เตือนอุบัติเหตุทางถนน อุบัติภัยช่วงสงกรานต์เทศกาลความสนุกที่แฝงด้วยอันตราย
เทศกาลสงกรานต์เป็นช่วงที่เส้นทางสายต่างๆ มีการจราจรหนาแน่น อีกทั้งมีการเล่นน้ำสงกรานต์ทำให้ถนนเปียกลื่น ประกอบกับคนส่วนใหญ่มักเพลิดเพลินจนขาดความระมัดระวัง จึงเป็นปัจจัยที่เพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุทางถนนและ อุบัติภัยในช่วงเทศกาลสงกรานต์ เพื่อความปลอดภัย กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ขอแนะวิธีปฏิบัติตน ดังนี้
อุบัติเหตุทางถนน เตรียมพร้อมก่อนเดินทาง - ผู้ขับขี่ เตรียมสภาพร่างกายให้พร้อม นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ ไม่ดื่มเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ หรือทานยาที่มีฤทธิ์กดประสาท เพราะจะทำให้ความสามารถในการขับรถลดลง ไม่สามารถแก้ไขเหตุฉุกเฉินเฉพาะหน้าได้อย่างทันท่วงที
สภาพรถ ตรวจสอบรถให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน โดยเฉพาะอุปกรณ์สำคัญประจำรถ ดังนี้
- ยางรถยนต์ ตรวจสอบยางรถให้อยู่ในสภาพสมบูรณ์ พร้อมเติมแรงดันลมยางให้มากกว่าปกติ เนื่องจากช่วงฤดูร้อน ผิวถนนมีอุณหภูมิสูง ทำให้ยางเสื่อมสภาพเร็วกว่าปกติ
- ระบบเบรก ต้องสามารถหยุดรถได้ในระยะทางที่กำหนด เนื่องจากหากขับรถผ่านเส้นทางที่มีการเล่นน้ำ ถนนจะเปียกลื่น จึงต้องใช้ระยะทางในการหยุดรถมากกว่าปกติ
- ระบบใบปัดน้ำฝน กวาดน้ำบนกระจกได้สะอาด ไม่เหลือคราบบนกระจกที่ทำให้มองเห็นเส้นทางไม่ชัดเจน พร้อมเติมน้ำในกระปุกน้ำฉีดกระจก จะได้สามารถทำความสะอาดกระจกรถได้กรณีโดนสาดน้ำผสมแป้ง ที่สำคัญควรจัดเตรียมอุปกรณ์ฉุกเฉิน เช่น แม่แรง เชือกสลิง ไฟฉาย กากบาทถอดล้อ สายพ่วง แบตเตอรี่ ยางอะไหล่ เป็นต้น ให้พร้อมใช้งานได้ทันทีที่เกิดเหตุฉุกเฉิน
เส้นทาง วางแผน ตรวจสอบ และศึกษาเส้นทางอย่างละเอียด พร้อมเลือกใช้เส้นทางที่ปลอดภัย ไม่ชำรุดหรืออยู่ระหว่างการซ่อมแซม จะช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการเดินทางและป้องกันอุบัติเหตุทางถนนที่ เกิดจากความไม่ชำนาญเส้นทาง
ขณะเดินทาง การขับรถผ่านเส้นทางทั่วไป
- ปฏิบัติตามกฎจราจรและป้ายเตือนริมถนนอย่างเคร่งครัด ใช้อุปกรณ์นิรภัยอย่างถูกวิธีทุกครั้งที่เดินทางไม่ว่าจะเป็นระยะทาง ใกล้หรือไกล มีน้ำใจกับผู้ร่วมใช้เส้นทาง เพื่อเพิ่มความปลอดภัยในการเดินทาง
- หลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่ทำให้เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ ไม่ขับรถด้วยความเร็วสูง ไม่ขับรถชิดรถคันหน้ามากเกินไป ไม่ขับรถตัดหน้ารถคันอื่นในระยะกระชั้นชิด ไม่เปลี่ยนช่องทางกะทันหัน ไม่ใช้โทรศัพท์ขณะขับรถ หากดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ห้ามขับรถโดยเด็ดขาด
- เพิ่มความระมัดระวังในการขับขี่เป็นพิเศษ โดยเฉพาะเมื่อขับรถผ่านเส้นทางที่มีทัศนวิสัยไม่ดี เส้นทางที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง เส้นทางที่เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ เช่น ทางโค้ง ทางแยก จุดตัดทางรถไฟเส้นทางเชื่อมระหว่างถนนสายหลักและสายรอง เป็นต้น
การขับรถผ่านเส้นทางที่มีการเล่นน้ำ
- เลี่ยงการใช้เส้นทางที่มีการเล่นน้ำสงกรานต์ หากเลี่ยงไม่ได้ควรเพิ่มความระมัดระวังกลุ่มคนที่กำลังเล่นน้ำริมข้าง ทาง และรถจักรยานยนต์ที่อาจเสียหลักลื่นล้มจากการถูกสาดน้ำ ทำให้เกิดอุบัติเหตุได้
- ขับรถให้ช้าที่สุด โดยรักษาความเร็วให้สม่ำเสมอ เว้นระยะห่างจากรถคันหน้าให้มากกว่าปกติ และวางเท้าไว้ใกล้ๆ แป้นเบรก หากมีคนหรือรถขับตัดหน้าในระยะกระชั้นชิดจะได้สามารถหยุดรถได้ทัน
- กรณีขี่รถจักรยานยนต์แล้วถูกสาดน้ำ ไม่ควรขับรถเบี่ยงหรือเปลี่ยนเส้นทางกะทันหัน ไม่เร่งความเร็ว เพราะถนนเปียกลื่นจะทำให้เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุได้
** น่ารู้ ** - สถิติอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ย้อนหลัง 3 ปี (พ.ศ.2553-2555)
- สถิติอุบัติเหตุเทศกาลสงกรานต์เป็นช่วงที่มีสถิติอุบัติเหตุถนนเพิ่มสูงขึ้นกว่าปกติ 1 เท่า โดยเฉลี่ยเกิดอุบัติเหตุทางถนนวันละ 469 ครั้ง ผู้เสียชีวิตเฉลี่ยวันละ 45 คน ผู้บาดเจ็บวันละ 504 คน
- สาเหตุและปัจจัยเสี่ยง การเมาสุราเป็นสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุสูงสุด โดยรถจักรยานยนต์เป็นยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุมากที่สุด และการไม่สวมหมวกนิรภัยถือเป็นพฤติกรรมเสี่ยงของการบาดเจ็บและเสีย ชีวิต โดยเฉพาะถนนนอกเขตทางหลวงแผ่นดิน ถนนชุมชน/หมู่บ้าน เป็นถนนที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ซึ่งผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่มวัยแรงงาน และเป็นคนในพื้นที่
เตือนอันตรายขับรถเล่นน้ำ-เล่นสาดน้ำสงกรานต์ - การขับรถเล่นน้ำสงกรานต์ถือเป็นพฤติกรรมเสี่ยงที่ทำให้เกิดอุบัติ เหตุทางถนนขึ้นได้ เพื่อป้องกันอุบัติเหตุทางถนนที่อาจเกิดขึ้น ภาครัฐได้ออกมาตรการควบคุมและกวดขันรถกระบะบรรทุกผู้โดยสารมิให้เล่น น้ำบนและริมทางหลวง ดังนั้น เพื่อความปลอดภัยควรเล่นน้ำเฉพาะในเส้นทางที่กำหนดให้เป็นพื้นที่ เล่นน้ำ โดยปฏิบัติ ดังนี้
ผู้ที่ขับขี่รถเล่นน้ำ
- เพิ่มความระมัดระวังเป็นพิเศษ โดยขับรถให้ช้าที่สุด เนื่องจากเส้นทางที่มีการเล่นน้ำจะมีรถหนาแน่นและผู้คนพลุกพล่าน จึงเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุได้ง่าย ไม่เร่งความเร็วรถหรือหยุดรถกะทันหัน เพราะอาจทำให้ผู้โดยสารด้านหลังพลัดตกจากรถได้
- หมั่นสังเกตผู้โดยสารที่เล่นน้ำท้ายกระบะ โดยตรวจสอบผู้โดยสารทุกคนให้ขึ้นหรือลงรถให้เรียบร้อยก่อนรถเคลื่อน ตัว เพื่อป้องกันการพลัดตกจากรถ ไม่บรรทุกผู้โดยสารและถังน้ำเกินอัตราน้ำหนักที่รถกำหนด เพราะจะทำให้รถเสียการทรงตัวและประสบอุบัติเหตุพลิกคว่ำได้ง่าย
- ไม่ขี่รถจักรยานยนต์รวมกลุ่มเล่นน้ำ เพราะสภาพถนนเปียกลื่นอาจทำให้รถเสียหลักลื่นล้มได้ อีกทั้งความคึกคะนอง การขาดความระมัดระวัง โดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยของตนเอง จะเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุได้
ผู้ที่เล่นน้ำท้ายกระบะ
- ไม่นั่งหรือยืนบริเวณริมขอบหรือท้ายรถกระบะ โดยเฉพาะในขณะที่รถกำลังวิ่ง เพราะหากรถออกตัวหรือเข้าโค้งด้วยความเร็วสูงจะพลัดตกจากรถได้ เพื่อความปลอดภัยควรยึดจับรถให้แน่น ไม่วิ่งขึ้นหรือลงจากรถขณะรถกำลังเคลื่อนตัว เพราะเสี่ยงต่อการได้รับอันตรายหรือถูกรถที่ขับตามหลังมาทับเสียชีวิต ได้
- ไม่เล่นสาดน้ำในลักษณะเสี่ยงอันตราย เช่น เล่นน้ำกลางถนนที่มีรถวิ่งพลุกพล่าน ไล่สาดน้ำใส่คนที่อยู่บนรถที่กำลังวิ่ง ยึดจับรถและไถลตัวไปกับรถที่กำลังเคลื่อนตัว กระโดดลงจากรถหรือปีนขึ้นรถในขณะที่รถกำลังออกตัว เป็นต้น เพราะจะเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ ทำให้ได้รับอันตรายได้
** ข้อคิด ** - รถกระบะถูกออกแบบมาสำหรับบรรทุกสิ่งของที่มีน้ำหนักคงที่ การนำรถมาใช้ผิดประเภทโดยนำมาบรรทุกคนเล่นน้ำสงกรานต์ ซึ่งคนที่เล่นน้ำส่วนใหญ่มักกระโดดหรือเต้นโยกไปมาในขณะที่รถกำลัง วิ่ง หากขับรถด้วยความเร็วสูงจะมีโอกาสพลิกคว่ำได้ง่าย
ผู้ที่เล่นน้ำสงกรานต์
- เล่นน้ำในบริเวณที่ปลอดภัย ซึ่งกำหนดให้เป็นพื้นที่เล่นน้ำ ไม่เล่นน้ำริมฟุตบาท ริมไหล่ทางหรือริมถนนที่มีรถสัญจรไปมา เพราะในขณะเล่นน้ำอาจไม่ทันระมัดระวัง ทำให้ถูกรถชนได้ ไม่วิ่งไล่สาดน้ำกลางถนนหรือสาดน้ำใส่รถที่สัญจรไปมา เพราะอาจถูกรถชนได้
- ไม่เล่นน้ำในลักษณะรุนแรงจนก่อให้เกิดอันตราย ห้ามนำสายยาง ปืนฉีดน้ำ กระบอกฉีดน้ำที่มีแรงดันน้ำสูงฉีดน้ำใส่ผู้อื่น ไม่ปาลูกโป่งที่อัดน้ำจนแน่น หรือนำน้ำผสมน้ำแข็งสาดใส่ผู้อื่น เพราะอาจทำให้ได้รับบาดเจ็บหรือตาบอดได้
- ไม่เล่นน้ำในลักษณะที่ทำให้ผู้อื่นประสบอุบัติเหตุ ไม่สาดน้ำใส่ผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ เนื่องจากจะทำให้รถเสียหลักและลื่นล้มได้ ไม่นำแป้งหรือดินสอพองผสมน้ำสาดใส่กระจกหน้ารถ เพราะจะทำให้ผู้ขับขี่มองไม่เห็นเส้นทาง ก่อให้เกิดอุบัติเหตุรุนแรงได้
ทั้งผู้ขับรถและผู้เล่นน้ำสงกรานต์ห้ามดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ อย่างเด็ดขาด เพราะจะทำให้เล่นน้ำอย่างขาดสติ มีพฤติกรรมไม่ป้องกันตนเอง จึงเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ ทำให้ได้รับอันตรายได้ อีกทั้งได้มีการบังคับใช้กฎหมายควบคุมการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ทั้งในขณะขับขี่และโดยสารรถทุกชนิดบนทางสาธารณะ ส่งผลให้ถูกดำเนินคดีทางกฎหมายได้
ขอบคุณ... http://www.ryt9.com/s/tpd/1628817