ป้องกันโรคหลอดเลือดสมองด้วยการออกกำลัง

แสดงความคิดเห็น

ศ.นพ.นิพนธ์ พวงวรินทร์

โรคหลอดเลือดสมอง เป็นปัญหาใหญ่ทางสาธารณสุข แต่ละปีมีผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองเกิดใหม่ประมาณ 150,000 คน ทุก 4 นาที มีคนเป็นอัมพาต และทุก ๆ 10 นาที จะมีผู้ป่วยที่เป็นอัมพาตเสียชีวิต 1 คน สาเหตุการเสียชีวิตของประชากรทั่วโลก อันดับ 1 คือโรคมะเร็ง ประมาณ 7.3 ล้านคนต่อปี รองลงมาได้แก่โรคอัมพาต ประมาณ 5.7 ล้านคนต่อปี อันดับ 3 คือโรคหัวใจ ประมาณ 5.2 ล้านคนต่อปี อันดับ 4 คือโรคอัลไซเมอร์ ประมาณ 4 ล้านคนต่อปี

ข้อมูลจากกระทรวงสาธารณสุข พบว่าอัตราการเสียชีวิตของผู้ป่วยในโรงพยาบาลทั่วประเทศไทย ผู้หญิงเสียชีวิตจากอัมพาตมากที่สุด รองลงมาคือโรคเอดส์ ส่วนผู้ชายเสียชีวิตจากโรคเอดส์มากที่สุด รองลงมาคืออัมพาต สถิติผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง เพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ จาก 0.69% ของประชากรอายุเกิน 20 ปี หรือประมาณ 690 ต่อแสนคน เป็น 1.12% ของประชากรที่มีอายุเกิน 60 ปี หรือประมาณ 1,100 ต่อแสนคนในปี 2537 และในปี 2553 เพิ่มเป็น 2.4% หรือประมาณ 2,400 ต่อแสนคน ของประชากรที่มีอายุเกิน 40 ปี

อาการที่เป็นสัญญาณอันตรายของโรคหลอดเลือดสมอง ได้แก่ อาการแขนขาอ่อนแรงครึ่งซีก พูดลำบาก ลิ้นคับปาก กลืนสำลัก ชาครึ่งซีก เวียนหัว ปวดหัว อาเจียน เห็นภาพซ้อน หมดสติ หากพบว่ามีอาการดังกล่าวให้รีบไปพบแพทย์ทันที โรคหลอดเลือดสมองสามารถรักษาได้ โดยปัจจุบันมีการรักษาที่เรียกว่า Stroke Fast Track ผู้ป่วยต้องไปพบแพทย์ให้เร็วที่สุดหลังเกิดอาการผิดปกติ ถ้าไปพบทันภายในเวลา 4 ชั่วโมงครึ่ง แพทย์จะทำการฉีดยาละลายลิ่มเลือดให้ วิธีการรักษานี้ช่วยลดอัตราการเสียชีวิตและการพิการได้ ส่วนผู้ป่วยที่ไปพบแพทย์เกิน 4 ชั่วโมงไปแล้ว แต่ยังไม่เกิน 12 ชั่วโมง มีวิธีการรักษาอีกแบบที่เรียกว่า การดึงลิ่มเลือดที่อยู่ในหลอดเลือดสมอง

ศ.นพ.นิพนธ์ พวงวรินทร์ กล่าวว่า “ผู้ป่วยอัมพาตมีค่าใช้จ่ายต่อปีคนละไม่ต่ำกว่าแสนบาท วิธีที่ดีที่สุดในการแก้ปัญหาระยะยาว คือการป้องกันโรค โรคหลอดเลือดสมองสามารถป้องกันได้ ด้วยการหลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยง หรือพบว่ามีปัจจัยเสี่ยงก็ให้ทำการรักษา” ปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดหลอดเลือดสมอง ได้แก่ โรคความดันโลหิตสูง คนที่เป็นโรคนี้เสี่ยงเป็นโรคหลอดเลือดสมองมากกว่าคนปกติ 3-7 เท่า เบาหวาน เสี่ยงเป็นโรคหลอดเลือดสมอง 3 เท่า สูบบุหรี่ เสี่ยงเป็นโรคหลอดเลือดสมอง 2 เท่า ไขมันในเส้นเลือดสูง เสี่ยงเป็นโรคหลอดเลือดสมอง 2 เท่า นอนกรน หยุดหายใจขณะหลับ เสี่ยงเป็นโรคหลอดเลือดสมอง 3 เท่า สำหรับคนที่มีปัจจัยเสี่ยงมากกว่า 1 ปัจจัย โอกาสที่จะเป็นโรคหลอดเลือดสมองเพิ่มทวีคูณ ตัวอย่างเช่น ถ้าเป็นโรคความดันโลหิตสูง และมีไขมันในเลือดสูง โอกาสที่จะเป็นโรคหลอดเลือดสมองไม่ใช่แค่ 5 (3+2) เท่า แต่เป็น 6 (3x2) เท่า

นอกจากหลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยง การออกกำลังกายก็เป็นอีกหนึ่งวิธีป้องกันโรคหลอดเลือดสมอง โดยผู้ที่ทำการออกกำลังกายเป็นประจำ ช่วยลดอัตราเสี่ยงในการเป็นโรคหลอดเลือดสมองได้ถึง 50% ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล เล็งเห็นความสำคัญของการป้องกันโรคหลอดเลือดสมอง จึงได้จัดกิจกรรม “เดิน วิ่ง ปั่น ป้องกันอัมพาต ครั้งที่ 1” ในวันอาทิตย์ที่ 18 ตุลาคม 2558 ตั้งแต่เวลา 05.00 น. โดยจะเปิดรับสมัครผู้เข้าร่วมกิจกรรมตั้งแต่วันที่ 15-30 กันยายน 2558 ที่ศูนย์โรคหลอดเลือดสมอง (Siriraj Stroke Center) อาคาร 72 ปี ชั้น 11 หรือสมัครได้ที่ http://www.si.mahidol.ac.th โดยค่าสมัครเข้าร่วมกิจกรรมเดินวิ่ง 300 บาท ปั่นจักรยาน 400 บาทรายได้ส่วนหนึ่งนำไปพัฒนาศูนย์หลอดเลือดสมองโรงพยาบาลศิริราช.

ขอบคุณ... http://www.dailynews.co.th/article/348971 (ขนาดไฟล์: 167)

ที่มา: เดลินิวส์ออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 20 ก.ย.58
วันที่โพสต์: 23/09/2558 เวลา 11:31:24 ดูภาพสไลด์โชว์ ป้องกันโรคหลอดเลือดสมองด้วยการออกกำลัง

แสดงความคิดเห็น

รอตรวจสอบ
จัดฟอร์แม็ต ดูการแสดงผล

รอตรวจสอบ

รอตรวจสอบ

รอตรวจสอบ

ยกเลิก

รายละเอียดกระทู้

ศ.นพ.นิพนธ์ พวงวรินทร์ โรคหลอดเลือดสมอง เป็นปัญหาใหญ่ทางสาธารณสุข แต่ละปีมีผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองเกิดใหม่ประมาณ 150,000 คน ทุก 4 นาที มีคนเป็นอัมพาต และทุก ๆ 10 นาที จะมีผู้ป่วยที่เป็นอัมพาตเสียชีวิต 1 คน สาเหตุการเสียชีวิตของประชากรทั่วโลก อันดับ 1 คือโรคมะเร็ง ประมาณ 7.3 ล้านคนต่อปี รองลงมาได้แก่โรคอัมพาต ประมาณ 5.7 ล้านคนต่อปี อันดับ 3 คือโรคหัวใจ ประมาณ 5.2 ล้านคนต่อปี อันดับ 4 คือโรคอัลไซเมอร์ ประมาณ 4 ล้านคนต่อปี ข้อมูลจากกระทรวงสาธารณสุข พบว่าอัตราการเสียชีวิตของผู้ป่วยในโรงพยาบาลทั่วประเทศไทย ผู้หญิงเสียชีวิตจากอัมพาตมากที่สุด รองลงมาคือโรคเอดส์ ส่วนผู้ชายเสียชีวิตจากโรคเอดส์มากที่สุด รองลงมาคืออัมพาต สถิติผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง เพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ จาก 0.69% ของประชากรอายุเกิน 20 ปี หรือประมาณ 690 ต่อแสนคน เป็น 1.12% ของประชากรที่มีอายุเกิน 60 ปี หรือประมาณ 1,100 ต่อแสนคนในปี 2537 และในปี 2553 เพิ่มเป็น 2.4% หรือประมาณ 2,400 ต่อแสนคน ของประชากรที่มีอายุเกิน 40 ปี อาการที่เป็นสัญญาณอันตรายของโรคหลอดเลือดสมอง ได้แก่ อาการแขนขาอ่อนแรงครึ่งซีก พูดลำบาก ลิ้นคับปาก กลืนสำลัก ชาครึ่งซีก เวียนหัว ปวดหัว อาเจียน เห็นภาพซ้อน หมดสติ หากพบว่ามีอาการดังกล่าวให้รีบไปพบแพทย์ทันที โรคหลอดเลือดสมองสามารถรักษาได้ โดยปัจจุบันมีการรักษาที่เรียกว่า Stroke Fast Track ผู้ป่วยต้องไปพบแพทย์ให้เร็วที่สุดหลังเกิดอาการผิดปกติ ถ้าไปพบทันภายในเวลา 4 ชั่วโมงครึ่ง แพทย์จะทำการฉีดยาละลายลิ่มเลือดให้ วิธีการรักษานี้ช่วยลดอัตราการเสียชีวิตและการพิการได้ ส่วนผู้ป่วยที่ไปพบแพทย์เกิน 4 ชั่วโมงไปแล้ว แต่ยังไม่เกิน 12 ชั่วโมง มีวิธีการรักษาอีกแบบที่เรียกว่า การดึงลิ่มเลือดที่อยู่ในหลอดเลือดสมอง ศ.นพ.นิพนธ์ พวงวรินทร์ กล่าวว่า “ผู้ป่วยอัมพาตมีค่าใช้จ่ายต่อปีคนละไม่ต่ำกว่าแสนบาท วิธีที่ดีที่สุดในการแก้ปัญหาระยะยาว คือการป้องกันโรค โรคหลอดเลือดสมองสามารถป้องกันได้ ด้วยการหลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยง หรือพบว่ามีปัจจัยเสี่ยงก็ให้ทำการรักษา” ปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดหลอดเลือดสมอง ได้แก่ โรคความดันโลหิตสูง คนที่เป็นโรคนี้เสี่ยงเป็นโรคหลอดเลือดสมองมากกว่าคนปกติ 3-7 เท่า เบาหวาน เสี่ยงเป็นโรคหลอดเลือดสมอง 3 เท่า สูบบุหรี่ เสี่ยงเป็นโรคหลอดเลือดสมอง 2 เท่า ไขมันในเส้นเลือดสูง เสี่ยงเป็นโรคหลอดเลือดสมอง 2 เท่า นอนกรน หยุดหายใจขณะหลับ เสี่ยงเป็นโรคหลอดเลือดสมอง 3 เท่า สำหรับคนที่มีปัจจัยเสี่ยงมากกว่า 1 ปัจจัย โอกาสที่จะเป็นโรคหลอดเลือดสมองเพิ่มทวีคูณ ตัวอย่างเช่น ถ้าเป็นโรคความดันโลหิตสูง และมีไขมันในเลือดสูง โอกาสที่จะเป็นโรคหลอดเลือดสมองไม่ใช่แค่ 5 (3+2) เท่า แต่เป็น 6 (3x2) เท่า นอกจากหลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยง การออกกำลังกายก็เป็นอีกหนึ่งวิธีป้องกันโรคหลอดเลือดสมอง โดยผู้ที่ทำการออกกำลังกายเป็นประจำ ช่วยลดอัตราเสี่ยงในการเป็นโรคหลอดเลือดสมองได้ถึง 50% ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล เล็งเห็นความสำคัญของการป้องกันโรคหลอดเลือดสมอง จึงได้จัดกิจกรรม “เดิน วิ่ง ปั่น ป้องกันอัมพาต ครั้งที่ 1” ในวันอาทิตย์ที่ 18 ตุลาคม 2558 ตั้งแต่เวลา 05.00 น. โดยจะเปิดรับสมัครผู้เข้าร่วมกิจกรรมตั้งแต่วันที่ 15-30 กันยายน 2558 ที่ศูนย์โรคหลอดเลือดสมอง (Siriraj Stroke Center) อาคาร 72 ปี ชั้น 11 หรือสมัครได้ที่ http://www.si.mahidol.ac.th โดยค่าสมัครเข้าร่วมกิจกรรมเดินวิ่ง 300 บาท ปั่นจักรยาน 400 บาทรายได้ส่วนหนึ่งนำไปพัฒนาศูนย์หลอดเลือดสมองโรงพยาบาลศิริราช. ขอบคุณ... http://www.dailynews.co.th/article/348971

จัดฟอร์แม็ตข้อความและมัลติมีเดีย

  1. เพิ่ม
  2. เพิ่ม ลบ
  3. เพิ่ม ลบ
  4. เพิ่ม ลบ
  5. เพิ่ม ลบ
  6. เพิ่ม ลบ
  7. เพิ่ม ลบ
  8. เพิ่ม ลบ
  9. เพิ่ม ลบ
  10. ลบ
เลือกการตกแต่งที่ต้องการ

ตกลง ยกเลิก

รายละเอียดการใส่ ลิงค์ รูปภาพ วิดีโอ เพลง (Soundcloud)

Waiting...