คณิตลั่นถึงเวลาปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม ชี้นักกฎหมายไทยกลัวการเมือง
วันที่ 13 ตุลาคม ที่รัฐสภา คณะกรรมการจัดงานรำลึกและเชิดชูเกียรติ “วัน 14 ตุลา ประชาธิปไตย” วุฒิสภา จัดงานรำลึกและเชิดชูเกียรติ ครบรอบ 40 ปี 14 ตุลา ประชาธิปไตย โดยมีนายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย รองประธานวุฒิสภาคนที่ 1 เป็นประธานภายในงาน พร้อมนายคณิต ณ นคร ประธานคณะกรรมการปฏิรูปกฎหมาย (คปก.) ร่วมปาฐกถาพิเศษในหัวข้อ “การปฏิรูปกระบวนการยุติธรรมไทย”
นายคณิตกล่าวตอนหนึ่งว่า ปัญหากระบวนการยุติธรรมของบ้านเมืองเราในขณะนี้แบ่งเป็น 3 ด้าน คือ 1.ด้านกฎหมาย 2.นักกฎหมาย และ 3.การเรียน การสอนกฎหมาย ซึ่งกฎหมายของไทยไม่ได้เสียหาย แต่เป็นตัวนักกฎหมายที่มีปัญหาค่อนข้างมาก เพราะเราศึกษากฎหมายด้วยการจำสิ่งที่เกิดขึ้นในอดีต โดยไม่วิเคราะห์ว่ามีหลักเกณฑ์อะไรอยู่เบื้องหลังบ้าง พฤติกรรมของคนในกระบวนการยุติธรรมบางคนก็มีพฤติกรรมน่ารังเกียจ เช่น ทำงานสบาย กลัวผู้บังคับบัญชาโดยเฉพาะกลัวการเมือง
นายคณิตกล่าวต่อว่า ตนเคยโดนมาแล้วแต่ไม่กลัว รวมถึงพฤติกรรมประจบประแจง โดยเฉพาะประจบผู้บังคับบัญชาและหัวหน้าองค์กร ดังนั้นหากพูดให้แรงอาจบอกได้ว่ากระบวนการยุติธรรมไทยเป็นกระบวนการที่ไร้ ประสิทธิภาพ คุกคามสิทธิ และค่าใช้จ่ายสูง จึงมองว่าการปฏิรูปกระบวนการยุติธรรมที่ต้องทำต่อไปในอนาคต คือ การปฏิรูปศาลพิจารณา ศาลชั้นอุทธรณ์ หากยังมีต้องให้เป็นศาลพิจารณา ศาลฎีกาต้องเป็นศาลทบทวนข้อกฎหมาย การทำความเข้าใจแก่บุคลากรในองค์กรในกระบวนการยุติธรรม เนื้อหาของการปฏิรูปกระบวนการยุติธรรมที่ได้ทำมาแล้วและจะทำต่อไป ที่สำคัญคือการสร้างความเข้าใจกระบวนการยุติธรรมแก่ประชาชน จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่เราต้องปฏิรูปกระบวนการยุติธรรมโดยไม่มีทางหลีกเลี่ยง
นายคณิตกล่าวอีกว่า กระบวนการยุติธรรมเป็นเรื่องที่มีความสำคัญ เพราะเกี่ยวข้องกับความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน หากกระบวนการยุติธรรมดีจะช่วยพัฒนาประเทศได้ทุกด้าน ทั้งนี้ กระบวนการยุติธรรมที่ดีต้องมีประสิทธิภาพในการบังคับใช้กฎหมาย เป็นกระบวนการที่สามารถคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพของบุคคลได้
มติชนออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 13 ต.ค.56
แสดงความคิดเห็น
รายละเอียดกระทู้
วันที่ 13 ตุลาคม ที่รัฐสภา คณะกรรมการจัดงานรำลึกและเชิดชูเกียรติ “วัน 14 ตุลา ประชาธิปไตย” วุฒิสภา จัดงานรำลึกและเชิดชูเกียรติ ครบรอบ 40 ปี 14 ตุลา ประชาธิปไตย โดยมีนายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย รองประธานวุฒิสภาคนที่ 1 เป็นประธานภายในงาน พร้อมนายคณิต ณ นคร ประธานคณะกรรมการปฏิรูปกฎหมาย (คปก.) ร่วมปาฐกถาพิเศษในหัวข้อ “การปฏิรูปกระบวนการยุติธรรมไทย” นายคณิตกล่าวตอนหนึ่งว่า ปัญหากระบวนการยุติธรรมของบ้านเมืองเราในขณะนี้แบ่งเป็น 3 ด้าน คือ 1.ด้านกฎหมาย 2.นักกฎหมาย และ 3.การเรียน การสอนกฎหมาย ซึ่งกฎหมายของไทยไม่ได้เสียหาย แต่เป็นตัวนักกฎหมายที่มีปัญหาค่อนข้างมาก เพราะเราศึกษากฎหมายด้วยการจำสิ่งที่เกิดขึ้นในอดีต โดยไม่วิเคราะห์ว่ามีหลักเกณฑ์อะไรอยู่เบื้องหลังบ้าง พฤติกรรมของคนในกระบวนการยุติธรรมบางคนก็มีพฤติกรรมน่ารังเกียจ เช่น ทำงานสบาย กลัวผู้บังคับบัญชาโดยเฉพาะกลัวการเมือง นายคณิตกล่าวต่อว่า ตนเคยโดนมาแล้วแต่ไม่กลัว รวมถึงพฤติกรรมประจบประแจง โดยเฉพาะประจบผู้บังคับบัญชาและหัวหน้าองค์กร ดังนั้นหากพูดให้แรงอาจบอกได้ว่ากระบวนการยุติธรรมไทยเป็นกระบวนการที่ไร้ ประสิทธิภาพ คุกคามสิทธิ และค่าใช้จ่ายสูง จึงมองว่าการปฏิรูปกระบวนการยุติธรรมที่ต้องทำต่อไปในอนาคต คือ การปฏิรูปศาลพิจารณา ศาลชั้นอุทธรณ์ หากยังมีต้องให้เป็นศาลพิจารณา ศาลฎีกาต้องเป็นศาลทบทวนข้อกฎหมาย การทำความเข้าใจแก่บุคลากรในองค์กรในกระบวนการยุติธรรม เนื้อหาของการปฏิรูปกระบวนการยุติธรรมที่ได้ทำมาแล้วและจะทำต่อไป ที่สำคัญคือการสร้างความเข้าใจกระบวนการยุติธรรมแก่ประชาชน จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่เราต้องปฏิรูปกระบวนการยุติธรรมโดยไม่มีทางหลีกเลี่ยง นายคณิตกล่าวอีกว่า กระบวนการยุติธรรมเป็นเรื่องที่มีความสำคัญ เพราะเกี่ยวข้องกับความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน หากกระบวนการยุติธรรมดีจะช่วยพัฒนาประเทศได้ทุกด้าน ทั้งนี้ กระบวนการยุติธรรมที่ดีต้องมีประสิทธิภาพในการบังคับใช้กฎหมาย เป็นกระบวนการที่สามารถคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพของบุคคลได้ ขอบคุณ... http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1381662762&grpid=&catid=01&subcatid=0100 มติชนออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 13 ต.ค.56
จัดฟอร์แม็ตข้อความและมัลติมีเดีย
รายละเอียดการใส่ ลิงค์ รูปภาพ วิดีโอ เพลง (Soundcloud)