ยุทธวิธี การเมือง จากร่าง ‘นิรโทษกรรม’ ถึงร่าง ‘ปรองดอง’
พลันที่มติที่ประชุม ส.ส.พรรคเพื่อไทย ยืนตามมติเดิมที่จะยึดถือร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรมฉบับ นายวรชัย เหมะ เป็นตัวหลักในการพิจารณาก่อน
และยังไม่ขยับร่างพ.ร.บ.ปรองดองของ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ขึ้นมา
ก็ เป็นความแน่ชัดยิ่งในจังหวะก้าวทางการเมืองของพรรคเพื่อไทย เป็นจังหวะก้าวที่ให้บทบาทกับร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรมฉบับ นายวรชัย เหมะ ก่อน
นั่นก็คือ มุ่งช่วย ‘คนตัวเล็กตัวน้อย’ อย่างเป็นด้านหลัก
ทาง 1 เป็นการช่วยเหลือชาวบ้านที่เข้ามาร่วมชุมนุมและถูกจับกุมคุมขัง ให้รอดพ้น ขณะเดียวกัน ทาง 1 ก็เป็นการไม่กล่าวโทษต่อข้าราชการพลเรือน ทหาร ตำรวจ ชั้นผู้น้อย ซึ่งมิได้เป็นผู้สั่งการ
นั่น ก็คือ ยังถือว่าบรรดา ‘แกนนำ’ อันมีส่วนในการตัดสินใจต้องรับผิดชอบมิใช่ชาวบ้านนั่นก็คือ ยังถือว่าบรรดาระดับสูงที่มีอำนาจ ‘สั่งการ’ อันทำให้มีคนตายต้องรับผิดชอบ
แจ่มแจ้งเป็นที่ประจักษ์
อาจกล่าว ได้ว่าร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรมฉบับ นายวรชัย เหมะ มิได้เป็นการช่วยเหลือ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อย่างที่พรรคประชาธิปัตย์เคยกล่าวอ้าง
เพราะแม้กระทั่ง นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ก็มิได้รับการนิรโทษกรรม
เป็นอันว่าบรรดาแกนนำนปช.จำนวน 26 คนที่ถูกฟ้องร้องกล่าวหาในเรื่องการก่อการร้ายก็จะต้องถูกดำเนินคดีและต่อสู้กันในชั้นศาลต่อไป
แล้วจะไปนิรโทษกรรมให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ได้อย่างไร
เช่น เดียวกับ กรณีที่ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ซึ่งมีบทบาทในการจัดตั้งและรับผิดชอบงานของศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุก เฉิน หรือ ‘ศอฉ.’ อันส่งผลให้มีการตาย 99 ศพก็ไม่ได้รับนิรโทษกรรมเช่นกัน
แกนใหญ่ล้วนต้องนำตัวสู่ ‘ศาล’
มติ ของที่ประชุมส.ส.พรรคเพื่อไทยปรากฏออกมาเช่นนี้อันสอดรับกับความเห็นร่วมของ พรรคร่วมรัฐบาลเท่ากับปฏิบัติการของสมาชิกรัฐสภาต่อร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรมมี ความรอบคอบรัดกุม
มิได้เป็นเรื่องของการทำเพื่อครอบครัว ‘ชินวัตร’
หากแต่แท้จริงแล้วยังเป็นการทำให้กับชาวบ้าน และถือเป็นการเริ่มต้นนับ 1 ในเรื่องของการปรองดองสมานฉันท์อย่างแท้จริง
มติเช่นนี้เท่ากับดำเนินไปอย่างแยกหลัก แยกรอง
หลักก็คือเดินหน้าร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรมฉบับ นายวรชัย เหมะ ทำตามที่เคยประกาศเป็นสัญญาประชาคมไว้กับชาวบ้านคนเสื้อแดง
เมื่อแยกหลัก แยกรองได้ทุกอย่างก็ราบรื่น
ขณะเดียวกัน ก็ใช่ว่าร่างพ.ร.บ.ปรองดองของ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง จะไม่มีคุณูปการทางการเมือง
อย่าง น้อยร่างพ.ร.บ.ปรองดองก็ทำให้เนื้อหาอันเป็นแก่นแกนของร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรม มีความเด่นชัด และมิได้เป็นอย่างที่พรรคประชาธิปัตย์กล่าวหา โจมตี
เท่ากับร่างปรองดองมีส่วนช่วยร่างนิรโทษกรรม
แสดงความคิดเห็น
รายละเอียดกระทู้
พลันที่มติที่ประชุม ส.ส.พรรคเพื่อไทย ยืนตามมติเดิมที่จะยึดถือร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรมฉบับ นายวรชัย เหมะ เป็นตัวหลักในการพิจารณาก่อน และยังไม่ขยับร่างพ.ร.บ.ปรองดองของ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ขึ้นมา ก็ เป็นความแน่ชัดยิ่งในจังหวะก้าวทางการเมืองของพรรคเพื่อไทย เป็นจังหวะก้าวที่ให้บทบาทกับร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรมฉบับ นายวรชัย เหมะ ก่อน นั่นก็คือ มุ่งช่วย ‘คนตัวเล็กตัวน้อย’ อย่างเป็นด้านหลัก ทาง 1 เป็นการช่วยเหลือชาวบ้านที่เข้ามาร่วมชุมนุมและถูกจับกุมคุมขัง ให้รอดพ้น ขณะเดียวกัน ทาง 1 ก็เป็นการไม่กล่าวโทษต่อข้าราชการพลเรือน ทหาร ตำรวจ ชั้นผู้น้อย ซึ่งมิได้เป็นผู้สั่งการ นั่น ก็คือ ยังถือว่าบรรดา ‘แกนนำ’ อันมีส่วนในการตัดสินใจต้องรับผิดชอบมิใช่ชาวบ้านนั่นก็คือ ยังถือว่าบรรดาระดับสูงที่มีอำนาจ ‘สั่งการ’ อันทำให้มีคนตายต้องรับผิดชอบ แจ่มแจ้งเป็นที่ประจักษ์ อาจกล่าว ได้ว่าร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรมฉบับ นายวรชัย เหมะ มิได้เป็นการช่วยเหลือ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อย่างที่พรรคประชาธิปัตย์เคยกล่าวอ้าง เพราะแม้กระทั่ง นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ก็มิได้รับการนิรโทษกรรม เป็นอันว่าบรรดาแกนนำนปช.จำนวน 26 คนที่ถูกฟ้องร้องกล่าวหาในเรื่องการก่อการร้ายก็จะต้องถูกดำเนินคดีและต่อสู้กันในชั้นศาลต่อไป แล้วจะไปนิรโทษกรรมให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ได้อย่างไร เช่น เดียวกับ กรณีที่ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ซึ่งมีบทบาทในการจัดตั้งและรับผิดชอบงานของศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุก เฉิน หรือ ‘ศอฉ.’ อันส่งผลให้มีการตาย 99 ศพก็ไม่ได้รับนิรโทษกรรมเช่นกัน แกนใหญ่ล้วนต้องนำตัวสู่ ‘ศาล’ มติ ของที่ประชุมส.ส.พรรคเพื่อไทยปรากฏออกมาเช่นนี้อันสอดรับกับความเห็นร่วมของ พรรคร่วมรัฐบาลเท่ากับปฏิบัติการของสมาชิกรัฐสภาต่อร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรมมี ความรอบคอบรัดกุม มิได้เป็นเรื่องของการทำเพื่อครอบครัว ‘ชินวัตร’ หากแต่แท้จริงแล้วยังเป็นการทำให้กับชาวบ้าน และถือเป็นการเริ่มต้นนับ 1 ในเรื่องของการปรองดองสมานฉันท์อย่างแท้จริง มติเช่นนี้เท่ากับดำเนินไปอย่างแยกหลัก แยกรอง หลักก็คือเดินหน้าร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรมฉบับ นายวรชัย เหมะ ทำตามที่เคยประกาศเป็นสัญญาประชาคมไว้กับชาวบ้านคนเสื้อแดง เมื่อแยกหลัก แยกรองได้ทุกอย่างก็ราบรื่น ขณะเดียวกัน ก็ใช่ว่าร่างพ.ร.บ.ปรองดองของ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง จะไม่มีคุณูปการทางการเมือง อย่าง น้อยร่างพ.ร.บ.ปรองดองก็ทำให้เนื้อหาอันเป็นแก่นแกนของร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรม มีความเด่นชัด และมิได้เป็นอย่างที่พรรคประชาธิปัตย์กล่าวหา โจมตี เท่ากับร่างปรองดองมีส่วนช่วยร่างนิรโทษกรรม ขอบคุณ...http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=TVRNMk9UZzBNVEE1TlE9PQ==§ionid=
จัดฟอร์แม็ตข้อความและมัลติมีเดีย
รายละเอียดการใส่ ลิงค์ รูปภาพ วิดีโอ เพลง (Soundcloud)