พิการแขนด้วน10ขวบสู้ชีวิต ใช้เท้าแทนมือหวังเรียนป.เอก
ทึ่งหนูน้อยวัย 10 ขวบ พิการไม่มีแขนทั้งสองข้างแต่กำเนิด แต่ไม่ย่อท้อต่อชะตากรรม ฝึกใช้เท้าแทนมือช่วยเหลือตัวเองได้อย่างไม่อายใคร สามารถเขียนหนังสือวาดรูปได้อย่างคล่องแคล่วสวยงาม รวมทั้งใช้เท้าคีบช้อนกินอาหารเอง เผยไม่รู้สึกอายเพื่อน ฝันอยากเรียนหนังสือให้ถึงระดับปริญญาเอกจะได้ทำงานดีๆ หาเงินเลี้ยงดูพ่อแม่ได้ ติดขัดที่ครอบครัวยากจน ปลัดเทศบาลเมืองสนั่นรักษ์ ทราบเรื่องหนูน้อยสู้ชีวิต เพราะเข้าร่วมกิจกรรม “ปั่นเพื่อพ่อ” ที่ จ.นครนายก พอรู้ว่าอยู่ในพื้นที่รับผิดชอบเลยเข้าให้การช่วยเหลือเรื่องเบี้ยคนพิการ และเตรียมประสานแพทย์ช่วยเรื่องทำแขนเทียม
เด็กพิการตั้งแต่เกิดแขนด้วนทั้งสองข้างแต่ยังสู้ชีวิตหวังเรียนสูงๆ หาเงินมาเลี้ยงดูพ่อแม่รายนี้ เปิดเผยขึ้นเมื่อวันที่ 23 ธ.ค. โดยนางฐิตินันท์ เจริญอาจ ปลัดเทศบาลเมืองสนั่นรักษ์ จ.ปทุมธานี พร้อมคณะนำข้าวสารอาหารแห้งไปมอบให้ครอบครัวหนูน้อยพิการที่บ้านไม่มีเลขที่ ตั้งอยู่หลังบ้านเลขที่ 168/9 หมู่ 3 ต.บึงสนั่น อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี เป็นบ้านชั้นเดียวก่อด้วยอิฐบล็อก หลังคามุงสังกะสี เป็นบ้านของนายอลงกรณ์ พันธ์คำ อายุ 31 ปี นางจันทร์ พันธ์คำ อายุ 35 ปี ภรรยา กับลูกชายอีก 2 คน คือ ด.ช.อิทธิพล พันธ์คำ หรือน้องกล้า อายุ 10 ขวบ นักเรียนชั้น ป.4 โรงเรียนวัดขุมแก้ว และ ด.ช.ณรงค์ศักดิ์ พันธ์คำ หรือน้องเต้ อายุ 5 ขวบ นักเรียนชั้นอนุบาล 3 ศูนย์เด็กเล็กเทศบาลสนั่นรักษ์ นั่งอ่านหนังสืออยู่ในบ้าน โดยน้องกล้าพิการตั้งแต่กำเนิดแขนด้วนทั้งสองข้าง แขนขวาด้วนถึงหัวไหล่ ส่วนแขนซ้ายมีต้นแขนเพียง 1 คืบ และมีติ่งเนื้อคล้ายนิ้วมือ 2 นิ้ว แต่ไม่สามารถใช้การได้
นายอลงกรณ์กล่าวว่า ตนเป็นชาวอุดรธานี ส่วนนางจันทร์เป็นชาวลาว อาศัยอยู่ที่ จ.ปทุมธานี นานกว่า 10 ปีแล้ว ก่อนหน้านี้ทำงานก่อสร้างโครงการหมู่บ้านปิยทรัพย์ที่อยู่ติดกับบ้าน หลังหมู่บ้านสร้างเสร็จ มาขออาศัยที่ว่างหลังบ้านดังกล่าวปลูกบ้านอยู่กับครอบครัว โดยยึดอาชีพรับจ้างติดตั้งฝ้าและหลังคา มีรายได้วันละ 200-300 บาท ส่วนนางจันทร์มีอาชีพรับจ้างทั่วไปบางวันก็ไม่มีงาน รายได้แทบไม่พอใช้จ่ายในครอบครัว สำหรับน้องกล้าพิการไม่มีแขนตั้งแต่เกิด ตั้งแต่เล็กพยายามฝึกหัดให้เดิน และใช้นิ้วเท้าหยิบจับสิ่งของ จนไปเรียนหนังสือได้เหมือนเด็กปกติทั่วไป อยู่กับสังคมกับเพื่อนได้อย่างไม่อายใคร ตนและภรรยาเป็นห่วงน้องกล้ามาก อยากให้เรียนหนังสือสูงๆ จะได้หางานดีๆทำสามารถเลี้ยงตัวเองได้
ส่วน ด.ช.อิทธิพล หรือน้องกล้า กล่าวว่า ในการทำกิจกรรมต่างๆ หรือหยิบจับสิ่งของต้องใช้นิ้วเท้าแทนมือ อาทิ การหยิบหนังสือ การเขียนหนังสือ การกินอยู่ รวมทั้งการทำงานบ้าน และยังสามารถปั่นจักรยานขี่เล่นได้อย่างคล่องแคล่ว จะลำบากก็เวลากินข้าวหรือกินขนม ต้องใช้นิ้วเท้าคีบช้อน หรือจับอาหารใส่ปาก เพราะต้องก้มลงทำให้ช่วงบริเวณหลังมีลักษณะโก่งงอ ช่วงเช้าไปเรียนหนังสือต้องขึ้นรถตู้รับจ้างไป หลังเลิกเรียนหนังสือ 2 พี่น้องต้องกลับมาอยู่บ้านเพียงลำพัง เพราะพ่อและแม่ยังไม่เลิกงาน พร้อมย้ำว่าไม่รู้สึกอายเพื่อนหรืออายคนอื่นแต่อย่างใด สามารถใช้ชีวิตอยู่กับเพื่อนๆได้ มีความฝันต้องการเรียนหนังสือให้ถึงระดับปริญญาเอก แต่ฐานะทางบ้านยากจน เพราะพ่อกับแม่ทำงานรับจ้างก่อสร้างทั่วไปในหมู่บ้าน รายได้ก็ไม่พอใช้ อยากจะเรียนให้สูงๆ ได้ทำงานในห้องแอร์ที่มีเงินเดือนสูงๆ จะได้นำมาเลี้ยงดูพ่อแม่ได้จากนั้นน้องกล้าได้ใช้เท้าวาดภาพและเขียนหนังสือโชว์ได้อย่างสวยงาม
ด้านนางฐิตินันท์ เจริญอาจ ปลัดเทศบาลเมืองสนั่นรักษ์ กล่าวถึงการเข้าช่วยเหลือเด็กสู้ชีวิตครั้งนี้ว่า ก่อนหน้านี้ได้รับทราบว่ามีน้องกล้าเข้าร่วมกิจกรรม “ปั่นเพื่อพ่อ หรือ BIKE FOR DAD” ที่ จ.นครนายก มีภูมิลำเนาอยู่ในพื้นที่รับผิดชอบของเทศบาลเมืองสนั่นรักษ์ มีฐานะยากจน จึงเข้ามาเพื่อให้การช่วยเหลือ ได้ประสานการช่วยเหลือเรื่องเบี้ยคนพิการให้กับน้องกล้าแล้ว พร้อมทั้งเตรียมประสานกับทางแพทย์เพื่อให้การช่วยเหลือเรื่องการทำแขนเทียมว่าจะสามารถใช้แขนเทียมได้หรือไม่
ขอบคุณ... http://www.thairath.co.th/content/553433g (ขนาดไฟล์: 167)
แสดงความคิดเห็น
รายละเอียดกระทู้
ด.ช.อิทธิพล พันธ์คำ หรือน้องกล้า อายุ 10 ขวบ พิการไม่มีแขนทั้งสองข้างแต่กำเนิด ทึ่งหนูน้อยวัย 10 ขวบ พิการไม่มีแขนทั้งสองข้างแต่กำเนิด แต่ไม่ย่อท้อต่อชะตากรรม ฝึกใช้เท้าแทนมือช่วยเหลือตัวเองได้อย่างไม่อายใคร สามารถเขียนหนังสือวาดรูปได้อย่างคล่องแคล่วสวยงาม รวมทั้งใช้เท้าคีบช้อนกินอาหารเอง เผยไม่รู้สึกอายเพื่อน ฝันอยากเรียนหนังสือให้ถึงระดับปริญญาเอกจะได้ทำงานดีๆ หาเงินเลี้ยงดูพ่อแม่ได้ ติดขัดที่ครอบครัวยากจน ปลัดเทศบาลเมืองสนั่นรักษ์ ทราบเรื่องหนูน้อยสู้ชีวิต เพราะเข้าร่วมกิจกรรม “ปั่นเพื่อพ่อ” ที่ จ.นครนายก พอรู้ว่าอยู่ในพื้นที่รับผิดชอบเลยเข้าให้การช่วยเหลือเรื่องเบี้ยคนพิการ และเตรียมประสานแพทย์ช่วยเรื่องทำแขนเทียม เด็กพิการตั้งแต่เกิดแขนด้วนทั้งสองข้างแต่ยังสู้ชีวิตหวังเรียนสูงๆ หาเงินมาเลี้ยงดูพ่อแม่รายนี้ เปิดเผยขึ้นเมื่อวันที่ 23 ธ.ค. โดยนางฐิตินันท์ เจริญอาจ ปลัดเทศบาลเมืองสนั่นรักษ์ จ.ปทุมธานี พร้อมคณะนำข้าวสารอาหารแห้งไปมอบให้ครอบครัวหนูน้อยพิการที่บ้านไม่มีเลขที่ ตั้งอยู่หลังบ้านเลขที่ 168/9 หมู่ 3 ต.บึงสนั่น อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี เป็นบ้านชั้นเดียวก่อด้วยอิฐบล็อก หลังคามุงสังกะสี เป็นบ้านของนายอลงกรณ์ พันธ์คำ อายุ 31 ปี นางจันทร์ พันธ์คำ อายุ 35 ปี ภรรยา กับลูกชายอีก 2 คน คือ ด.ช.อิทธิพล พันธ์คำ หรือน้องกล้า อายุ 10 ขวบ นักเรียนชั้น ป.4 โรงเรียนวัดขุมแก้ว และ ด.ช.ณรงค์ศักดิ์ พันธ์คำ หรือน้องเต้ อายุ 5 ขวบ นักเรียนชั้นอนุบาล 3 ศูนย์เด็กเล็กเทศบาลสนั่นรักษ์ นั่งอ่านหนังสืออยู่ในบ้าน โดยน้องกล้าพิการตั้งแต่กำเนิดแขนด้วนทั้งสองข้าง แขนขวาด้วนถึงหัวไหล่ ส่วนแขนซ้ายมีต้นแขนเพียง 1 คืบ และมีติ่งเนื้อคล้ายนิ้วมือ 2 นิ้ว แต่ไม่สามารถใช้การได้ นายอลงกรณ์กล่าวว่า ตนเป็นชาวอุดรธานี ส่วนนางจันทร์เป็นชาวลาว อาศัยอยู่ที่ จ.ปทุมธานี นานกว่า 10 ปีแล้ว ก่อนหน้านี้ทำงานก่อสร้างโครงการหมู่บ้านปิยทรัพย์ที่อยู่ติดกับบ้าน หลังหมู่บ้านสร้างเสร็จ มาขออาศัยที่ว่างหลังบ้านดังกล่าวปลูกบ้านอยู่กับครอบครัว โดยยึดอาชีพรับจ้างติดตั้งฝ้าและหลังคา มีรายได้วันละ 200-300 บาท ส่วนนางจันทร์มีอาชีพรับจ้างทั่วไปบางวันก็ไม่มีงาน รายได้แทบไม่พอใช้จ่ายในครอบครัว สำหรับน้องกล้าพิการไม่มีแขนตั้งแต่เกิด ตั้งแต่เล็กพยายามฝึกหัดให้เดิน และใช้นิ้วเท้าหยิบจับสิ่งของ จนไปเรียนหนังสือได้เหมือนเด็กปกติทั่วไป อยู่กับสังคมกับเพื่อนได้อย่างไม่อายใคร ตนและภรรยาเป็นห่วงน้องกล้ามาก อยากให้เรียนหนังสือสูงๆ จะได้หางานดีๆทำสามารถเลี้ยงตัวเองได้ ส่วน ด.ช.อิทธิพล หรือน้องกล้า กล่าวว่า ในการทำกิจกรรมต่างๆ หรือหยิบจับสิ่งของต้องใช้นิ้วเท้าแทนมือ อาทิ การหยิบหนังสือ การเขียนหนังสือ การกินอยู่ รวมทั้งการทำงานบ้าน และยังสามารถปั่นจักรยานขี่เล่นได้อย่างคล่องแคล่ว จะลำบากก็เวลากินข้าวหรือกินขนม ต้องใช้นิ้วเท้าคีบช้อน หรือจับอาหารใส่ปาก เพราะต้องก้มลงทำให้ช่วงบริเวณหลังมีลักษณะโก่งงอ ช่วงเช้าไปเรียนหนังสือต้องขึ้นรถตู้รับจ้างไป หลังเลิกเรียนหนังสือ 2 พี่น้องต้องกลับมาอยู่บ้านเพียงลำพัง เพราะพ่อและแม่ยังไม่เลิกงาน พร้อมย้ำว่าไม่รู้สึกอายเพื่อนหรืออายคนอื่นแต่อย่างใด สามารถใช้ชีวิตอยู่กับเพื่อนๆได้ มีความฝันต้องการเรียนหนังสือให้ถึงระดับปริญญาเอก แต่ฐานะทางบ้านยากจน เพราะพ่อกับแม่ทำงานรับจ้างก่อสร้างทั่วไปในหมู่บ้าน รายได้ก็ไม่พอใช้ อยากจะเรียนให้สูงๆ ได้ทำงานในห้องแอร์ที่มีเงินเดือนสูงๆ จะได้นำมาเลี้ยงดูพ่อแม่ได้จากนั้นน้องกล้าได้ใช้เท้าวาดภาพและเขียนหนังสือโชว์ได้อย่างสวยงาม ด้านนางฐิตินันท์ เจริญอาจ ปลัดเทศบาลเมืองสนั่นรักษ์ กล่าวถึงการเข้าช่วยเหลือเด็กสู้ชีวิตครั้งนี้ว่า ก่อนหน้านี้ได้รับทราบว่ามีน้องกล้าเข้าร่วมกิจกรรม “ปั่นเพื่อพ่อ หรือ BIKE FOR DAD” ที่ จ.นครนายก มีภูมิลำเนาอยู่ในพื้นที่รับผิดชอบของเทศบาลเมืองสนั่นรักษ์ มีฐานะยากจน จึงเข้ามาเพื่อให้การช่วยเหลือ ได้ประสานการช่วยเหลือเรื่องเบี้ยคนพิการให้กับน้องกล้าแล้ว พร้อมทั้งเตรียมประสานกับทางแพทย์เพื่อให้การช่วยเหลือเรื่องการทำแขนเทียมว่าจะสามารถใช้แขนเทียมได้หรือไม่ ขอบคุณ... http://www.thairath.co.th/content/553433g
จัดฟอร์แม็ตข้อความและมัลติมีเดีย
รายละเอียดการใส่ ลิงค์ รูปภาพ วิดีโอ เพลง (Soundcloud)