม เคยสนุก กลับเป็นคนเก็บตัว เพราะว่าตนเองไม่เหมือนเดิม นั่นคือความคิดที่เกิดจากการคิดของตนเอง แต่เมื่อไปที่โรงเรียน มีกำลังใจจากเพื่อนและครู ตนเองจึงยอมรับกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับตนเอง พยายามใช้ชีวิตให้ปกติที่สุด “ส้ม” นางสาวอรธีรา รสหอม นักศึกษาชั้นปีที่ 2 จนเรียนจบชั้นมัธยมศึกษาชั้นปีที่ 3 ด้วยเกรดเฉลี่ย 3.86 หลังจากเรียนจบ ด้วยร่างกายของตนเอง แม่จึงอยากให้เรียนสายที่หางานทำง่าย จึงเลือกเรียนสายวิชาชีพ จึงเลือกเรียนสาขาบัญชี จนสำเร็จการศึกษาในระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) ด้วยเกรดเฉลี่ย 3.81 ระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.) เกรดเฉลี่ย 3.69 เมื่อทางมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล (มทร.) ธัญบุรี มีโควตาไปที่วิทยาลัย จึงตัดสินใจสมัครในรอบโควตา ตอนมาที่มหาวิทยาลัยรู้สึกกังวลเล็กน้อย เนื่องจากต้องย้ายมาอยู่ที่หอ ตอนที่เข้ามาเรียน 1 เดือนแรก แม่มาอยู่ด้วย ด้วยความเป็นห่วง แต่ตอนนี้เริ่มปรับตัวได้แล้ว อาจจะเดินไม่สะดวกสบายเหมือนคนอื่น อาจจะนั่ง เดิน หรือยืนนาน ๆ ไม่ได้ ต้องขออนุญาตอาจารย์เวลาที่ปวดขา นานทีจะกลับบ้าน เพราะว่า ใส่ขาเทียมนั่งนานไม่ได้ เพราะว่าปวด เวลาคิดถึงบ้านจะโทรหาแม่ แต่ตนเองคิดเสมอว่าแม่อยู่กับตนเอง เพราะว่า แม่จะเย็บถุงมือให้ใส่ข้างซ้าย ถุงมือที่เย็บเป็นเหมือนเครื่องป้องกันตนเองจากภัยร้าย และเวลาที่ท้อจะคิดเสมอ “คิดเรื่องอดีตในปัจจุบันจะทำให้เสียเวลาในอนาคต” ในเมื่อมันผ่านมาแล้วจะไปร้องไห้หรือเรียกร้องกลับมามันคงกลับมาไม่ได้ กว่า 7 ปี ที่ใช้ชีวิตในสังคม พยายามมองทุกอย่างให้เป็นบวก ชีวิตจะได้มีความสุข ยอมรับในสิ่งที่ตนเองเป็นและตนเองมี ปัจจุบันแม่ได้เปิดร้านขายของเล็ก ๆ โดยได้รับทุนพระราชทานในการเปิดร้าน แต่ด้วยเศรษฐกิจไม่ดี ทำให้ขายไม่ดี ส่วนพ่อเลี้ยงยังทำงานเป็นลูกจ้างที่กรมชลประทาน จังหวัดชัยนาท รายได้เพียงเดือนละ 4,000 บาท เพราะต้องหักเงินที่กู้มา และยังมีน้องสาวที่เรียนอยู่ชั้นมัธยมศึกษาชั้นปีที่ 1 ฐานะทางบ้านไม่ดีมาอยู่หอเพิ่มภาระให้กับที่บ้าน มาอยู่หอพัก ต้องประหยัดค่าใช้จ่ายให้มากที่สุด ตนเองต้องเปลี่ยนขาเทียมทุก ๆ 3 ปี และสิ่งที่สำคัญคือวิกผม โดยวิกผมเป็นผมจริงค่อนข้างมีราคาสูง พยายามจะรักษาวิกผมให้ใช้ได้นานที่สุด วิกผมจริงราคาประมาณ 15,000 บาท ซึ่งมันแพงมาก อีกประมาณ 2 ปีครึ่ง ตนเองจะสำเร็จการศึกษา อยากทำงาน อะไรก็ได้ที่สังคมให้โอกาส รับตนเองเข้าทำงานตนเองมีความฝันอยากทำงานราชการ ทำงานรับใช้เบื้องพระยุคลบาท ช่วยเหลือสังคมช่วยเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน อยากฝากถึงเพื่อนที่มีร่างกายสมบูรณ์ ต้องอดทน อย่าท้อแท้ เมื่อมีโอกาสเรียนควรตั้งใจเรียน บางคนอยากเรียนไม่ได้เรียน เมื่อมีโอกาสควรรักษาโอกาสไว้ อดทนกับปัญหาที่เกิดขึ้น สำหรับคนพิการ เพิ่งพิการหรือพิการมาตั้งแต่เกิด ให้ใช้ชีวิตต่อสู้กับสิ่งที่ตนเป็น ยอมรับกับสิ่งที่เกิดขึ้น ใช้ชีวิตปกติ ทุกคนมีจิตใจเหมือนกัน พิการเพียงร่างกาย แต่ใจไม่พิการ... ขอบคุณ... http://www.manager.co.th/Campus/ViewNews.aspx?NewsID=9580000124966

จัดฟอร์แม็ตข้อความและมัลติมีเดีย

  1. เพิ่ม
  2. เพิ่ม ลบ
  3. เพิ่ม ลบ
  4. เพิ่ม ลบ
  5. เพิ่ม ลบ
  6. เพิ่ม ลบ
  7. เพิ่ม ลบ
  8. เพิ่ม ลบ
  9. เพิ่ม ลบ
  10. ลบ
เลือกการตกแต่งที่ต้องการ

ตกลง ยกเลิก

รายละเอียดการใส่ ลิงค์ รูปภาพ วิดีโอ เพลง (Soundcloud)

Waiting...