สารพันคำถามในการผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าเทียม ในการรักษาข้อเข่าเสื่อม
โรคข้อเข่าเสื่อมนับว่าเป็นปัญหาที่สำคัญอย่างหนึ่งในผู้สูงอายุ คนไทยเป็นโรคข้อเข่าเสื่อมมากกว่า 6 ล้านคน ผู้ป่วยมักจะมีอาการปวดเข่า โดยเฉพาะเวลาเดิน ขาโก่งผิดรูป มักจะเกิดคำถามขึ้นมากมายเกี่ยวกับการรักษาโรคข้อเข่าเสื่อมด้วยการผ่าตัด เปลี่ยนข้อเข่าเทียม
เมื่อไหร่ที่ผู้ป่วยจำเป็นต้องรับการรักษาด้วยวิธีการผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าเทียม? การรักษาโรคข้อเข่าเสื่อมด้วยวิธีการผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าเทียมมักจะ พิจารณาในผู้ป่วยที่มีอาการปวดเข่ามากโดยเฉพาะเวลาเดิน หลังจากที่แพทย์ให้การรักษาผู้ป่วยด้วยวิธีการต่าง ๆ ไปแล้วแต่อาการปวดเข่าของผู้ป่วยยังไม่ทุเลาลง ส่วนใหญ่ผู้ป่วยโรคข้อเข่าเสื่อมมักมีอาการปวดเข่ามากเวลาเดิน โดยเฉพาะเวลาเดินขึ้นบันไดมักมีอาการปวดบริเวณ ด้านในของข้อเข่า อันเนื่องมาจากการที่มีกระดูกงอกออก มาเสียดสีกับเนื้อเยื่ออ่อนรอบ ๆ ข้อเข่า ร่วมกับมีการอักเสบของเยื่อบุข้อจึงทำให้เกิดอาการบวมของข้อเข่า อาการปวดมากเวลาเดินจึงทำให้ผู้ป่วยลดการใช้ชีวิตกิจวัตรประจำวัน และไม่อยากจะทำอะไร จึงมีผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตของผู้ป่วย
ในกรณีที่ผู้ป่วยมีขาโก่งมาก ๆ แพทย์มักจะแนะนำให้ผู้ป่วยทำการรักษาด้วยวิธีการผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าเทียม เนื่องจากว่าในผู้ป่วยที่ขาโก่งผิดรูปมาก ๆนั้นจะมีผลทำให้เดินลำบาก การทรงตัวของผู้ป่วยเสียไป เดินได้ไม่ดี มีโอกาสหกล้มได้ง่าย และอาจจะเกิดกระดูกหักตามมา นอกจากนั้นขาที่โก่งที่ทำให้เกิดการเดินที่ผิดปกติ ยังมีผลต่อสมดุลของร่างกาย ทำให้มีการกระจายน้ำหนักของร่างกายผิดปกติไปโดยเฉพาะที่บริเวณกระดูก สันหลัง จึงมักจะทำให้ผู้ป่วยมีอาการปวดหลังเพิ่มมากขึ้น และในบางครั้งผู้ป่วยอาจจะมีอาการปวดหลังและชาร้าวลงขา ร่วมกับอาการปวดเข่าเนื่องจากโรคข้อเข่าเสื่อมด้วย
วัตถุประสงค์และความคาดหวังของผู้ป่วยหลังการผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าเทียม? มีความจำเป็นอย่างยิ่งที่แพทย์ผู้ทำการรักษาต้องอธิบายให้ผู้ป่วยเข้าใจ และมีการกำหนดวัตถุประสงค์ และความคาดหวังของผู้ป่วยร่วมกันในการรักษาด้วยการผ่าตัด เพราะในบางครั้งถ้าผู้ป่วยมีความคาดหวังที่สูงมาก ๆ และผลที่ได้อาจจะไม่เป็นไปตามที่ผู้ป่วยคาดหวังก็อาจจะมีผลกระทบต่อความพึงพอใจของผู้ป่วย และคิดว่าการผ่าตัดนั้นไม่ประสบความสำเร็จ วัตถุประสงค์หลักในการผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าเทียมนั้นเพื่อ
ลดอาการปวดเข่า ทำให้ผู้ป่วยสามารถเดินได้สะดวกเพิ่มมากขึ้น อาการปวดจะลดน้อยลงเป็นลำดับหลังการผ่าตัด ซึ่งส่วนใหญ่อาการปวดมักจะหายเป็นปกติประมาณ 3 เดือนหลังการผ่าตัด หลังจากการผ่าตัดผู้ป่วยอาจจะมีความรู้สึกชาที่บริเวณแผลผ่าตัด หรืออาจจะมีอาการคัน หรือปวดที่บริเวณแผลผ่าตัดได้บ้าง เนื่องจากว่าในขณะที่แพทย์ผ่าตัดอาจจะตัดเส้นประสาทเล็ก ๆ ที่ไปเลี้ยงผิวหนังในบริเวณที่ผ่าตัด จึงทำให้ผู้ป่วยอาจจะมีความรู้สึกชา และความรู้สึกผิดปกติที่บริเวณแผลผ่าตัดได้ แต่ไม่มีผลอันตรายใด ๆ ต่อผู้ป่วยแก้ไขความผิดรูปของข้อเข่า ซึ่งส่วนใหญ่ผู้ป่วยมักจะมีอาการเข่าโก่ง การผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าเทียมจะช่วยแก้ไขแนวของเข่าและขาข้างนั้นให้ตรง สามารถรับนํ้าหนักได้ดี การเดิน และการทรงตัวของผู้ป่วยดีขึ้น ทำให้ช่วยเรื่องสมดุลของร่างกาย และป้องกันไม่ให้เกิดการหกล้มได้ง่ายซึ่งมีโอกาสทำให้เกิดกระดูกหักตามมา
ทำให้คุณภาพของชีวิตผู้ป่วยดีขึ้น เมื่ออาการปวดและขาของผู้ป่วยอยู่ในแนวปกติ สามารถเดินได้ดีขึ้นกว่าก่อนการผ่าตัด ผู้ป่วยสามารถกลับไปใช้ชีวิตได้เป็นปกติ ช่วยทำให้อาการปวดหลังที่เกิดร่วมกับโรคข้อเข่าเสื่อมทุเลาลง ส่วนใหญ่ผู้ป่วยโรคข้อเข่าเสื่อมมักจะมีปัญหาโรคหมอนรองกระดูกสันหลังเสื่อม และเกิดการกดทับเส้นประสาทร่วมกัน จึงทำให้นอกจากอาการปวดเข่าแล้ว อาจจะมีอาการปวดหลัง ปวดชาร้าวลงขาร่วมด้วย หลังจากการผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าเทียมจะช่วยทำให้ข้อเข่าสามารถรับน้ำหนัก ได้เป็นปกติ สมดุลของร่างกายดีขึ้น จะช่วยบรรเทาอาการปวดหลังที่ผู้ป่วยมีอยู่ด้วย
ถ้าผู้ป่วยอายุมากจะมีความเสี่ยงจากการผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าเทียมหรือไม่? ในเรื่องของอายุนั้นมักจะเป็นปัจจัยอย่างหนึ่งที่นำมาพิจารณาเพื่อให้การ รักษา อย่างไรก็ตามถ้าผู้ป่วยมีความทุกข์ทรมานจากโรคข้อเข่าเสื่อมเป็นอย่างมากทำ ให้มีผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวันมาก และเมื่อแพทย์ตรวจร่างกายผู้ป่วยพบว่ามีความพร้อมที่สามารถผ่าตัดได้ แพทย์ก็สามารถให้การรักษาด้วยการผ่าตัดข้อเข่าเทียมให้ผู้ป่วยได้แม้จะมี อายุมากเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นของผู้ป่วย
ในปัจจุบันด้วยวิวัฒนาการทางการแพทย์ทั้งในเรื่องของการผ่าตัดรักษา ประสบการณ์ของแพทย์ที่ทำการผ่าตัด การพัฒนาเทคโนโลยีของข้อเข่าเทียมที่นำมาใส่แทนผิวข้อเข่าเดิมของผู้ป่วย รวมทั้งเทคนิคการดูแลควบคุมอาการปวดหลังการผ่าตัด ทำให้การรักษาด้วยการผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าเทียมให้ผลลัพธ์ที่ดี ผู้ป่วยมีความพึงพอใจกับผลการรักษาด้วยการผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าเทียมเป็นอย่างมาก และสามารถกลับไปใช้ชีวิตและท่องเที่ยวไปตามที่ต่าง ๆ ได้อย่างมีความสุข อย่ากลัวเลยครับกับการผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าเทียม ท่านได้ประโยชน์จากการผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าเทียมมากกว่าที่คิดครับ ความกลัวเรื่องการผ่าตัดอาจจะทำให้ท่านพลาดโอกาสที่สำคัญอย่างหนึ่งที่จะทำ ให้คุณภาพชีวิตดีขึ้นมากกว่าสภาพก่อนผ่าตัดครับในกรณีผู้ป่วยเข่าเสื่อมที่ มีข้อบ่งชี้สำหรับการรักษาด้วยการผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าเทียม
เดลินิวส์ออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 2 มี.ค.57
แสดงความคิดเห็น
รายละเอียดกระทู้
การผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าเทียม โรคข้อเข่าเสื่อมนับว่าเป็นปัญหาที่สำคัญอย่างหนึ่งในผู้สูงอายุ คนไทยเป็นโรคข้อเข่าเสื่อมมากกว่า 6 ล้านคน ผู้ป่วยมักจะมีอาการปวดเข่า โดยเฉพาะเวลาเดิน ขาโก่งผิดรูป มักจะเกิดคำถามขึ้นมากมายเกี่ยวกับการรักษาโรคข้อเข่าเสื่อมด้วยการผ่าตัด เปลี่ยนข้อเข่าเทียม เมื่อไหร่ที่ผู้ป่วยจำเป็นต้องรับการรักษาด้วยวิธีการผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าเทียม? การรักษาโรคข้อเข่าเสื่อมด้วยวิธีการผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าเทียมมักจะ พิจารณาในผู้ป่วยที่มีอาการปวดเข่ามากโดยเฉพาะเวลาเดิน หลังจากที่แพทย์ให้การรักษาผู้ป่วยด้วยวิธีการต่าง ๆ ไปแล้วแต่อาการปวดเข่าของผู้ป่วยยังไม่ทุเลาลง ส่วนใหญ่ผู้ป่วยโรคข้อเข่าเสื่อมมักมีอาการปวดเข่ามากเวลาเดิน โดยเฉพาะเวลาเดินขึ้นบันไดมักมีอาการปวดบริเวณ ด้านในของข้อเข่า อันเนื่องมาจากการที่มีกระดูกงอกออก มาเสียดสีกับเนื้อเยื่ออ่อนรอบ ๆ ข้อเข่า ร่วมกับมีการอักเสบของเยื่อบุข้อจึงทำให้เกิดอาการบวมของข้อเข่า อาการปวดมากเวลาเดินจึงทำให้ผู้ป่วยลดการใช้ชีวิตกิจวัตรประจำวัน และไม่อยากจะทำอะไร จึงมีผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตของผู้ป่วย ในกรณีที่ผู้ป่วยมีขาโก่งมาก ๆ แพทย์มักจะแนะนำให้ผู้ป่วยทำการรักษาด้วยวิธีการผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าเทียม เนื่องจากว่าในผู้ป่วยที่ขาโก่งผิดรูปมาก ๆนั้นจะมีผลทำให้เดินลำบาก การทรงตัวของผู้ป่วยเสียไป เดินได้ไม่ดี มีโอกาสหกล้มได้ง่าย และอาจจะเกิดกระดูกหักตามมา นอกจากนั้นขาที่โก่งที่ทำให้เกิดการเดินที่ผิดปกติ ยังมีผลต่อสมดุลของร่างกาย ทำให้มีการกระจายน้ำหนักของร่างกายผิดปกติไปโดยเฉพาะที่บริเวณกระดูก สันหลัง จึงมักจะทำให้ผู้ป่วยมีอาการปวดหลังเพิ่มมากขึ้น และในบางครั้งผู้ป่วยอาจจะมีอาการปวดหลังและชาร้าวลงขา ร่วมกับอาการปวดเข่าเนื่องจากโรคข้อเข่าเสื่อมด้วย วัตถุประสงค์และความคาดหวังของผู้ป่วยหลังการผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าเทียม? มีความจำเป็นอย่างยิ่งที่แพทย์ผู้ทำการรักษาต้องอธิบายให้ผู้ป่วยเข้าใจ และมีการกำหนดวัตถุประสงค์ และความคาดหวังของผู้ป่วยร่วมกันในการรักษาด้วยการผ่าตัด เพราะในบางครั้งถ้าผู้ป่วยมีความคาดหวังที่สูงมาก ๆ และผลที่ได้อาจจะไม่เป็นไปตามที่ผู้ป่วยคาดหวังก็อาจจะมีผลกระทบต่อความพึงพอใจของผู้ป่วย และคิดว่าการผ่าตัดนั้นไม่ประสบความสำเร็จ วัตถุประสงค์หลักในการผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าเทียมนั้นเพื่อ ลดอาการปวดเข่า ทำให้ผู้ป่วยสามารถเดินได้สะดวกเพิ่มมากขึ้น อาการปวดจะลดน้อยลงเป็นลำดับหลังการผ่าตัด ซึ่งส่วนใหญ่อาการปวดมักจะหายเป็นปกติประมาณ 3 เดือนหลังการผ่าตัด หลังจากการผ่าตัดผู้ป่วยอาจจะมีความรู้สึกชาที่บริเวณแผลผ่าตัด หรืออาจจะมีอาการคัน หรือปวดที่บริเวณแผลผ่าตัดได้บ้าง เนื่องจากว่าในขณะที่แพทย์ผ่าตัดอาจจะตัดเส้นประสาทเล็ก ๆ ที่ไปเลี้ยงผิวหนังในบริเวณที่ผ่าตัด จึงทำให้ผู้ป่วยอาจจะมีความรู้สึกชา และความรู้สึกผิดปกติที่บริเวณแผลผ่าตัดได้ แต่ไม่มีผลอันตรายใด ๆ ต่อผู้ป่วยแก้ไขความผิดรูปของข้อเข่า ซึ่งส่วนใหญ่ผู้ป่วยมักจะมีอาการเข่าโก่ง การผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าเทียมจะช่วยแก้ไขแนวของเข่าและขาข้างนั้นให้ตรง สามารถรับนํ้าหนักได้ดี การเดิน และการทรงตัวของผู้ป่วยดีขึ้น ทำให้ช่วยเรื่องสมดุลของร่างกาย และป้องกันไม่ให้เกิดการหกล้มได้ง่ายซึ่งมีโอกาสทำให้เกิดกระดูกหักตามมา ทำให้คุณภาพของชีวิตผู้ป่วยดีขึ้น เมื่ออาการปวดและขาของผู้ป่วยอยู่ในแนวปกติ สามารถเดินได้ดีขึ้นกว่าก่อนการผ่าตัด ผู้ป่วยสามารถกลับไปใช้ชีวิตได้เป็นปกติ ช่วยทำให้อาการปวดหลังที่เกิดร่วมกับโรคข้อเข่าเสื่อมทุเลาลง ส่วนใหญ่ผู้ป่วยโรคข้อเข่าเสื่อมมักจะมีปัญหาโรคหมอนรองกระดูกสันหลังเสื่อม และเกิดการกดทับเส้นประสาทร่วมกัน จึงทำให้นอกจากอาการปวดเข่าแล้ว อาจจะมีอาการปวดหลัง ปวดชาร้าวลงขาร่วมด้วย หลังจากการผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าเทียมจะช่วยทำให้ข้อเข่าสามารถรับน้ำหนัก ได้เป็นปกติ สมดุลของร่างกายดีขึ้น จะช่วยบรรเทาอาการปวดหลังที่ผู้ป่วยมีอยู่ด้วย ถ้าผู้ป่วยอายุมากจะมีความเสี่ยงจากการผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าเทียมหรือไม่? ในเรื่องของอายุนั้นมักจะเป็นปัจจัยอย่างหนึ่งที่นำมาพิจารณาเพื่อให้การ รักษา อย่างไรก็ตามถ้าผู้ป่วยมีความทุกข์ทรมานจากโรคข้อเข่าเสื่อมเป็นอย่างมากทำ ให้มีผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวันมาก และเมื่อแพทย์ตรวจร่างกายผู้ป่วยพบว่ามีความพร้อมที่สามารถผ่าตัดได้ แพทย์ก็สามารถให้การรักษาด้วยการผ่าตัดข้อเข่าเทียมให้ผู้ป่วยได้แม้จะมี อายุมากเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นของผู้ป่วย ในปัจจุบันด้วยวิวัฒนาการทางการแพทย์ทั้งในเรื่องของการผ่าตัดรักษา ประสบการณ์ของแพทย์ที่ทำการผ่าตัด การพัฒนาเทคโนโลยีของข้อเข่าเทียมที่นำมาใส่แทนผิวข้อเข่าเดิมของผู้ป่วย รวมทั้งเทคนิคการดูแลควบคุมอาการปวดหลังการผ่าตัด ทำให้การรักษาด้วยการผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าเทียมให้ผลลัพธ์ที่ดี ผู้ป่วยมีความพึงพอใจกับผลการรักษาด้วยการผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าเทียมเป็นอย่างมาก และสามารถกลับไปใช้ชีวิตและท่องเที่ยวไปตามที่ต่าง ๆ ได้อย่างมีความสุข อย่ากลัวเลยครับกับการผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าเทียม ท่านได้ประโยชน์จากการผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าเทียมมากกว่าที่คิดครับ ความกลัวเรื่องการผ่าตัดอาจจะทำให้ท่านพลาดโอกาสที่สำคัญอย่างหนึ่งที่จะทำ ให้คุณภาพชีวิตดีขึ้นมากกว่าสภาพก่อนผ่าตัดครับในกรณีผู้ป่วยเข่าเสื่อมที่ มีข้อบ่งชี้สำหรับการรักษาด้วยการผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าเทียม ขอบคุณ... http://www.dailynews.co.th/Content/Article/219682/สารพันคำถามในการผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าเทียมในการรักษาข้อเข่าเสื่อม เดลินิวส์ออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 2 มี.ค.57
จัดฟอร์แม็ตข้อความและมัลติมีเดีย
รายละเอียดการใส่ ลิงค์ รูปภาพ วิดีโอ เพลง (Soundcloud)