"จรัญ"แนะ5ทางออกการเมืองไทย

แสดงความคิดเห็น

จรัญ ภักดีธนากุล

"จรัญ ภักดีธนากุล"แนะ5ทางออกพัฒนาการเมืองไทย จำกัดพื้นที่นักเลือกตั้ง-เพิ่มโอกาสนักประชาธิปไตย สกัดทุนสามานย์ เสริมเขี้ยวเล็บองค์กรอิสระตรวจสอบนักการเมือง

เมื่อเวลา 09.30 น.วันที่ 28 ก.ย.ที่โรงแรมสุโกศล สมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ประเทศไทย จัดงานเสวนาในหัวข้อ “ทางออกประเทศไทย"โดยมีนายอุทัย พิมพ์ใจชน อดีตประธานรัฐสภา นายจรัญ ภักดีธนากุล ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ

นายอุทัย กล่าวว่า ในอดีตที่ผ่านมานักการเมืองหากโกงกินมากไป หรือไม่เป็นไปตามความต้องการ ประชาชนก็ต้องไปพึ่งทหารให้เข้ามายึดอำนาจ และเริ่มกันใหม่ แต่การยึดอำนาจ หรือปฏิวัติทุกครั้งก็เป็นเรื่องเลวร้าย ทหารยึดอำนาจมาก็เล่นพวก ไล่นักการเมืองออกไป แต่ก็วางคนของตัวเองมาทำงาน ไม่ต่างจากนักการเมืองเช่นกัน ดังนั้น ประเทศชาติก็เสียประโยชน์ ไม่ได้ก้าวหน้า ขอร้องหากมีปัญหาอะไรก็ตามในระบอบการเมือง ระบอบประชาธิปไตย การแก้ไขต้องจบที่รัฐสภา และเสียหายหรือเลวร้ายแค่ไหนก็มีกรอบแค่ 4 ปีเท่านั้น อีกทั้งรุนแรงแค่ไหนก็จบในรัฐสภา

นายอุทัย กล่าวอีกว่า ส่วนผู้นำรัฐบาล ต้องมองการเมืองให้ออก มองผ่านตัวส.ส.ตัวแทนของประชาชน เพราะส.ส.คือเงาสะท้อนของประชาชน เช่น หากจังหวัดไหนมีการซื้อเสียง ก็หมายถึงความยากจนของพื้นที่นั้นๆ ผู้นำก็ต้องเข้าไปแก้ไข ปรับปรุงยกระดับคุณภาพชีวิต หรือมีข้าราชการที่โง่เง่า เป็นลูกน้องนักการเมือง ก็หมายถึงต้องแก้ไขด้วยการศึกษาในพื้นที่นั้นๆ คือต้องแก้ให้ถูกจุด แต่ที่ผ่านมานายกรัฐมนตรีปัจจุบันไม่ใส่ใจระบอบรัฐสภา ไม่ค่อยเข้ามาดูแล ก็ถือว่าน่าเสียดายที่เสียโอกาสการแก้ไขปัญหา

“บทสรุปสำหรับปัญหาของประเทศไทย คือต้องถ่ายเลือด ต้องสร้างคนรุ่นใหม่ขึ้นมา ขาดจุดไหนก็เติมจุดนั้น การแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นการสูญเปล่า เปลืองแรง รัฐบาลต้องทุ่มเทสร้างคนรุ่นใหม่ นักการเมืองรุ่นเก่าก็ปล่อยให้ตายไป ปลูกฝังกันตั้งแต่เด็กๆ ให้มองว่าการโกงกินเป็นเรื่องที่ผิด การคอรัปชั่นเช่นกัน หากจะแก้ต้องแก้กฎหมายให้เอาผิดอย่างชัดเจน” นายอุทัย กล่าว

ด้านนายจรัญ กล่าวว่า การปฏิวัติเมื่อการเมืองมาถึงทางตันไม่ใช่ทางออกของประเทศไทยอย่างแน่นอน แต่ต้องมองถึงสาเหตุความขัดแย้ง ที่ผ่านมาในช่วง 4-5 ปี มีการปล่อยให้นักปลุกระดมสามารถแบ่งฝักแบ่งฝ่ายของประชาชนอย่างแพร่หลาย ซึ่งเป็นเรื่องที่ผิด เพราะนักปลุกระดมทั้งหลายก็ทำเพื่อตัวเอง พวกพ้องทั้งนั้น ไม่มีใครมาเห็นถึงประโยชน์ของชาติ สุดท้ายก็เกิดความแตกแยก

นอกจากนี้ ในส่วนของปัญหาด้านการเมือง คือระบบการเลือกตั้งในทุกระดับของไทยเป็นการทุจริตทั้งหมด ไม่โปร่งใส มีการซื้อสิทธิ์ขายเสียงนับร้อยนับพันบาท เมื่อใช้จ่ายเงินไปกับการเลือกตั้ง นักการเมืองหรือนักเลือกตั้งก็ต้องมาหากินจากการเป็นผู้แทน ระบบข้าราชการก็ต้องเป็นลูกไล่ให้นักการเมืองที่คอยบงการอยู่ ไม่ได้ทำงานให้ประชาชนตามหน้าที่

“มีการผสมพันธุ์ระหว่างทุนสามานย์ และการเมือง ทำให้อำนาจอยู่ในกลุ่มนี้เท่านั้น ไม่มีทางไปแก้ได้เลย และที่ผ่านมารัฐบาลมุ่งแต่ชูประเด็นเรื่องจีดีพี การเติบโตทางเศรษฐกิจ แต่ไม่พูดหรือทำในเรื่องของการกระจายรายได้อย่างเหมาะสมทั่วถึง ทำให้เกิดช่องว่างระหว่างชนชั้นในประเทศ รัฐบาลไม่เอาจริงในการแก้ไข แต่ผมเชื่อว่าหากลงมือทำจริงๆ ก็จะเป็นประโยชน์ ลดช่องว่าง”นายจรัญ

นายจรัญ กล่าวอีกว่า การแก้ไขปัญหาทางการเมือง คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จะต้องเป็นแม่งานหลักที่ช่วยเหลือประเทศไทย แต่ต้องทำหน้าที่อย่างเต็มที่ พ้นจากการคุกคามของนักการเมือง และต้องพัฒนาประสิทธิภาพของกกต. ให้เกิดความเป็นกลาง บริสุทธิ์ที่สุด

“ทางออกที่หากทำสำเร็จจะต้องบรรลุผลให้กับชาติแน่นอนคือ 1. กำจัดพื้นที่นักเลือกตั้งให้แคบลง เพิ่มพื้นที่และโอกาสให้กับนักประชาธิปไตย และนักการเมืองในความหมายที่แท้จริงให้มากขึ้น 2.ต่อยอดประชาธิปไตยแบบตัวแทน ให้ประชาชนมีส่วนร่วมมากขึ้น 3.สกัดกั้นธุรกิจการเมืองโดยกลุ่มทุนสามานย์ 4.เสริมเขี้ยวเล็บให้กับองค์กรอิสระตรวจสอบการทำงานของนักการเมือง โดยเฉพาะการทุจริตเชิงนโยบายที่ถือเป็นมะเร็งร้าย และ 5. ยืนหยัดว่าประชาธิปไตยต้องเดินไปข้างหน้าเพื่อประโยชน์ของชาติ ไม่ใช่เพื่อใครหรือกลุ่มคน หรือแม้แต่ประชาชนที่เลือกพวกเขาเข้ามาเท่านั้น”นายจรัญ กล่าว

ขอบคุณ... http://www.posttoday.com/การเมือง/249805/จรัญ-แนะ5ทางออกการเมืองไทย (ขนาดไฟล์: 167)

โพสต์ทูเดย์ออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 28 ก.ย.56

ที่มา: โพสต์ทูเดย์ออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 28 ก.ย.56
วันที่โพสต์: 29/09/2556 เวลา 02:07:54 ดูภาพสไลด์โชว์ "จรัญ"แนะ5ทางออกการเมืองไทย

แสดงความคิดเห็น

รอตรวจสอบ
จัดฟอร์แม็ต ดูการแสดงผล

รอตรวจสอบ

รอตรวจสอบ

รอตรวจสอบ

ยกเลิก

รายละเอียดกระทู้

จรัญ ภักดีธนากุล "จรัญ ภักดีธนากุล"แนะ5ทางออกพัฒนาการเมืองไทย จำกัดพื้นที่นักเลือกตั้ง-เพิ่มโอกาสนักประชาธิปไตย สกัดทุนสามานย์ เสริมเขี้ยวเล็บองค์กรอิสระตรวจสอบนักการเมือง เมื่อเวลา 09.30 น.วันที่ 28 ก.ย.ที่โรงแรมสุโกศล สมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ประเทศไทย จัดงานเสวนาในหัวข้อ “ทางออกประเทศไทย"โดยมีนายอุทัย พิมพ์ใจชน อดีตประธานรัฐสภา นายจรัญ ภักดีธนากุล ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ นายอุทัย กล่าวว่า ในอดีตที่ผ่านมานักการเมืองหากโกงกินมากไป หรือไม่เป็นไปตามความต้องการ ประชาชนก็ต้องไปพึ่งทหารให้เข้ามายึดอำนาจ และเริ่มกันใหม่ แต่การยึดอำนาจ หรือปฏิวัติทุกครั้งก็เป็นเรื่องเลวร้าย ทหารยึดอำนาจมาก็เล่นพวก ไล่นักการเมืองออกไป แต่ก็วางคนของตัวเองมาทำงาน ไม่ต่างจากนักการเมืองเช่นกัน ดังนั้น ประเทศชาติก็เสียประโยชน์ ไม่ได้ก้าวหน้า ขอร้องหากมีปัญหาอะไรก็ตามในระบอบการเมือง ระบอบประชาธิปไตย การแก้ไขต้องจบที่รัฐสภา และเสียหายหรือเลวร้ายแค่ไหนก็มีกรอบแค่ 4 ปีเท่านั้น อีกทั้งรุนแรงแค่ไหนก็จบในรัฐสภา นายอุทัย กล่าวอีกว่า ส่วนผู้นำรัฐบาล ต้องมองการเมืองให้ออก มองผ่านตัวส.ส.ตัวแทนของประชาชน เพราะส.ส.คือเงาสะท้อนของประชาชน เช่น หากจังหวัดไหนมีการซื้อเสียง ก็หมายถึงความยากจนของพื้นที่นั้นๆ ผู้นำก็ต้องเข้าไปแก้ไข ปรับปรุงยกระดับคุณภาพชีวิต หรือมีข้าราชการที่โง่เง่า เป็นลูกน้องนักการเมือง ก็หมายถึงต้องแก้ไขด้วยการศึกษาในพื้นที่นั้นๆ คือต้องแก้ให้ถูกจุด แต่ที่ผ่านมานายกรัฐมนตรีปัจจุบันไม่ใส่ใจระบอบรัฐสภา ไม่ค่อยเข้ามาดูแล ก็ถือว่าน่าเสียดายที่เสียโอกาสการแก้ไขปัญหา “บทสรุปสำหรับปัญหาของประเทศไทย คือต้องถ่ายเลือด ต้องสร้างคนรุ่นใหม่ขึ้นมา ขาดจุดไหนก็เติมจุดนั้น การแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นการสูญเปล่า เปลืองแรง รัฐบาลต้องทุ่มเทสร้างคนรุ่นใหม่ นักการเมืองรุ่นเก่าก็ปล่อยให้ตายไป ปลูกฝังกันตั้งแต่เด็กๆ ให้มองว่าการโกงกินเป็นเรื่องที่ผิด การคอรัปชั่นเช่นกัน หากจะแก้ต้องแก้กฎหมายให้เอาผิดอย่างชัดเจน” นายอุทัย กล่าว ด้านนายจรัญ กล่าวว่า การปฏิวัติเมื่อการเมืองมาถึงทางตันไม่ใช่ทางออกของประเทศไทยอย่างแน่นอน แต่ต้องมองถึงสาเหตุความขัดแย้ง ที่ผ่านมาในช่วง 4-5 ปี มีการปล่อยให้นักปลุกระดมสามารถแบ่งฝักแบ่งฝ่ายของประชาชนอย่างแพร่หลาย ซึ่งเป็นเรื่องที่ผิด เพราะนักปลุกระดมทั้งหลายก็ทำเพื่อตัวเอง พวกพ้องทั้งนั้น ไม่มีใครมาเห็นถึงประโยชน์ของชาติ สุดท้ายก็เกิดความแตกแยก นอกจากนี้ ในส่วนของปัญหาด้านการเมือง คือระบบการเลือกตั้งในทุกระดับของไทยเป็นการทุจริตทั้งหมด ไม่โปร่งใส มีการซื้อสิทธิ์ขายเสียงนับร้อยนับพันบาท เมื่อใช้จ่ายเงินไปกับการเลือกตั้ง นักการเมืองหรือนักเลือกตั้งก็ต้องมาหากินจากการเป็นผู้แทน ระบบข้าราชการก็ต้องเป็นลูกไล่ให้นักการเมืองที่คอยบงการอยู่ ไม่ได้ทำงานให้ประชาชนตามหน้าที่ “มีการผสมพันธุ์ระหว่างทุนสามานย์ และการเมือง ทำให้อำนาจอยู่ในกลุ่มนี้เท่านั้น ไม่มีทางไปแก้ได้เลย และที่ผ่านมารัฐบาลมุ่งแต่ชูประเด็นเรื่องจีดีพี การเติบโตทางเศรษฐกิจ แต่ไม่พูดหรือทำในเรื่องของการกระจายรายได้อย่างเหมาะสมทั่วถึง ทำให้เกิดช่องว่างระหว่างชนชั้นในประเทศ รัฐบาลไม่เอาจริงในการแก้ไข แต่ผมเชื่อว่าหากลงมือทำจริงๆ ก็จะเป็นประโยชน์ ลดช่องว่าง”นายจรัญ นายจรัญ กล่าวอีกว่า การแก้ไขปัญหาทางการเมือง คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จะต้องเป็นแม่งานหลักที่ช่วยเหลือประเทศไทย แต่ต้องทำหน้าที่อย่างเต็มที่ พ้นจากการคุกคามของนักการเมือง และต้องพัฒนาประสิทธิภาพของกกต. ให้เกิดความเป็นกลาง บริสุทธิ์ที่สุด “ทางออกที่หากทำสำเร็จจะต้องบรรลุผลให้กับชาติแน่นอนคือ 1. กำจัดพื้นที่นักเลือกตั้งให้แคบลง เพิ่มพื้นที่และโอกาสให้กับนักประชาธิปไตย และนักการเมืองในความหมายที่แท้จริงให้มากขึ้น 2.ต่อยอดประชาธิปไตยแบบตัวแทน ให้ประชาชนมีส่วนร่วมมากขึ้น 3.สกัดกั้นธุรกิจการเมืองโดยกลุ่มทุนสามานย์ 4.เสริมเขี้ยวเล็บให้กับองค์กรอิสระตรวจสอบการทำงานของนักการเมือง โดยเฉพาะการทุจริตเชิงนโยบายที่ถือเป็นมะเร็งร้าย และ 5. ยืนหยัดว่าประชาธิปไตยต้องเดินไปข้างหน้าเพื่อประโยชน์ของชาติ ไม่ใช่เพื่อใครหรือกลุ่มคน หรือแม้แต่ประชาชนที่เลือกพวกเขาเข้ามาเท่านั้น”นายจรัญ กล่าว ขอบคุณ... http://www.posttoday.com/การเมือง/249805/จรัญ-แนะ5ทางออกการเมืองไทย โพสต์ทูเดย์ออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 28 ก.ย.56

จัดฟอร์แม็ตข้อความและมัลติมีเดีย

  1. เพิ่ม
  2. เพิ่ม ลบ
  3. เพิ่ม ลบ
  4. เพิ่ม ลบ
  5. เพิ่ม ลบ
  6. เพิ่ม ลบ
  7. เพิ่ม ลบ
  8. เพิ่ม ลบ
  9. เพิ่ม ลบ
  10. ลบ
เลือกการตกแต่งที่ต้องการ

ตกลง ยกเลิก

รายละเอียดการใส่ ลิงค์ รูปภาพ วิดีโอ เพลง (Soundcloud)

Waiting...

ห้องการเมือง