โอ๊ควอนคนไทยหัวใจอำมาตย์–กลุ่มการเมือง แข่งทำงานให้ปชช.
เมื่อวันที่ 5 ต.ค. นายพานทองแท้ ชินวัตร โพสต์ข้อความทางเฟสบุ๊กส่วนตัว ถึงการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี (คุณพ่อผม) เคยพูดไว้ว่า เขียนกฎหมายประเภทรัฐธรรมนูญปี 50 เขียนไปหลายมาตราทำไมให้ยุ่งยาก เขียนเพิ่มมาตราเดียวว่า "ห้ามคนชื่อ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และพวก ยุ่งเกี่ยวกับการเมืองเด็ดขาด" สั้นๆ แค่นี้ ง่ายและตรงตามวัตถุประสงค์ ที่ต้องการกว่าเยอะ” และคุณพ่อยังพูดเสมอว่า ผลไม้ของต้นไม้ที่เป็นพิษอย่างไรก็เป็นพิษครับ ถ้าไม่ใช่จากพิษของมันโดยตรง ก็เป็นพิษของคนที่ได้ประโยชน์ ที่เอาพิษของมันมาทำร้ายผู้อื่น คนพวกนี้จะพยายามปกปักรักษาผลพวงของต้นไม้พิษนี้ไว้ เพื่อยังผลประโยชน์ให้กับพวกตัวเองต่อไป ส่วนพล.อ.สนธิ บุญญรัตกลิน หัวหน้าพรรคมาตุภูมิ ที่เป็นผู้ปลูกต้นไม้พิษด้วยการปฏิวัติรัฐประหาร แต่เมื่อทราบความเลวร้ายของมัน จึงมาลงเลือกตั้ง ยืนอยู่ฝั่งประชาธิปไตยและคิดจะขุดรากถอนโคน และทำลายดอกผลของต้นไม้พิษนี้ ยังทำลายได้ยาก
นายพานทองแท้ ระบุอีกว่า กลุ่มคนที่ได้ประโยชน์จากผลไม้พิษที่เห็นชัดเจนคือ กลุ่มการเมืองขั้วตรงข้ามกับคุณพ่อของตน และยืนตรงข้ามกับพี่น้องประชาชนที่ออกมาเรียกร้องประชาธิปไตย ส่วนกลุ่มส.ว. ก็มีผู้ที่อยู่ในข่ายนิยมผลไม้พิษ โดยเฉพาะผู้ที่ไม่เคยทำตัวให้เป็นประโยชน์ต่อท้องถิ่น เมื่อลงเลือกตั้งส.ว.แล้วชาวบ้านไม่เลือก วิธีเดียวที่ตัวเองจะได้เป็นส.ว.คือเสนอตัวเข้าไปเป็นส.ว.แบบสรรหา ปวารณาตัวไปเป็นดอกผลของผลไม้พิษแห่งการรัฐประหาร คนกลุ่มนี้จึงต้องคัดค้านหัวชนฝาไม่ยอมให้แก้รัฐธรรมนูญปี 50 อย่างเด็ดขาด ค้านทุกสระและตัวอักษรแม้กฎหมายผ่านสภาฯไปแล้ว และนายกรัฐมนตรีต้องนำขึ้นทูลเกล้าฯ ภายใน 20 วัน คนพวกนี้ยังบอกว่าควรชะลอไว้ก่อน เพราะติดเรื่องโน้นเรื่องนี้ ตนมองว่าแปลกเพราะสนับสนุนรัฐธรรมนูญปี 50 แต่กลับเสนอให้นายกฯ ทำผิดรัฐธรรมนูญที่ตัวเองเสนอ และที่น่าสังเกตคือคนกลุ่มนี้คือผู้รณรงค์ให้ประชาชนไปออกเสียงลงมติรับร่าง รธน.ปี 50
“รัฐธรรมนูญปี 50 ที่พรรคประชาธิปัตย์ และคนไทยหัวใจอำมาตย์ ชื่นชมว่าดีและออกมาปกป้องนั้น ตอนทำประชามติมีการส่งทั้งทหารและฝ่ายปกครอง กระจายลงไปตามหมู่บ้านต่างๆ ทั่วประเทศ ทั้งขู่ทั้งปลอบชาวบ้าน บ้างก็บอกยอมรับว่ารัฐธรรมนูญปี 50 มีข้อบกพร่องเยอะ แต่ขอให้ผ่าน บ้างก็หลอกว่าให้รับไปก่อนแล้วเดี๋ยวค่อยแก้ภายหลัง หนักเข้าถึงกับขู่ว่าถ้าประชามติไม่ผ่าน จะไม่มีการเลือกตั้ง และที่แย่ที่สุดคือแอบอ้างว่าเบื้องบนขอให้รัฐธรรมนูญปี 50 ผ่านประชามติก็มีครับ ทำกันถึงขนาดนี้ แล้วทำไมช่วงนั้น ไม่มีพวกโหนเจ้า อ้างเจ้า ออกมาคัดค้านกันบ้างว่า เอารัฐธรรมนูญที่มีตำหนิ ผ่านประชามติมาด้วยวิธีหลอกลวงข่มขู่ชาวบ้าน เอารัฐธรรมนูญที่บอกว่าให้รับๆ ไปก่อน แล้วค่อยมาแก้กันภายหลัง สุขเอาเผากินกันแบบนี้ ทำไมไม่กลัวว่านำขึ้นฯ แล้ว จะทำให้ระคายเคืองฯกันบ้างหละครับ”นายพานทองแท้ กล่าว
นายพานทองแท้ กล่าวอีกว่า ขอให้คนไทยหัวใจอำมาตย์ทั้งหลายกลับมาสู่โลกแห่งความจริงที่เป็นประชาธิปไตย หากยังกอดอำนาจเสียดายอำนาจแบบผิด ที่ไม่ได้มาจากประชาชนกันเพราะอยากได้อำนาจรัฐ ควรแข่งกันทำความดีเพื่อให้ประชาชนแบ่งคะแนนให้บ้างในวันเลือกตั้ง แต่การคิดแอบอ้างเบื้องสูงมาโจมตีคู่แข่งทางการเมือง ยุให้ทหารนำรถถังออกมาบนท้องถนน และเดินสายปลุกระดมว่ารัฐบาลทำอะไรก็หมิ่น ประเทศชาติเดินถอยหลังตกคลองแน่นอน และอยากให้ทำตัวเป็นผู้ใหญ่ ไม่เอาเปรียบคู่แข่งทางการเมือง เลิกกอดกฎหมายที่ทำลายคู่แข่ง ไม่โหนเจ้า ไม่อ้อนอำมาตย์และเลิกเดินสายปลุกระดมเล่าเรื่องโกหกให้ชาวบ้านฟัง และมาแข่งขันเชิงนโยบายไม่ขัดขวางการพัฒนาประเทศ
( ข่าวสดออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 5 ต.ค.56 )
ที่มา: ข่าวสดออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 5 ต.ค.56
วันที่โพสต์: 6/10/2556 เวลา 03:29:24 
แสดงความคิดเห็น
รายละเอียดกระทู้
เมื่อวันที่ 5 ต.ค. นายพานทองแท้ ชินวัตร โพสต์ข้อความทางเฟสบุ๊กส่วนตัว ถึงการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี (คุณพ่อผม) เคยพูดไว้ว่า เขียนกฎหมายประเภทรัฐธรรมนูญปี 50 เขียนไปหลายมาตราทำไมให้ยุ่งยาก เขียนเพิ่มมาตราเดียวว่า "ห้ามคนชื่อ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และพวก ยุ่งเกี่ยวกับการเมืองเด็ดขาด" สั้นๆ แค่นี้ ง่ายและตรงตามวัตถุประสงค์ ที่ต้องการกว่าเยอะ” และคุณพ่อยังพูดเสมอว่า ผลไม้ของต้นไม้ที่เป็นพิษอย่างไรก็เป็นพิษครับ ถ้าไม่ใช่จากพิษของมันโดยตรง ก็เป็นพิษของคนที่ได้ประโยชน์ ที่เอาพิษของมันมาทำร้ายผู้อื่น คนพวกนี้จะพยายามปกปักรักษาผลพวงของต้นไม้พิษนี้ไว้ เพื่อยังผลประโยชน์ให้กับพวกตัวเองต่อไป ส่วนพล.อ.สนธิ บุญญรัตกลิน หัวหน้าพรรคมาตุภูมิ ที่เป็นผู้ปลูกต้นไม้พิษด้วยการปฏิวัติรัฐประหาร แต่เมื่อทราบความเลวร้ายของมัน จึงมาลงเลือกตั้ง ยืนอยู่ฝั่งประชาธิปไตยและคิดจะขุดรากถอนโคน และทำลายดอกผลของต้นไม้พิษนี้ ยังทำลายได้ยาก นายพานทองแท้ ระบุอีกว่า กลุ่มคนที่ได้ประโยชน์จากผลไม้พิษที่เห็นชัดเจนคือ กลุ่มการเมืองขั้วตรงข้ามกับคุณพ่อของตน และยืนตรงข้ามกับพี่น้องประชาชนที่ออกมาเรียกร้องประชาธิปไตย ส่วนกลุ่มส.ว. ก็มีผู้ที่อยู่ในข่ายนิยมผลไม้พิษ โดยเฉพาะผู้ที่ไม่เคยทำตัวให้เป็นประโยชน์ต่อท้องถิ่น เมื่อลงเลือกตั้งส.ว.แล้วชาวบ้านไม่เลือก วิธีเดียวที่ตัวเองจะได้เป็นส.ว.คือเสนอตัวเข้าไปเป็นส.ว.แบบสรรหา ปวารณาตัวไปเป็นดอกผลของผลไม้พิษแห่งการรัฐประหาร คนกลุ่มนี้จึงต้องคัดค้านหัวชนฝาไม่ยอมให้แก้รัฐธรรมนูญปี 50 อย่างเด็ดขาด ค้านทุกสระและตัวอักษรแม้กฎหมายผ่านสภาฯไปแล้ว และนายกรัฐมนตรีต้องนำขึ้นทูลเกล้าฯ ภายใน 20 วัน คนพวกนี้ยังบอกว่าควรชะลอไว้ก่อน เพราะติดเรื่องโน้นเรื่องนี้ ตนมองว่าแปลกเพราะสนับสนุนรัฐธรรมนูญปี 50 แต่กลับเสนอให้นายกฯ ทำผิดรัฐธรรมนูญที่ตัวเองเสนอ และที่น่าสังเกตคือคนกลุ่มนี้คือผู้รณรงค์ให้ประชาชนไปออกเสียงลงมติรับร่าง รธน.ปี 50 “รัฐธรรมนูญปี 50 ที่พรรคประชาธิปัตย์ และคนไทยหัวใจอำมาตย์ ชื่นชมว่าดีและออกมาปกป้องนั้น ตอนทำประชามติมีการส่งทั้งทหารและฝ่ายปกครอง กระจายลงไปตามหมู่บ้านต่างๆ ทั่วประเทศ ทั้งขู่ทั้งปลอบชาวบ้าน บ้างก็บอกยอมรับว่ารัฐธรรมนูญปี 50 มีข้อบกพร่องเยอะ แต่ขอให้ผ่าน บ้างก็หลอกว่าให้รับไปก่อนแล้วเดี๋ยวค่อยแก้ภายหลัง หนักเข้าถึงกับขู่ว่าถ้าประชามติไม่ผ่าน จะไม่มีการเลือกตั้ง และที่แย่ที่สุดคือแอบอ้างว่าเบื้องบนขอให้รัฐธรรมนูญปี 50 ผ่านประชามติก็มีครับ ทำกันถึงขนาดนี้ แล้วทำไมช่วงนั้น ไม่มีพวกโหนเจ้า อ้างเจ้า ออกมาคัดค้านกันบ้างว่า เอารัฐธรรมนูญที่มีตำหนิ ผ่านประชามติมาด้วยวิธีหลอกลวงข่มขู่ชาวบ้าน เอารัฐธรรมนูญที่บอกว่าให้รับๆ ไปก่อน แล้วค่อยมาแก้กันภายหลัง สุขเอาเผากินกันแบบนี้ ทำไมไม่กลัวว่านำขึ้นฯ แล้ว จะทำให้ระคายเคืองฯกันบ้างหละครับ”นายพานทองแท้ กล่าว นายพานทองแท้ กล่าวอีกว่า ขอให้คนไทยหัวใจอำมาตย์ทั้งหลายกลับมาสู่โลกแห่งความจริงที่เป็นประชาธิปไตย หากยังกอดอำนาจเสียดายอำนาจแบบผิด ที่ไม่ได้มาจากประชาชนกันเพราะอยากได้อำนาจรัฐ ควรแข่งกันทำความดีเพื่อให้ประชาชนแบ่งคะแนนให้บ้างในวันเลือกตั้ง แต่การคิดแอบอ้างเบื้องสูงมาโจมตีคู่แข่งทางการเมือง ยุให้ทหารนำรถถังออกมาบนท้องถนน และเดินสายปลุกระดมว่ารัฐบาลทำอะไรก็หมิ่น ประเทศชาติเดินถอยหลังตกคลองแน่นอน และอยากให้ทำตัวเป็นผู้ใหญ่ ไม่เอาเปรียบคู่แข่งทางการเมือง เลิกกอดกฎหมายที่ทำลายคู่แข่ง ไม่โหนเจ้า ไม่อ้อนอำมาตย์และเลิกเดินสายปลุกระดมเล่าเรื่องโกหกให้ชาวบ้านฟัง และมาแข่งขันเชิงนโยบายไม่ขัดขวางการพัฒนาประเทศ ขอบคุณ … http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=TVRNNE1EazJOamsxTmc9PQ==&subcatid= ( ข่าวสดออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 5 ต.ค.56 )
จัดฟอร์แม็ตข้อความและมัลติมีเดีย
รายละเอียดการใส่ ลิงค์ รูปภาพ วิดีโอ เพลง (Soundcloud)
