นิรโทษ-ปรองดอง ปิดประตู "วงจรอุบาทว์"

แสดงความคิดเห็น

นายพีรพันธุ์ พาลุสุข  ส.ส.ยโสธรหลายสมัย พรรคเพื่อไทย

“ถ้าสภาฯไม่กล้าหาญแก้ไขปัญหาความขัดแย้ง ประชาชนจะทำ เกิด Civil war และทหารจะกลับมา”

คำ พูดของ “นายพีรพันธุ์ พาลุสุข” ส.ส.ยโสธรหลายสมัย พรรคเพื่อไทย ดีกรีด็อกเตอร์ ด้านกฎหมายจากประเทศฝรั่งเศส แกนหลักผลักดันร่าง พ.ร.บ.ปรองดองแห่งชาติฉบับ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกฯ เข้าสู่สภาฯ

พยายาม ส่งสัญญาณถึงสังคมและนักการเมือง ตระหนักถึงวิกฤติของประเทศกำลังจะมาเยือน โดย “นายพีรพันธุ์” กล่าวกับ “ทีมข่าวการเมือง” ว่า หากไม่เร่งออกกฎหมายปรองดอง เชื่อว่าประเทศไทยยังคงมีโอกาสเกิดการปฏิวัติรัฐประหารได้อีก แต่ทำแล้วอยู่ได้หรือไม่ ทหารก็ต้องคิด

ที่ผ่านมาประเทศไทยมีกฎหมาย นิรโทษกรรมทั้งหมด 22 ฉบับ ส่วนใหญ่นิรโทษกรรมให้แก่คณะรัฐประหารที่ยึดอำนาจ มีอยู่ 4 ฉบับ นิรโทษกรรมความผิดเกี่ยวกับการชุมนุมทางการเมือง

ทุกรัฐบาลจะใช้การ นิรโทษกรรมเป็นเครื่องมือแก้ปัญหาทางการเมือง พอคณะรัฐประหารยึดอำนาจเสร็จรู้ว่ากระทำความผิด จะต้องให้คนอื่นออกกฎหมายนิรโทษกรรมตามมา เป็นไปตามหลักกฎหมายว่า “คุณทำผิดจะไปยกโทษให้ตัวเองไม่ได้” และเปิดช่องให้กลไกที่อยู่เหนือกว่า เช่น ศาล หรือคณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยได้ว่าเป็นการกระทำที่มันชอบด้วยรัฐ ธรรมนูญหรือไม่

แต่การรัฐประหารครั้งล่าสุดกลับนิรโทษกรรมให้ตัวเอง เขียนไว้ในรัฐธรรมนูญ มาตรา 309 ก่อให้เกิดปัญหาทางกฎหมายตามมา ใครก็ตามที่ยังกอดมาตรา 309 ไว้แน่นก็เพื่อคุ้มครองตัวเอง ฝ่ายที่จะไปแก้ไขก็ลำบาก เพราะทั้งหมดมันชอบด้วยรัฐธรรมนูญ ผมถึงบอกว่ามันเป็นมาตราอัปยศทางกฎหมาย

ทุกวันนี้สถานการณ์ความขัด แย้งยังรบกันอยู่ ถ้าลากประเทศให้เป็นแบบนี้ต่อไปจะมีปัญหาตามมามาก เราจึงเสนอร่าง พ.ร.บ.ปรองดองแห่งชาติหลังจากที่เห็น “ร.ต.อ.เฉลิม” พูดมานาน และทำมาก่อนคนอื่น ท่านก็ปล่อยให้คนนั้นคนนี้เสนอร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมออกมาเรื่อยๆ ตั้งแต่ร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมของ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคมาตุภูมิ สุดท้ายไปไม่ได้

เพราะ สังคมยังไม่พร้อม คนโน้นก็ไม่เข้าใจ อีกฝ่ายเอะอะก็ทำเพื่อคุณทักษิณ (พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี) พอร่างฯของ พล.อ.สนธิไปไม่ได้ พรรคเพื่อไทยก็ให้คุณสามารถ แก้วมีชัย ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย เสนอร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมอีกฉบับ เนื้อหาไม่แตกต่าง กันมากนัก เสนอเข้าไปในสภาฯก็ยังไม่มีการพิจารณา

ช่วงนี้ผมเข้าใจแกนนำกลุ่มแนว ร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ดี ที่ถูกกดดันโดยพี่น้อง นปช. ส่วนหนึ่งทุกข์ยากลำบาก ถูกจำคุกบ้าง บาดเจ็บบ้าง คุณณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำ นปช. และ รมช.พาณิชย์ จึงเสนอร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมเข้าสภาฯ สุดท้ายที่ประชุมสภาฯก็ไม่ได้พิจารณา เพราะบรรยากาศไม่เอื้อ

แรงกด ดันจาก นปช.ก็มีเข้ามาอีก คุณวรชัย เหมะ ส.ส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย และแกนนำ นปช. ก็เสนอร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมเข้าสภาฯ นิรโทษกรรมให้ผู้ชุมนุมทั้งหมด ยกเว้นผู้มีอำนาจสั่งการหรือข้อหาก่อการร้าย ทำท่าจะไปได้ แต่ผมก็บอกไปว่าเท่าที่ศึกษาการนิรโทษกรรมคือ จะไปออกกฎหมายให้อภัยคนนี้ ไม่อภัยคนนั้นมันยาก

ทางออกที่ดีสภาฯ ต้องมาพูดคุยกัน ถ้าฝ่ายค้านไม่เห็นด้วยกับร่าง พ.ร.บ.ปรองดองที่พวกผมเสนอ ก็เสนอร่างกฎหมายเข้ามาว่าจะเอาอย่างไร ไม่ใช่ไม่เอาลูกเดียว ทั้งนี้ ที่พวกเราใช้ชื่อร่าง พ.ร.บ.ปรองดองแห่งชาติ มีเป้าหมายเพื่อต้องการสร้างความปรองดองให้เกิดขึ้นในประเทศ เนื้อหาจริงๆคือการนิรโทษกรรม

หวังว่าเมื่อนิรโทษกรรมแล้วทุกคนจะหัน หน้าเข้าหากัน ให้อภัยกัน มาเป็นมิตรกัน ลืมความหลัง การนิรโทษกรรมจะเป็นแค่จุดเริ่มต้น และยังมีอีกหลายขั้นตอนเพื่อให้เกิดการปรองดองจริงๆ กระบวนการเหล่านี้ละเอียดอ่อน เห็นได้จากบรรยากาศในที่ประชุมสภาฯสู้กันตลอดถ้ามาแตะเรื่องนี้เมื่อไหร่ เป็นเรื่อง

กฎหมายฉบับนี้นิรโทษกรรมทุกฝ่ายไม่รวมคดีอาญา แต่ความผิดทางการชุมนุมทางการเมืองมันต่อเนื่องกันมา มันไม่ใช่เป็นเรื่องคดีอาญาแท้ๆ เป็นคดีอาญาการเมือง วันนี้ญาติของผู้เสียชีวิตก็เจ็บใจ เพราะต้องการให้ลงโทษคนที่ทำให้ญาติเสียชีวิตด้วย ก็เห็นใจทุกคน เข้าใจความ รู้สึก แล้วจะทำกันอย่างไร เมื่อไหร่คนเหล่านี้จะถูกลงโทษ การพิสูจน์ กระบวนการทางกฎหมายต้องใช้เวลา

ผมไปพูดกับคนเสื้อแดงก็ได้รับคำตอบ ว่าไม่เป็นอะไร 100 ปีก็รอได้ เราฟังแล้วก็สะอึกเหมือนกันที่ญาติของผู้เสียชีวิตอยากเห็นความเป็นธรรม ผมก็ย้อนกลับมาว่าถ้าเป็นอย่างนั้นบ้านเมืองก็จะอยู่อย่างนี้ มันก็ลำบาก ดังนั้นต้องเลือกว่าจะเดินหน้ากันอย่างไร แต่จะต้องไม่ลืม ไม่ทิ้งคนที่ทุกข์ยากลำบาก ต้องดูแลเต็มที่

“ทีมข่าวการเมือง” ถามว่า การปรองดองและการนิรโทษกรรมเป็นเรื่องเดียวกัน “นายพีรพันธุ์” ตอบว่า เป็นเรื่องเดียวกัน โดยการนิรโทษกรรมเป็นขั้นตอนแรก และการปรองดองเป็นขั้นตอนต่อไป ร่าง พ.ร.บ.ปรองดองฉบับของ ร.ต.อ.เฉลิมเดิมผมดูแล้วดีมาก ที่ท่านตั้งใจอภัยให้ทุกฝ่าย อยากให้มันจบ อยากให้มันเดินหน้า อยากให้ พ.ต.ท.ทักษิณ กลับบ้าน

แต่เมื่อเห็นว่ามาตรา 5 เกี่ยวกับการเยียวยาผู้รับความเสียหายจากการชุมนุม เข้าข่ายเป็นกฎหมายการเงินก็ตัดออกไป ถึงอย่างไรรัฐบาลก็เยียวยาให้อยู่แล้ว

ตัดเนื้อหามาตรา 5 ออกไปแล้วเพิ่มเข้ามาใหม่ได้หรือไม่ในระหว่างการแปรญัตติ เพราะมันยังอยู่ในหลักการของการเสนอกฎหมาย “นายพีรพันธุ์” ชี้แจงว่า เมื่อกฎหมายเข้าสู่สภาฯ ส.ส.ทุกคนมีสิทธิแปรญัตติ ส.ส.บางคนบอกว่าเพิ่มมาตรานี้เข้ามาก็ดีนะ พอเพิ่มเข้ามาก็เป็นกฎหมายการเงิน ตามรัฐธรรมนูญกำหนดให้นายกฯต้องเซ็นก่อน

แต่ วันนี้ประธานสภาฯบอกว่าไม่เป็นกฎหมายการเงิน ก็บรรจุวาระการประชุมสภาฯ บางคนบอกว่าอาจจะมีการคืนเงิน 4.6 หมื่นล้านบาทให้ท่านทักษิณ มันก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง ไม่เกี่ยวกับกฎหมายนี้ คุณอย่าไปดูกระบวนการ ต้องดูที่สาระของตัวกฎหมาย กระบวนการนี้อาจเกิดขึ้นภายหลัง เป็นเรื่องของกฎหมายอื่น ไม่ใช่กฎหมายฉบับนี้

วันนี้ภายในพรรคเพื่อ ไทยก็ไม่ได้มีความแตกแยกเป็น 2 ฝ่าย แค่คิดต่างกัน สุดท้ายเมื่อถึงคราวตัดสินใจต้องเป็นหนึ่งเดียว ไม่ได้สับขาหลอก เพราะร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมของคุณวรชัย และร่าง พ.ร.บ.ปรองดองของ ร.ต.อ.เฉลิมมีหลักการเดียวกัน คือการนิรโทษกรรม พิจารณารวมกันทั้ง 2 ร่างยังได้ สุดท้ายขึ้นอยู่ที่ประชุมสภาฯ ถึงวันนั้นสภาฯต้องตัดสิน ถ้าวันนั้นสภาฯไม่ทำหน้าที่แล้วใครจะทำ

“ทีมข่าวการเมือง” ถามว่า พ.ต.ท.ทักษิณได้รับอานิสงส์จาก พ.ร.บ.ปรองดองอย่างไรบ้าง “นายพีรพันธุ์” ตอบทันทีว่า มาตรา 4 กำหนดให้ความผิดที่เกิดจากคำสั่งคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) ให้เป็นความผิดทางการเมือง

แล้วนำมาตรา 3 มาใช้ที่กำหนดว่าถ้าคดีนั้นอยู่ระหว่างการสอบสวนให้ระงับไป ถ้าถูกฟ้องก็ให้จำหน่ายคดีไป ถ้าศาลตัดสินแล้วให้ถือว่าไม่เคยต้องคำพิพากษาว่าทำผิด ถามว่าทำไมต้องทำให้ท่าน ผมก็มองว่าท่านเป็นคนหนึ่งที่ไม่ได้รับความยุติธรรมมากที่สุด

แต่กฎหมายนี้มันจะสำเร็จเมื่อมีบรรยากาศที่ทุกคนอยากเห็นการปรองดอง อยากเห็นประเทศก้าวหน้า ก็ต้องให้อภัยกัน คนที่ยังไม่เข้าใจก็ไม่เป็นอะไร จะต้องใช้เวลาอธิบายกันให้เข้าใจ ลำพังเสียงข้างมากในสภาฯมันพิสูจน์มาแล้วว่าคุณทำอะไรไม่ได้ ถ้าบรรยากาศของประเทศมันไม่เอื้อ

ฝ่ายค้าน โดยนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ติดใจร่าง พ.ร.บ.ปรองดองที่มีเนื้อหายกเว้นคดีอาญาและการคืนเงินให้ พ.ต.ท.ทักษิณ “นายพีรพันธุ์” ในฐานะเคยเป็น ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์มาก่อนเกิดกลุ่มกบฏ 10 มกราคมแยกตัวออกมาจากพรรคประชาธิปัตย์ ตอบว่า คุณอภิสิทธิ์ก็คิดให้ไกลกว่าคุณทักษิณหน่อยสิ ผมเคยคุยกับ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์มาเยอะก็เข้าใจนะ

กฎหมายฉบับนี้มันไม่ใช่เพื่อคุณทักษิณโดยเฉพาะ แค่หนึ่งในนั้นมีคุณทักษิณอยู่ด้วย แล้วคุณหนักหัวอะไร ก็ทำเพื่อคนทั้งประเทศ ทุกคนได้ คุณทักษิณก็คนไทยคนหนึ่ง คุณอภิสิทธิ์ คุณสุเทพ (เทือกสุบรรณ ส.ส.สุราษฎร์ธานี พรรคประชาธิปัตย์) ก็ได้ด้วย ทำไมไม่เอาล่ะ หรือจะคิดว่าใจหนึ่งอยากได้ แต่ในทางการเมืองขอสู้อย่างนี้ต่อไปก่อน

ช่วงเวลาก่อนที่จะถึงเดือน ส.ค. เปิดประชุมสภาสมัยสามัญทั่วไป จะชี้แจงอย่างไรให้ทุกฝ่ายเข้าใจ “นายพีรพันธุ์” บอกว่า ผมเชื่อและมั่นใจว่ายิ่งเดินแรงต้านยิ่งจะน้อยลง บรรยากาศช่วงเดือน ส.ค.อย่างน้อย เริ่มดีหลายส่วน

ตอนนี้หลายคนฟัง ถึงเหตุผลการออก พ.ร.บ.ปรองดองแล้วก็ออกมาช่วยชี้แจง ผมไปพูดให้นายตำรวจฟังก็เห็นด้วย ถ้าจัดให้ผมไปพูดให้นายทหารฟังก็คงเห็นด้วย ในส่วนนี้พวกผมจะเดินหน้าทำความเข้าใจกับฝ่ายต่างๆ ต่อไป

ส่วน 108 เวทีของกระทรวงมหาดไทยที่จะพูดเรื่องสานเสวนาประชาธิปไตย ประชาชนต้องร่วมมือกันอย่างไร เขาก็ทำของเขา โดยเตรียม หลักสูตรและมีวิทยากรดึงอาจารย์จากมหาวิทยาลัยต่างๆเข้ามาช่วย อย่างน้อยจะมีคน 6-7 หมื่นคนที่เข้ามาเกี่ยวข้องกับการสานเสวนาด้วย

ใน ส่วนของพวกผมจะต้องคุยกับทุกฝ่าย โดยเฉพาะฝ่ายค้าน เชื่อว่าสุดท้ายมนุษย์มีเหตุผล ขอให้มองเป้าหมายตรงกันว่าประเทศต้องเดินไปข้างหน้า ต้องแก้ปัญหาประเทศ ต้องแก้ปัญหาประชาธิปไตย ให้ทุกคนมีความสุขให้ได้ คิดต่างกันไม่เป็นอะไรถ้าเป้าหมายตรงกัน ต้องหาทางไปด้วยกัน

แม้ในทางการเมืองไม่มีใครยอมรับว่าตัวเองทำผิด และต้องยอมรับว่าตอนนี้ประชาชนเลือกข้าง ฉะนั้น ทุกฝ่ายต้องออกแรงช่วยกัน เพื่อลดโทนความขัดแย้ง สื่อมวลชนก็ต้องช่วยกัน

กองทัพก็ต้องช่วยกันทำหน้าที่รักษาความสงบของประเทศ อย่าออกมา. :ทีมข่าวการเมือง

ขอบคุณ... http://www.thairath.co.th/column/pol/wikroh/348601

ที่มา: ไทยรัฐออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 3 มิ.ย.56
วันที่โพสต์: 3/06/2556 เวลา 03:32:48 ดูภาพสไลด์โชว์ นิรโทษ-ปรองดอง ปิดประตู "วงจรอุบาทว์"

แสดงความคิดเห็น

รอตรวจสอบ
จัดฟอร์แม็ต ดูการแสดงผล

รอตรวจสอบ

รอตรวจสอบ

รอตรวจสอบ

ยกเลิก

รายละเอียดกระทู้

นายพีรพันธุ์ พาลุสุข ส.ส.ยโสธรหลายสมัย พรรคเพื่อไทย “ถ้าสภาฯไม่กล้าหาญแก้ไขปัญหาความขัดแย้ง ประชาชนจะทำ เกิด Civil war และทหารจะกลับมา” คำ พูดของ “นายพีรพันธุ์ พาลุสุข” ส.ส.ยโสธรหลายสมัย พรรคเพื่อไทย ดีกรีด็อกเตอร์ ด้านกฎหมายจากประเทศฝรั่งเศส แกนหลักผลักดันร่าง พ.ร.บ.ปรองดองแห่งชาติฉบับ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกฯ เข้าสู่สภาฯ พยายาม ส่งสัญญาณถึงสังคมและนักการเมือง ตระหนักถึงวิกฤติของประเทศกำลังจะมาเยือน โดย “นายพีรพันธุ์” กล่าวกับ “ทีมข่าวการเมือง” ว่า หากไม่เร่งออกกฎหมายปรองดอง เชื่อว่าประเทศไทยยังคงมีโอกาสเกิดการปฏิวัติรัฐประหารได้อีก แต่ทำแล้วอยู่ได้หรือไม่ ทหารก็ต้องคิด ที่ผ่านมาประเทศไทยมีกฎหมาย นิรโทษกรรมทั้งหมด 22 ฉบับ ส่วนใหญ่นิรโทษกรรมให้แก่คณะรัฐประหารที่ยึดอำนาจ มีอยู่ 4 ฉบับ นิรโทษกรรมความผิดเกี่ยวกับการชุมนุมทางการเมือง ทุกรัฐบาลจะใช้การ นิรโทษกรรมเป็นเครื่องมือแก้ปัญหาทางการเมือง พอคณะรัฐประหารยึดอำนาจเสร็จรู้ว่ากระทำความผิด จะต้องให้คนอื่นออกกฎหมายนิรโทษกรรมตามมา เป็นไปตามหลักกฎหมายว่า “คุณทำผิดจะไปยกโทษให้ตัวเองไม่ได้” และเปิดช่องให้กลไกที่อยู่เหนือกว่า เช่น ศาล หรือคณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยได้ว่าเป็นการกระทำที่มันชอบด้วยรัฐ ธรรมนูญหรือไม่ แต่การรัฐประหารครั้งล่าสุดกลับนิรโทษกรรมให้ตัวเอง เขียนไว้ในรัฐธรรมนูญ มาตรา 309 ก่อให้เกิดปัญหาทางกฎหมายตามมา ใครก็ตามที่ยังกอดมาตรา 309 ไว้แน่นก็เพื่อคุ้มครองตัวเอง ฝ่ายที่จะไปแก้ไขก็ลำบาก เพราะทั้งหมดมันชอบด้วยรัฐธรรมนูญ ผมถึงบอกว่ามันเป็นมาตราอัปยศทางกฎหมาย ทุกวันนี้สถานการณ์ความขัด แย้งยังรบกันอยู่ ถ้าลากประเทศให้เป็นแบบนี้ต่อไปจะมีปัญหาตามมามาก เราจึงเสนอร่าง พ.ร.บ.ปรองดองแห่งชาติหลังจากที่เห็น “ร.ต.อ.เฉลิม” พูดมานาน และทำมาก่อนคนอื่น ท่านก็ปล่อยให้คนนั้นคนนี้เสนอร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมออกมาเรื่อยๆ ตั้งแต่ร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมของ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคมาตุภูมิ สุดท้ายไปไม่ได้ เพราะ สังคมยังไม่พร้อม คนโน้นก็ไม่เข้าใจ อีกฝ่ายเอะอะก็ทำเพื่อคุณทักษิณ (พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี) พอร่างฯของ พล.อ.สนธิไปไม่ได้ พรรคเพื่อไทยก็ให้คุณสามารถ แก้วมีชัย ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย เสนอร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมอีกฉบับ เนื้อหาไม่แตกต่าง กันมากนัก เสนอเข้าไปในสภาฯก็ยังไม่มีการพิจารณา ช่วงนี้ผมเข้าใจแกนนำกลุ่มแนว ร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ดี ที่ถูกกดดันโดยพี่น้อง นปช. ส่วนหนึ่งทุกข์ยากลำบาก ถูกจำคุกบ้าง บาดเจ็บบ้าง คุณณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำ นปช. และ รมช.พาณิชย์ จึงเสนอร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมเข้าสภาฯ สุดท้ายที่ประชุมสภาฯก็ไม่ได้พิจารณา เพราะบรรยากาศไม่เอื้อ แรงกด ดันจาก นปช.ก็มีเข้ามาอีก คุณวรชัย เหมะ ส.ส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย และแกนนำ นปช. ก็เสนอร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมเข้าสภาฯ นิรโทษกรรมให้ผู้ชุมนุมทั้งหมด ยกเว้นผู้มีอำนาจสั่งการหรือข้อหาก่อการร้าย ทำท่าจะไปได้ แต่ผมก็บอกไปว่าเท่าที่ศึกษาการนิรโทษกรรมคือ จะไปออกกฎหมายให้อภัยคนนี้ ไม่อภัยคนนั้นมันยาก ทางออกที่ดีสภาฯ ต้องมาพูดคุยกัน ถ้าฝ่ายค้านไม่เห็นด้วยกับร่าง พ.ร.บ.ปรองดองที่พวกผมเสนอ ก็เสนอร่างกฎหมายเข้ามาว่าจะเอาอย่างไร ไม่ใช่ไม่เอาลูกเดียว ทั้งนี้ ที่พวกเราใช้ชื่อร่าง พ.ร.บ.ปรองดองแห่งชาติ มีเป้าหมายเพื่อต้องการสร้างความปรองดองให้เกิดขึ้นในประเทศ เนื้อหาจริงๆคือการนิรโทษกรรม หวังว่าเมื่อนิรโทษกรรมแล้วทุกคนจะหัน หน้าเข้าหากัน ให้อภัยกัน มาเป็นมิตรกัน ลืมความหลัง การนิรโทษกรรมจะเป็นแค่จุดเริ่มต้น และยังมีอีกหลายขั้นตอนเพื่อให้เกิดการปรองดองจริงๆ กระบวนการเหล่านี้ละเอียดอ่อน เห็นได้จากบรรยากาศในที่ประชุมสภาฯสู้กันตลอดถ้ามาแตะเรื่องนี้เมื่อไหร่ เป็นเรื่อง กฎหมายฉบับนี้นิรโทษกรรมทุกฝ่ายไม่รวมคดีอาญา แต่ความผิดทางการชุมนุมทางการเมืองมันต่อเนื่องกันมา มันไม่ใช่เป็นเรื่องคดีอาญาแท้ๆ เป็นคดีอาญาการเมือง วันนี้ญาติของผู้เสียชีวิตก็เจ็บใจ เพราะต้องการให้ลงโทษคนที่ทำให้ญาติเสียชีวิตด้วย ก็เห็นใจทุกคน เข้าใจความ รู้สึก แล้วจะทำกันอย่างไร เมื่อไหร่คนเหล่านี้จะถูกลงโทษ การพิสูจน์ กระบวนการทางกฎหมายต้องใช้เวลา ผมไปพูดกับคนเสื้อแดงก็ได้รับคำตอบ ว่าไม่เป็นอะไร 100 ปีก็รอได้ เราฟังแล้วก็สะอึกเหมือนกันที่ญาติของผู้เสียชีวิตอยากเห็นความเป็นธรรม ผมก็ย้อนกลับมาว่าถ้าเป็นอย่างนั้นบ้านเมืองก็จะอยู่อย่างนี้ มันก็ลำบาก ดังนั้นต้องเลือกว่าจะเดินหน้ากันอย่างไร แต่จะต้องไม่ลืม ไม่ทิ้งคนที่ทุกข์ยากลำบาก ต้องดูแลเต็มที่ “ทีมข่าวการเมือง” ถามว่า การปรองดองและการนิรโทษกรรมเป็นเรื่องเดียวกัน “นายพีรพันธุ์” ตอบว่า เป็นเรื่องเดียวกัน โดยการนิรโทษกรรมเป็นขั้นตอนแรก และการปรองดองเป็นขั้นตอนต่อไป ร่าง พ.ร.บ.ปรองดองฉบับของ ร.ต.อ.เฉลิมเดิมผมดูแล้วดีมาก ที่ท่านตั้งใจอภัยให้ทุกฝ่าย อยากให้มันจบ อยากให้มันเดินหน้า อยากให้ พ.ต.ท.ทักษิณ กลับบ้าน แต่เมื่อเห็นว่ามาตรา 5 เกี่ยวกับการเยียวยาผู้รับความเสียหายจากการชุมนุม เข้าข่ายเป็นกฎหมายการเงินก็ตัดออกไป ถึงอย่างไรรัฐบาลก็เยียวยาให้อยู่แล้ว ตัดเนื้อหามาตรา 5 ออกไปแล้วเพิ่มเข้ามาใหม่ได้หรือไม่ในระหว่างการแปรญัตติ เพราะมันยังอยู่ในหลักการของการเสนอกฎหมาย “นายพีรพันธุ์” ชี้แจงว่า เมื่อกฎหมายเข้าสู่สภาฯ ส.ส.ทุกคนมีสิทธิแปรญัตติ ส.ส.บางคนบอกว่าเพิ่มมาตรานี้เข้ามาก็ดีนะ พอเพิ่มเข้ามาก็เป็นกฎหมายการเงิน ตามรัฐธรรมนูญกำหนดให้นายกฯต้องเซ็นก่อน แต่ วันนี้ประธานสภาฯบอกว่าไม่เป็นกฎหมายการเงิน ก็บรรจุวาระการประชุมสภาฯ บางคนบอกว่าอาจจะมีการคืนเงิน 4.6 หมื่นล้านบาทให้ท่านทักษิณ มันก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง ไม่เกี่ยวกับกฎหมายนี้ คุณอย่าไปดูกระบวนการ ต้องดูที่สาระของตัวกฎหมาย กระบวนการนี้อาจเกิดขึ้นภายหลัง เป็นเรื่องของกฎหมายอื่น ไม่ใช่กฎหมายฉบับนี้ วันนี้ภายในพรรคเพื่อ ไทยก็ไม่ได้มีความแตกแยกเป็น 2 ฝ่าย แค่คิดต่างกัน สุดท้ายเมื่อถึงคราวตัดสินใจต้องเป็นหนึ่งเดียว ไม่ได้สับขาหลอก เพราะร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมของคุณวรชัย และร่าง พ.ร.บ.ปรองดองของ ร.ต.อ.เฉลิมมีหลักการเดียวกัน คือการนิรโทษกรรม พิจารณารวมกันทั้ง 2 ร่างยังได้ สุดท้ายขึ้นอยู่ที่ประชุมสภาฯ ถึงวันนั้นสภาฯต้องตัดสิน ถ้าวันนั้นสภาฯไม่ทำหน้าที่แล้วใครจะทำ “ทีมข่าวการเมือง” ถามว่า พ.ต.ท.ทักษิณได้รับอานิสงส์จาก พ.ร.บ.ปรองดองอย่างไรบ้าง “นายพีรพันธุ์” ตอบทันทีว่า มาตรา 4 กำหนดให้ความผิดที่เกิดจากคำสั่งคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) ให้เป็นความผิดทางการเมือง แล้วนำมาตรา 3 มาใช้ที่กำหนดว่าถ้าคดีนั้นอยู่ระหว่างการสอบสวนให้ระงับไป ถ้าถูกฟ้องก็ให้จำหน่ายคดีไป ถ้าศาลตัดสินแล้วให้ถือว่าไม่เคยต้องคำพิพากษาว่าทำผิด ถามว่าทำไมต้องทำให้ท่าน ผมก็มองว่าท่านเป็นคนหนึ่งที่ไม่ได้รับความยุติธรรมมากที่สุด แต่กฎหมายนี้มันจะสำเร็จเมื่อมีบรรยากาศที่ทุกคนอยากเห็นการปรองดอง อยากเห็นประเทศก้าวหน้า ก็ต้องให้อภัยกัน คนที่ยังไม่เข้าใจก็ไม่เป็นอะไร จะต้องใช้เวลาอธิบายกันให้เข้าใจ ลำพังเสียงข้างมากในสภาฯมันพิสูจน์มาแล้วว่าคุณทำอะไรไม่ได้ ถ้าบรรยากาศของประเทศมันไม่เอื้อ ฝ่ายค้าน โดยนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ติดใจร่าง พ.ร.บ.ปรองดองที่มีเนื้อหายกเว้นคดีอาญาและการคืนเงินให้ พ.ต.ท.ทักษิณ “นายพีรพันธุ์” ในฐานะเคยเป็น ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์มาก่อนเกิดกลุ่มกบฏ 10 มกราคมแยกตัวออกมาจากพรรคประชาธิปัตย์ ตอบว่า คุณอภิสิทธิ์ก็คิดให้ไกลกว่าคุณทักษิณหน่อยสิ ผมเคยคุยกับ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์มาเยอะก็เข้าใจนะ กฎหมายฉบับนี้มันไม่ใช่เพื่อคุณทักษิณโดยเฉพาะ แค่หนึ่งในนั้นมีคุณทักษิณอยู่ด้วย แล้วคุณหนักหัวอะไร ก็ทำเพื่อคนทั้งประเทศ ทุกคนได้ คุณทักษิณก็คนไทยคนหนึ่ง คุณอภิสิทธิ์ คุณสุเทพ (เทือกสุบรรณ ส.ส.สุราษฎร์ธานี พรรคประชาธิปัตย์) ก็ได้ด้วย ทำไมไม่เอาล่ะ หรือจะคิดว่าใจหนึ่งอยากได้ แต่ในทางการเมืองขอสู้อย่างนี้ต่อไปก่อน ช่วงเวลาก่อนที่จะถึงเดือน ส.ค. เปิดประชุมสภาสมัยสามัญทั่วไป จะชี้แจงอย่างไรให้ทุกฝ่ายเข้าใจ “นายพีรพันธุ์” บอกว่า ผมเชื่อและมั่นใจว่ายิ่งเดินแรงต้านยิ่งจะน้อยลง บรรยากาศช่วงเดือน ส.ค.อย่างน้อย เริ่มดีหลายส่วน ตอนนี้หลายคนฟัง ถึงเหตุผลการออก พ.ร.บ.ปรองดองแล้วก็ออกมาช่วยชี้แจง ผมไปพูดให้นายตำรวจฟังก็เห็นด้วย ถ้าจัดให้ผมไปพูดให้นายทหารฟังก็คงเห็นด้วย

จัดฟอร์แม็ตข้อความและมัลติมีเดีย

  1. เพิ่ม
  2. เพิ่ม ลบ
  3. เพิ่ม ลบ
  4. เพิ่ม ลบ
  5. เพิ่ม ลบ
  6. เพิ่ม ลบ
  7. เพิ่ม ลบ
  8. เพิ่ม ลบ
  9. เพิ่ม ลบ
  10. ลบ
เลือกการตกแต่งที่ต้องการ

ตกลง ยกเลิก

รายละเอียดการใส่ ลิงค์ รูปภาพ วิดีโอ เพลง (Soundcloud)

Waiting...

ห้องการเมือง