'ปกรณ์'ชี้'ทักษิณ'กล่าวหาไม่เป็นธรรม
'นักวิชาการ'ระบุ'ทักษิณ'สไกป์ร่วมชุมนุมแดง กล่าวหาเเบบไม่เป็นธรรม
20 พ.ค.56 นายปกรณ์ ปรียากร นักวิชาการคณะรัฐประศาสนศาสตร์ นิด้า กล่าวในรายการเจาะข่าวเช้านี้ เอฟเอ็ม 101.5 เมกะเฮริทซ์ กรณีการกล่าวของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เมื่อช่วงค่ำวันที่19 พ.ค.ที่ผ่านมาในการชุมนุมของ นปช.ที่เเยกราชประสงค์ที่โจมตีกลุุ่มไทยสปริง-ผู้พิพากษา-พรรคประชาธิปัต ย์ว่า 3 ปีจากการชุมนุมที่สังคมได้เสียความสมานฉันท์ที่เรียกกลับมาได้ยากเพราะเเต่ล ะกลุ่มใช้กำลังชุมนุมโดยไม่ฟังข้อเท็จจริงของอีกฝ่าย การชุมนุมนอกสภานั้นฟังความข้างเดียว กล่าวหากันด้วยข้อมูลที่ฝ่ายตัวเองได้เปรียบ การพูดบนเวทีนี้เเตกต่างจากการหาเสียงเเละการอภิปรายในรัฐสภา เพราะต้องใช้จิตวิทยากลุ่มกับผู้ชุมนุมที่เป็นฝ่ายเดียวกันโดยเชื่อว่า ข้อมูลของฝ่ายตัวเองถูกต้อง ฝ่ายตรงข้ามไม่มีสิทธิขึ้นพูดเเละข้อมูลเเตกต่างกับฝ่ายตัวเองได้รับ วิธีใช้การชุมนุมเเละใช้สิ่งที่ตัวเองพูดกำหนดสิทศงประเทศไม่ค่อยถูกต้องนัก เพราะประชาธิปไตยต้องฟังความเห็นเเตกต่าง เเต่วิธีพูดของ พ.ต.ท.ทักษิณ วานนี้รุนเเรงเเละไม่ทำให้คนในกลุ่มรับฟังความเห็นเเตกต่างเลย หากวานนี้พ.ต.ท.ทักษิณไม่มีการสไกป์การชุมนุมจะกร่อยทันที เเละรู้เเล้วว่าบทพูดที่มองโกเลียขอ งน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีนั้นเป็นบทพูดของใคร
"ตนเคารพความเห็นของผู้ชุมนุมที่เสนอเเนวคิด เเต่มันเป็นเวทีความเห็นฝ่ายเดียว เเละเป็นไปไม่ได้ที่จะให้อีกกลุ่มขึ้นมาพูดบนเวทีของฝ่ายตัวเองเเละไม่ควร ถือสา ประชาธิปไตยนั้นควรมีความเห็นหลากหลาย ย้ำว่าประเทศนี้ไม่ใช่เวทีของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง เเละตนไม่เข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งในการชุมนุม บางเรื่องของบางฝ่ายถูก เเต่หลายเรื่องในการชุมนุมของสองฝ่ายไม่ถูก การกล่าวหาในหลายเรื่องบนเวทีนั้น ผู้ที่รับฟังควรร่วมกันตรวจสอบเเละไม่ควรเชื่อ เวทีชุมนุมคือการกล่าวหาเเต่ไม่พูดสิ่งเกิดก่อนนั้นว่ามีอะไรบ้าง เช่นกล่าวหาผู้พิพากษานั้น ตนมองว่าเป็นลักษณะไม่เป็นธรรมกับผู้ถูกกล่าวหามีการใช้สำนวนบ้างอย่าง น่าเสียดายว่าประชาชนจะฟังม็อบหรือฟังเวทีประชาธิปไตย คำตอบของเหตุการณ์ 3 ปีที่เเล้ว บางเรื่องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมเเล้ว ส่วนคำถามเกี่ยวกับกระบวนการยุติธรรมของบางฝ่ายนั้น เช่น การล้อมศาลที่บางฝ่ายละเมิดเส้นทางการปกครองบ้านเมืองเเละคนส่วนใหญ่ไม่เห็น ด้วย สุดท้ายกลุ่มนั้นก็ยุติการชุมนุม การล้ำเส้นเเบบนี้มันละเมิดสิทธิเสรีภาพของคนอื่น ไม่ใช่ประชาธิปไตย การกระตุ้นม็อบไม่ให้ยอมรับบางสิ่งนั้นคงใช้ไม่ได้นาน" นายปกรณ์ กล่าว
นายปกรณ์ กล่าวต่อว่า ส่วนการเมืองในอนาคตของรัฐบาลนี้นั้น การเสนอร่าง พรบ.ปรองดองเเห่งชาติของ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกฯนั้นสุดโต่ง ทำลายกำเเพงการพูดคุยที่ดีไปเเละไม่ค่อยเป็นยกฎหกมายเพระระบุว่า จะล้างทุกอย่างเเบบไม่มีข้อจำกัด เเต่ร่าง พรบ.นิรโทษกรรมของนายวรชัย เหทม เเกนนำนปช.มีลู่ทางในการคุยกันมากกว่า สส.พรรคเพื่อไทยไม่น่าเห็นเด้วยกับ ร.ต.อ.เฉลิม เเต่เรื่องนี้อยู่ที่การพิจาณาของพรรคนั้นว่าจะเดินหน้าอย่างไร ยามที่ใครปกครองบ้านเมืองเเเบบไม่มีวิจารณญาณมันจะเข้าข่ายเผด็จการรรัฐสภา ตนมองว่า ฝ่ายไม่พอใจนั้นมองว่า ปรองดองนั้นต้องดำเนินาารตามขั้นตอนยุติธรรม หากไม่ยอมรับอำนาจศาลนั้นคงจะไปไม่รอด
แสดงความคิดเห็น
รายละเอียดกระทู้
'นักวิชาการ'ระบุ'ทักษิณ'สไกป์ร่วมชุมนุมแดง กล่าวหาเเบบไม่เป็นธรรม 20 พ.ค.56 นายปกรณ์ ปรียากร นักวิชาการคณะรัฐประศาสนศาสตร์ นิด้า กล่าวในรายการเจาะข่าวเช้านี้ เอฟเอ็ม 101.5 เมกะเฮริทซ์ กรณีการกล่าวของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เมื่อช่วงค่ำวันที่19 พ.ค.ที่ผ่านมาในการชุมนุมของ นปช.ที่เเยกราชประสงค์ที่โจมตีกลุุ่มไทยสปริง-ผู้พิพากษา-พรรคประชาธิปัต ย์ว่า 3 ปีจากการชุมนุมที่สังคมได้เสียความสมานฉันท์ที่เรียกกลับมาได้ยากเพราะเเต่ล ะกลุ่มใช้กำลังชุมนุมโดยไม่ฟังข้อเท็จจริงของอีกฝ่าย การชุมนุมนอกสภานั้นฟังความข้างเดียว กล่าวหากันด้วยข้อมูลที่ฝ่ายตัวเองได้เปรียบ การพูดบนเวทีนี้เเตกต่างจากการหาเสียงเเละการอภิปรายในรัฐสภา เพราะต้องใช้จิตวิทยากลุ่มกับผู้ชุมนุมที่เป็นฝ่ายเดียวกันโดยเชื่อว่า ข้อมูลของฝ่ายตัวเองถูกต้อง ฝ่ายตรงข้ามไม่มีสิทธิขึ้นพูดเเละข้อมูลเเตกต่างกับฝ่ายตัวเองได้รับ วิธีใช้การชุมนุมเเละใช้สิ่งที่ตัวเองพูดกำหนดสิทศงประเทศไม่ค่อยถูกต้องนัก เพราะประชาธิปไตยต้องฟังความเห็นเเตกต่าง เเต่วิธีพูดของ พ.ต.ท.ทักษิณ วานนี้รุนเเรงเเละไม่ทำให้คนในกลุ่มรับฟังความเห็นเเตกต่างเลย หากวานนี้พ.ต.ท.ทักษิณไม่มีการสไกป์การชุมนุมจะกร่อยทันที เเละรู้เเล้วว่าบทพูดที่มองโกเลียขอ งน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีนั้นเป็นบทพูดของใคร "ตนเคารพความเห็นของผู้ชุมนุมที่เสนอเเนวคิด เเต่มันเป็นเวทีความเห็นฝ่ายเดียว เเละเป็นไปไม่ได้ที่จะให้อีกกลุ่มขึ้นมาพูดบนเวทีของฝ่ายตัวเองเเละไม่ควร ถือสา ประชาธิปไตยนั้นควรมีความเห็นหลากหลาย ย้ำว่าประเทศนี้ไม่ใช่เวทีของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง เเละตนไม่เข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งในการชุมนุม บางเรื่องของบางฝ่ายถูก เเต่หลายเรื่องในการชุมนุมของสองฝ่ายไม่ถูก การกล่าวหาในหลายเรื่องบนเวทีนั้น ผู้ที่รับฟังควรร่วมกันตรวจสอบเเละไม่ควรเชื่อ เวทีชุมนุมคือการกล่าวหาเเต่ไม่พูดสิ่งเกิดก่อนนั้นว่ามีอะไรบ้าง เช่นกล่าวหาผู้พิพากษานั้น ตนมองว่าเป็นลักษณะไม่เป็นธรรมกับผู้ถูกกล่าวหามีการใช้สำนวนบ้างอย่าง น่าเสียดายว่าประชาชนจะฟังม็อบหรือฟังเวทีประชาธิปไตย คำตอบของเหตุการณ์ 3 ปีที่เเล้ว บางเรื่องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมเเล้ว ส่วนคำถามเกี่ยวกับกระบวนการยุติธรรมของบางฝ่ายนั้น เช่น การล้อมศาลที่บางฝ่ายละเมิดเส้นทางการปกครองบ้านเมืองเเละคนส่วนใหญ่ไม่เห็น ด้วย สุดท้ายกลุ่มนั้นก็ยุติการชุมนุม การล้ำเส้นเเบบนี้มันละเมิดสิทธิเสรีภาพของคนอื่น ไม่ใช่ประชาธิปไตย การกระตุ้นม็อบไม่ให้ยอมรับบางสิ่งนั้นคงใช้ไม่ได้นาน" นายปกรณ์ กล่าว นายปกรณ์ กล่าวต่อว่า ส่วนการเมืองในอนาคตของรัฐบาลนี้นั้น การเสนอร่าง พรบ.ปรองดองเเห่งชาติของ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกฯนั้นสุดโต่ง ทำลายกำเเพงการพูดคุยที่ดีไปเเละไม่ค่อยเป็นยกฎหกมายเพระระบุว่า จะล้างทุกอย่างเเบบไม่มีข้อจำกัด เเต่ร่าง พรบ.นิรโทษกรรมของนายวรชัย เหทม เเกนนำนปช.มีลู่ทางในการคุยกันมากกว่า สส.พรรคเพื่อไทยไม่น่าเห็นเด้วยกับ ร.ต.อ.เฉลิม เเต่เรื่องนี้อยู่ที่การพิจาณาของพรรคนั้นว่าจะเดินหน้าอย่างไร ยามที่ใครปกครองบ้านเมืองเเเบบไม่มีวิจารณญาณมันจะเข้าข่ายเผด็จการรรัฐสภา ตนมองว่า ฝ่ายไม่พอใจนั้นมองว่า ปรองดองนั้นต้องดำเนินาารตามขั้นตอนยุติธรรม หากไม่ยอมรับอำนาจศาลนั้นคงจะไปไม่รอด ขอบคุณ ... http://www.komchadluek.net/detail/20130520/158916/ปกรณ์ชี้ทักษิณกล่าวหาไม่เป็นธรรม.html#.UZravkqkPZ4
จัดฟอร์แม็ตข้อความและมัลติมีเดีย
รายละเอียดการใส่ ลิงค์ รูปภาพ วิดีโอ เพลง (Soundcloud)