ปชช.ห่วง'กลุ่มหน้ากาก'ยั่วทหารรัฐประหาร
ปชช.ไม่เห็นด้วย'กลุ่มคนสวมหน้ากาก'ยั่วทหารรัฐประหาร หวั่นนำสู่ความรุนแรง ด้าน'หน้ากากขาว'นัดชุมนุม 16 มิ.ย.นี้ หน้า'สตช.'หลังโดน'เสื้อเเดง'ไล่อัดที่ จ.เชียงใหม่
15 มิ.ย.56 นายเทวินทร์ อินทรจำนงค์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการสำนักวิจัยเอแบคโพลล์ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ เปิดเผยผลวิจัยเชิงสำรวจ เรื่อง “การเคลื่อนไหวทางการเมืองของกลุ่มคนสวมหน้ากากการเมืองและเชื้อปะทุความคิด แรงหนุนการทำรัฐประหาร : กรณีศึกษาตัวอย่างประชาชนอายุ 18 ปีขึ้นไป ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร และปริมณฑล” จำนวนทั้งสิ้น 1,384 ตัวอย่าง ดำเนินโครงการระหว่างวันที่ 12 - 14 มิถุนายน 2556 ที่ผ่านมา โดยใช้การเลือกตัวอย่างแบบแบ่งกลุ่มเชิงชั้นภูมิหลายชั้น ที่สุ่มเลือกอำเภอ ตำบล ชุมชน ครัวเรือน และประชาชนที่ตอบแบบสอบถามระดับครัวเรือน ช่วงความคลาดเคลื่อนบวกลบร้อยละ 7 พบว่า ตัวอย่างร้อยละ 57.5 ติดตามข่าวความเคลื่อนไหวทางการเมืองของกลุ่มคนสวมหน้ากากการเมือง (หน้ากากขาว-หน้ากากแดง)
ที่น่าพิจารณาคือ ร้อยละ 50.3 ระบุการเคลื่อนไหวทางการเมืองของกลุ่มคนสวมหน้ากากการเมือง หน้ากากขาว หน้ากากแดง มีโอกาสนำไปสู่ความรุนแรงได้มากถึงมากที่สุด ในขณะที่ร้อยละ 28.9 ระบุปานกลาง และร้อยละ 20.8 ระบุน้อยถึงน้อยที่สุด
อย่างไรก็ตาม ร้อยละ 54.9 ระบุไม่เหมาะสมที่กลุ่มเคลื่อนไหวทางการเมืองจะเรียกร้องให้ทหารออกมาทำการ รัฐประหาร ในขณะที่ร้อยละ 11.6 ระบุเหมาะสม แต่ร้อยละ 33.5 ระบุไม่แน่ใจ เพราะรอดูท่าที รอดูสถานการณ์ และไม่ได้ติดตามข่าว
ที่น่าเป็นห่วงคือ ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 64.2 ไม่มั่นใจว่ารัฐบาลจะดูแลปัญหาการเคลื่อนไหวของกลุ่มคนสวมหน้ากากได้อย่าง ราบรื่น เพราะทุกฝ่ายต่างใช้อารมณ์ มุ่งกอบโกยผลประโยชน์ กลุ่มไม่ชอบรัฐบาลเริ่มมีมากขึ้น และรัฐบาลกำลังเผชิญปัญหารอบด้าน เป็นต้น ในขณะที่ ร้อยละ 35.8 มั่นใจ เพราะคิดว่าประชาชนส่วนใหญ่เชื่อฟังกฎหมาย และคนส่วนใหญ่ไม่อยากใช้ความรุนแรง
ที่น่าพิจารณาคือ ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 56.7 ระบุว่า พรรคฝ่ายค้าน ยังวางบทบาทไม่เหมาะสมต่อกรณีการเคลื่อนไหวของกลุ่มคนสวมหน้ากาก ในขณะที่ร้อยละ 43.3 ระบุเหมาะสม
ข้อเสนอแนะต่อรัฐบาลที่ค้นพบในการสำรวจครั้งนี้คือ ร้อยละ 25.8 ระบุรัฐบาลควรรับฟังทุกฝ่ายโดยไม่แทรกแซง แก้ปัญหาด้วยการเจรจา ร้อยละ 13.6 ระบุรัฐบาลทำงานด้วยความโปร่งใส ไม่ทุจริตคอรัปชั่น ร้อยละ 13.5 ระบุรัฐบาลต้องรับผิดชอบและเร่งแก้ปัญหาอย่างเป็นธรรม หาเงินชดเชยผู้เสียหาย รองๆ ลงไปคือ รัฐบาลควรควบคุมการเคลื่อนไหวด้วยความสงบสุข ไม่ใช้ความรุนแรง และรัฐบาลควรลาออก ตามลำดับ
ผู้ช่วยผู้อำนวยการเอแบคโพลล์ กล่าวว่า ผลสำรวจชี้ให้เห็นว่าเชื้อปะทุความคิดแรงสนับสนุนการทำรัฐประหารยังคงมีอยู่ และที่น่าเป็นห่วงคือ กลุ่มที่ไม่แน่ใจรอดูท่าที ดูสถานการณ์ ไม่ได้ติดตามข่าวสารมีจำนวนมาก ในขณะที่กลุ่มคนที่เห็นว่า การทำรัฐประหารเป็นเรื่องไม่เหมาะสมมีเกินครึ่งมาเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ซึ่งแตกต่างไปจากผลสำรวจในระยะแรกๆ ของการทำงานของรัฐบาล ทางออกคือ
1.รัฐบาลต้องเร่งหากลไกลดกระแสต่อต้านรัฐบาล เช่น วิธีที่ทำให้สาธารณชนรับรู้ชัดเจนว่ารัฐบาลโปร่งใสจริงโดยการประกาศการใช้ จ่ายงบประมาณในรายละเอียดให้สาธารณชนสามารถแกะรอยทุกเม็ดเงินได้จนถึงมือ ประชาชนและพื้นที่ต่างๆ ในการพัฒนา 2.รัฐบาลต้องลด “เงื่อนไข” ที่ทำให้เกิดแรงเสียดทานต่อรัฐบาล เช่น ลดการให้ บิ๊กๆ ในรัฐบาลออกมาข่มขู่ประชาชน แต่ควรเพิ่มการสนับสนุนให้กลุ่มคนที่ได้รับการยอมรับของทุกฝ่ายในสังคมออกมา ให้ข้อคิดและแนวปฏิบัติในสถานการณ์การเมืองปัจจุบัน และ 3.อย่าใช้วิธีหาข่าวอื่นมากลบกระแสข่าวความไม่พอใจของประชาชนต่อรัฐบาล เพราะวิธีนั้นจะทำให้สาธารณชนรู้สึกอึดอัดและกลายเป็นแรงผลักดันทำให้อารมณ์ รุนแรงทางการเมืองบานปลายขึ้นได้
แสดงความคิดเห็น
รายละเอียดกระทู้
ม็อบกลุ่มหน้ากากขาว ปชช.ไม่เห็นด้วย'กลุ่มคนสวมหน้ากาก'ยั่วทหารรัฐประหาร หวั่นนำสู่ความรุนแรง ด้าน'หน้ากากขาว'นัดชุมนุม 16 มิ.ย.นี้ หน้า'สตช.'หลังโดน'เสื้อเเดง'ไล่อัดที่ จ.เชียงใหม่ 15 มิ.ย.56 นายเทวินทร์ อินทรจำนงค์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการสำนักวิจัยเอแบคโพลล์ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ เปิดเผยผลวิจัยเชิงสำรวจ เรื่อง “การเคลื่อนไหวทางการเมืองของกลุ่มคนสวมหน้ากากการเมืองและเชื้อปะทุความคิด แรงหนุนการทำรัฐประหาร : กรณีศึกษาตัวอย่างประชาชนอายุ 18 ปีขึ้นไป ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร และปริมณฑล” จำนวนทั้งสิ้น 1,384 ตัวอย่าง ดำเนินโครงการระหว่างวันที่ 12 - 14 มิถุนายน 2556 ที่ผ่านมา โดยใช้การเลือกตัวอย่างแบบแบ่งกลุ่มเชิงชั้นภูมิหลายชั้น ที่สุ่มเลือกอำเภอ ตำบล ชุมชน ครัวเรือน และประชาชนที่ตอบแบบสอบถามระดับครัวเรือน ช่วงความคลาดเคลื่อนบวกลบร้อยละ 7 พบว่า ตัวอย่างร้อยละ 57.5 ติดตามข่าวความเคลื่อนไหวทางการเมืองของกลุ่มคนสวมหน้ากากการเมือง (หน้ากากขาว-หน้ากากแดง) ที่น่าพิจารณาคือ ร้อยละ 50.3 ระบุการเคลื่อนไหวทางการเมืองของกลุ่มคนสวมหน้ากากการเมือง หน้ากากขาว หน้ากากแดง มีโอกาสนำไปสู่ความรุนแรงได้มากถึงมากที่สุด ในขณะที่ร้อยละ 28.9 ระบุปานกลาง และร้อยละ 20.8 ระบุน้อยถึงน้อยที่สุด อย่างไรก็ตาม ร้อยละ 54.9 ระบุไม่เหมาะสมที่กลุ่มเคลื่อนไหวทางการเมืองจะเรียกร้องให้ทหารออกมาทำการ รัฐประหาร ในขณะที่ร้อยละ 11.6 ระบุเหมาะสม แต่ร้อยละ 33.5 ระบุไม่แน่ใจ เพราะรอดูท่าที รอดูสถานการณ์ และไม่ได้ติดตามข่าว ที่น่าเป็นห่วงคือ ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 64.2 ไม่มั่นใจว่ารัฐบาลจะดูแลปัญหาการเคลื่อนไหวของกลุ่มคนสวมหน้ากากได้อย่าง ราบรื่น เพราะทุกฝ่ายต่างใช้อารมณ์ มุ่งกอบโกยผลประโยชน์ กลุ่มไม่ชอบรัฐบาลเริ่มมีมากขึ้น และรัฐบาลกำลังเผชิญปัญหารอบด้าน เป็นต้น ในขณะที่ ร้อยละ 35.8 มั่นใจ เพราะคิดว่าประชาชนส่วนใหญ่เชื่อฟังกฎหมาย และคนส่วนใหญ่ไม่อยากใช้ความรุนแรง ที่น่าพิจารณาคือ ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 56.7 ระบุว่า พรรคฝ่ายค้าน ยังวางบทบาทไม่เหมาะสมต่อกรณีการเคลื่อนไหวของกลุ่มคนสวมหน้ากาก ในขณะที่ร้อยละ 43.3 ระบุเหมาะสม ข้อเสนอแนะต่อรัฐบาลที่ค้นพบในการสำรวจครั้งนี้คือ ร้อยละ 25.8 ระบุรัฐบาลควรรับฟังทุกฝ่ายโดยไม่แทรกแซง แก้ปัญหาด้วยการเจรจา ร้อยละ 13.6 ระบุรัฐบาลทำงานด้วยความโปร่งใส ไม่ทุจริตคอรัปชั่น ร้อยละ 13.5 ระบุรัฐบาลต้องรับผิดชอบและเร่งแก้ปัญหาอย่างเป็นธรรม หาเงินชดเชยผู้เสียหาย รองๆ ลงไปคือ รัฐบาลควรควบคุมการเคลื่อนไหวด้วยความสงบสุข ไม่ใช้ความรุนแรง และรัฐบาลควรลาออก ตามลำดับ ผู้ช่วยผู้อำนวยการเอแบคโพลล์ กล่าวว่า ผลสำรวจชี้ให้เห็นว่าเชื้อปะทุความคิดแรงสนับสนุนการทำรัฐประหารยังคงมีอยู่ และที่น่าเป็นห่วงคือ กลุ่มที่ไม่แน่ใจรอดูท่าที ดูสถานการณ์ ไม่ได้ติดตามข่าวสารมีจำนวนมาก ในขณะที่กลุ่มคนที่เห็นว่า การทำรัฐประหารเป็นเรื่องไม่เหมาะสมมีเกินครึ่งมาเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ซึ่งแตกต่างไปจากผลสำรวจในระยะแรกๆ ของการทำงานของรัฐบาล ทางออกคือ 1.รัฐบาลต้องเร่งหากลไกลดกระแสต่อต้านรัฐบาล เช่น วิธีที่ทำให้สาธารณชนรับรู้ชัดเจนว่ารัฐบาลโปร่งใสจริงโดยการประกาศการใช้ จ่ายงบประมาณในรายละเอียดให้สาธารณชนสามารถแกะรอยทุกเม็ดเงินได้จนถึงมือ ประชาชนและพื้นที่ต่างๆ ในการพัฒนา 2.รัฐบาลต้องลด “เงื่อนไข” ที่ทำให้เกิดแรงเสียดทานต่อรัฐบาล เช่น ลดการให้ บิ๊กๆ ในรัฐบาลออกมาข่มขู่ประชาชน แต่ควรเพิ่มการสนับสนุนให้กลุ่มคนที่ได้รับการยอมรับของทุกฝ่ายในสังคมออกมา ให้ข้อคิดและแนวปฏิบัติในสถานการณ์การเมืองปัจจุบัน และ 3.อย่าใช้วิธีหาข่าวอื่นมากลบกระแสข่าวความไม่พอใจของประชาชนต่อรัฐบาล เพราะวิธีนั้นจะทำให้สาธารณชนรู้สึกอึดอัดและกลายเป็นแรงผลักดันทำให้อารมณ์ รุนแรงทางการเมืองบานปลายขึ้นได้ ขอบคุณ... http://www.komchadluek.net/detail/20130615/161079/ปชช.ห่วงกลุ่มหน้ากากยั่วทหารรัฐประหาร.html#.Ub56Ljcs2y
จัดฟอร์แม็ตข้อความและมัลติมีเดีย
รายละเอียดการใส่ ลิงค์ รูปภาพ วิดีโอ เพลง (Soundcloud)