เตือนภัย!!น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น...เสี่ยงโรคปอดอักเสบ
ปฏิญญา เอี่ยมตาล ทีมข่าวรายงานพิเศษ : ปัจจุบันคนไทยนิยมนำ "น้ำมะพร้าวสกัดเย็น" มากิน อม กลั้วปาก กลั้วคอ เพื่อสุขภาพของร่างกายและช่องปาก ตามคำบอกเล่า ชวนเชื่อ แต่หารู้ไม่ว่า การอม กลั้วปาก กลั้วคอ น้ำมะพร้าวสกัดเย็น...ในผู้สูงอายุที่มีโรคทางสมองหรือมีปัญหาด้านการกลืนกิน หรือคนที่สำลักง่าย มีความเสี่ยงสูงต่อการเกิด โรคปอดอักเสบ จากการสำลักน้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น
นพ.มนูญ ลีเชวงวงศ์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญโรคทางเดินหายใจ บอกว่า ช่วงนี้กระแสน้ำมันมะพร้าวในโลกโซเชียลมีเดีย กำลังมาแรง มีการแนะนำต่อๆ กันให้อมในปาก ให้กลั้วคอ หรือให้กลืนกิน หรือด้วยวิธีการต่างๆ เพื่อประโยชน์ของสุขภาพในช่องปากหรือประโยชน์ของร่างกายก็ตาม แต่ทางการแพทย์แล้วยังไม่ทราบประโยชน์ที่แท้จริง ทราบเพียงว่า ในคนสูงอายุ คนที่มีโรคทางสมอง และมีปัญหาทางการกลืน มีความเสี่ยงสูงต่อการเกิดโรคปอดอักเสบจากการสำลัก น้ำมันมะพร้าว ที่อม กลั้วปาก และกลั้วคอ
“น้ำมันมะพร้าวสำลักง่ายยิ่งกว่าน้ำ เพราะเบากว่า เมื่อเกิดอาการสำลัก น้ำมันมะพร้าว จะเล็ดลอด ลงไปในปอด กลายเป็นสิ่งแปลกปลอม ทำให้ปอดอักเสบ คนไข้มีอาการไอ เหนื่อยหอบ คือ เป็นโรคปอดที่เกิดจากน้ำมันมะพร้าว เมื่อเป็นแล้วรักษายาก ทางที่ดี ควรป้องกัน โดยเฉพาะในคนสูงอายุ คนที่มีโรคทางสมอง คนที่กลืนลำบาก ไม่ควรที่จะอมหรือกลั้วคอ หรือกลืนน้ำมันมะพร้าวเข้าไปในร่างกายเด็ดขาด" นพ.มนูญชี้แจง
สิ่งที่เกิดขึ้นสอดคล้องกับ รายงานการรักษาคนไข้ โรคปอดอักเสบ ที่เกิดจากการสำลักน้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น ของ นพ.ดำเกิง ตันธรรมจาริก อายุรแพทย์โรคทางเดินหายใจ รพ.วิชัยยุทธ ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคปอด ที่พบความผิดปกติของปอดอักเสบ ระหว่างเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ คนไข้รายหนึ่งอายุ 79 ปี มีอาการทางสมองเป็นโรคพาร์กินสัน และรักษาโรคปอดอยู่แล้ว ปอดสองข้างเป็นฝ้า เส้นใย สีขาวขุ่น ต้องผ่าตัดปอดนำชิ้นเนื้อไปตรวจพิสูจน์ จนแน่ชัดว่า เป็นอาการโรคปอดอักเสบ เกิดจากกินน้ำมันมะพร้าวสกัดเย็นนานกว่า 1 ปี
อายุรแพทย์โรคทางเดินหายใจ เปิดเผยว่า โรคปอดอักเสบจากน้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น เป็นโรคใหม่ที่เพิ่งเกิดขึ้น คล้ายอดีต โรคปอดอักเสบ ที่เกิดจากน้ำมันระหุ่ง ที่ฮิตกันอยู่พักหนึ่ง ด้วยเหตุผลนี้ก็เหมือนกัน ในคนสูงอายุ กินเข้าไปแล้วเผลอสำลัก น้ำมันเล็ดลอดกลไกการป้องกันตัวของเราเข้าไปตามเยื่อบุทางเดินหายใจแล้วลงไปในปอดทำให้เกิดปัญหา
“นพ.ดำเกิง กล่าวว่า อาการความรุนแรงขึ้นอยู่กับอาการสำลัก โดยเฉพาะผู้สูงอายุที่มีโรคประจำตัวอยู่แล้ว กรณีของคนไข้รายนี้มีปัญหาการสำลักอยู่แล้ว มีเสมหะเยอะ ญาติที่ดูแลเลยให้กินน้ำมันมะพร้าวสกัดเย็นวันละ 1-2 ช้อนชา เพราะไปได้ข้อมูลว่า ช่วยลดเสมหะ ตามความเชื่อ กินต่อเนื่อง 3 สัปดาห์ ผู้ป่วยมีอาการไอ เป็นไข้ หอบรุนแรง รักษาด้วยการใส่ท่อช่วยหายใจ เอกซเรย์ปอด มีสีขาวขุ่นสองข้าง มีเสมหะมหาศาล ดูดออกมาเป็นไข สีขาวลอยอยู่เหนือน้ำ ผิดแปลกจากเสมหะโรคปอดอักเสบทั่วไป ที่ไม่เป็นไขและจมน้ำ เมื่อสอบถามญาติได้คำตอบว่า ให้ผู้ป่วยกินน้ำมันมะพร้าวสกัดเย็นทุกคืนก่อนนอน จนเกิดการสำลัก เพราะสิ่งที่เกาะอยู่ในปอดทำให้ปอดอักเสบคือไขมันมะพร้าว
“คนไข้อยู่ในภาวะหายใจล้มเหลว ต้องใส่ท่อเครื่องช่วยหายใจ รักษาอยู่นาน 3 เดือน ให้ยาปฏิชีวนะดูดซึมไขน้ำมันมะพร้าวออกมาเป็นเสมหะ จนปอดสีขาวขุ่นค่อยจางลง สิ่งที่ได้กลับไปคือ การเจ็บตัว ต้องเจาะคอ คนไข้ยอมให้เปิดเผยข้อมูลต่อสาธารณชนเพื่อประโยชน์และเป็นการเตือนอันตรายที่เกิดขึ้น" นพ.ดำเกิงกล่าวและย้ำว่าผู้สูงอายุที่มีโรคทางสมองและคนที่สำลักมากๆไม่ควรกินเด็ดขาด
หลังจากรักษารายแรกไม่นาน อีก 3 เดือนต่อมา พบคนไข้อีกรายอายุ 50 ปี มีอาการปอดอักเสบ ลักษณะเดียวกัน เอกซเรย์มีฝ้า สีขาวขุ่น เกาะเป็นเส้นใยที่ปอดข้างขวา ตรวจสอบประวัติไม่มีปัญหาการสำลัก แต่มีอาการไอ วัดค่าออกซิเจนในเลือดต่ำ เลยสอบถามได้คำตอบว่า ใช้น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น กลั้วปาก กลั้วคอ ก่อนนอนนานกว่า3เดือนเหตุผลเพราะมีคนบอกว่าดีช่วยรักษาสุขภาพปาก
“รายนี้วินิจฉัยด้วยการส่องกล้องในปอด ดูดเสมหะ มาตรวจ พบน้ำเสมหะ มีไขสีขาว ลอยอยู่ด้วยบน แต่จางกว่ารายแรก เราส่งน้ำไปย้อมสี คือการตรวจทางการแพทย์ปรากฏ เป็นไขมัน จะเห็นว่าความรุนแรงของการกลืนกิน กลั้วปาก กลั้วคอ น้ำมันมะพร้าวในผู้สูงอายุที่เป็นโรคทางสมอง โรคหอบ หืด โรคพาร์กินสัน มีอันตรายมากอาจถึงขั้นเสียชีวิตได้"นพ.ดำเกิงกล่าวและว่า
จากรายงานในต่างประเทศ มีการใช้น้ำมันในลักษณะนี้ด้วยการหยอดเบบี้ออยลงจมูกเป็นเวลานาน 1 ปี พบ ไขสีขาวขุ่น เกาะในปอด เช่นเดียวกัน และไม่ว่าจะหยอดจมูก หรือ กลั้วปาก กลั้วคอ ไขมันสามารถเล็ดลอดลงไปในปอดได้เป็นอณูที่เล็กมาก แม้ว่าจะไม่มีโรคทางเดินหายใจก็ตาม เพราะทุกคนมีการสำลักน้อยๆ อยู่แล้วโดยเฉพาะตอนนอนกลางคืน
“นพ.ดำเกิง” ฝากบทเรียนทิ้งท้ายว่า ก่อนจะกินอะไรให้นึกถึงประโยชน์ที่แท้จริง ศึกษาวิเคราะห์ให้ถ่องแท้ อย่าเชื่อตามคำบอกเล่า คำโฆษณา โดยเฉพาะข้อมูลน้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น ที่บอกถึงประโยชน์นานาประการ โดยไม่มีการตรวจพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์ว่า จริงเท็จอย่างไร อยากให้ผู้ผลิต ผู้จำหน่าย ติดป้ายฉลาก คำเตือน คำแนะนำ กำกับไว้ด้วยว่า ผู้ใดกินได้และผู้ใดไม่ควรกิน เพื่อชีวิตและสุขภาพที่ดีของคนไทยในสังคม
ขอบคุณ... http://www.komchadluek.net/detail/20150803/210896.html (ขนาดไฟล์: 167)
แสดงความคิดเห็น
รายละเอียดกระทู้
น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น...เสี่ยงโรคปอดอักเสบ ปฏิญญา เอี่ยมตาล ทีมข่าวรายงานพิเศษ : ปัจจุบันคนไทยนิยมนำ "น้ำมะพร้าวสกัดเย็น" มากิน อม กลั้วปาก กลั้วคอ เพื่อสุขภาพของร่างกายและช่องปาก ตามคำบอกเล่า ชวนเชื่อ แต่หารู้ไม่ว่า การอม กลั้วปาก กลั้วคอ น้ำมะพร้าวสกัดเย็น...ในผู้สูงอายุที่มีโรคทางสมองหรือมีปัญหาด้านการกลืนกิน หรือคนที่สำลักง่าย มีความเสี่ยงสูงต่อการเกิด โรคปอดอักเสบ จากการสำลักน้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น นพ.มนูญ ลีเชวงวงศ์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญโรคทางเดินหายใจ บอกว่า ช่วงนี้กระแสน้ำมันมะพร้าวในโลกโซเชียลมีเดีย กำลังมาแรง มีการแนะนำต่อๆ กันให้อมในปาก ให้กลั้วคอ หรือให้กลืนกิน หรือด้วยวิธีการต่างๆ เพื่อประโยชน์ของสุขภาพในช่องปากหรือประโยชน์ของร่างกายก็ตาม แต่ทางการแพทย์แล้วยังไม่ทราบประโยชน์ที่แท้จริง ทราบเพียงว่า ในคนสูงอายุ คนที่มีโรคทางสมอง และมีปัญหาทางการกลืน มีความเสี่ยงสูงต่อการเกิดโรคปอดอักเสบจากการสำลัก น้ำมันมะพร้าว ที่อม กลั้วปาก และกลั้วคอ “น้ำมันมะพร้าวสำลักง่ายยิ่งกว่าน้ำ เพราะเบากว่า เมื่อเกิดอาการสำลัก น้ำมันมะพร้าว จะเล็ดลอด ลงไปในปอด กลายเป็นสิ่งแปลกปลอม ทำให้ปอดอักเสบ คนไข้มีอาการไอ เหนื่อยหอบ คือ เป็นโรคปอดที่เกิดจากน้ำมันมะพร้าว เมื่อเป็นแล้วรักษายาก ทางที่ดี ควรป้องกัน โดยเฉพาะในคนสูงอายุ คนที่มีโรคทางสมอง คนที่กลืนลำบาก ไม่ควรที่จะอมหรือกลั้วคอ หรือกลืนน้ำมันมะพร้าวเข้าไปในร่างกายเด็ดขาด" นพ.มนูญชี้แจง สิ่งที่เกิดขึ้นสอดคล้องกับ รายงานการรักษาคนไข้ โรคปอดอักเสบ ที่เกิดจากการสำลักน้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น ของ นพ.ดำเกิง ตันธรรมจาริก อายุรแพทย์โรคทางเดินหายใจ รพ.วิชัยยุทธ ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคปอด ที่พบความผิดปกติของปอดอักเสบ ระหว่างเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ คนไข้รายหนึ่งอายุ 79 ปี มีอาการทางสมองเป็นโรคพาร์กินสัน และรักษาโรคปอดอยู่แล้ว ปอดสองข้างเป็นฝ้า เส้นใย สีขาวขุ่น ต้องผ่าตัดปอดนำชิ้นเนื้อไปตรวจพิสูจน์ จนแน่ชัดว่า เป็นอาการโรคปอดอักเสบ เกิดจากกินน้ำมันมะพร้าวสกัดเย็นนานกว่า 1 ปี อายุรแพทย์โรคทางเดินหายใจ เปิดเผยว่า โรคปอดอักเสบจากน้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น เป็นโรคใหม่ที่เพิ่งเกิดขึ้น คล้ายอดีต โรคปอดอักเสบ ที่เกิดจากน้ำมันระหุ่ง ที่ฮิตกันอยู่พักหนึ่ง ด้วยเหตุผลนี้ก็เหมือนกัน ในคนสูงอายุ กินเข้าไปแล้วเผลอสำลัก น้ำมันเล็ดลอดกลไกการป้องกันตัวของเราเข้าไปตามเยื่อบุทางเดินหายใจแล้วลงไปในปอดทำให้เกิดปัญหา “นพ.ดำเกิง กล่าวว่า อาการความรุนแรงขึ้นอยู่กับอาการสำลัก โดยเฉพาะผู้สูงอายุที่มีโรคประจำตัวอยู่แล้ว กรณีของคนไข้รายนี้มีปัญหาการสำลักอยู่แล้ว มีเสมหะเยอะ ญาติที่ดูแลเลยให้กินน้ำมันมะพร้าวสกัดเย็นวันละ 1-2 ช้อนชา เพราะไปได้ข้อมูลว่า ช่วยลดเสมหะ ตามความเชื่อ กินต่อเนื่อง 3 สัปดาห์ ผู้ป่วยมีอาการไอ เป็นไข้ หอบรุนแรง รักษาด้วยการใส่ท่อช่วยหายใจ เอกซเรย์ปอด มีสีขาวขุ่นสองข้าง มีเสมหะมหาศาล ดูดออกมาเป็นไข สีขาวลอยอยู่เหนือน้ำ ผิดแปลกจากเสมหะโรคปอดอักเสบทั่วไป ที่ไม่เป็นไขและจมน้ำ เมื่อสอบถามญาติได้คำตอบว่า ให้ผู้ป่วยกินน้ำมันมะพร้าวสกัดเย็นทุกคืนก่อนนอน จนเกิดการสำลัก เพราะสิ่งที่เกาะอยู่ในปอดทำให้ปอดอักเสบคือไขมันมะพร้าว “คนไข้อยู่ในภาวะหายใจล้มเหลว ต้องใส่ท่อเครื่องช่วยหายใจ รักษาอยู่นาน 3 เดือน ให้ยาปฏิชีวนะดูดซึมไขน้ำมันมะพร้าวออกมาเป็นเสมหะ จนปอดสีขาวขุ่นค่อยจางลง สิ่งที่ได้กลับไปคือ การเจ็บตัว ต้องเจาะคอ คนไข้ยอมให้เปิดเผยข้อมูลต่อสาธารณชนเพื่อประโยชน์และเป็นการเตือนอันตรายที่เกิดขึ้น" นพ.ดำเกิงกล่าวและย้ำว่าผู้สูงอายุที่มีโรคทางสมองและคนที่สำลักมากๆไม่ควรกินเด็ดขาด หลังจากรักษารายแรกไม่นาน อีก 3 เดือนต่อมา พบคนไข้อีกรายอายุ 50 ปี มีอาการปอดอักเสบ ลักษณะเดียวกัน เอกซเรย์มีฝ้า สีขาวขุ่น เกาะเป็นเส้นใยที่ปอดข้างขวา ตรวจสอบประวัติไม่มีปัญหาการสำลัก แต่มีอาการไอ วัดค่าออกซิเจนในเลือดต่ำ เลยสอบถามได้คำตอบว่า ใช้น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น กลั้วปาก กลั้วคอ ก่อนนอนนานกว่า3เดือนเหตุผลเพราะมีคนบอกว่าดีช่วยรักษาสุขภาพปาก “รายนี้วินิจฉัยด้วยการส่องกล้องในปอด ดูดเสมหะ มาตรวจ พบน้ำเสมหะ มีไขสีขาว ลอยอยู่ด้วยบน แต่จางกว่ารายแรก เราส่งน้ำไปย้อมสี คือการตรวจทางการแพทย์ปรากฏ เป็นไขมัน จะเห็นว่าความรุนแรงของการกลืนกิน กลั้วปาก กลั้วคอ น้ำมันมะพร้าวในผู้สูงอายุที่เป็นโรคทางสมอง โรคหอบ หืด โรคพาร์กินสัน มีอันตรายมากอาจถึงขั้นเสียชีวิตได้"นพ.ดำเกิงกล่าวและว่า จากรายงานในต่างประเทศ มีการใช้น้ำมันในลักษณะนี้ด้วยการหยอดเบบี้ออยลงจมูกเป็นเวลานาน 1 ปี พบ ไขสีขาวขุ่น เกาะในปอด เช่นเดียวกัน และไม่ว่าจะหยอดจมูก หรือ กลั้วปาก กลั้วคอ ไขมันสามารถเล็ดลอดลงไปในปอดได้เป็นอณูที่เล็กมาก แม้ว่าจะไม่มีโรคทางเดินหายใจก็ตาม เพราะทุกคนมีการสำลักน้อยๆ อยู่แล้วโดยเฉพาะตอนนอนกลางคืน “นพ.ดำเกิง” ฝากบทเรียนทิ้งท้ายว่า ก่อนจะกินอะไรให้นึกถึงประโยชน์ที่แท้จริง ศึกษาวิเคราะห์ให้ถ่องแท้ อย่าเชื่อตามคำบอกเล่า คำโฆษณา โดยเฉพาะข้อมูลน้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น ที่บอกถึงประโยชน์นานาประการ โดยไม่มีการตรวจพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์ว่า จริงเท็จอย่างไร อยากให้ผู้ผลิต ผู้จำหน่าย ติดป้ายฉลาก คำเตือน คำแนะนำ กำกับไว้ด้วยว่า ผู้ใดกินได้และผู้ใดไม่ควรกิน เพื่อชีวิตและสุขภาพที่ดีของคนไทยในสังคม ขอบคุณ... http://www.komchadluek.net/detail/20150803/210896.html
จัดฟอร์แม็ตข้อความและมัลติมีเดีย
รายละเอียดการใส่ ลิงค์ รูปภาพ วิดีโอ เพลง (Soundcloud)