ชงยึด"แรงจูงใจการเมือง"นิรโทษทุกคดี

แสดงความคิดเห็น

กลุ่มม็อบเสื้อแดง

"ทนายนปช."ชงยึดเเรงจูงใจทางการ เมืองนิรโทษทุกคดี "เเม่น้องเกด"โวย กมธ.ถก 5 ครั้งไม่คืบ "สามารถ"เผย 3 ต.ค.พิจารณาลงรายมาตรา

เมื่อวันที่ 26 ก.ย.เวลา 13.30 น.ที่รัฐสภา มีการประชุมคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมนักโทษการเมืองฉบับนายวรชัย เหมะ สส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย ที่มีนายสามารถ แก้วมีชัย สส.เชียงราย ในฐานะประธาน กมธ.ทำหน้าที่ประธาน โดย กมธ.ได้เชิญนายคารม พลพรกลาง และนายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ เข้าชี้แจง ทั้งนี้กลุ่มญาติวีรชนเม.ย.-พ.ค.ปี 2553 นำโดยนางพะเยาว์ อัคฮาด มารดา น.ส.กมนเกด อัคฮาด พยาบาลอาสาที่เสียชีวิตในวัดปทุมนารามในเหตุสลายการชุมนุมในปี 2553 พร้อมด้วย นายอดุลย์ เขียวบริบูรณ์ ประธานกลุ่มญาติวีรชนพฤษภาฯ 35 ขอเข้าร่วมรับฟังการประชุมด้วย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าบรรยากาศที่ประชุม ทาง กมธ.พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ได้มีการซักถามและขอเอกสารทางคดีกับนายคารม ซึ่งนายถาวร เสนเนียม สส.สงขลา ปชป.กล่าวว่า ในการทำคดีที่ผ่านมา คดีใดที่ศาลมีคำสั่งไม่ให้มีการประกันตัวชั่วคราว ขอให้นำคำสั่งนี้มาให้ กมธ.ด้วย เพื่อที่จะนำมาเป็นกรอบให้กับการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้ ว่าความผิดใดที่ศาลเห็นว่าไม่ควรได้รับการประกันตัวชั่วคราว แต่ทั้งนี้นายสามารถได้พยายามจะตัดบทการซักถามและ กล่าวว่าการเชิญนายคารมและนายวิญญัติมาเพื่อเป็นการถามความเห็นในการออกร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม แต่จะไม่มีการสอบถาม อย่างไรก็ตามได้มีการทักท้วงจาก กมธ.พรรค ปชป.หลายคนว่าควรเปิดให้มีการสอบถามนายคารม และนายวิญญัติได้ โดยบรรยากาศช่วงนั้นได้มีความตึงเครียด และนายวัชระ เพชรทอง สส.บัญชีรายชื่อ ปชป. กล่าวว่าใครที่อารมณ์ไม่ดีให้ออกจากห้องประชุมไปก่อน

อย่างไรก็ตาม นายวิญญัติ ได้นำรายชื่อผู้ต้องขัง 27 คนที่ถูกจองจำในเรือนจำหลักสี่มาเสนอต่อที่ประชุม โดยระบุว่าควรนิรโทษผู้ต้องขังเหล่านี้ พร้อมระบุว่า ยอมรับว่าตนเป็นผู้ที่มีส่วนร่วมในการร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฉบับนี้ ทั้งนี้เห็นว่าสภาควรออก พ.ร.บ.ที่นิรโทษครอบคลุมทุกฐานความผิดที่มีมูลเหตุจูงใจทางการเมือง ไม่ว่าจะเป็นคดีระดับเบาอย่างการฝ่าฝืน พรก.ฉุกเฉิน หรือความผิดร้ายแรงอย่างการฝ่าฝืน พ.ร.บ.ความมั่นคง การปล้นอาวุธ หรือ การครอบครองอาวุธ เพราะอยากให้ไตร่ตรองในอดีตที่ผ่านมา การรัฐประหารที่เป็นการยึดอำนาจรัฐทั้งหมดเป็นความผิดร้ายแรงหรือไม่ แต่เหตุใดจึงมีการนิรโทษกรรมความผิดให้บุคคลเหล่านี้ได้ แต่พอจะนิรโทษประชาชนบ้างกลับมีข้อยกเว้น ดังนั้นจึงเห็นควรให้นิรโทษครอบคลุมทั้งความผิดฐานเบาและรุนแรง โดยยึดหลักการว่าความผิดเหล่านั้นต้องมีเหตุมาจากแรงจูงใจทางการเมือง ส่วนผู้ที่ไม่มีแรงจูงใจทางการเมืองต่อให้ความผิดจะแรงหรือเบาเพียงใด ก็ไม่ควรได้รับการนิรโทษกรรม

“ส่วนคดีเผาบ้านเผาเมืองนั้น ผมเป็นทนายในสำนวนว่าความตั้งแต่วันแรกจนถึงวันสุดท้าย มีเยาวชน 2 คน และผู้ใหญ่ 2 คนถูกกล่าวหา แต่ในที่สุดศาลชั่งน้ำหนักฝ่ายโจทก์แล้วไม่มีน้ำหนัก จึงยกฟ้อง ถามหน่อยว่าการที่พวกท่านปรักปรำประชาชนด้วยหลักฐานที่ไม่มีน้ำหนัก ทำให้คนเหล่านี้โดนจำคุกฟรี 3 ปีเต็ม ถามว่าใครจะเป็นผู้รับผิดชอบ ดังนั้น พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฉบับนี้ จึงร่างขึ้นมาเพื่อเยียวยาผู้ที่ได้รับคดีโดยไม่เป็นธรรมเหล่านี้ เพราะจะเป็นการล้างประวัติให้ทั้งหมด” นายวิญญัติกล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังการประชุมนางพะเยาว์ พร้อมทั้งกลุ่มญาติ และนายอดุลย์ พยายามสอบถามความคืบหน้าของการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้ เนื่องจากเห็นว่าเป็นไปด้วยความล่าช้าทั้งที่มีการประชุมแล้วถึง 5 ครั้ง โดยเห็นว่า สส.ฟากรัฐบาลไม่ได้ใส่ใจอย่างเต็มที่ ให้ร่างฉบับนี้เดินหน้าพิจารณาแล้วเสร็จ และเห็นว่า กมธ.ควรนำร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฉบัประชาชนมาพิจารณาควบคู่ด้วย ทั้งนี้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรค ปชป.ในฐานะ กมธ.เดินเข้ามาชี้แจงกับนางพะเยาว์ว่า ด้วยการประชุมสภาที่มีวาระสำคัญหลายเรื่อง จึงทำให้ กมธ.เดินหน้าช้า แต่ไม่สามารถตอบแทน สส.รัฐบาลได้ว่า เหตุใดจึงไม่ตื่นตัวในการผลักดันร่าง พ.ร.บ.เท่าที่ควร ทั้งนี้เห็นด้วยกับแนวคิดร่าง พ.ร.บ.ฉบับประชาชนของกลุ่มญาติวีรชนอยู่แล้วว่าไม่ควรนิรโทษกรรมให้แก่ผู้มี เจตนาประทุษร้าย โดยขณะนี้เห็นว่าร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้ยังติดล็อกอยู่ที่เนื้อหาว่าจะนิรโทษครอบคลุมใครบ้าง จึงทำให้ไม่สามารถเดินหน้าได้

ต่อมานายสามารถ ได้เข้ามาชี้แจงต่อนางพะเยาว์ว่า เหตุที่ไม่สามารถเดินหน้าได้เร็วเพราะต้องรับฟังความเห็นจาก กมธ.ทุกส่วน เพราะหากเร่งรีบจะโดนครหาว่าใช้เสียงข้างมาก ซึ่งจะส่งผลให้เกิดปัญหาตามมาภายหลัง ซึ่งขณะนี้ กมธ.ได้พิจารณาจนได้ความชัดเจนในเบื้องต้นแล้วว่าจะไม่นิรโทษให้แกนนำ ผู้สั่งการ และนักโทษมาตรา 112 แต่ยืนยันว่าจะเร่งดำเนินการให้เร็วที่สุด โดยในวันที่ 3 ต.ค.คาดว่าการประชุม กมธ.จะพิจารณาลงรายละเอียดในรายมาตราได้

ขอบคุณ... http://www.posttoday.com/การเมือง/249430/ชงยึด-แรงจูงใจการเมือง-นิรโทษทุกคดี (ขนาดไฟล์: 167)

โพสต์ทูเดย์ออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 26 ก.ย.56

ที่มา: โพสต์ทูเดย์ออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 26 ก.ย.56
วันที่โพสต์: 27/09/2556 เวลา 03:46:19 ดูภาพสไลด์โชว์ ชงยึด"แรงจูงใจการเมือง"นิรโทษทุกคดี

แสดงความคิดเห็น

รอตรวจสอบ
จัดฟอร์แม็ต ดูการแสดงผล

รอตรวจสอบ

รอตรวจสอบ

รอตรวจสอบ

ยกเลิก

รายละเอียดกระทู้

กลุ่มม็อบเสื้อแดง "ทนายนปช."ชงยึดเเรงจูงใจทางการ เมืองนิรโทษทุกคดี "เเม่น้องเกด"โวย กมธ.ถก 5 ครั้งไม่คืบ "สามารถ"เผย 3 ต.ค.พิจารณาลงรายมาตรา เมื่อวันที่ 26 ก.ย.เวลา 13.30 น.ที่รัฐสภา มีการประชุมคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมนักโทษการเมืองฉบับนายวรชัย เหมะ สส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย ที่มีนายสามารถ แก้วมีชัย สส.เชียงราย ในฐานะประธาน กมธ.ทำหน้าที่ประธาน โดย กมธ.ได้เชิญนายคารม พลพรกลาง และนายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ เข้าชี้แจง ทั้งนี้กลุ่มญาติวีรชนเม.ย.-พ.ค.ปี 2553 นำโดยนางพะเยาว์ อัคฮาด มารดา น.ส.กมนเกด อัคฮาด พยาบาลอาสาที่เสียชีวิตในวัดปทุมนารามในเหตุสลายการชุมนุมในปี 2553 พร้อมด้วย นายอดุลย์ เขียวบริบูรณ์ ประธานกลุ่มญาติวีรชนพฤษภาฯ 35 ขอเข้าร่วมรับฟังการประชุมด้วย ผู้สื่อข่าวรายงานว่าบรรยากาศที่ประชุม ทาง กมธ.พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ได้มีการซักถามและขอเอกสารทางคดีกับนายคารม ซึ่งนายถาวร เสนเนียม สส.สงขลา ปชป.กล่าวว่า ในการทำคดีที่ผ่านมา คดีใดที่ศาลมีคำสั่งไม่ให้มีการประกันตัวชั่วคราว ขอให้นำคำสั่งนี้มาให้ กมธ.ด้วย เพื่อที่จะนำมาเป็นกรอบให้กับการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้ ว่าความผิดใดที่ศาลเห็นว่าไม่ควรได้รับการประกันตัวชั่วคราว แต่ทั้งนี้นายสามารถได้พยายามจะตัดบทการซักถามและ กล่าวว่าการเชิญนายคารมและนายวิญญัติมาเพื่อเป็นการถามความเห็นในการออกร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม แต่จะไม่มีการสอบถาม อย่างไรก็ตามได้มีการทักท้วงจาก กมธ.พรรค ปชป.หลายคนว่าควรเปิดให้มีการสอบถามนายคารม และนายวิญญัติได้ โดยบรรยากาศช่วงนั้นได้มีความตึงเครียด และนายวัชระ เพชรทอง สส.บัญชีรายชื่อ ปชป. กล่าวว่าใครที่อารมณ์ไม่ดีให้ออกจากห้องประชุมไปก่อน อย่างไรก็ตาม นายวิญญัติ ได้นำรายชื่อผู้ต้องขัง 27 คนที่ถูกจองจำในเรือนจำหลักสี่มาเสนอต่อที่ประชุม โดยระบุว่าควรนิรโทษผู้ต้องขังเหล่านี้ พร้อมระบุว่า ยอมรับว่าตนเป็นผู้ที่มีส่วนร่วมในการร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฉบับนี้ ทั้งนี้เห็นว่าสภาควรออก พ.ร.บ.ที่นิรโทษครอบคลุมทุกฐานความผิดที่มีมูลเหตุจูงใจทางการเมือง ไม่ว่าจะเป็นคดีระดับเบาอย่างการฝ่าฝืน พรก.ฉุกเฉิน หรือความผิดร้ายแรงอย่างการฝ่าฝืน พ.ร.บ.ความมั่นคง การปล้นอาวุธ หรือ การครอบครองอาวุธ เพราะอยากให้ไตร่ตรองในอดีตที่ผ่านมา การรัฐประหารที่เป็นการยึดอำนาจรัฐทั้งหมดเป็นความผิดร้ายแรงหรือไม่ แต่เหตุใดจึงมีการนิรโทษกรรมความผิดให้บุคคลเหล่านี้ได้ แต่พอจะนิรโทษประชาชนบ้างกลับมีข้อยกเว้น ดังนั้นจึงเห็นควรให้นิรโทษครอบคลุมทั้งความผิดฐานเบาและรุนแรง โดยยึดหลักการว่าความผิดเหล่านั้นต้องมีเหตุมาจากแรงจูงใจทางการเมือง ส่วนผู้ที่ไม่มีแรงจูงใจทางการเมืองต่อให้ความผิดจะแรงหรือเบาเพียงใด ก็ไม่ควรได้รับการนิรโทษกรรม “ส่วนคดีเผาบ้านเผาเมืองนั้น ผมเป็นทนายในสำนวนว่าความตั้งแต่วันแรกจนถึงวันสุดท้าย มีเยาวชน 2 คน และผู้ใหญ่ 2 คนถูกกล่าวหา แต่ในที่สุดศาลชั่งน้ำหนักฝ่ายโจทก์แล้วไม่มีน้ำหนัก จึงยกฟ้อง ถามหน่อยว่าการที่พวกท่านปรักปรำประชาชนด้วยหลักฐานที่ไม่มีน้ำหนัก ทำให้คนเหล่านี้โดนจำคุกฟรี 3 ปีเต็ม ถามว่าใครจะเป็นผู้รับผิดชอบ ดังนั้น พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฉบับนี้ จึงร่างขึ้นมาเพื่อเยียวยาผู้ที่ได้รับคดีโดยไม่เป็นธรรมเหล่านี้ เพราะจะเป็นการล้างประวัติให้ทั้งหมด” นายวิญญัติกล่าว ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังการประชุมนางพะเยาว์ พร้อมทั้งกลุ่มญาติ และนายอดุลย์ พยายามสอบถามความคืบหน้าของการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้ เนื่องจากเห็นว่าเป็นไปด้วยความล่าช้าทั้งที่มีการประชุมแล้วถึง 5 ครั้ง โดยเห็นว่า สส.ฟากรัฐบาลไม่ได้ใส่ใจอย่างเต็มที่ ให้ร่างฉบับนี้เดินหน้าพิจารณาแล้วเสร็จ และเห็นว่า กมธ.ควรนำร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฉบัประชาชนมาพิจารณาควบคู่ด้วย ทั้งนี้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรค ปชป.ในฐานะ กมธ.เดินเข้ามาชี้แจงกับนางพะเยาว์ว่า ด้วยการประชุมสภาที่มีวาระสำคัญหลายเรื่อง จึงทำให้ กมธ.เดินหน้าช้า แต่ไม่สามารถตอบแทน สส.รัฐบาลได้ว่า เหตุใดจึงไม่ตื่นตัวในการผลักดันร่าง พ.ร.บ.เท่าที่ควร ทั้งนี้เห็นด้วยกับแนวคิดร่าง พ.ร.บ.ฉบับประชาชนของกลุ่มญาติวีรชนอยู่แล้วว่าไม่ควรนิรโทษกรรมให้แก่ผู้มี เจตนาประทุษร้าย โดยขณะนี้เห็นว่าร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้ยังติดล็อกอยู่ที่เนื้อหาว่าจะนิรโทษครอบคลุมใครบ้าง จึงทำให้ไม่สามารถเดินหน้าได้ ต่อมานายสามารถ ได้เข้ามาชี้แจงต่อนางพะเยาว์ว่า เหตุที่ไม่สามารถเดินหน้าได้เร็วเพราะต้องรับฟังความเห็นจาก กมธ.ทุกส่วน เพราะหากเร่งรีบจะโดนครหาว่าใช้เสียงข้างมาก ซึ่งจะส่งผลให้เกิดปัญหาตามมาภายหลัง ซึ่งขณะนี้ กมธ.ได้พิจารณาจนได้ความชัดเจนในเบื้องต้นแล้วว่าจะไม่นิรโทษให้แกนนำ ผู้สั่งการ และนักโทษมาตรา 112 แต่ยืนยันว่าจะเร่งดำเนินการให้เร็วที่สุด โดยในวันที่ 3 ต.ค.คาดว่าการประชุม กมธ.จะพิจารณาลงรายละเอียดในรายมาตราได้ ขอบคุณ... http://www.posttoday.com/การเมือง/249430/ชงยึด-แรงจูงใจการเมือง-นิรโทษทุกคดี โพสต์ทูเดย์ออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 26 ก.ย.56

จัดฟอร์แม็ตข้อความและมัลติมีเดีย

  1. เพิ่ม
  2. เพิ่ม ลบ
  3. เพิ่ม ลบ
  4. เพิ่ม ลบ
  5. เพิ่ม ลบ
  6. เพิ่ม ลบ
  7. เพิ่ม ลบ
  8. เพิ่ม ลบ
  9. เพิ่ม ลบ
  10. ลบ
เลือกการตกแต่งที่ต้องการ

ตกลง ยกเลิก

รายละเอียดการใส่ ลิงค์ รูปภาพ วิดีโอ เพลง (Soundcloud)

Waiting...

ห้องการเมือง