การเมือง ‘บนถนน’ กำลังกลับมา

แสดงความคิดเห็น

เกิดความเคลื่อนไหวคึกคักขึ้นผิดหูผิดตาทันทีที่มีความชัดเจนว่า พรรคเพื่อไทย จะ “ลุยไฟ” พิจารณาร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฉบับของ วรชัย เหมะ ส.ส.สมุทรปราการ ทันทีที่มีการประชุมสภาซึ่งจะมีการประชุมตามวาระในวันที่ 7 ส.ค. ที่จะถึงนี้

แกนนำ นปช. ยืนยันและส่งสัญญาณออกมาแล้วว่า คนเสื้อแดงจะอยู่ในที่ตั้ง หากมีคนใส่เสื้อแดงออกมาชุมนุมให้ถือว่ามวลชนเหล่านั้นเป็น “แดงเทียม”

ขณะที่ฝ่ายที่ไม่เห็นด้วยกับรัฐบาลที่ใช้ชื่อว่า “กองทัพประชาชนโค่นระบอบทักษิณ” ที่มีกลุ่มเสนาธิการร่วม อาทิ พล.ร.อ.ชัย สุวรรณภาพ ประธานองค์การพิทักษ์สยาม(อพส.) พล.อ.ปรีชา เอี่ยมสุวรรณ อดีตแกนนำเครือข่ายคนไทยรักชาติ รักษาแผ่นดิน นายไทกร พลสุวรรณ ได้ประชุมเพื่อประเมินสถานการณ์

นายไทกร ซึ่งเป็นผู้ที่ จตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำ นปช. รู้จักดี ระบุว่า ที่ประชุมวิเคราะห์สถานการณ์โดยนำประสบการณ์ การชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) และกลุ่ม อพส. ที่ผ่านมา มาเป็นบทเรียน เพื่อวางมาตรการตอบโต้อย่างสันติ ตามสิทธิแห่งรัฐธรรมนูญ

ทั้งนี้ที่ประชุมมีมติร่วมกันคือ ให้กองทัพประชาชนฯในแต่ละจังหวัด จัดตั้งมวลชน เข้าร่วมชุมนุมที่กรุงเทพฯในวันที่ 4 ส.ค. และ การชุมนุมครั้งนี้เป็นการโค่นล้มระบอบทักษิณ จึงให้แต่ละจังหวัดเตรียมความพร้อม ในการระดมมวลชนเข้าร่วมเป็นระยะ

สงสัยกันหรือไม่ว่า ทำไมกฎหมายนิรโทษกรรมซึ่งมีจุดมุ่งหมายเพื่อคลี่คลายสถานการณ์ทางการเมือง และเป็นกระบวนการหนึ่งในการสร้างความปรองดอง ถึงจุดชนวนความขัดแย้ง ได้ถึงเพียงนี้

ทั้งนี้ทั้งนั้น เพราะต่างฝ่ายต่างไม่ไว้ใจและไม่เชื่อว่า “เสียงข้างมาก” ต้องการจะนิรโทษกรรมให้กับประชาชนผู้มาชุมนุมโดยบริสุทธิ์ตามกระบวนการประชาธิปไตยจริง ๆ

แต่หวังจะทำเพื่อให้ตัวเองพ้นจาก “ข้อกล่าวหา”

ว่ากันว่า งานนี้รัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี มอบหมายให้ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น. ผู้ประกาศตัวเองว่า “มีวันนี้เพราะพี่ให้” เป็นผู้ควบคุมดูแลความสงบเรียบร้อย

จริงหรือไม่ไม่รู้ แต่มีผู้รู้บอกว่า หลังเกษียณทางชีวิตราชการตำรวจ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ จะเริ่มต้นชีวิตทางการเมืองที่ จ.ปทุมธานี

สถานการณ์ “ส่อเค้า” ว่าจะเกิดการเผชิญหน้า ส่วนจะเลยไปจนถึงเกิดความรุนแรง จนกลายเป็นสงครามประชาชนหรือไม่นั้น สุดจะประเมินได้

แต่การที่รัฐบาล “ดีดลูกคิดรางแก้ว” แล้วเชื่อมั่นว่า งานนี้ “เอาอยู่” น่าจะเป็นการ “ย่ามใจ” เกินไป

“ความนิยม” ของรัฐบาลวันนั้น กับความนิยมในวันนี้ “แตกต่างกัน”

“เป้าหมาย” ที่ตั้งไว้ว่า จะมากันอย่างน้อย 30,000 คน แม้จะไม่ใช่จำนวนที่นำมาซึ่งความเปลี่ยนแปลงชนิด “คว่ำกระดาน”

แต่อย่างน้อยก็ทำให้สถานการณ์การเมือง “ก้าวไปอีกขั้น”

จากที่อยู่ในที่ตั้งจากที่ใส่หน้ากากถูกยกระดับมา “ลงถนน” การเมืองกันแล้ว.

ขอบคุณ http://www.dailynews.co.th/article/4/221696 (ขนาดไฟล์: 167)

เดลินิวส์ออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 26 ก.ค.56

ที่มา: เดลินิวส์ออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 26 ก.ค.56
วันที่โพสต์: 27/07/2556 เวลา 03:12:48

แสดงความคิดเห็น

รอตรวจสอบ
จัดฟอร์แม็ต ดูการแสดงผล

รอตรวจสอบ

รอตรวจสอบ

รอตรวจสอบ

ยกเลิก

รายละเอียดกระทู้

เกิดความเคลื่อนไหวคึกคักขึ้นผิดหูผิดตาทันทีที่มีความชัดเจนว่า พรรคเพื่อไทย จะ “ลุยไฟ” พิจารณาร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฉบับของ วรชัย เหมะ ส.ส.สมุทรปราการ ทันทีที่มีการประชุมสภาซึ่งจะมีการประชุมตามวาระในวันที่ 7 ส.ค. ที่จะถึงนี้ แกนนำ นปช. ยืนยันและส่งสัญญาณออกมาแล้วว่า คนเสื้อแดงจะอยู่ในที่ตั้ง หากมีคนใส่เสื้อแดงออกมาชุมนุมให้ถือว่ามวลชนเหล่านั้นเป็น “แดงเทียม” ขณะที่ฝ่ายที่ไม่เห็นด้วยกับรัฐบาลที่ใช้ชื่อว่า “กองทัพประชาชนโค่นระบอบทักษิณ” ที่มีกลุ่มเสนาธิการร่วม อาทิ พล.ร.อ.ชัย สุวรรณภาพ ประธานองค์การพิทักษ์สยาม(อพส.) พล.อ.ปรีชา เอี่ยมสุวรรณ อดีตแกนนำเครือข่ายคนไทยรักชาติ รักษาแผ่นดิน นายไทกร พลสุวรรณ ได้ประชุมเพื่อประเมินสถานการณ์ นายไทกร ซึ่งเป็นผู้ที่ จตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำ นปช. รู้จักดี ระบุว่า ที่ประชุมวิเคราะห์สถานการณ์โดยนำประสบการณ์ การชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) และกลุ่ม อพส. ที่ผ่านมา มาเป็นบทเรียน เพื่อวางมาตรการตอบโต้อย่างสันติ ตามสิทธิแห่งรัฐธรรมนูญ ทั้งนี้ที่ประชุมมีมติร่วมกันคือ ให้กองทัพประชาชนฯในแต่ละจังหวัด จัดตั้งมวลชน เข้าร่วมชุมนุมที่กรุงเทพฯในวันที่ 4 ส.ค. และ การชุมนุมครั้งนี้เป็นการโค่นล้มระบอบทักษิณ จึงให้แต่ละจังหวัดเตรียมความพร้อม ในการระดมมวลชนเข้าร่วมเป็นระยะ สงสัยกันหรือไม่ว่า ทำไมกฎหมายนิรโทษกรรมซึ่งมีจุดมุ่งหมายเพื่อคลี่คลายสถานการณ์ทางการเมือง และเป็นกระบวนการหนึ่งในการสร้างความปรองดอง ถึงจุดชนวนความขัดแย้ง ได้ถึงเพียงนี้ ทั้งนี้ทั้งนั้น เพราะต่างฝ่ายต่างไม่ไว้ใจและไม่เชื่อว่า “เสียงข้างมาก” ต้องการจะนิรโทษกรรมให้กับประชาชนผู้มาชุมนุมโดยบริสุทธิ์ตามกระบวนการประชาธิปไตยจริง ๆ แต่หวังจะทำเพื่อให้ตัวเองพ้นจาก “ข้อกล่าวหา” ว่ากันว่า งานนี้รัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี มอบหมายให้ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น. ผู้ประกาศตัวเองว่า “มีวันนี้เพราะพี่ให้” เป็นผู้ควบคุมดูแลความสงบเรียบร้อย จริงหรือไม่ไม่รู้ แต่มีผู้รู้บอกว่า หลังเกษียณทางชีวิตราชการตำรวจ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ จะเริ่มต้นชีวิตทางการเมืองที่ จ.ปทุมธานี สถานการณ์ “ส่อเค้า” ว่าจะเกิดการเผชิญหน้า ส่วนจะเลยไปจนถึงเกิดความรุนแรง จนกลายเป็นสงครามประชาชนหรือไม่นั้น สุดจะประเมินได้ แต่การที่รัฐบาล “ดีดลูกคิดรางแก้ว” แล้วเชื่อมั่นว่า งานนี้ “เอาอยู่” น่าจะเป็นการ “ย่ามใจ” เกินไป “ความนิยม” ของรัฐบาลวันนั้น กับความนิยมในวันนี้ “แตกต่างกัน” “เป้าหมาย” ที่ตั้งไว้ว่า จะมากันอย่างน้อย 30,000 คน แม้จะไม่ใช่จำนวนที่นำมาซึ่งความเปลี่ยนแปลงชนิด “คว่ำกระดาน” แต่อย่างน้อยก็ทำให้สถานการณ์การเมือง “ก้าวไปอีกขั้น” จากที่อยู่ในที่ตั้งจากที่ใส่หน้ากากถูกยกระดับมา “ลงถนน” การเมืองกันแล้ว. ขอบคุณ http://www.dailynews.co.th/article/4/221696 เดลินิวส์ออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 26 ก.ค.56

จัดฟอร์แม็ตข้อความและมัลติมีเดีย

  1. เพิ่ม
  2. เพิ่ม ลบ
  3. เพิ่ม ลบ
  4. เพิ่ม ลบ
  5. เพิ่ม ลบ
  6. เพิ่ม ลบ
  7. เพิ่ม ลบ
  8. เพิ่ม ลบ
  9. เพิ่ม ลบ
  10. ลบ
เลือกการตกแต่งที่ต้องการ

ตกลง ยกเลิก

รายละเอียดการใส่ ลิงค์ รูปภาพ วิดีโอ เพลง (Soundcloud)

Waiting...

ห้องการเมือง