นิยายชีวิตจริงชายพิการอำมหิต-สิ้นคิด=ประหาร

แสดงความคิดเห็น

นิยายชีวิตจริงชายพิการอำมหิต-สิ้นคิด=ประหาร

ชีวิตเลือกเกิดไม่ได้ "สมเกียรติ ศรีจันทร์" วัย 36 ปี ชายพิการ ขาขวาลีบข้างหนึ่ง แขนขวาไม่ค่อยมีเรี่ยวแรง แต่เลือกที่จะเป็น “คนธรรมดา” พยายามทำมาหากินสุจริตให้เหมือนกับคนธรรมดาทั่วไป แต่ในวันนี้ไม่มีชายชื่อ "สมเกียรติ" ตื่นเช้ามาทำขนมปังอร่อย ๆ อีกแล้ว เหลือเพียงแต่ความโศกเศร้าของคนข้างหลัง ที่ไม่รู้วันใดจะมีจิตใจที่เข้มแข็งเหมือนเดิม ร่างกายที่ไม่ครบ 32 ทุก ๆ เช้าเวลาตี 5 “ชายพิการขาเป๋คนนี้” จะส่งเสียงปลุกทุกคนในร้านให้ตื่นขึ้นมาทำขนมปังจะแล้วเสร็จก็ประมาณ8โมงเช้าและออกไปส่งที่ร้านค้าละแวกใกล้ๆ

"สมเกียรติ" มีลูกชาย 2 คน วัย 9 และ 12 ขวบ โดยเลิกรากับภรรยาไปนานแล้ว แต่ด้วยความสู้ชีวิต ชายคนนี้เลือกทำงานส่งเสียลูกให้ได้เรียนหนังสือ และเลี้ยงดูแม่บังเกิดเกล้า ซึ่งจะคอยดูแลหลาน ๆ อยู่ที่บ้าน จ.นครปฐม พอถึงสิ้นเดือนเงินเดือนออก "สมเกียรติ" ก็จะกลับบ้านที่นครปฐม นำเงินไปให้แม่ทุกเดือน ได้กอดลูกชาย ได้กินข้าวพร้อมหน้าพร้อมตากัน เป็นภาพที่มีความสุขอย่างยิ่ง แล้วจะกลับมานอนที่ร้านในตอนเย็น แต่แล้วในเช้าวันที่ 1 พ.ค. ซึ่งเป็นวันแรงงานแห่งชาติ และเป็นวันที่ “คนแรงงาน” อย่าง “สมเกียรติ” ได้ทำงานออกไปส่งขนมปังเป็นวันสุดท้ายในชีวิต !!!

ของกลางอาวุธมีดดาบจำนวน 3 เล่ม ก้อนหิน(อิฐบล๊อก1 ก้อน)น้ำหนัก ประมาณ1ก.ก

หลานสาวและหลานชายที่ทำงานในร้านขนมปัง ถาม “สมเกียรติ” ซึ่งมีศักดิ์เป็น "น้า" ว่า..."วันนี้เราหุงข้าวกินกันไหม" “สมเกียรติ” ดีใจ บอกว่า "เอาสิมีปลาทอด หมูทอดที่ยายให้มาเมื่อวานนี้ เดี๋ยวน้าส่งขนมปังเสร็จ จะซื้ออะไรมาเพิ่ม" ผ่านไปได้พักใหญ่ ชายพิการกลับเข้าร้าน แต่ไม่ได้ซื้ออาหารติดมือมา แต่กลับมาเล่าว่า มีปากเสียงกับกลุ่มวัยรุ่น ตอนที่ไปส่งขนมปัง แซวเรื่องความพิการ เขาจึงพูดสั่งสอนไปว่า "พูดจาให้ดีๆ" แล้วก็ขับรถตรงกลับมาที่ร้าน

แต่ไม่ถึงครึ่งชั่วโมงจากนั้น มีวัยรุ่น 4 คนเข้ามาในร้าน เรียกร้องให้ "สมเกียรติ" ขอโทษ จนมีปากมีเสียงกัน หลานชายเห็นท่าไม่ดีนัก จึงโทรแจ้งตำรวจ แต่กลับมีเสียงวัยรุ่นพูดขึ้นมาว่า "เรียกมาเลย พ่อกูนี่แหละเป็นตำรวจ" ความชุลมุนเกิดขึ้น และไม่มีใครคาดคิด ด้วยปลายมีดที่เข้ามาปลิดชีวิต เสมือนมัจจุราชได้พรากชีวิต "สมเกียรติ" เพราะเขาถูกโจ๋ 6 คนรุมทำร้าย ใช้มีดแทงเข้าที่คอหอย จนเลือดสีแดงไหลนองท่วมตัว หลานชายพยายามเข้ามาขวาง ยกมือไหว้ร้องขอชีวิต "อย่าทำน้าผมๆๆ" แต่ไม่ทันเสียแล้ว มีดเล่มนั้นได้พุ่งแทงเข้าที่คอ จนชายพิการขาเป๋คนนี้นอนแน่นิ่งไป

คลิปวิดีโอจับภาพเหตุการณ์ไว้ได้ทั้งหมด ซึ่งท้ายคลิปมีตำรวจมาถึงจุดเกิดเหตุ แต่ยังไม่สามารถระงับเหตุได้ จึงต้องยิงปืนขึ้นฟ้าหนึ่งนัด เมื่อเรื่องเป็นคดีความ ถึงมือเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.โชคชัย ความจริงจึงปรากฏชัดเจนขึ้น เมื่อผู้ต้องหาวัยรุ่นทั้งหมด 6 คน เป็นลูกของตำรวจที่ลงมือก่อเหตุถึง 4 คน ความตั้งใจของหลานสาว พังลงภายในไม่มีนาที มื้อเช้าของชายพิการขาเป๋คนนี้ ที่จะได้กิน “กับข้าว” ฝีมือ “แม่” ที่นำมาจากนครปฐม และหลานสาวจะเป็นคนหุงข้าวให้กิน ไม่มีเสียแล้ว และคงไม่มีใครรู้หรอกว่า...ในวันนั้น ไม่มีใครได้กินข้าวเลยทั้งวัน อันมีผลจากเหตุเศร้าสลด

คำพูดจากปากหลานสาวบอกด้วยว่า "น้าเกียรติยังไม่ได้กินข้าวเลย หมูทอด ปลาทอด กับข้าวที่แม่ของน้าเกียรติทำฝากมา" "ทองคำ ศรีจันทร์" แม่ของสมเกียรติ พอเห็นสภาพลูกที่โรงพยาบาล ก็เป็นลมซ้ำแล้วซ้ำอีก ได้สติขึ้นมาก็ร้องไห้ พร่ำบอกแต่ว่า "เมื่อวานลูกมาหา ไม่ได้กอดลูกเลย ถ้าตายแทนได้ แม่จะตายเสียเอง" งานศพวันที่ 2 ของสมเกียรติ แม่ของเขาทำหมูทอด และซื้อนำอัดลม จัดเป็นสำรับอาหารวางไว้หน้าโลงศพ แต่ “สมเกียรติ” ก็ไม่ได้ลุกขึ้นมากินข้าวที่ “แม่” ทำไว้ให้

ญาติๆ ครอบครัวผู้เสียชีวิต

เช้าวันที่ไม่มีใครอยากจดจำ เปรียบดั่งเคราะห์ซ้ำกรรมซัด ความคะนองจากฤทธิ์สุราของวัยรุ่นทั้ง 6 คน ได้พรากชีวิตชายพิการขาเป๋คนนี้ ไปจากอกของลูก ๆ ทั้ง 2อย่างไม่มีวันกลับ แม้โอกาสในสังคมของคนพิการ จะมีไม่มากนัก แต่เขาก็ทำอาชีพสุจริต หาเลี้ยงครอบครัวด้วยน้ำพักน้ำแรงเท่าที่กำลังมี อนาคตของลูกทั้ง 2 ในวันที่ไร้พ่อ “เสาหลักของครอบครัว” ถูกฆ่าด้วยความคะนอง เกิดคำถามตามมามากมาย จะมีความเป็นธรรมกับคนพิการที่ตายไปแล้วอย่างไร หรือคดีจะถูกลบเลือนหายไปตามยถากรรม ตอนหนึ่งที่นักข่าวสัมภาษณ์ถามเด็กว่า อยากให้ตำรวจทำอย่างไร เด็กชายวัย 12ขวบ ลูกคนโตของสมเกียรติ ตอบคำเดียวว่า "ประหาร...ครับ" และถามว่า "หนูรู้หรือลูกว่าประหารเป็นยังไง" เด็กพยักหน้า

แม้ลูกของ “สมเกียรติ” ทั้ง 2 จะไร้เดียงสา วัย 9 และ 12 ขวบ แค่ความรู้สึกของลูกคนโต รับรู้ได้แล้วว่า "พ่อจากไปแล้ว" เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ถือเป็น “ความอำมหิต” ทำให้เกิดความสูญเสีย ที่มาพร้อมกับน้ำตา และเสียงร้องไห้ตลอดเวลา ยังอยู่ในความทรงจำของเด็กน้อย พร้อมกับคำถามที่ค้างคาใจ “พ่อเขาผิดอะไร” และเด็กน้อยทั้งสองอยากให้เหตุการณ์ที่ว่านี้เป็นเพียง “นิยาย” ที่ไม่ใช่ “เรื่องจริง” แต่มันไม่ได้เป็นเช่นนั้น เพราะนี่คือ “นิยายชีวิตจริง” ที่เกิดขึ้นกับ “สมเกียรติ” ชายพิการขาเป๋ ผู้ไม่ยอมแพ้กับโชคชะตา และต้องมาจบชีวิตด้วยน้ำมือของกลุ่มคนที่ “สิ้นคิด” จึงไม่แปลกที่ “ลูกชายคนโต” ในวัย 12 ขวบของ “สมเกียรติ” จะเอ่ยคำ “ประหาร...ครับ”

นิยายชีวิต อาทิตย์สไตล์

โดย "ทวีลาภ บวกทอง"

ขอบคุณ... http://www.dailynews.co.th/article/396010 (ขนาดไฟล์: 167)

ที่มา: เดลินิวส์ออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 8 พ.ค.59
วันที่โพสต์: 9/05/2559 เวลา 13:13:20 ดูภาพสไลด์โชว์ นิยายชีวิตจริงชายพิการอำมหิต-สิ้นคิด=ประหาร

แสดงความคิดเห็น

รอตรวจสอบ
จัดฟอร์แม็ต ดูการแสดงผล

รอตรวจสอบ

รอตรวจสอบ

รอตรวจสอบ

ยกเลิก

รายละเอียดกระทู้

นิยายชีวิตจริงชายพิการอำมหิต-สิ้นคิด=ประหาร ชีวิตเลือกเกิดไม่ได้ "สมเกียรติ ศรีจันทร์" วัย 36 ปี ชายพิการ ขาขวาลีบข้างหนึ่ง แขนขวาไม่ค่อยมีเรี่ยวแรง แต่เลือกที่จะเป็น “คนธรรมดา” พยายามทำมาหากินสุจริตให้เหมือนกับคนธรรมดาทั่วไป แต่ในวันนี้ไม่มีชายชื่อ "สมเกียรติ" ตื่นเช้ามาทำขนมปังอร่อย ๆ อีกแล้ว เหลือเพียงแต่ความโศกเศร้าของคนข้างหลัง ที่ไม่รู้วันใดจะมีจิตใจที่เข้มแข็งเหมือนเดิม ร่างกายที่ไม่ครบ 32 ทุก ๆ เช้าเวลาตี 5 “ชายพิการขาเป๋คนนี้” จะส่งเสียงปลุกทุกคนในร้านให้ตื่นขึ้นมาทำขนมปังจะแล้วเสร็จก็ประมาณ8โมงเช้าและออกไปส่งที่ร้านค้าละแวกใกล้ๆ "สมเกียรติ" มีลูกชาย 2 คน วัย 9 และ 12 ขวบ โดยเลิกรากับภรรยาไปนานแล้ว แต่ด้วยความสู้ชีวิต ชายคนนี้เลือกทำงานส่งเสียลูกให้ได้เรียนหนังสือ และเลี้ยงดูแม่บังเกิดเกล้า ซึ่งจะคอยดูแลหลาน ๆ อยู่ที่บ้าน จ.นครปฐม พอถึงสิ้นเดือนเงินเดือนออก "สมเกียรติ" ก็จะกลับบ้านที่นครปฐม นำเงินไปให้แม่ทุกเดือน ได้กอดลูกชาย ได้กินข้าวพร้อมหน้าพร้อมตากัน เป็นภาพที่มีความสุขอย่างยิ่ง แล้วจะกลับมานอนที่ร้านในตอนเย็น แต่แล้วในเช้าวันที่ 1 พ.ค. ซึ่งเป็นวันแรงงานแห่งชาติ และเป็นวันที่ “คนแรงงาน” อย่าง “สมเกียรติ” ได้ทำงานออกไปส่งขนมปังเป็นวันสุดท้ายในชีวิต !!! ของกลางอาวุธมีดดาบจำนวน 3 เล่ม ก้อนหิน(อิฐบล๊อก1 ก้อน)น้ำหนัก ประมาณ1ก.ก หลานสาวและหลานชายที่ทำงานในร้านขนมปัง ถาม “สมเกียรติ” ซึ่งมีศักดิ์เป็น "น้า" ว่า..."วันนี้เราหุงข้าวกินกันไหม" “สมเกียรติ” ดีใจ บอกว่า "เอาสิมีปลาทอด หมูทอดที่ยายให้มาเมื่อวานนี้ เดี๋ยวน้าส่งขนมปังเสร็จ จะซื้ออะไรมาเพิ่ม" ผ่านไปได้พักใหญ่ ชายพิการกลับเข้าร้าน แต่ไม่ได้ซื้ออาหารติดมือมา แต่กลับมาเล่าว่า มีปากเสียงกับกลุ่มวัยรุ่น ตอนที่ไปส่งขนมปัง แซวเรื่องความพิการ เขาจึงพูดสั่งสอนไปว่า "พูดจาให้ดีๆ" แล้วก็ขับรถตรงกลับมาที่ร้าน แต่ไม่ถึงครึ่งชั่วโมงจากนั้น มีวัยรุ่น 4 คนเข้ามาในร้าน เรียกร้องให้ "สมเกียรติ" ขอโทษ จนมีปากมีเสียงกัน หลานชายเห็นท่าไม่ดีนัก จึงโทรแจ้งตำรวจ แต่กลับมีเสียงวัยรุ่นพูดขึ้นมาว่า "เรียกมาเลย พ่อกูนี่แหละเป็นตำรวจ" ความชุลมุนเกิดขึ้น และไม่มีใครคาดคิด ด้วยปลายมีดที่เข้ามาปลิดชีวิต เสมือนมัจจุราชได้พรากชีวิต "สมเกียรติ" เพราะเขาถูกโจ๋ 6 คนรุมทำร้าย ใช้มีดแทงเข้าที่คอหอย จนเลือดสีแดงไหลนองท่วมตัว หลานชายพยายามเข้ามาขวาง ยกมือไหว้ร้องขอชีวิต "อย่าทำน้าผมๆๆ" แต่ไม่ทันเสียแล้ว มีดเล่มนั้นได้พุ่งแทงเข้าที่คอ จนชายพิการขาเป๋คนนี้นอนแน่นิ่งไป คลิปวิดีโอจับภาพเหตุการณ์ไว้ได้ทั้งหมด ซึ่งท้ายคลิปมีตำรวจมาถึงจุดเกิดเหตุ แต่ยังไม่สามารถระงับเหตุได้ จึงต้องยิงปืนขึ้นฟ้าหนึ่งนัด เมื่อเรื่องเป็นคดีความ ถึงมือเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.โชคชัย ความจริงจึงปรากฏชัดเจนขึ้น เมื่อผู้ต้องหาวัยรุ่นทั้งหมด 6 คน เป็นลูกของตำรวจที่ลงมือก่อเหตุถึง 4 คน ความตั้งใจของหลานสาว พังลงภายในไม่มีนาที มื้อเช้าของชายพิการขาเป๋คนนี้ ที่จะได้กิน “กับข้าว” ฝีมือ “แม่” ที่นำมาจากนครปฐม และหลานสาวจะเป็นคนหุงข้าวให้กิน ไม่มีเสียแล้ว และคงไม่มีใครรู้หรอกว่า...ในวันนั้น ไม่มีใครได้กินข้าวเลยทั้งวัน อันมีผลจากเหตุเศร้าสลด คำพูดจากปากหลานสาวบอกด้วยว่า "น้าเกียรติยังไม่ได้กินข้าวเลย หมูทอด ปลาทอด กับข้าวที่แม่ของน้าเกียรติทำฝากมา" "ทองคำ ศรีจันทร์" แม่ของสมเกียรติ พอเห็นสภาพลูกที่โรงพยาบาล ก็เป็นลมซ้ำแล้วซ้ำอีก ได้สติขึ้นมาก็ร้องไห้ พร่ำบอกแต่ว่า "เมื่อวานลูกมาหา ไม่ได้กอดลูกเลย ถ้าตายแทนได้ แม่จะตายเสียเอง" งานศพวันที่ 2 ของสมเกียรติ แม่ของเขาทำหมูทอด และซื้อนำอัดลม จัดเป็นสำรับอาหารวางไว้หน้าโลงศพ แต่ “สมเกียรติ” ก็ไม่ได้ลุกขึ้นมากินข้าวที่ “แม่” ทำไว้ให้ ญาติๆ ครอบครัวผู้เสียชีวิต เช้าวันที่ไม่มีใครอยากจดจำ เปรียบดั่งเคราะห์ซ้ำกรรมซัด ความคะนองจากฤทธิ์สุราของวัยรุ่นทั้ง 6 คน ได้พรากชีวิตชายพิการขาเป๋คนนี้ ไปจากอกของลูก ๆ ทั้ง 2อย่างไม่มีวันกลับ แม้โอกาสในสังคมของคนพิการ จะมีไม่มากนัก แต่เขาก็ทำอาชีพสุจริต หาเลี้ยงครอบครัวด้วยน้ำพักน้ำแรงเท่าที่กำลังมี อนาคตของลูกทั้ง 2 ในวันที่ไร้พ่อ “เสาหลักของครอบครัว” ถูกฆ่าด้วยความคะนอง เกิดคำถามตามมามากมาย จะมีความเป็นธรรมกับคนพิการที่ตายไปแล้วอย่างไร หรือคดีจะถูกลบเลือนหายไปตามยถากรรม ตอนหนึ่งที่นักข่าวสัมภาษณ์ถามเด็กว่า อยากให้ตำรวจทำอย่างไร เด็กชายวัย 12ขวบ ลูกคนโตของสมเกียรติ ตอบคำเดียวว่า "ประหาร...ครับ" และถามว่า "หนูรู้หรือลูกว่าประหารเป็นยังไง" เด็กพยักหน้า แม้ลูกของ “สมเกียรติ” ทั้ง 2 จะไร้เดียงสา วัย 9 และ 12 ขวบ แค่ความรู้สึกของลูกคนโต รับรู้ได้แล้วว่า "พ่อจากไปแล้ว" เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ถือเป็น “ความอำมหิต” ทำให้เกิดความสูญเสีย ที่มาพร้อมกับน้ำตา และเสียงร้องไห้ตลอดเวลา ยังอยู่ในความทรงจำของเด็กน้อย พร้อมกับคำถามที่ค้างคาใจ “พ่อเขาผิดอะไร” และเด็กน้อยทั้งสองอยากให้เหตุการณ์ที่ว่านี้เป็นเพียง “นิยาย” ที่ไม่ใช่ “เรื่องจริง” แต่มันไม่ได้เป็นเช่นนั้น เพราะนี่คือ “นิยายชีวิตจริง” ที่เกิดขึ้นกับ “สมเกียรติ” ชายพิการขาเป๋ ผู้ไม่ยอมแพ้กับโชคชะตา และต้องมาจบชีวิตด้วยน้ำมือของกลุ่มคนที่ “สิ้นคิด” จึงไม่แปลกที่ “ลูกชายคนโต” ในวัย 12 ขวบของ “สมเกียรติ” จะเอ่ยคำ “ประหาร...ครับ” นิยายชีวิต อาทิตย์สไตล์ โดย "ทวีลาภ บวกทอง" ขอบคุณ... http://www.dailynews.co.th/article/396010

จัดฟอร์แม็ตข้อความและมัลติมีเดีย

  1. เพิ่ม
  2. เพิ่ม ลบ
  3. เพิ่ม ลบ
  4. เพิ่ม ลบ
  5. เพิ่ม ลบ
  6. เพิ่ม ลบ
  7. เพิ่ม ลบ
  8. เพิ่ม ลบ
  9. เพิ่ม ลบ
  10. ลบ
เลือกการตกแต่งที่ต้องการ

ตกลง ยกเลิก

รายละเอียดการใส่ ลิงค์ รูปภาพ วิดีโอ เพลง (Soundcloud)

Waiting...