หลักคิด หลักการ เข้าใจ เข้าถึง การเมือง อย่าง "บูรณาการ"
การทำความเข้าใจต่อ "สถานการณ์" ทางการเมือง ณ วันนี้ จะแยกห่างออกจากการมองอย่าง "บูรณาการ" ไม่ได้
จะเข้าใจสถานการณ์ใน "ภาคใต้" ได้ต้องเริ่มจาก "สภา"
หาก คิดว่าความเป็นไปในภาคใต้ไม่ว่าจะเป็นที่แยกควนหนองหงษ์ ไม่ว่าจะเป็นที่บริเวณหน้าโคออป ไม่ว่าจะเป็นการเข้ายึดศาลากลางที่ชุมพร หรือการไปปรากฏตัวของร้อยเอกนอกราชการบางคนที่บางสะพาน
เป็นไปโดย "ธรรมชาติ"
ก็ ย่อมไม่เกิดความสงสัยในบทบาทของบางคนในสภา ไม่ว่าจะเป็นการเล่นเอาเถิดกับคำสั่งและอำนาจของประธาน ไม่ว่าจะเป็นการปะทุอารมณ์ถึงขั้นยกเก้าอี้ขึ้นทุ่ม
เหล่านี้เป็นไปเองโดย "ธรรมชาติ" หรือ
ทุกอย่างล้วนกำหนดเอาไว้แล้วตั้งแต่ปฏิบัติการเดินเท้าจากแยกอุรุพงษ์ไปร่วมประชุมสภาเมื่อเช้าวันที่ 7 สิงหาคม
แล้วตามมาด้วยยุทธการ "ป่วน" ในวันที่ 20 สิงหาคม
จากนั้นในวันที่ 23 สิงหาคม ก็มีการปิดถนนและยกระดับไปอีกขั้นด้วยการปิดทางรถไฟในพื้นที่ อ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช
ต้องมองอย่าง "บูรณาการ"
แท้จริงแล้ว คำว่า "บูรณาการ" คืออีกรูปเงา 1 ของกระบวนการแห่งปฏิจจสมุปบาท ของกระบวนการแห่งอิทัปปัจจยตา
อัน พระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ.ปยุตโต) ถอดความออกมาว่า
เมื่อสิ่งนี้มี, สิ่งนี้จึงมี
เพราะสิ่งนี้เกิดขึ้น, สิ่งนี้จึงเกิดขึ้น
ที่มี ส.ส.บางคนจากบางพรรคการเมืองอธิบายการเกิดขึ้นของปฏิบัติการเดินเท้าเมื่อเช้าวันที่ 7 สิงหาคม
เป็นเหมือน "น้ำจิ้ม"
มีความจำเป็นต้องสะสม "น้ำจิ้ม" หลาย "น้ำจิ้ม" ของปฏิบัติการทางการเมืองจึงจะเหยียบบาทก้าวเข้าไปสู่ "จานหลัก" อย่างแท้จริง
ดังนั้น ที่ ดร.ชาญวิทย์ เกษตรศิริ ทำจดหมายเปิดผนึกนั้นถูกต้องอย่างยิ่ง
ถูกต้องด้วยสายตายาวไกลในฐานะนักประวัติศาสตร์ โดยเฉพาะประวัติศาสตร์การเมืองยุคใกล้ของไทย ด้วยการหยิบบทเรียน ความจัดเจนอันสะสมจากความเป็นจริงของ ดร.ปรีดี พนมยงค์ รัฐบุรุษอาวุโส
อนาธิปัตย์ อนาธิปไตย
ภาพที่เห็นในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ภาพที่เป็นในที่ประชุมรัฐสภา นับว่าเด่นชัดและเป็นรูปธรรมยิ่งของภาวะไร้ระเบียบ
อันหนังสือพจนานุกรม ฉบับมติชน นิยามไว้อย่างรวบรัด
อนาธิปไตย ภาวะที่บ้านเมืองสับสนวุ่นวายขณะที่ไม่มีรัฐบาลปกครอง ไม่มีกฎหมาย โดยเปรีบบเทียบใช้เรียกภาวการณ์ที่ไม่มีใครใส่ใจกับกฎระเบียบหรือกฎหมาย
เห็นได้จากการแข็งขืนต่อคำวินิจฉัยของ "ประธาน"
เห็นได้จากการแสดงออกเสมือนกับมิอาจควบคุมอารมณ์ของตนได้ โดยการยกเก้าอี้ทุ่มกลางสภา
ทั้งๆ ที่ปากอ้างกฎ แต่การกระทำละเมิดกฎ
ยิ่งออกจากรัฐบาลไปยังการชุมนุมหลายแห่งในหลายพื้นที่ ก็จะสัมผัสได้คือแนวคิดที่จะปิดถนน ปิดทางรถไฟ
ยึดที่ว่าการอำเภอ ยึดศาลากลาง
สะท้อน ความพยายามอย่างเต็มกำลังที่จะเร่งสถานการณ์ให้เห็นถึงความอ่อนแอ ไม่สามารถปกครองได้ของรัฐบาล เติมเชื้อฟืนอันนำไปสู่การเผด็จศึกตามคำทำนายของโหรน้อยใหญ่อันแวดล้อมอยู่ โดยรอบ
ก่อน 8 ตุลาคม
มีความจำเป็นต้องยึดหลัก "บูรณาการ" มีความจำเป็นต้องยึดหลัก "อิทัปปัจจยตา" มาเป็นเครื่องมือ
เครื่อง มือในการทำความเข้าใจนักการเมือง เครื่องมือในการทำความเข้าใจพรรคการเมืองเครื่องมือในการทำความเข้าใจในแต่ ละ "สถานการณ์" ว่าเป็นธรรมชาติหรือเนรมิตเสกขึ้น
สนอง "ตัณหา" การเมือง
ประชาชาติธุรกิจออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 7 ก.ย.56
แสดงความคิดเห็น
รายละเอียดกระทู้
หลักคิด หลักการ เข้าใจ เข้าถึง การเมือง อย่าง \"บูรณาการ\"การทำความเข้าใจต่อ "สถานการณ์" ทางการเมือง ณ วันนี้ จะแยกห่างออกจากการมองอย่าง "บูรณาการ" ไม่ได้ จะเข้าใจสถานการณ์ใน "ภาคใต้" ได้ต้องเริ่มจาก "สภา" หาก คิดว่าความเป็นไปในภาคใต้ไม่ว่าจะเป็นที่แยกควนหนองหงษ์ ไม่ว่าจะเป็นที่บริเวณหน้าโคออป ไม่ว่าจะเป็นการเข้ายึดศาลากลางที่ชุมพร หรือการไปปรากฏตัวของร้อยเอกนอกราชการบางคนที่บางสะพาน เป็นไปโดย "ธรรมชาติ" ก็ ย่อมไม่เกิดความสงสัยในบทบาทของบางคนในสภา ไม่ว่าจะเป็นการเล่นเอาเถิดกับคำสั่งและอำนาจของประธาน ไม่ว่าจะเป็นการปะทุอารมณ์ถึงขั้นยกเก้าอี้ขึ้นทุ่ม เหล่านี้เป็นไปเองโดย "ธรรมชาติ" หรือ ทุกอย่างล้วนกำหนดเอาไว้แล้วตั้งแต่ปฏิบัติการเดินเท้าจากแยกอุรุพงษ์ไปร่วมประชุมสภาเมื่อเช้าวันที่ 7 สิงหาคม แล้วตามมาด้วยยุทธการ "ป่วน" ในวันที่ 20 สิงหาคม จากนั้นในวันที่ 23 สิงหาคม ก็มีการปิดถนนและยกระดับไปอีกขั้นด้วยการปิดทางรถไฟในพื้นที่ อ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช ต้องมองอย่าง "บูรณาการ" แท้จริงแล้ว คำว่า "บูรณาการ" คืออีกรูปเงา 1 ของกระบวนการแห่งปฏิจจสมุปบาท ของกระบวนการแห่งอิทัปปัจจยตา อัน พระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ.ปยุตโต) ถอดความออกมาว่า เมื่อสิ่งนี้มี, สิ่งนี้จึงมี เพราะสิ่งนี้เกิดขึ้น, สิ่งนี้จึงเกิดขึ้น ที่มี ส.ส.บางคนจากบางพรรคการเมืองอธิบายการเกิดขึ้นของปฏิบัติการเดินเท้าเมื่อเช้าวันที่ 7 สิงหาคม เป็นเหมือน "น้ำจิ้ม" มีความจำเป็นต้องสะสม "น้ำจิ้ม" หลาย "น้ำจิ้ม" ของปฏิบัติการทางการเมืองจึงจะเหยียบบาทก้าวเข้าไปสู่ "จานหลัก" อย่างแท้จริง ดังนั้น ที่ ดร.ชาญวิทย์ เกษตรศิริ ทำจดหมายเปิดผนึกนั้นถูกต้องอย่างยิ่ง ถูกต้องด้วยสายตายาวไกลในฐานะนักประวัติศาสตร์ โดยเฉพาะประวัติศาสตร์การเมืองยุคใกล้ของไทย ด้วยการหยิบบทเรียน ความจัดเจนอันสะสมจากความเป็นจริงของ ดร.ปรีดี พนมยงค์ รัฐบุรุษอาวุโส อนาธิปัตย์ อนาธิปไตย ภาพที่เห็นในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ภาพที่เป็นในที่ประชุมรัฐสภา นับว่าเด่นชัดและเป็นรูปธรรมยิ่งของภาวะไร้ระเบียบ อันหนังสือพจนานุกรม ฉบับมติชน นิยามไว้อย่างรวบรัด อนาธิปไตย ภาวะที่บ้านเมืองสับสนวุ่นวายขณะที่ไม่มีรัฐบาลปกครอง ไม่มีกฎหมาย โดยเปรีบบเทียบใช้เรียกภาวการณ์ที่ไม่มีใครใส่ใจกับกฎระเบียบหรือกฎหมาย เห็นได้จากการแข็งขืนต่อคำวินิจฉัยของ "ประธาน" เห็นได้จากการแสดงออกเสมือนกับมิอาจควบคุมอารมณ์ของตนได้ โดยการยกเก้าอี้ทุ่มกลางสภา ทั้งๆ ที่ปากอ้างกฎ แต่การกระทำละเมิดกฎ ยิ่งออกจากรัฐบาลไปยังการชุมนุมหลายแห่งในหลายพื้นที่ ก็จะสัมผัสได้คือแนวคิดที่จะปิดถนน ปิดทางรถไฟ ยึดที่ว่าการอำเภอ ยึดศาลากลาง สะท้อน ความพยายามอย่างเต็มกำลังที่จะเร่งสถานการณ์ให้เห็นถึงความอ่อนแอ ไม่สามารถปกครองได้ของรัฐบาล เติมเชื้อฟืนอันนำไปสู่การเผด็จศึกตามคำทำนายของโหรน้อยใหญ่อันแวดล้อมอยู่ โดยรอบ ก่อน 8 ตุลาคม มีความจำเป็นต้องยึดหลัก "บูรณาการ" มีความจำเป็นต้องยึดหลัก "อิทัปปัจจยตา" มาเป็นเครื่องมือ เครื่อง มือในการทำความเข้าใจนักการเมือง เครื่องมือในการทำความเข้าใจพรรคการเมืองเครื่องมือในการทำความเข้าใจในแต่ ละ "สถานการณ์" ว่าเป็นธรรมชาติหรือเนรมิตเสกขึ้น สนอง "ตัณหา" การเมือง ขอบคุณ … http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1378541103&grpid=&catid=01&subcatid=0100 ประชาชาติธุรกิจออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 7 ก.ย.56
จัดฟอร์แม็ตข้อความและมัลติมีเดีย
รายละเอียดการใส่ ลิงค์ รูปภาพ วิดีโอ เพลง (Soundcloud)