รายละเอียดกระทู้

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ “จุรินทร์”โยนประธานสภาฯชี้ขาดเวลาถกร่างพ.รบ. 2 ล้านล้าน ไม่รู้ประชุมจบวันนี้หรือไม่ ยันฝ่ายค้านไม่ตีรวน เหน็บรัฐบาลจะล้มเพราะทำตัวเอง ไม่ใช่ถูกใครล้ม เมื่อวันที่ 20 ก.ย. ที่รัฐสภา นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน(วิปฝ่ายค้าน) กล่าวถึงการประชุมสภาผู้แทนราษฎรเพื่อพิจารณาร่างพ.ร.บ.ให้อำนาจกระทรวงการ คลังกู้เงินเพื่อการพัฒนาโครงสร้างด้านคมนาคม (พ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านล้านบาท) ว่า การควบคุมการประชุมดังกล่าวอยู่ที่ประธานสภาฯมีอำนาจจะพิจารณาที่จะนัดการ ประชุม หากการประชุมในวันนี้(20 ก.ย.) ไม่เสร็จ แต่การอภิปรายจะไปเร็วถ้าส.ส.ฝ่ายรัฐบาลไม่ประท้วง เพราะ การประชุมสภาฯเมื่อวันที่ 19 ก.ย.ที่ผ่านมา เสียเวลาไปกับการประท้วงโดยไม่จำเป็น โดยที่ฝ่ายค้านอภิปรายตามเนื้อหาและประเด็น อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังไม่ได้หารือกับประธานวิปรัฐบาลว่า จะต้องพิจารณาให้แล้วเสร็จภายในวันนี้หรือไม่ ได้ตกลงกันไปในแต่ละวันว่าจะเริ่มที่เวลา 09.30 น. ไปถึง 21.30 น. ทั้งนี้ยืนยันว่าฝ่ายค้านจะไม่ทำให้บรรยากาศการอภิปรายยืดเยื้อ จะพูดไปตามเนื้อผ้า ส่วนจะจบภายในวันนี้หรือไม่นั้นคงตอบไม่ได้ แต่ถ้าไม่ประท้วงก็ไปได้เร็ว ประธานวิปฝ่ายค้าน กล่าวอีกว่า ในการอภิปรายวันนี้ จะต้องทวงเอกสารรายละเอียดต่างๆในการอภิปรายให้ครบเพราะบางหน่วยงาน เช่น โครงการรถไฟความเร็วสูงนั้นมีเอกสารเพียงแค่ 1 หน้าครึ่ง ทั้งที่โครงการนี้มีมูลค่าใช้จ่าย 8 แสนล้านบาท ซึ่งไม่พอที่เราจะพิจารณา และกรมการขนส่งทางบกมีเพียง 1-2 หน้าเท่านั้นซึ่งต่างจากหน่วยงานอื่นที่มีรายละเอียดอย่างชัดเจน เพราะถือว่าเรื่องของเอกสารเป็นสิ่งสำคัญ และมีส.ส.บางคนของพรรคประชาธิปัตย์ได้ไปตรวจสอบเอกสารที่หลังบัลลังก์ของ ประธานฯ แต่ปรากฏว่าไม่มี เมื่อถามว่าฝ่ายค้านจะปรับลดจำนวนผู้อภิปรายด้วยหรือไม่ นายจุรินทร์ กล่าวว่า ถ้ามีส.ส.แจ้งความจำนงก็เป็นสิทธิ์ แต่ถ้าใครประสงค์ที่จะแปรญัตติก็ต้องให้เขาได้อภิปราย ให้เขาได้ใช้สิทธิ์ตามรัฐธรรมนูญ ต่อข้อถามถึงกรณีที่ฝ่ายค้านจะยื่นร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญให้ตีความร่างพ.ร.บ. ดังกล่าวว่าขัดรัฐธรรมนูญหรือไม่ ประธานวิปฝ่ายค้าน กล่าวว่า เราจะรวบรวมข้อมูลในการอภิปรายว่ารัฐบาลมีคำตอบอย่างไร กนระบวนการพิจารณาต่างๆเป็นอย่างไร เพราะการยื่นศาลรัฐธรรมนูญประกอบด้วย 2 ส่วน คือ เนื้อหาของกฎหมายว่าขัดรัฐธรรมนูญหรือไม่ และกระบวนการพิจารณากฎหมายในสภาฯว่าขัดรัฐธรรมนูญด้วยหรือไม่ ถ้าจะยื่นก็ต้องดำเนินการหลังจากผ่านความเห็นชอบจากรัฐสภาก่อนที่จะนำขึ้น ทูลเกล้าฯ เมื่อถามว่ามองอย่างไรต่อกรณีที่ทีกระแสข่าวว่าพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ระบุว่าการพิจารณาร่างพ.ร.บ.ดังกล่าวจะนำไปสู่การล้มรัฐบาลในวันที่ 8 ต.ค.นี้ นายจุรินทร์ กล่าวว่า เรื่องนี้เหมือนการนั่งเทียนใส่ความในสภาฯ เพราะในข้อเท็จจริงรัฐบาลจะอยู่ได้หรือไม่ได้นั้นขึ้นอยู่กับพฤติกรรมการ บริหารราชการแผ่นดิน 3 ข้อ คือ 1.ถ้ารัฐบาลไม่โกง 2. ไม่สร้างความแตกแยกให้กับบ้านเมืองด้วยวิธีเลือกปฏิบัติ 3.ถ้ารัฐบาลไม่ทำผิดกฎหมาย ซึ่งถ้าไม่ทำทั้ง 3 ข้อนี้ คิดว่าไม่มีใครล้มรัฐบาลได้ แต่รัฐบาลนี้ทำทั้ง 3 ข้อ ดังนั้นจุดนี้จะทำให้รัฐบาลมีปัญหาด้วยตัวเอง แต่การมาอาละวาดใส่อีกฝ่ายนั้นไม่ถูกต้อง ส่วนที่บอกว่าคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.)จะชี้ มูลเรื่องโครงการรับจำนำข้าวในวันที่ 8 หรือ 9 ต.ค.นั้น ตนก็ยังสงสัยว่าทราบได้อย่างไร หรือเข้าไปแทรกแซงการทำงานของป.ป.ช.ถึงได้ทราบว่าจะตัดสินในวันดังกล่าว ซึ่งตนคิดว่าสังคมน่าจะติดตามในเรื่องนี้อย่างรู้เท่าทัน เมื่อถามว่ามีการตั้งข้อสังเกตว่าข่าวที่ออกมานั้นมาจากคนในพรรคประชาธิปัต ย์ ได้มีการตรวจสอบหรือไม่ นายจุรินทร์ กล่าวว่า ไม่ทราบ จะอ้างอย่างไรก็อ้างได้ แต่ยังไม่เคยได้ยินเรื่องนี้ “ผมยังไม่เคยได้ยินเรื่องนี้ทั้งที่ตัวเองเป็นกลไกหนึ่งของฝ่ายค้านในการทำ หน้าที่ในสภาฯ ส่วนที่บอกว่าจะไปตั้งใจล้มรัฐบาลในวันที่ 8 ต.ค.เพราะไปดูดวงมาแล้วว่าเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ ผมคิดว่ามันไม่มีมูล ขอย้ำว่ารัฐบาลจะอยู่ได้หรือไม่ได้ขึ้นอยู่กับพฤติกรรมของรัฐบาล แต่ทุกวันนี้ที้มีการยื่นศาลรัฐธรรมนูญ องค์กรอิสระให้พิจารณาวินิจฉัยเพราะรัฐบาลทำผิดกฎหมายทั้งที่เป็นผู้รักษา กฎหมาย แต่เมื่อเริ่มต้นทำผิดกฎหมายเอง ถามว่าบ้านเมืองจะอยู่ได้อย่างไร เพราะสุดท้ายผลจะวกกลับมาที่รัฐบาลเองที่ทำให้ตัวเองอยู่ไม่ได้ และเมื่อกลไกเขาตัดสินว่าทำผิดกฎหมายและรัฐบาลจะต้องพ้นไป ก็ต้องยอมรับการกระทำของตัวเอง ไม่ใช่จู่ๆใครจะมาตั้งวงล้มรัฐบาลได้”นายจุรินทร์ กล่าว. ขอบคุณ... http://www.dailynews.co.th/politics/234442 เดลินิวส์ออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 20 ก.ย.56