ทำความรู้จัก “การปิดหน่วยงานรัฐบาล” ในประวัติศาสตร์การเมืองสหรัฐ
รัฐบาลกลางสหรัฐจำต้องปิดหน่วยงานราชการบางส่วนเป็นครั้งแรกในรอบ 17 ปี เนื่องจากสภาคองเกรสไม่สามารถประนีประนอมข้อตกลงเกี่ยวกับร่างงบประมาณชั่ว คราว เพื่อทำให้หน่วยงานภาครัฐเปิดทำการหลังเที่ยงคืนของวันจันทร์ที่ 30 ก.ย.ตามเวลาสหรัฐ เมื่อปีงบประมาณ 2557 ของสหรัฐได้เริ่มต้นขึ้นในวันอังคารที่ 1 ต.ค.
ภายใต้รัฐธรรมนูญของสหรัฐระบุไว้ว่า สภาคองเกรสต้องผ่านร่างกฎหมายงบประมาณสำหรับการใช้จ่ายของรัฐบาล หากคองเกรสไม่สามารถตกลงกันได้แล้ว หรือมีการใช้สิทธิวีโต้จากประธานาธิบดี รัฐบาลก็จะไม่มีอำนาจทางกฎหมายในการใช้จ่ายเงินงบประมาณ
ทั้งนี้ สภาคองเกรสเคยดำเนินตามกระบวนการผ่านร่างงบประมาณเป็นอันดับแรก และต่อด้วยร่างงบประมาณพิเศษที่แยกต่างหากอีก 12 ฉบับ แต่กระบวนการดังกล่าวได้หยุดชะงักไปในช่วงหลายปีที่ผ่านมา อันเนื่องมาจากกุศโลบายทางการเมืองที่มีมากขึ้น และสภาคองเครสหันไปใช้ร่างงบประมาณชั่วคราวแทน ซึ่งทำให้รัฐบาลกลางยังสามารถใช้จ่ายที่ระดับเดิมตลอดทั้งปีหรือในช่วงระยะ หนึ่งในปีงบประมาณ
การปิดหน่วยงานรัฐบาลไม่ได้หมายความว่าหน่วยงานรัฐบาลทั้งหมดจะยุติการ ดำเนินงาน โดยการใช้จ่ายสำหรับหน่วยงานที่มีหน้าที่จำเป็น ซึ่งเกี่ยวข้องกับความมั่นคงของชาติและความปลอดภัยของประชาชน จะยังคงดำเนินต่อไป อาทิ การจัดสรรเงินสำหรับกองกำลังทหาร ส่วนเจ้าหน้าที่ภาครัฐที่อยู่ในหน่วยงานด้านบริการที่ไม่จำเป็นจะถูกพักงาน และเพื่อลดผลกระทบที่ฉับพลันและรุนแรงจากการปิดหน่วยงานรัฐบาลในวงกว้าง โดยไม่มีหลักประกันในการรับเงินค่าจ้างย้อนหลังสำหรับวันที่ถูกพักงาน หลังวิกฤตการปิดหน่วยงานรัฐบาลสิ้นสุด
เจ้าหน้าที่ของรัฐบาลกลางจำนวนมากถึง 1 ล้านคนในหน่วยงานด้านบริการที่ไม่มีความจำเป็น จะถูกพักงาน อันเนื่องมาจากการปิดหน่วยงานรัฐบาลเมื่อวานนี้ ซึ่งรวมถึงเจ้าหน้าที่ในหน่วยงานด้านภาษีอากรของรัฐบาลกลาง กระทรวงยุติธรรม กระทรวงแรงงาน กระทรวงการคลัง และสำนักงานคุ้มครองสิ่งแวดล้อมสหรัฐ
ทางด้านศาลฎีกาของสหรัฐอาจจะเปิดทำการตามปกติ ส่วนธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ก็จะยังคงเปิดทำการเช่นกัน เนื่องจากเฟดไม่ได้อาศัยเงินงบประมาณจากสภาคองเกรส แต่ใช้ผลตอบแทนจากหลักทรัพย์ในการดำเนินงาน
หน่วยงานรัฐบาลไม่สามารถเพิกเฉยต่อการปิดทำการดังกล่าวได้ เนื่องจากกฎหมายของรัฐบาลกลางระบุว่า การใช้จ่ายเงินภาษีของประชาชนโดยไม่ผ่านการอนุมัติงบประมาณจากสภาคองเกรสจะ ถือเป็นการก่ออาชญากรรมที่รุนแรง ส่วนในตลอดช่วงการปิดทำการนั้น หน่วยงานต่างๆจะได้รับแจ้งข้อมูลความคืบหน้าล่าสุดเกี่ยวกับการคลี่คลาย ปัญหาด้านงบประมาณ
สำนักงานบริการวิจัยสภาคองเกรสเปิดเผยว่า มีการปิดหน่วยงานภาครัฐของสหรัฐบางส่วนมาแล้ว 17 ครั้งนับตั้งแต่ปี 2520 โดยมีสาเหตุเดียวกันคือความล้มเหลวในการเจรจาด้านงบประมาณ และการปิดหน่วยงานรัฐบาลทุกครั้งได้ส่งผลให้มีการพักงานเจ้าหน้าที่รัฐบาล กลางบางส่วน แต่ส่วนใหญ่แล้ว การปิดหน่วยรัฐบาลเป็นการปิดในช่วงเวลาที่ค่อนข้างสั้น
ทั้งนี้ การปิดหน่วยงานรัฐบาลที่สำคัญครั้งล่าสุดเกิดขึ้นในช่วงปลายปี 2538 และต้นปี 2539 เนื่องจากรัฐบาลของอดีตประธานาธิบดีบิล คลินตัน และสภาผู้แทนราษฎรไม่สามารถบรรลุข้อตกลงในการจัดสรรงบประมาณแก่รัฐบาลได้ โดยมีการปิดหน่วยงานภาครัฐเป็นเวลา 28 วันก่อนที่จะสามารถหาทางออกได้ในที่สุด สำนักข่าวซินหัวรายงาน
อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย จงดี อำมฤคขจร/พันธุ์ทิพย์
ขอบคุณ… http://www.ryt9.com/s/iq37/1747837
ryt9ออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 2 ต.ค.56
แสดงความคิดเห็น
รายละเอียดกระทู้
รัฐบาลกลางสหรัฐจำต้องปิดหน่วยงานราชการบางส่วนเป็นครั้งแรกในรอบ 17 ปี เนื่องจากสภาคองเกรสไม่สามารถประนีประนอมข้อตกลงเกี่ยวกับร่างงบประมาณชั่ว คราว เพื่อทำให้หน่วยงานภาครัฐเปิดทำการหลังเที่ยงคืนของวันจันทร์ที่ 30 ก.ย.ตามเวลาสหรัฐ เมื่อปีงบประมาณ 2557 ของสหรัฐได้เริ่มต้นขึ้นในวันอังคารที่ 1 ต.ค. ภายใต้รัฐธรรมนูญของสหรัฐระบุไว้ว่า สภาคองเกรสต้องผ่านร่างกฎหมายงบประมาณสำหรับการใช้จ่ายของรัฐบาล หากคองเกรสไม่สามารถตกลงกันได้แล้ว หรือมีการใช้สิทธิวีโต้จากประธานาธิบดี รัฐบาลก็จะไม่มีอำนาจทางกฎหมายในการใช้จ่ายเงินงบประมาณ ทั้งนี้ สภาคองเกรสเคยดำเนินตามกระบวนการผ่านร่างงบประมาณเป็นอันดับแรก และต่อด้วยร่างงบประมาณพิเศษที่แยกต่างหากอีก 12 ฉบับ แต่กระบวนการดังกล่าวได้หยุดชะงักไปในช่วงหลายปีที่ผ่านมา อันเนื่องมาจากกุศโลบายทางการเมืองที่มีมากขึ้น และสภาคองเครสหันไปใช้ร่างงบประมาณชั่วคราวแทน ซึ่งทำให้รัฐบาลกลางยังสามารถใช้จ่ายที่ระดับเดิมตลอดทั้งปีหรือในช่วงระยะ หนึ่งในปีงบประมาณ การปิดหน่วยงานรัฐบาลไม่ได้หมายความว่าหน่วยงานรัฐบาลทั้งหมดจะยุติการ ดำเนินงาน โดยการใช้จ่ายสำหรับหน่วยงานที่มีหน้าที่จำเป็น ซึ่งเกี่ยวข้องกับความมั่นคงของชาติและความปลอดภัยของประชาชน จะยังคงดำเนินต่อไป อาทิ การจัดสรรเงินสำหรับกองกำลังทหาร ส่วนเจ้าหน้าที่ภาครัฐที่อยู่ในหน่วยงานด้านบริการที่ไม่จำเป็นจะถูกพักงาน และเพื่อลดผลกระทบที่ฉับพลันและรุนแรงจากการปิดหน่วยงานรัฐบาลในวงกว้าง โดยไม่มีหลักประกันในการรับเงินค่าจ้างย้อนหลังสำหรับวันที่ถูกพักงาน หลังวิกฤตการปิดหน่วยงานรัฐบาลสิ้นสุด เจ้าหน้าที่ของรัฐบาลกลางจำนวนมากถึง 1 ล้านคนในหน่วยงานด้านบริการที่ไม่มีความจำเป็น จะถูกพักงาน อันเนื่องมาจากการปิดหน่วยงานรัฐบาลเมื่อวานนี้ ซึ่งรวมถึงเจ้าหน้าที่ในหน่วยงานด้านภาษีอากรของรัฐบาลกลาง กระทรวงยุติธรรม กระทรวงแรงงาน กระทรวงการคลัง และสำนักงานคุ้มครองสิ่งแวดล้อมสหรัฐ ทางด้านศาลฎีกาของสหรัฐอาจจะเปิดทำการตามปกติ ส่วนธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ก็จะยังคงเปิดทำการเช่นกัน เนื่องจากเฟดไม่ได้อาศัยเงินงบประมาณจากสภาคองเกรส แต่ใช้ผลตอบแทนจากหลักทรัพย์ในการดำเนินงาน หน่วยงานรัฐบาลไม่สามารถเพิกเฉยต่อการปิดทำการดังกล่าวได้ เนื่องจากกฎหมายของรัฐบาลกลางระบุว่า การใช้จ่ายเงินภาษีของประชาชนโดยไม่ผ่านการอนุมัติงบประมาณจากสภาคองเกรสจะ ถือเป็นการก่ออาชญากรรมที่รุนแรง ส่วนในตลอดช่วงการปิดทำการนั้น หน่วยงานต่างๆจะได้รับแจ้งข้อมูลความคืบหน้าล่าสุดเกี่ยวกับการคลี่คลาย ปัญหาด้านงบประมาณ สำนักงานบริการวิจัยสภาคองเกรสเปิดเผยว่า มีการปิดหน่วยงานภาครัฐของสหรัฐบางส่วนมาแล้ว 17 ครั้งนับตั้งแต่ปี 2520 โดยมีสาเหตุเดียวกันคือความล้มเหลวในการเจรจาด้านงบประมาณ และการปิดหน่วยงานรัฐบาลทุกครั้งได้ส่งผลให้มีการพักงานเจ้าหน้าที่รัฐบาล กลางบางส่วน แต่ส่วนใหญ่แล้ว การปิดหน่วยรัฐบาลเป็นการปิดในช่วงเวลาที่ค่อนข้างสั้น ทั้งนี้ การปิดหน่วยงานรัฐบาลที่สำคัญครั้งล่าสุดเกิดขึ้นในช่วงปลายปี 2538 และต้นปี 2539 เนื่องจากรัฐบาลของอดีตประธานาธิบดีบิล คลินตัน และสภาผู้แทนราษฎรไม่สามารถบรรลุข้อตกลงในการจัดสรรงบประมาณแก่รัฐบาลได้ โดยมีการปิดหน่วยงานภาครัฐเป็นเวลา 28 วันก่อนที่จะสามารถหาทางออกได้ในที่สุด สำนักข่าวซินหัวรายงาน อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย จงดี อำมฤคขจร/พันธุ์ทิพย์ ขอบคุณ… http://www.ryt9.com/s/iq37/1747837 ryt9ออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 2 ต.ค.56
จัดฟอร์แม็ตข้อความและมัลติมีเดีย
รายละเอียดการใส่ ลิงค์ รูปภาพ วิดีโอ เพลง (Soundcloud)