จุดไฟการเมือง

แสดงความคิดเห็น

การเมืองไทยเดินเข้าสู่จุดเดือดจะออกหัวออกก้อยอีกไม่กี่วัน ได้รู้กัน ถ้าม็อบจุดติดมากันพรึบ นั่นแหละคือตัวชี้ขาด กดดันให้รัฐบาลเพื่อไทยต้องตัดสินใจจะเดินหน้าชน หรือถอยกลับที่ตั้ง

ข่าว“เขย่าขวด” สุดสัปดาห์นี้ถึงที่สุดแล้วสถานการณ์การเมืองจะเป็นอย่างไรต่อไปนั้นย่อมขึ้นอยู่กับพลังของประชาชนจะเป็นตัวชี้ขาด

แม้ ที่ผ่านมาจะมองไปที่ “กองทัพ” ซึ่งมี “อำนาจพิเศษ” เป็นตัวแปรสำคัญ หากยืนอยู่ข้างไหนโอกาสที่ฝ่ายนั้นจะได้รับชัยชนะก็มีความเป็นไปได้สูง

หรือมิฉะนั้นก็ยึดอำนาจเป็นของตัวเองและพวกพ้อง

แต่ ในสถานการณ์ปัจจุบันดูเหมือนว่าเรื่องนี้จะแปรเปลี่ยนไปด้วยสภาพความเป็น จริงของสังคมคือหากการยึดอำนาจ รัฐ-ประหารไม่ได้รับการยอมรับจากสังคมโลก

นายพลคนใดคิดหรือทำการยึดอำนาจน่าจะเป็นการหาทุกข์ให้กับตัวเองมากกว่าและมันไม่ใช่อำนาจที่หอมหวนเหมือนที่ผ่านมาแต่อย่างใด

สู้อยู่ดีมีสุขในค่ายดีกว่า

หลัง จากที่รัฐบาลเพื่อไทยตัดสินใจเดินหน้าเพื่อขับเคลื่อนที่จะให้ “ทักษิณ” กลับบ้านแบบเท่ๆ ด้วยการออก พ.ร.บ.นิรโทษกรรมแบบเหมาเข่งก็เกิดปฏิกิริยาต่อต้านขึ้นมาเป็นรูปขบวนที่ ก่อนหน้านี้กระจัดกระจายไม่สามารถรวมกลุ่มกันได้

จนเมื่อรัฐบาลสร้าง เงื่อนไขให้สุกงอมขึ้นมาเองอย่างนี้ด้วยความประมาท ชะล่าใจคิดว่าไม่มีทางจุดติด ตรงกันข้ามกลายเป็นโยนฟืนเข้ากองไฟขึ้นมาทันที

วัน นี้มีม็อบรวมกลุ่มกันแล้วทั้งที่อุรุพงษ์ สวนลุมพินี ม็อบสวนยางที่ประจวบ-คีรีขันธ์ แต่ที่น่าสนใจก็คือ ที่สถานีรถไฟสามเสน ซึ่งประชาธิปัตย์เป่านกหวีดเป็นแม่งานใหญ่

“ม็อบการเมือง” นั้น หากพรรคการ เมืองใหญ่นำทัพเองแบบเอาจริงเอาจังย่อมมีพลังและสามารถที่จะรวมศูนย์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ด้วยเป้าหมายเดียวกันคือ ต่อต้าน “ทักษิณ”

ครา นี้มีคำถามอยู่เหมือนกันว่าประชาธิปัตย์จะเอาจริงเอาจังมากน้อยแค่ไหน เพราะมันเป็นเกมนอกสภาที่ไม่ค่อยสันทัด อีกทั้งเคยยึดหลักการที่เชื่อมั่นระบอบรัฐสภามาตลอด

แต่ในสถานการณ์ ปัจจุบันด้วยเหตุและปัจจัยต่างๆ ประชาธิปัตย์ดูเหมือนจะไม่มีทางเลือกเป็นอย่างอื่น นอกจากจะต้องยืนหยัดกับพลังประชาชน สู้ข้างถนนอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

ว่าไปแล้วเป็นเงื่อนไขที่จะทำให้ฟื้นคืนชีพขึ้นมาอีกครั้ง

ไม่ว่าจะมองมุมไหน ประชาธิปัตย์สู้เพื่อไทยไม่ได้ หากปล่อยให้ “ทักษิณ” ได้กลับบ้านก็ยิ่งไปกันใหญ่

เมื่อ โอกาสเปิดให้เช่นนี้จึงต้องรีบคว้าเอาไว้แบบไม่ต้องลังเล เพราะนอกจากจะปลุกพวกเดียวกันให้หันหน้าเข้ามาหากันเพื่อสามัคคีร่วมสู้ หลังจากที่เกิดปัญหาภายในพรรคมาตลอด นอกจากนั้น ทำให้มวลชนของพรรคคึกคักขึ้นมาอีกครั้ง

เพราะนี่เป็นเพียงประตูเดียวที่ต้องเสี่ยงเล่น

ขณะ ที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ 2 คีย์แมนคนสำคัญยังต้องถูกดำเนินคดีสั่งฆ่าประชาชน แม้เป็นเรื่องที่ต้องว่ากันตามกระบวนการยุติธรรม แต่ถ้าหากพรรคเพื่อไทยยังครองอำนาจต่อไป

โอกาส “ติดคุก” ก็เกิดขึ้นได้

เหนืออื่นใด หากมองในแง่ของตัวพ.ร.บ.นิรโทษกรรม หากผ่านสภาวาระ 3 และวุฒิสภาไปได้ก็หาใช่ว่าจะฉลุยไปได้ง่ายๆ

เพราะต้องเจอด่านองค์กรอิสระที่ลับดาบรออยู่แล้ว

แต่ สิ่งที่เห็นและเป็นอยู่ในขณะนี้เชื่อว่าตัว พ.ร.บ.สุดซอยน่าจะเป็นแค่ “หัวเชื้อ” เท่านั้น แต่ประเด็นหลักอยู่ที่ “พลังม็อบ” มากกว่า

หากมากันพรึ่บแบบมืดฟ้ามัวดินนั่นแหละคือตัวชี้ขาด

ที่จะทำให้รัฐบาลเพื่อไทยต้องตัดสินใจอย่างใดอย่างหนึ่งว่าจะ “ถอย” หรือ “เดินหน้าชน” ต่อไป แบบว่าอะไรจะเกิดก็ต้องเกิด

เตรียมพร้อมรับสถานการณ์กันได้เลย!!!....โดย“ลิขิต จงสกุล”

ขอบคุณ... http://www.thairath.co.th/column/pol/subrhang/380149

( ไทยรัฐออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 3 พ.ย.56 )

ที่มา: ไทยรัฐออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 3 พ.ย.56
วันที่โพสต์: 3/11/2556 เวลา 04:07:25

แสดงความคิดเห็น

รอตรวจสอบ
จัดฟอร์แม็ต ดูการแสดงผล

รอตรวจสอบ

รอตรวจสอบ

รอตรวจสอบ

ยกเลิก

รายละเอียดกระทู้

การเมืองไทยเดินเข้าสู่จุดเดือดจะออกหัวออกก้อยอีกไม่กี่วัน ได้รู้กัน ถ้าม็อบจุดติดมากันพรึบ นั่นแหละคือตัวชี้ขาด กดดันให้รัฐบาลเพื่อไทยต้องตัดสินใจจะเดินหน้าชน หรือถอยกลับที่ตั้ง ข่าว“เขย่าขวด” สุดสัปดาห์นี้ถึงที่สุดแล้วสถานการณ์การเมืองจะเป็นอย่างไรต่อไปนั้นย่อมขึ้นอยู่กับพลังของประชาชนจะเป็นตัวชี้ขาด แม้ ที่ผ่านมาจะมองไปที่ “กองทัพ” ซึ่งมี “อำนาจพิเศษ” เป็นตัวแปรสำคัญ หากยืนอยู่ข้างไหนโอกาสที่ฝ่ายนั้นจะได้รับชัยชนะก็มีความเป็นไปได้สูง หรือมิฉะนั้นก็ยึดอำนาจเป็นของตัวเองและพวกพ้อง แต่ ในสถานการณ์ปัจจุบันดูเหมือนว่าเรื่องนี้จะแปรเปลี่ยนไปด้วยสภาพความเป็น จริงของสังคมคือหากการยึดอำนาจ รัฐ-ประหารไม่ได้รับการยอมรับจากสังคมโลก นายพลคนใดคิดหรือทำการยึดอำนาจน่าจะเป็นการหาทุกข์ให้กับตัวเองมากกว่าและมันไม่ใช่อำนาจที่หอมหวนเหมือนที่ผ่านมาแต่อย่างใด สู้อยู่ดีมีสุขในค่ายดีกว่า หลัง จากที่รัฐบาลเพื่อไทยตัดสินใจเดินหน้าเพื่อขับเคลื่อนที่จะให้ “ทักษิณ” กลับบ้านแบบเท่ๆ ด้วยการออก พ.ร.บ.นิรโทษกรรมแบบเหมาเข่งก็เกิดปฏิกิริยาต่อต้านขึ้นมาเป็นรูปขบวนที่ ก่อนหน้านี้กระจัดกระจายไม่สามารถรวมกลุ่มกันได้ จนเมื่อรัฐบาลสร้าง เงื่อนไขให้สุกงอมขึ้นมาเองอย่างนี้ด้วยความประมาท ชะล่าใจคิดว่าไม่มีทางจุดติด ตรงกันข้ามกลายเป็นโยนฟืนเข้ากองไฟขึ้นมาทันที วัน นี้มีม็อบรวมกลุ่มกันแล้วทั้งที่อุรุพงษ์ สวนลุมพินี ม็อบสวนยางที่ประจวบ-คีรีขันธ์ แต่ที่น่าสนใจก็คือ ที่สถานีรถไฟสามเสน ซึ่งประชาธิปัตย์เป่านกหวีดเป็นแม่งานใหญ่ “ม็อบการเมือง” นั้น หากพรรคการ เมืองใหญ่นำทัพเองแบบเอาจริงเอาจังย่อมมีพลังและสามารถที่จะรวมศูนย์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยเป้าหมายเดียวกันคือ ต่อต้าน “ทักษิณ” ครา นี้มีคำถามอยู่เหมือนกันว่าประชาธิปัตย์จะเอาจริงเอาจังมากน้อยแค่ไหน เพราะมันเป็นเกมนอกสภาที่ไม่ค่อยสันทัด อีกทั้งเคยยึดหลักการที่เชื่อมั่นระบอบรัฐสภามาตลอด แต่ในสถานการณ์ ปัจจุบันด้วยเหตุและปัจจัยต่างๆ ประชาธิปัตย์ดูเหมือนจะไม่มีทางเลือกเป็นอย่างอื่น นอกจากจะต้องยืนหยัดกับพลังประชาชน สู้ข้างถนนอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ว่าไปแล้วเป็นเงื่อนไขที่จะทำให้ฟื้นคืนชีพขึ้นมาอีกครั้ง ไม่ว่าจะมองมุมไหน ประชาธิปัตย์สู้เพื่อไทยไม่ได้ หากปล่อยให้ “ทักษิณ” ได้กลับบ้านก็ยิ่งไปกันใหญ่ เมื่อ โอกาสเปิดให้เช่นนี้จึงต้องรีบคว้าเอาไว้แบบไม่ต้องลังเล เพราะนอกจากจะปลุกพวกเดียวกันให้หันหน้าเข้ามาหากันเพื่อสามัคคีร่วมสู้ หลังจากที่เกิดปัญหาภายในพรรคมาตลอด นอกจากนั้น ทำให้มวลชนของพรรคคึกคักขึ้นมาอีกครั้ง เพราะนี่เป็นเพียงประตูเดียวที่ต้องเสี่ยงเล่น ขณะ ที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ 2 คีย์แมนคนสำคัญยังต้องถูกดำเนินคดีสั่งฆ่าประชาชน แม้เป็นเรื่องที่ต้องว่ากันตามกระบวนการยุติธรรม แต่ถ้าหากพรรคเพื่อไทยยังครองอำนาจต่อไป โอกาส “ติดคุก” ก็เกิดขึ้นได้ เหนืออื่นใด หากมองในแง่ของตัวพ.ร.บ.นิรโทษกรรม หากผ่านสภาวาระ 3 และวุฒิสภาไปได้ก็หาใช่ว่าจะฉลุยไปได้ง่ายๆ เพราะต้องเจอด่านองค์กรอิสระที่ลับดาบรออยู่แล้ว แต่ สิ่งที่เห็นและเป็นอยู่ในขณะนี้เชื่อว่าตัว พ.ร.บ.สุดซอยน่าจะเป็นแค่ “หัวเชื้อ” เท่านั้น แต่ประเด็นหลักอยู่ที่ “พลังม็อบ” มากกว่า หากมากันพรึ่บแบบมืดฟ้ามัวดินนั่นแหละคือตัวชี้ขาด ที่จะทำให้รัฐบาลเพื่อไทยต้องตัดสินใจอย่างใดอย่างหนึ่งว่าจะ “ถอย” หรือ “เดินหน้าชน” ต่อไป แบบว่าอะไรจะเกิดก็ต้องเกิด เตรียมพร้อมรับสถานการณ์กันได้เลย!!!....โดย“ลิขิต จงสกุล” ขอบคุณ... http://www.thairath.co.th/column/pol/subrhang/380149 ( ไทยรัฐออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 3 พ.ย.56 )

จัดฟอร์แม็ตข้อความและมัลติมีเดีย

  1. เพิ่ม
  2. เพิ่ม ลบ
  3. เพิ่ม ลบ
  4. เพิ่ม ลบ
  5. เพิ่ม ลบ
  6. เพิ่ม ลบ
  7. เพิ่ม ลบ
  8. เพิ่ม ลบ
  9. เพิ่ม ลบ
  10. ลบ
เลือกการตกแต่งที่ต้องการ

ตกลง ยกเลิก

รายละเอียดการใส่ ลิงค์ รูปภาพ วิดีโอ เพลง (Soundcloud)

Waiting...

ห้องการเมือง