ทารกคลอดก่อนกำหนด "เข้าตู้อบ" เสี่ยงตาบอดโรคอาร์โอพี

แสดงความคิดเห็น

เด็กทารกในตู้อบ

ทารกคลอดก่อนกำหนดเสี่ยง "โรคอาร์โอพี" ชี้รุนแรงอาจถึงขั้นตาบอด เหตุออกซิเจนในตู้อบทำเส้นเลือดในตาเจริญผิดปกติ ห่วงระบบคัดกรองยังน้อย เล็งตั้งศูนย์จอตาทุกเขตสุขภาพ ประสานหมอเด็กส่งทารกคลอดก่อนกำหนดหลังคลอดแล้ว 6 สัปดาห์ ส่งหมอตาคัดกรอง ชี้ฉีดยา-เลเซอร์รักษาได้

นพ.ไพศาล ร่วมวิบูลย์สุข ประธานราชวิทยาลัยจักษุแพทย์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า จากการสำรวจภาวะตาบอดในเด็กไทยพบว่าอยู่ที่ประมาณ 0.1% สาเหตุเกิดจากโรคจอตาผิดปกติในทารกคลอดก่อนกำหนด หรือโรคอาร์โอพี (Retinopathy of Prematurity :ROP) ประมาณ 66% ส่วนที่เหลือเกิดจากโรคตาขี้เกียจ ทั้งนี้ พบว่าทารกคลอดก่อนกำหนดซึ่งมีน้ำหนักตัวน้อยจะได้รับการดูแลอยู่ภายในตู้อบ เพื่อให้การเจริญเติบโตของเด็กเป็นไปด้วยดี แต่ที่ผ่านมาพบว่า บางส่วนเด็กทารกคลอดก่อนกำหนดเกิดภาวะตาบอด เนื่องจากการรับออกซิเจนในตู้อบส่งผลกระทบต่อเส้นเลือดที่ดวงตาของทารกคลอดก่อนกำหนด ทำให้เส้นเลือดเจริญเติบโตผิดปกติ จนส่งผลกระทบต่อจอตาเรียกว่าโรคอาร์โอพีซึ่งบางรายที่รุนแรงมากอาจจะไปดึงจอตาให้หลุดและเกิดภาวะตาบอดได้

นพ.ไพศาล กล่าวว่า โรคอาร์โอพีสามารถตรวจคัดกรองได้ก่อนที่จะเกิดภาวะตาบอดในเด็ก โดยกุมารแพทย์ที่ดูแลทารกคลอดก่อนกำหนด เมื่อนำเด็กเข้าตู้อบแล้ว จนครบเวลาหลังคลอด 6 สัปดาห์ ต้องส่งเด็กทารกมาให้จักษุแพทย์ตรวจโรคอาร์โอพี ซึ่งจักษุแพทย์จะสามารถวินิจฉัยได้ว่าทารกคลอดก่อนกำหนดรายนั้นมีลักษณะของเส้นเลือดในตาที่เข้าข่ายโรคอาร์โอพีหรือไม่ และเป็นรุนแรงในระดับใด หากเป็นโรคอาร์โอพีก็สามารถรักษาได้ด้วยการฉีดยาหรือใช้เลเซอร์เพื่อให้เส้นเลือดที่ผิดปกติในดวงตาฝ่อออกไป ก่อนที่จะเกิดภาวะตาบอดแต่หากทารกคลอดก่อนกำหนดไม่เข้าข่ายโรคอาร์โอพีก็จะมีการตรวจติดตามรายสัปดาห์อย่างต่อเนื่อง

"ปัญหาคือเด็กคลอดก่อนกำหนดมีจำนวนมากที่ยังไม่เข้าสู่ระบบการคัดกรองโรคอาร์โอพี จึงมีโครงการที่จะจัดตั้งศูนย์จอตาให้ครบทุกเขตสุขภาพของกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการ โดยศูนย์จอตาจะมีความสามารถในการรักษาโรคอาร์โอพีได้ ทั้งนี้ จะขอความร่วมมือให้กุมารแพทย์ส่งเด็กทารกคลอดก่อนกำหนดมายังจักษุแพทย์ให้คัดกรองโรคนี้ หากพบว่าเด็กเป็นโรคอาร์โอพีก็จะได้ส่งมารักษาที่ศูนย์จอตาได้" นพ.ไพศาล กล่าวและว่า สำหรับโรคตาขี้เกียจเกิดจากความบกพร่องของอวัยวะรับภาพและแปลผลภาพ หรือเกิดจากการบดบังภาพที่เข้าสู่จอประสาทตา ทำให้ตาเจริญได้ไม่เต็มที่ ซึ่งพัฒนาการมองเห็นจะสมบูรณ์เมื่อตอนอายุ 6 ขวบ หากพ้นอายุดังกล่าวไปแล้วตาเจริญไม่เต็มที่ก็อาจทำให้เกิดปัญหาตาขี้เกียจได้และส่งผลต่อการมองเห็นของเด็กอย่างถาวร ปัญหาคือเมื่อเด็กมีปัญหาทางสายตามักไม่ได้บอก จึงไม่ได้รับการแก้ไขตั้งแต่เนิ่นๆ ดังนั้นก่อนเข้าเรียนช่วงอายุ 6 ขวบ จึงควรพบจักษุแพทย์สักครั้งหนึ่ง หากมีความผิดปกติจะได้รักษาอย่างทันท่วงที

ขอบคุณ... http://manager.co.th/Qol/ViewNews.aspx?NewsID=9580000067789 (ขนาดไฟล์: 185)

ที่มา: ASTVผู้จัดการออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 16 มิ.ย.58
วันที่โพสต์: 16/06/2558 เวลา 10:56:19 ดูภาพสไลด์โชว์ ทารกคลอดก่อนกำหนด "เข้าตู้อบ" เสี่ยงตาบอดโรคอาร์โอพี

แสดงความคิดเห็น

รอตรวจสอบ
จัดฟอร์แม็ต ดูการแสดงผล

รอตรวจสอบ

รอตรวจสอบ

รอตรวจสอบ

ยกเลิก

รายละเอียดกระทู้

เด็กทารกในตู้อบ ทารกคลอดก่อนกำหนดเสี่ยง "โรคอาร์โอพี" ชี้รุนแรงอาจถึงขั้นตาบอด เหตุออกซิเจนในตู้อบทำเส้นเลือดในตาเจริญผิดปกติ ห่วงระบบคัดกรองยังน้อย เล็งตั้งศูนย์จอตาทุกเขตสุขภาพ ประสานหมอเด็กส่งทารกคลอดก่อนกำหนดหลังคลอดแล้ว 6 สัปดาห์ ส่งหมอตาคัดกรอง ชี้ฉีดยา-เลเซอร์รักษาได้ นพ.ไพศาล ร่วมวิบูลย์สุข ประธานราชวิทยาลัยจักษุแพทย์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า จากการสำรวจภาวะตาบอดในเด็กไทยพบว่าอยู่ที่ประมาณ 0.1% สาเหตุเกิดจากโรคจอตาผิดปกติในทารกคลอดก่อนกำหนด หรือโรคอาร์โอพี (Retinopathy of Prematurity :ROP) ประมาณ 66% ส่วนที่เหลือเกิดจากโรคตาขี้เกียจ ทั้งนี้ พบว่าทารกคลอดก่อนกำหนดซึ่งมีน้ำหนักตัวน้อยจะได้รับการดูแลอยู่ภายในตู้อบ เพื่อให้การเจริญเติบโตของเด็กเป็นไปด้วยดี แต่ที่ผ่านมาพบว่า บางส่วนเด็กทารกคลอดก่อนกำหนดเกิดภาวะตาบอด เนื่องจากการรับออกซิเจนในตู้อบส่งผลกระทบต่อเส้นเลือดที่ดวงตาของทารกคลอดก่อนกำหนด ทำให้เส้นเลือดเจริญเติบโตผิดปกติ จนส่งผลกระทบต่อจอตาเรียกว่าโรคอาร์โอพีซึ่งบางรายที่รุนแรงมากอาจจะไปดึงจอตาให้หลุดและเกิดภาวะตาบอดได้ นพ.ไพศาล กล่าวว่า โรคอาร์โอพีสามารถตรวจคัดกรองได้ก่อนที่จะเกิดภาวะตาบอดในเด็ก โดยกุมารแพทย์ที่ดูแลทารกคลอดก่อนกำหนด เมื่อนำเด็กเข้าตู้อบแล้ว จนครบเวลาหลังคลอด 6 สัปดาห์ ต้องส่งเด็กทารกมาให้จักษุแพทย์ตรวจโรคอาร์โอพี ซึ่งจักษุแพทย์จะสามารถวินิจฉัยได้ว่าทารกคลอดก่อนกำหนดรายนั้นมีลักษณะของเส้นเลือดในตาที่เข้าข่ายโรคอาร์โอพีหรือไม่ และเป็นรุนแรงในระดับใด หากเป็นโรคอาร์โอพีก็สามารถรักษาได้ด้วยการฉีดยาหรือใช้เลเซอร์เพื่อให้เส้นเลือดที่ผิดปกติในดวงตาฝ่อออกไป ก่อนที่จะเกิดภาวะตาบอดแต่หากทารกคลอดก่อนกำหนดไม่เข้าข่ายโรคอาร์โอพีก็จะมีการตรวจติดตามรายสัปดาห์อย่างต่อเนื่อง "ปัญหาคือเด็กคลอดก่อนกำหนดมีจำนวนมากที่ยังไม่เข้าสู่ระบบการคัดกรองโรคอาร์โอพี จึงมีโครงการที่จะจัดตั้งศูนย์จอตาให้ครบทุกเขตสุขภาพของกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการ โดยศูนย์จอตาจะมีความสามารถในการรักษาโรคอาร์โอพีได้ ทั้งนี้ จะขอความร่วมมือให้กุมารแพทย์ส่งเด็กทารกคลอดก่อนกำหนดมายังจักษุแพทย์ให้คัดกรองโรคนี้ หากพบว่าเด็กเป็นโรคอาร์โอพีก็จะได้ส่งมารักษาที่ศูนย์จอตาได้" นพ.ไพศาล กล่าวและว่า สำหรับโรคตาขี้เกียจเกิดจากความบกพร่องของอวัยวะรับภาพและแปลผลภาพ หรือเกิดจากการบดบังภาพที่เข้าสู่จอประสาทตา ทำให้ตาเจริญได้ไม่เต็มที่ ซึ่งพัฒนาการมองเห็นจะสมบูรณ์เมื่อตอนอายุ 6 ขวบ หากพ้นอายุดังกล่าวไปแล้วตาเจริญไม่เต็มที่ก็อาจทำให้เกิดปัญหาตาขี้เกียจได้และส่งผลต่อการมองเห็นของเด็กอย่างถาวร ปัญหาคือเมื่อเด็กมีปัญหาทางสายตามักไม่ได้บอก จึงไม่ได้รับการแก้ไขตั้งแต่เนิ่นๆ ดังนั้นก่อนเข้าเรียนช่วงอายุ 6 ขวบ จึงควรพบจักษุแพทย์สักครั้งหนึ่ง หากมีความผิดปกติจะได้รักษาอย่างทันท่วงที ขอบคุณ... http://manager.co.th/Qol/ViewNews.aspx?NewsID=9580000067789

จัดฟอร์แม็ตข้อความและมัลติมีเดีย

  1. เพิ่ม
  2. เพิ่ม ลบ
  3. เพิ่ม ลบ
  4. เพิ่ม ลบ
  5. เพิ่ม ลบ
  6. เพิ่ม ลบ
  7. เพิ่ม ลบ
  8. เพิ่ม ลบ
  9. เพิ่ม ลบ
  10. ลบ
เลือกการตกแต่งที่ต้องการ

ตกลง ยกเลิก

รายละเอียดการใส่ ลิงค์ รูปภาพ วิดีโอ เพลง (Soundcloud)

Waiting...