ระวัง! อย่าวางใจเบาหวาน เสี่ยงขึ้นจอตา อาจตาบอด
กรมการแพทย์ เผย โรคเบาหวานขึ้นตาเป็นภาวะแทรกซ้อนที่เกิดจากโรคเบาหวานเรื้อรัง หากผู้ป่วยไม่ควบคุมโรคและไม่ดูแลตัวเองเท่าที่ควรอาจทำให้ลุกลามจนถึงขั้นตาบอดได้
นพ.ณรงค์ อภิกุลวณิช รองอธิบดีกรมการแพทย์และโฆษกกรมการแพทย์ กล่าวว่า โรคเบาหวานขึ้นตาเป็นโรคแทรกซ้อนที่เกิดขึ้นกับจอประสาทตาของผู้ป่วยโรคเบาหวาน เมื่อผู้ป่วยโรคเบาหวานมีภาวะน้ำตาลในเลือดสูงกว่าปกตินานหลายปี จะทำให้เส้นเลือดฝอยทั่วร่างกายเปลี่ยนแปลงไป เช่น ที่ผนังหลอดเลือดในจอประสาทตาผิดปกติ มีเม็ดเลือด น้ำเหลือง และไขมันซึมออกมาในจอประสาทตา ทำให้จอประสาทตาบวม ขาดออกซิเจน เมื่อเป็นเช่นนี้นาน ๆ จะทำให้เส้นเลือดงอกใหม่ มีเลือดออกง่าย น้ำวุ้นตาขุ่นมัว จอประสาทตาลอก และทำให้ตาบอดในที่สุด ซึ่งโอกาสการเกิดโรคเบาหวานขึ้นตาจะเป็นไปตามระยะเวลาที่เป็นโรคเบาหวาน เช่น เป็นโรคเบาหวานนาน 10 ปี มีโอกาสพบโรคเบาหวานขึ้นตาได้ประมาณ 10% เป็นโรคเบาหวานนาน 15 ปี มีโอกาสพบโรคเบาหวานขึ้นตาได้ประมาณ 50% และเป็นโรคเบาหวานนาน 25 ปี มีโอกาสพบโรคเบาหวานขึ้นตาได้ประมาณ 80 - 90% เนื่องจากโรคเบาหวานขึ้นตาเป็นโรคเรื้อรังที่ไม่แสดงอาการในช่วงแรก ผู้ป่วยโรคเบาหวานจึงควรเข้ารับการตรวจตาจากจักษุแพทย์อย่างละเอียด เพื่อลดความเสี่ยงต่อโรคเบาหวานขึ้นตาตามช่วงอายุ หากผู้ป่วยโรคเบาหวานอายุ 30 ปี หรือน้อยกว่า ควรได้รับการตรวจครั้งแรกหลังจาก 5 ปีที่พบว่าเป็นโรคเบาหวานเป็นประจำปีละ 1 ครั้ง ส่วนผู้ป่วยโรคเบาหวานที่มีอายุมากกว่า 30 ปี เมื่อแพทย์วินิจฉัยว่าเป็นโรคเบาหวานควรรับการตรวจเป็นประจำปีละ1ครั้งและผู้ที่ตั้งครรภ์ควรรับการตรวจทุก3เดือนจนกว่าจะคลอดบุตร
นอกจากนี้ ผู้ป่วยโรคเบาหวานควรคุมระดับน้ำตาลในเลือด ระดับไขมันในเส้นเลือดและความดันโลหิตเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดโรคเบาหวานขึ้นตา การรักษาโรคเบาหวานขึ้นตาในระยะแรกต้องมาตรวจตาตามที่แพทย์นัด หากพบความผิดปกติแพทย์จะพิจารณาให้การรักษาที่เหมาะสมต่อไป ซึ่งการรักษาด้วยการฉายเลเซอร์ หรือการผ่าตัดจะทำเมื่อจอประสาทตามีความผิดปกติมานาน และมีความเสียหายเกิดขึ้นแล้ว ดังนั้น ผลการรักษาจึงขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น ระยะเวลาที่ป่วยเป็นโรคเบาหวาน การควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดของผู้ป่วยโรคเบาหวาน สุขภาพทั่วไปของผู้ป่วยโรคเบาหวานและที่สำคัญคือความผิดปกติของตาก่อนรับการรักษาว่าเป็นมากน้อยระดับใด
นพ.ณรงค์ อภิกุลวณิช กล่าวว่า ผู้ป่วยโรคเบาหวานทุกรายจำเป็นต้องรับการตรวจตาโดยจักษุแพทย์เป็นประจำอย่างน้อยปีละครั้ง เนื่องจากระยะแรกของโรคอาจไม่มีอาการแสดงใด ๆ นอกจากการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดแล้วต้องรักษาสุขภาพ ควบคุมความดันโลหิตและไขมันในเส้นเลือด ออกกำลังกายสม่ำเสมอ เลือกทานอาหารที่มีประโยชน์เน้นรับประทานประเภทผักใบ เช่น ผักกาดขาว คื่นฉ่าย ตำลึง คะน้า หลีกเลี่ยงอาหารหวาน มัน เค็ม งดสูบบุหรี่และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จะช่วยให้สุขภาพแข็งแรงและลดความเสี่ยงจากโรคเบาหวานขึ้นตาได้
ขอบคุณ... http://www.manager.co.th/QOL/ViewNews.aspx?NewsID=9590000043604 (ขนาดไฟล์: 164)
แสดงความคิดเห็น
รายละเอียดกระทู้
ดวงตาของหญิงสาว กรมการแพทย์ เผย โรคเบาหวานขึ้นตาเป็นภาวะแทรกซ้อนที่เกิดจากโรคเบาหวานเรื้อรัง หากผู้ป่วยไม่ควบคุมโรคและไม่ดูแลตัวเองเท่าที่ควรอาจทำให้ลุกลามจนถึงขั้นตาบอดได้ นพ.ณรงค์ อภิกุลวณิช รองอธิบดีกรมการแพทย์และโฆษกกรมการแพทย์ กล่าวว่า โรคเบาหวานขึ้นตาเป็นโรคแทรกซ้อนที่เกิดขึ้นกับจอประสาทตาของผู้ป่วยโรคเบาหวาน เมื่อผู้ป่วยโรคเบาหวานมีภาวะน้ำตาลในเลือดสูงกว่าปกตินานหลายปี จะทำให้เส้นเลือดฝอยทั่วร่างกายเปลี่ยนแปลงไป เช่น ที่ผนังหลอดเลือดในจอประสาทตาผิดปกติ มีเม็ดเลือด น้ำเหลือง และไขมันซึมออกมาในจอประสาทตา ทำให้จอประสาทตาบวม ขาดออกซิเจน เมื่อเป็นเช่นนี้นาน ๆ จะทำให้เส้นเลือดงอกใหม่ มีเลือดออกง่าย น้ำวุ้นตาขุ่นมัว จอประสาทตาลอก และทำให้ตาบอดในที่สุด ซึ่งโอกาสการเกิดโรคเบาหวานขึ้นตาจะเป็นไปตามระยะเวลาที่เป็นโรคเบาหวาน เช่น เป็นโรคเบาหวานนาน 10 ปี มีโอกาสพบโรคเบาหวานขึ้นตาได้ประมาณ 10% เป็นโรคเบาหวานนาน 15 ปี มีโอกาสพบโรคเบาหวานขึ้นตาได้ประมาณ 50% และเป็นโรคเบาหวานนาน 25 ปี มีโอกาสพบโรคเบาหวานขึ้นตาได้ประมาณ 80 - 90% เนื่องจากโรคเบาหวานขึ้นตาเป็นโรคเรื้อรังที่ไม่แสดงอาการในช่วงแรก ผู้ป่วยโรคเบาหวานจึงควรเข้ารับการตรวจตาจากจักษุแพทย์อย่างละเอียด เพื่อลดความเสี่ยงต่อโรคเบาหวานขึ้นตาตามช่วงอายุ หากผู้ป่วยโรคเบาหวานอายุ 30 ปี หรือน้อยกว่า ควรได้รับการตรวจครั้งแรกหลังจาก 5 ปีที่พบว่าเป็นโรคเบาหวานเป็นประจำปีละ 1 ครั้ง ส่วนผู้ป่วยโรคเบาหวานที่มีอายุมากกว่า 30 ปี เมื่อแพทย์วินิจฉัยว่าเป็นโรคเบาหวานควรรับการตรวจเป็นประจำปีละ1ครั้งและผู้ที่ตั้งครรภ์ควรรับการตรวจทุก3เดือนจนกว่าจะคลอดบุตร นอกจากนี้ ผู้ป่วยโรคเบาหวานควรคุมระดับน้ำตาลในเลือด ระดับไขมันในเส้นเลือดและความดันโลหิตเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดโรคเบาหวานขึ้นตา การรักษาโรคเบาหวานขึ้นตาในระยะแรกต้องมาตรวจตาตามที่แพทย์นัด หากพบความผิดปกติแพทย์จะพิจารณาให้การรักษาที่เหมาะสมต่อไป ซึ่งการรักษาด้วยการฉายเลเซอร์ หรือการผ่าตัดจะทำเมื่อจอประสาทตามีความผิดปกติมานาน และมีความเสียหายเกิดขึ้นแล้ว ดังนั้น ผลการรักษาจึงขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น ระยะเวลาที่ป่วยเป็นโรคเบาหวาน การควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดของผู้ป่วยโรคเบาหวาน สุขภาพทั่วไปของผู้ป่วยโรคเบาหวานและที่สำคัญคือความผิดปกติของตาก่อนรับการรักษาว่าเป็นมากน้อยระดับใด นพ.ณรงค์ อภิกุลวณิช กล่าวว่า ผู้ป่วยโรคเบาหวานทุกรายจำเป็นต้องรับการตรวจตาโดยจักษุแพทย์เป็นประจำอย่างน้อยปีละครั้ง เนื่องจากระยะแรกของโรคอาจไม่มีอาการแสดงใด ๆ นอกจากการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดแล้วต้องรักษาสุขภาพ ควบคุมความดันโลหิตและไขมันในเส้นเลือด ออกกำลังกายสม่ำเสมอ เลือกทานอาหารที่มีประโยชน์เน้นรับประทานประเภทผักใบ เช่น ผักกาดขาว คื่นฉ่าย ตำลึง คะน้า หลีกเลี่ยงอาหารหวาน มัน เค็ม งดสูบบุหรี่และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จะช่วยให้สุขภาพแข็งแรงและลดความเสี่ยงจากโรคเบาหวานขึ้นตาได้ ขอบคุณ... http://www.manager.co.th/QOL/ViewNews.aspx?NewsID=9590000043604
จัดฟอร์แม็ตข้อความและมัลติมีเดีย
รายละเอียดการใส่ ลิงค์ รูปภาพ วิดีโอ เพลง (Soundcloud)